มีแบบ VDO ด้วยนะคะ คลิกเลยยย

การใช้เครื่องสำอางปกปิดความสวยใสของผิวมากจนเกินไปนั้น บางครั้งมันก็ดูไม่เป็นธรรมชาติ การแต่งหน้าหนาและจัดจนเกินไป อาจจะทำให้หน้าเราดูแก่กว่าวัย แต่งหน้าใช้รองพื้นปกปิดหนาๆ ในทุกๆ วันผิวของเราก็แทบไม่ได้หายใจ ที่สำคัญผู้ชายเค้าไม่ชอบผู้หญิงแต่งหน้าหนาจนเกินไป มองระยะไกลๆ ดูสวย แต่พออยู่ระยะประชิด เห็นรองพื้นหนาเป็นก้อนๆ อย่างกับโบกปูนซีเมนต์มาอย่างงี้ โป๊ะแตกกันพอดี นี่มันสวย 100 เมตรนี่หว่า!!!

การแต่งหน้าให้พื้นผิวหน้าดี ไม่จำเป็นต้องใช้รองพื้นที่หนา และปกปิดมาก มีคนเคยกล่าวไว้ว่า “ผิวที่งดงามอย่างแท้จริง ไม่ต้องปกปิดอะไรมากมาย แต่สามารถเผยผิวจริงเปลือยเปล่าได้อย่างเป็นธรรมชาติดุจผิวได้หายใจ” นี่แหละ ผู้หญิงอย่างเราๆถึงได้มองว่า การมีกระ (Freckle) เล็กๆ น้อยๆ บนใบหน้าอย่างผู้หญิงฝรั่งนั้นดูน่ารัก จนบางทีก็มี How To แต่งหน้าฝรั่งมีกระให้เห็นอยู่มากมาย ซึ่งการเมคอัพแบบงานผิวนั้น นอกจากจะช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติแล้ว ยังช่วยให้ผิวของเราได้หายใจ

เทคนิคเนรมิตผิวสวยใส ไม่โป๊ะ มีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เลือดสูบฉีด ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ล้างหน้าให้สะอาด ดูแลผิวหน้าด้วยสกินแคร์ รวมถึงการเลือกใช้เครื่องสำอางที่ปลอดภัยต่อผิว โดยเฉพาะการเลือกรองพื้นและแป้งฝุ่นที่เป็นเสมือนเบสพื้นฐานของผิวหน้า ควรเลือกที่จะโชว์ผิว ให้ผิวโกลว์ดูชุ่มชื่น เผยผิวกระจ่างใส ให้ผลลัพธ์ผิวที่เรียบเนียน และกลมกลืนไปกับผิว มากกว่าที่จะปกปิดจนหนาดูไม่เป็นธรรมชาติ

ก้อยเจอรองพื้นอยู่ตัวนึงที่น่าสนใจมากๆ จากแบรนด์ Three ซึ่งก้อยรู้อยู่แล้วแหละว่าแบรนด์นี้ทำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติล้วนๆ เป็นแบรนด์รักษ์โลก รองพื้นตัวนี้ไม่ใช่รองพื้นธรรมดาทั่วไป มันเป็นเซรั่มในรูปแบบรองพื้น หรือคือ “รองพื้นที่เป็นสกินแคร์” ด้วยนั่นเอง

รองพื้นตัวนี้คือ

“Three angelic synthesis foundation serum”

รูปภาพ:

ตอนแรกได้ยินชื่อก็งงนิดๆ อะไรยังไงนะ จะเป็นรองพื้น หรือเป็นเซรั่ม อ่านข้อมูลแบรนด์และถามไถ่จากพี่เคาเตอร์แบรนด์จึงเข้าใจว่า มันเป็นรองพื้นนี่แหละแต่เป็นรองพื้นที่เป็นสกินแคร์ด้วย!!ก้อยรู้สึกพีคกับคำนี้มาก เครื่องสำอางที่ช่วยให้เราสวยทั้งภายในและภายนอกมันช่างหายาก ซึ่งก้อยแพ้กับคำว่า foundation serum มาก พูดตรงๆ


ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักรองพื้นตัวนี้ให้ดีกันซะก่อน ด้วยความรักษ์โลกของแบรนด์ Three ผลิตภัณฑ์ต่างๆของเค้าจึงมีความใกล้ชิดกับธรรมชาติสูง อย่างตัวรองพื้นตัวนี้ก็มีสารสกัดจากธรรมชาติมากถึง 75%ด้วยความที่เค้าเป็นรองพื้นประดุจสกินแคร์ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มันจึงช่วยบำรุงผิวหน้าของเรา ช่วยทำให้หน้าของเราชุ่มชื่น โกลว์ ดูมีสุขภาพดี แต่ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นรองพื้นที่ช่วยอำพรางจุดบกพร่องต่างๆ ได้อย่างกลมกลืนกับผิวของเรา เผยผิวกระจ่างใส เงางามและเรียบเนียน นอกจากนี้เค้ายังมีส่วนผสมของอณูแป้ง Silky Fit Powder ช่วยควบคุมความมัน ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิวทำให้เครื่องสำอางติดทน และช่วยกระจายแสงให้ผิวเราสว่างกระจ่างใส นี่คือคุณสมบัติรองพื้นที่ก้อยใฝ่ฝันหาสำหรับเมคอัพงานผิว

รูปภาพ:

ตัวขวดผลิตภัณฑ์เค้าผู้ดี๊ผู้ดีมาก เป็นขวดแก้วสีขุ่น มาในรูปแบบสี่เหลี่ยมอันเล็กๆ ทรงเตี้ย ดูจิ๋วๆ พกพาง่าย ที่สำคัญคือ มันดูแพงมาก

รูปภาพ:

ด้านหลังมีภาษาญี่ปุ่น … บอกอะไรไม่รู้ 5555+ อ่านไม่ออกจริงๆ กราบขออภัย ^_^”



รูปภาพ:

มีหัวดรอปเปอร์ เอาไว้สำหรับดูดเนื้อรองพื้นขึ้นมา

รูปภาพ:

เนื้อรองพื้นค่อนข้างบางเบาไม่เหนียว

รูปภาพ:

เมื่อทาลงบนผิว รู้สึกได้ถึงความบางเบาเป็นงานผิวจริงๆ (สีกลืนไปกับผิวก้อยเลย) และยังปกปิดได้ดีอีกด้วย ถึงแม้จะมีเนื้อที่เบาบางมากก็ตาม (ซ้าย-เขียนอายไลเนอร์เส้นบางๆไว้ ขวา-ทารองพื้นทับ)

รูปภาพ:

วิธีใช้ก็แค่ บีบหัวดรอปเปอร์ค้างไว้ประมาณ2-3วินาที เพื่อให้เค้าดูดเนื้อรองพื้นขึ้นมา

รูปภาพ:

หยดผลิตภัณฑ์ที่มือ ซึ่งก้อยใช้เพียงหลอดเดียว ก็ทั่วหน้าแล้ว

รูปภาพ:

ใช้นิ้ววอร์มที่มือก่อนทาลงผิวหน้า เพราะการวอร์มที่มือจะช่วยให้โบทานิคอล ออยล์ 9 ชนิด ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ทำงานได้ดี ผิวของเราจะได้รับการบำรุงได้อย่างเต็มที่ด้วย

รูปภาพ:

ค่อยๆ ลงบนที่หน้าของเรา โดยเริ่มจากส่วนด้านในของเราก่อน แล้วค่อยๆ เกลี่ยไปส่วนด้านนอกของหน้า เนื้อของเค้าเกลี่ยค่อนข้างง่าย และรู้สึกได้เลยว่าเป็นเนื้อรองพื้นที่เบามากๆ รู้สึกเย็นผิวอย่างกับทาสกินแคร์

รูปภาพ:รูปภาพ:

ซ้ายคือฝั่งที่ยังไม่ได้ทารองพื้น / ขวาคือฝั่งที่ทารองพื้นแล้ว

จะเห็นได้ว่าหน้าของเรายังคงเป็นผิวของเราอยู่ แต่รองพื้นตัวนี้ช่วยให้ผิวหน้าของเราดูดีขึ้น (มากกกกกกกก)

รูปภาพ:

รองพื้นตัวนี้ปกปิดได้ดีไม่หนาและหนักจนเกินไปและยังให้ผิวที่ใส โปร่งเบาสบายเป็นงานผิว เนื้อไม่เหนียวเหนอะหนะ แห้งไว ไม่ดรอปไม่หมองคล้ำ และไม่กลายร่างเป็นคราบระหว่างวันให้กวนใจ เหมาะสำหรับสภาพอากาศบ้านเรามากๆ

สรุปสำหรับเจ้ารองพื้นตัวนี้

ข้อดี : ให้เมคอัพที่เป็นงานผิว ไม่หนาจนเกินไป เกลี่ยง่าย ที่สำคัญมีสารบำรุงเสมือนเป็นสกินแคร์ ทำให้รองพื้นตัวนี้ค่อนข้างปลอดภัยต่อผิว

ข้อเสีย : รองพื้นตัวนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการ การปกปิดขั้นสุด เพราะถึงแม้จะเพิ่มเลเยอร์ลงไปเพียงใด ก็ยังไม่ปกปิดลบทุกอย่างออกได้หมด

เมื่อเรามีรองพื้นเป็นเบสของผิวหน้าแล้ว เราก็ต้องใช้แป้งลงทับเพื่อดูดซับความมันของผลิตภัณฑ์เนื้อครีม

แป้งที่เราควรใช้เพื่อเนรมิตผิวสวยใสในเมคอัพงานผิวนี้ ควรใช้แป้งที่เหมาะกับรองพื้นที่เราลงบนผิวหน้าก่อนหน้านี้ เพื่อให้งานผิวของเรามีผลลัพธ์ที่สอดคล้องกัน ควรใช้เป็นแป้งที่มีความละเอียดสูง เนื้อเบาบาง และโปร่งแสง เพื่อผิวที่ดูกระจ่างใส เบาบางเป็นงานผิว

“THREE ULTIMATE DIAPHANOUS LOOSE POWDER”

รูปภาพ:

ก้อยได้ยินชื่อเสียงแป้งฝุ่น THREE มานานมากแล้วว่าเนื้อแป้งของเค้าดีมากๆ ก็ยังไม่เข้าใจจนวันนี้ได้มาลองด้วยตัวเอง จึงเห็นความแตกต่างจากแป้งฝุ่นตัวอื่นๆ โดยเฉพาะแป้งฝุ่นรุ่นนี้ เป็นรุ่นที่ก้อยปลื้มโดยส่วนตัว สูตร “Lucent Matte” เพราะเค้าให้ finish look ที่ดูเป็น natural matte คือให้ผิวแมตต์ที่ดูเป็นธรรมชาติเหมือนผิวจริง เนื้อแป้งโปร่งแสง ไม่ได้ทำให้สีของรองพื้นเพี้ยนไป และช่วยคุมมันได้ดีอีกด้วย

นอกเหนือจากคุณสมบัติด้านบนแล้ว ที่ก้อยปลื้มจริงๆอีกอย่างนึงก็คือ แป้งฝุ่นตัวนี้ก็ยังคง concept เมคอัพสกินแคร์ เพราะมีโบทานิคอล ออยล์ 8 ชนิด ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติเป็นส่วนผสม ช่วยบำรุงผิวหน้าของเราไปในตัวด้วย ดีแค่ไหนกัน ที่เครื่องสำอางของเรา จะเป็นเมคอัพ และเป็นทั้งสกินแคร์ สวยด้วยบำรุงด้วยไปในคราวเดียว

รูปภาพ:

ตลับแป้งของเค้าดูหรูหราไฮโซเช่นเดิม ด้านหลังอธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่นอีกแล้ว ^^” มอบตัว อ่านไม่ออก 5555+

รูปภาพ:

เปิดเข้ามาด้านในจะเจอพัฟ 1 ชิ้น

รูปภาพ:

ขนาดพัฟพอดีมือเลย ไม่ใหญ่และไม่เล็กไป ใช้ถนัดมือ และพัฟของเค้านุ่มมากๆ นุ่มมากที่สุดเท่าที่เคยซื้อแป้งฝุ่นของยี่ห้อไหนๆ นุ่มกำลังดี

รูปภาพ:

ตาข่ายกรองแป้งของเค้าละเอียดมากๆ เป็นตาข่ายแบบนิ่มๆ เหมือนเป็นเนื้อผ้ามากกว่าด้วยซ้ำ

รูปภาพ:

เนื้อแป้งของเค้าเป็นสีเนื้อๆ เนื้อละเอียดมากจริงๆ

รูปภาพ:

เมื่อทาลงไปกับผิว Finish ที่ได้จะเป็นผิวแบบ Matte และถึงแม้เนื้อแป้งจะเป็นสีเนื้อ แต่พอทาลงที่ผิวแล้ว แป้งจะไม่เป็นสีนะ กลายเป็นโปร่งแสงไปเลย จนกล้องไม่โฟกัสเลยเนี่ย ว่าไหนอ่ะแป้ง!!! (ฮ่าาา) ทำให้เห็นว่าเนื้อแป้งค่อนข้างกลมกลืนไปผิว

รูปภาพ:

ค่อยทาลงบนหน้าของเรา อย่าถูแรงๆ นะคะ ค่อยๆ แท๊บๆ ลงไป

รูปภาพ:

สรุปสำหรับเจ้าแป้งตัวนี้

ข้อดี : เป็นแป้งที่คุมความมันได้ดีมาก ความมันระหว่างน้อยมาก สีไม่ดรอประหว่างวัน บางเบา เข้ากับทุกสีผิว

ข้อเสีย : ใช้แล้วยังหาข้อเสียของผลิตภัณฑ์ไม่ได้นะแต่ก้อยว่าราคาค่อนข้างแพง ใครมีกำลังทรัพย์ก็จัดโล้ด

เมื่อใช้รองพื้นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกันกับแป้งฝุ่น เราก็จะได้ผิวที่สวยใส เป็นเมคอัพงานผิวแบบนี้เลย สองผลิตภัณฑ์นี้ควรใช้ร่วมกัน เพราะมันจะให้ผลลัพธ์เมคอัพงานผิวที่เลิศมาก !! รู้สึกเบาบาง ผิวไม่หนัก แต่หน้าเรียบเนียน ได้เผยผิวสวยอย่างที่ควรจะเป็น

รูปภาพ:

และก็แอบแว๊บไปแต่งหน้ามาละ ผิวสวยเชียวแหละ แถมไม่รู้สึกหนักหน้าด้วย (หัวฟูเชียวล่ะ 55555) นี่ก็เป็นรีวิวเล็กๆ น้อยๆ จากผู้ใช้จริง และประทับใจจริงนะคะ ก้อยยืนยันค่ะว่า ณ ตอนนี้ งานผิวทั้ง 2 ชิ้นนี้เป็นลูกรัก อยากใช้บ่อยๆ อยากใช้ทุกวัน เพราะมันให้ผิวที่สวยมาก แต่ก็กลัวหมด (ฮ่าาา)

ทั้งนี้ทั้งนั้นสุขภาพผิวที่ดี ต้องดีจากภายในด้วยนะคะ การเลือกใช้เครื่องสำอางเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมงานผิวได้เท่านั้น สาวๆ ต้องอย่าลืมหมั่นออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงทำจิตใจให้สดใสแข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อให้เมคอัพงานผิวส่งเสริมให้ผิวของสาวๆ ยิ่งสวยใสเปล่งประกาย

เยิฟ