หุ่นสวย 5 สเต็ป! ออกแบบ 'Workout Plan' ด้วยตัวเองง่ายๆ ภายใน 5 ขั้นตอน

เมื่อเราพูดถึงการลดความอ้วน

อื่อ...ก็รู้ตัวแหละว่าต้องลด แต่พอจะลงมือทำทีไร

มันก็รู้สึกเหนื่อยแบบไร้เรี่ยวแรง

โดยไร้สาเหตุขึ้นมาทุกทีสิน่า ที่เป็นแบบนี้ อาจเป็นเพราะคุณเคย

ผ่านการลดความอ้วนมาหลายครั้ง

ซึ่งก็ไม่สำเร็จซักครั้ง จนเหนื่อยที่จะทำต่อไป

กลายเป็นได้แต่ตั้งเป้าไว้แล้วไม่สามารถทำได้จริง

ที่เป็นแบบนี้

อาจเป็นเพราะกระบวนการลดความอ้วนของคุณมันยังไม่เหมาะกับตัวคุณเองเท่าไหร่นัก

แล้วจะดีกว่ามั้ย ถ้าหากเรา

สามารถออกแบบแผนการลดความอ้วนได้ด้วยตัวเอง

ซึ่งนอกจากจะทำให้เรารู้สึกสนุกแล้ว ก็ยังสามารถเลือกแผนตามที่เราต้องการ

และเหมาะกับชีวิตประจำวันของเรา

ได้ด้วย

ใครที่กำลังอยากลดหุ่นล่ะก็ มาดู

5 สเต็ป! สร้างแผนการลดความอ้วนด้วยตัวเอง

ยิ่งเหมาะกับเรา ก็ยิ่งลดได้ดีกว่า

step 1 # เขียนให้เป็นภาพชัด

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการออกกำลังกายคือ เราต้องทำให้มันเป็นเรื่องที่สามารถจับต้องได้ฉะนั้นเราควรทำตารางแผนการไดเอทประจำสัปดาห์

ออกมาให้เห็นเป็นภาพชัดๆ

สำหรับ 7 วัน

จะเขียนลงกระดาษด้วยปากกาและไม้บรรทัด หรือจะทำเป็นตารางจากในคอมแล้วค่อยปรินท์ออกมาก็ได้

เพียงแต่ว่าในตารางนั้น เราจะต้องทำเป็น 2 ส่วนคื

อ

แผนสำหรับการออกกำลัง

และ

แผนสำหรับเมนูอาหาร

ซึ่งจะช่วยทำให้เราเห็นทิศทางที่ชัดเจน และสามารถจัดตารางกิจวัตรประจำวันของเรา ให้มีเวลาเผื่อสำหรับการออกกำลังกายด้วย เมื่อเตรียมตารางไว้แล้วก็เข้าสู่ขั้นต่อไปได้เลย

Step 2 # คาร์ดิโอนั้นสำคัญ

ในส่วนของการออกกำลังกายนั้น ในแต่ละสัปดาห์เราควรจะให้มีกิจกรรมคาร์ดิโออย่างน้อย 5 วัน/สัปดาห์จะเป็นกิจกรรมอะไรก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นท่าออกกำลังกายแต่ให้เป็นกิจกรรมที่เราชอบทำ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง การว่ายน้ำหรือแม้แต่การเต้นซึ่งจะทำให้เราสามารถมีวินัยในการออกกำลังกายเพราะสามารถทำได้เรื่อยๆ โดยไม่ฝืน

สำหรับคนที่ไม่มีเวลาออกไปเดินเล่นหรือทำกิจกรรมข้างนอกหรือแม้แต่เข้าฟิตเนสสามารถดูท่าคาร์ดิโอที่ช่วยเบิร์นได้มากซึ่งเราสามารถทำได้เองที่บ้านตามบทความนี้เลยค่ะ

10 ท่า Cardio!! ระเบิดไขมัน ทำเองได้ที่บ้าน!

https://sistacafe.com/summaries/1748

Step 3 # เวทเทรนนิ่ง สร้างความเฟิร์ม

ถึงแม้ว่าการคาร์ดิโอนั้นสำคัญ

แต่สิ่งที่ต้องมีคู่กันก็คือการทำเวทเทรนนิ่ง

เนื่องจากเป็นการออกกำลังกายที่

ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรงให้เรา

ทำให้หุ่นเราไม่เหลวเป๋ว หรือผอมกะหร่องจนเกินไป ในขณะเดียวกันการสร้างความแข็งแรง

ก็จะทำให้เราสามารถมีความอึดในการออกกำลังกาย

และสามารถรับมือกับท่าที่ยากกว่าเดิมได้มากขึ้น โดยการเวทเทรนนิ่งเราอาจจะใช้ดัมเบลเป็นอุปกรณ์ช่วย หรือถ้าใครไม่มีอุปกรณ์

จะออกกำลังกายด้วย Body Weight ก็เป็นทางเลือกที่ดี

เช่นกันนะคะ

เฟิร์มสุด ไรสุด ! 7 ท่า 'Bodyweight' หุ่นดีฟรีๆ ทำได้ทุกที่ แม้ที่แคบๆ !

https://sistacafe.com/summaries/47473

โดยในหนึ่งสัปดาห์นั้น เราควรจะมีการออกกำลังแบบ

เวทเทรนนิ่งอย่างน้อย 2 - 3 วัน

ซึ่งหมายความว่า

อาจมีบางวันที่คุณต้องทำทั้งคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่งด้วย

แต่ไม่เป็นไรหรอกเนอะ เหนื่อยแค่วัน 2 วันต่อสัปดาห์

แลกกับการได้มีหุ่นสวยเพอร์เฟกต์ตลอดไป ยังไงก็คุ้ม!

Step 4 # กำหนดระยะเวลาในการเบิร์น

ในการทำแผนการออกกำลังกาย

ปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ระยะเวลาที่ใช้ในการออกกำลัง

เพราะถ้าหากเราทำมากไปก็จะไม่ดีต่อสุขภาพ อีกนัยหนึ่งถ้าทำน้อยเกินไป

ก็จะไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร

แถมยังช่วยให้เรา

เห็นระยะเวลาที่ต้องใช้ได้แบบภาพรวม

อีกด้วย

โดยการออกกำลังกายที่แนะนำ

ในการคาร์ดิโอให้ทำต่อเนื่องอย่างน้อยวันละ 45 นาที

เพื่อให้ร่างกายได้เริ่มเผาผลาญ และสำหรับเวทเทรนนิ่งอย่างน้อย 30 นาที แต่จริงๆ แล้ว

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเวทเทรนนิ่งก็คือ

การทำท่าแต่ละท่าให้ถูกต้องต่างหาก

ยังไงตอนทำควรจะเช็คให้ดีๆ ว่าเราได้บริหารร่างกายในแต่ละส่วนถูกต้องหรือไม่นะคะ

Step 5 # หาแรงจูงใจกันหน่อย

สิ่งที่เราทำมาทั้งหมด

ตั้งแต่ข้อ 1 มันจะไม่มีความหมายเลย

ถ้าหากเราไม่ลงมือทำ

ฉะนั้น

การหาแรงบันดาลใจให้ตัวเอง เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด

ที่จะทำให้เรามีหุ่นที่ต้องการได้ ลองนึกถึงชุดที่อยากใส ทรงผมที่อยากทำ หรือถ้าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าต้องไปงานเลี้ยงรุ่น ก็ถือว่าเป็นแรงผลักดันที่ดีได้ อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้ก็คือ

การทำให้เห็นภาพชัดๆ

ลองนำภาพหน้าตัวเอง

มาตัดแปะกับภาพหุ่นสวยๆ ที่ต้องการ

แล้วติดไว้ในที่ที่เห็นบ่อยๆ รับรองกำลังใจมาเต็ม