ช่วงนี้กำลังอยู่ใน

ช่วงกึ่งกลางระหว่างหน้าร้อน กับหน้าฝน

ซึ่งฤดูไหนแน่ก็

ไม่รู้

แต่ที่รู้ๆ คือ ผิวแตกไปแล้วจ้า จนบางทีก็รู้สึกว่าถ้าอากาศจะน่างงงวยได้แค่นี้ แต่แถมความแห้งมาเพียบ ยอมให้ฝนตกลงมายังดีซะกว่า

พอพูดถึงฝนที่ตกมาอย่างชุ่มฉ่ำ แล้วมันก็ดีอตรงที่ เวลา

ฝนตก ผิวเราจะชื้นขึ้นมานิดหน่อย

ฉะนั้นใครที่มีปัญหาผิวแห้งก็น่าจะอยากให้มีฝนตกในหน้าหนาว และใครที่มีผิวมัน ก็อยากจะให้ฝนตกในหน้าร้อนด้วยเหมือนกันแน่นอน

แต่ครั้นจะวิ่งไปตากฝน ให้หน้าเปียกเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น กลางสายฝนที่ชุ่มฉ่ำ ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องปกติที่คนเราจะทำกัน

เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ผิวชุ่มชื้นได้ถาวรแล้ว

เครื่องสำอางบนหน้าก็จะหลุดไปด้วยน่ะซี้

สำหรับ

ใครที่มีปัญหาเรื่องผิวแห้ง แต่อยากเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว

เพื่อต่อต้านอากาศแห้งๆ ในช่วงนี้แล้วล่ะก็ รีบจดลิสต์

5 moisturizer ตัวช่วยเด็ดๆ ที่จะเปลี่ยนผิวแห้งกร้าน ให้ชุ่มฉ่ำสุดใจกันไปเล้ย!


หน้าฉ่ำยิ่งกว่าหน้าฝน 5 Moisture เพิ่มความชุ่มชื้น ผิวแห้งแค่ไหนก็ชุ่มฉ่ำ!


1. Laneige Water Bank Hydro Essence

รูปภาพ:https://media.kmall24.com/media/catalog/product/cache/12/image/9df78eab33525d08d6e5fb8d27136e95/d/e/detail-01_2.png

ถ้าพูดถึงปัญหาผิวแห้ง สาวๆ หลายคนน่าจะนึกถึงสภาพผิวที่มีความแห้งกร้าน

ดังนั้นการเติมมอยส์เจอไรเซอร์จึงไม่จำเป็นสักนิดเดียวสำหรับสาวผิวมัน.... โนววว ไม่จริงเลยจ้ะสาวๆ จ๋า ถ้าเราคิดแบบนี้ เราอาจจะมองข้ามการดูแลผิวที่จำเป็นไปได้นะจ๊ะ เพราะว่าแม้แต่

สาวที่มีผิวมันแท้จริงแล้วภายในก็อาจมีผิวที่แห้งตึงได้

ลองสังเกตว่าถ้าคุณ

มีผิวหน้ามัน ต้องซับหน้าบ่อย แต่รู้สึกว่าผิวหน้าภายในแห้งตึง แถมเมคอัพหลุดเลือนง่าย

ล่ะก็ แสดงว่าคุณคือ

สาวผิวมันที่ต้องการความชุ่มชื้นมาเติมเต็มอย่างเร่งด่วน

เลยล่ะจ้า และ Laneige เอง ก็มีผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสาวผิวมันที่แอบแห้งกร้านภายในมาด้วยนะ ซึ่งก็คือ

Water Bank Hydro Essence

นั่นเอง

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นเนื้อโลชั่นบางเบา ที่มีส่วนผสมของ

Green Mineral water

ที่สกัดมาจากผักใบเขียวซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยเติมความชุ่มชื้นระหว่างวัน จุดเด่นคือ

มีการสกัดด้วยวิธี Ocean blue

(ภายใต้อุณหภูมิ 15 ℃ ระยะเวลา 5 ชม.) ทำให้ได้ผลลัพธ์ความชุ่มชื้นแบบ

Non - drying

พร้อมด้วย

เทคโนโลยีที่ล็อคความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างยาวนาน จึงได้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ชุ่มชื้น แต่เนื้อบางเบา เหมาะกับสาวผิวมันสุดๆ เลยจ้าราคา : 1,650 บาท


2. ATOPALM Real Barrier Intense Moisture Cream

รูปภาพ:https://media.kmall24.com/media/catalog/product/cache/12/image/9df78eab33525d08d6e5fb8d27136e95/d/e/detail-01_2.png

แน่นอนว่าถ้าพูดถึงผิวของ

เราทุกคนย่อมมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน

ไปอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น

ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวธรรมดา ผิวแพ้ง่าย ไปจนถึงปัญหาผิวอื่นๆ อย่างเช่นพวกกระ จุดด่างดำ ริ้วรอย ความหมองคล้ำ

ความหลากหลายปัญหานี่เอง

ทำให้เราต้องมีวิธีดูแลผิวที่ต่างกันไปด้วย

และทางออกของเราก็หนีไม่พ้นสกินแคร์ที่เราใช้กันทุกวันนี่แหละจ้า โดย

ผิวเราจะไม่สามารถดูดีขึ้นได้ หากขาดความแข็งแรงจากเกราะภายในชั้นผิว หรือที่เรียกว่า Skin Barrier

ดังนั้น ไม่ว่าเราจะมีปัญหาผิวแตกต่างกันไปยังไงก็ตาม

แต่สิ่งที่ควรจะดูแลให้เหมือนกันทุกคนคือ การสร้างความแข็งแรงให้ผิว

Real Barrier Intense moistuer cream จาก Atopalm

เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการ

สร้างความแข็งแรงให้แก่ชั้นผิวของเราด้วยเทคโนโลยี MLE

ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะใช้สารเลียนแบบโครงสร้างของผิว ช่วยในเรื่องการ

สร้างความแข็งแรงให้เกราะภายในชั้นผิว ทำให้ผิวเราสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มากยิ่งขึ้น

สำหรับสูตรนี้สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ทันที แถมไม่หนักหน้ามาก

ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นได้ถึง 48 ชั่วโมง เป็นเกราะป้องกันผิว ไปพร้อมๆ กับการซ่อมแซมโครงสร้างภายในผิว

ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ควบคู่ไปกับความชุ่มชื้นอย่างยาวนาน

ราคา : ขนาด 50 กรัม 900 บาท


3. Mizon Intensive Skin Barrier Toner

รูปภาพ:

สำหรับสาวที่หน้าแห้ง อาจต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า ให้ประโคมครีมต่างๆ ทาทับกันเพื่อบำรุงให้ล้ำลึกมากยิ่งขึ้นนะ เพราะนอกจากครีมที่ทาทีหลัง จะไม่สามารถเข้าถึงผิวเราได้แล้ว ก็ยังเสี่ยงต่อการทำให้ผิวหน้าอึดอัด เหนียวเหนอะ หมักหมมเป็นสิวได้อีกวิธีการใช้ที่ถูกต้องเราควรจะแบ่งความชุ่มชื้นประโคมผิวด้วยสกินแคร์ตัวอื่นๆ ด้วย

โดยสกินแคร์ที่เนื้อบางเบา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวนะจ๊ะ อย่างเช่นการทาโทนเนอร์เองก็สามารถช่วยทำให้ผิวเราดีขึ้นได้เช่นกันซึ่งถ้าหากเป็นโทนเนอร์เช็ดผิวธรรมดา ก็อาจจะช่วยได้แค่เปิดผิวรับสกินแคร์ตัวต่อไป แต่สำหรับMizon Intensive Skin Barrier Tonerตัวนี้ จะมีส่วนประกอบสำคัญอย่างเซราไมด์ ที่นอกจากจะช่วยเสริมสร้างชั้นผิวได้แล้ว ยังเก็บกักความชุ่มชื้นให้อยู่ในผิวได้อย่างอ่อนโยนอีกด้วย

สิ่งที่เด่นๆ ของโทนเนอร์ตัวนี้คือช่วยเป็นเกราะป้องกันความชุ่มชื้นให้ผิวถึงสองชั้น ทั้งชั้นนอกผิว และชั้นในผิวจึงช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นทันทีหลังล้างหน้า ถือว่าเป็นการเตรียมผิวหน้าให้พร้อม กับสกินแคร์เพิ่มความชุ่มฉ่ำชุ่มชื้นชิ้นต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเลยจ้า

ราคา : ขนาด 150 มล. 500 บาท


4. Palmer's Cocoa Butter Formula Skin Therapy Face Oil

รูปภาพ:http://www.bbeautilicious.com/wp-content/uploads/2018/01/Palmers-Cocoa-Butter-Formula-Skin-Therapy-Oil-Face-Review-768x512.jpg

สาวๆ ที่มีผิวแห้ง ควรจะระวังกันให้เป็นพิเศษเพราะถ้าหากไม่ได้รับการดูแลที่ดีพร้อม ก็อาจทำให้ต้องมานั่งกังวลใจในภายหลังได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความแห้ง ผิวแตก ริ้วรอยขึ้น หน้าดูแก่กว่าวัยจริงๆเป็นต้น ตอนที่ยังไม่มีริ้วรอย ก็คิดเข้าข้างตัวเองไปนานาว่า ไม่เป็นอะไรหรอก แต่ทำไมจะต้องรอให้มันเกิดขึ้นก่อนแล้วแก้ล่ะจริงมั้ย

ถ้าหากสาวๆ ละเลยสกินแคร์สำหรับผิวแห้งของตัวเอง เพราะความขี้เกียจยุ่งยากหลายขั้นตอนล่ะก็ เราแนะนำตัวนี้เลยPalmer's Cocoa Butter Formula Skin Therapy Face Oilถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นออยล์ก็อย่าเพิ่งกลัวเหนียว เพราะมันคือเซรั่มออยล์ที่บางเบากว่าปกติ แถมมีส่วนผสมอย่างน้ำมันสำคัญๆ กว่า 10 ชนิดซึ่งรวมถึงเรตินอล วิตามินซี และสูตรเฉพาะของ Palmer อย่าง Cetesomate-E®Complex

เพียงตัวเดียว ก็ช่วยบำรุงผิวให้สวยพร้อมกันได้หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยมอบความชุ่มชื้นให้ผิวที่แห้ง ช่วยต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย รูขุมขนกว้างเขาก็ยังเคลมว่าช่วยสมานผิวที่แตก หรือแผลต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในขั้นตอนเดียวงานนี้สาวผิวแห้งคนไหน ไม่มีเวลาทำสกินแคร์อะไรมาก อย่างน้อยทาเจ้าขวดนี้ วันละครั้งก็ยังดีนะคะ

ราคา :ขนาด 30 มล.590 บาท


5. Elizabeth Arden Visible Difference Refining Moisture Cream Complex

รูปภาพ:http://1.bp.blogspot.com/-Ck14-4W2zZY/UQgABu73CHI/AAAAAAAANlQ/qwE0cPxzGdM/s1600/Elizabeth-Arden-Visible-Difference-Moisturiser.jpg

หนึ่งในสกินแคร์ที่โด่งดังเรื่องการให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพเหมาะกับสาวหน้าแห้ง ที่ต้องได้รับการบำรุงก่อนที่จะสายเกินไป ในกระปุกนี้จะช่วยมอบความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยป้องกันริ้วรอยต่างๆ ที่มาจากผิวหน้าแห้ง มลพิษต่างๆในชีวิตประจำวัน รวมถึงการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อใบหน้าด้วย

สาวคนไหนที่ต้องการการบำรุงความแห้งแบบหนักๆ ถือว่ากระปุกเดียวเอาอยู่เลยแต่จะให้ดีก็ควรทาหลังสกินแคร์ขั้นตอนอื่นๆ เพราะเนื้อค่อนข้างข้นมากแต่เพราะความเนื้อข้นนิดๆ นี่แหละ ทำให้มั่นใจได้ว่า หน้าเราจะได้รับการปกป้องได้อย่างเต็มที่ถึงชั้นผิวซึ่งถ้าหากใช้อย่างต่อเนื่องทุกวันไปนานๆ เมื่อเวลาผ่านไป คนจะเดาไม่ออกกันเลยทีเดียวว่าอายุเท่าไหร่

แต่ก็เพราะด้วยชื่อแบรนด์ที่รู้กันดีอยู่แล้วนี่แหละ ก็เลยมาคู่กับราคาที่ค่อนข้างเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เอาเป็นว่าสาวคนไหนทุนถึง และมีปัญหาผิวแห้ง ก็ลองสอยมาติดบ้านไว้ได้เลยจ้า

ราคา :ขนาด 75 มล.1,690 บาท


ทั้ง 5 ไอเทมนี้ ถือว่าเป็นสกินแคร์ที่สาวผิวแห้งควรมีติดบ้าน

ไว้อย่างจริงๆ นอกจากจะให้ความชุ่มชื้น

บำรุงผิวหน้าให้ชุ่มฉ่ำเหมือนเรียกฝนได้ดั่งใจแล้ว ก็ยังช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาผิวอื่นๆ มากวนใจทีหลังได้อีกต่างหากนะ!