6 สัญญาณที่กำลังบอกคุณว่า ควรวางแผนลดน้ำหนักใหม่ซะ

เมื่อน้ำหนักพุ่งทะยานจนทะลุปรอทแล้ว ก็ถึงเวลาต้องไดเอทรัวๆ แล้วสินะ!งานหาข้อมูลตามตำรา อินเตอร์เน็ต ถามเพื่อน ส่องเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ว่าใครมีสูตรไดเอทเด็ดๆ บ้างเห็นคำโฆษณาว่าลดได้หลายกิโลกรัมใน 3 วัน 7 วัน ก็คัดลอกสูตรเขามาใช้โดยไม่ดูผลข้างเคียงเลย ในที่สุดก็ไม่ได้ผล เผลอๆ อ้วนขึ้นกว่าเดิมอีกโอ๊ย เสียใจหนักมาก TT

อ่านบทความ" 6 สัญญาณที่บอกว่า จงวางแผนไดเอทใหม่เถอะ "เพราะถ้าสูตรไดเอทเข้าข่ายทั้ง 6 ข้อนี้แปลว่า เธอมาผิดทางแล้ว รีบหยุดก่อนที่จะสายเกินไป!!!

1. รู้สึกหมดพลัง ไร้เรี่ยวแรง ไม่มีพลังงานทำอะไรเลย

ถ้าเธอใช้สูตรไดเอทประเภทกินน้อยๆ 3 วัน 7 วัน ตอนเช้ากินไข่ต้ม ตอนเที่ยงกินซุป ตอนเย็นกินผักสองสามใบ แน่นอนว่าน้ำหนักจะลดลงอย่างฮวบฮาบ แต่ข้อเสียอย่างมหันต์คือ เธอจะรู้สึกสมองตื้อ โล่งๆ ไร้เรี่ยวแรงจะทำอะไรทั้งสิ้น หมดอาลัยตายอยาก แค่แรงจะหายใจยังไม่มีเลย ( กินอาหารตามสูตรนี้ทั้งวัน ยังไม่ได้พลังงานของอาหารปกติมื้อเดียวด้วยซ้ำ )

วิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้อง ควรทำให้เธอรู้สึกสดชื่น สุขภาพดี กระปรี้กระเปร่าในการออกกำลังกาย ถ้าเธอรู้สึกตรงกันข้าม แปลว่าเธอมาผิดทางแล้วล่ะค่ะ

2. มีปัญหาเรื่องของระบบขับถ่าย

ในที่นี้หมายถึงระบบขับถ่าย " ทุกอย่าง " เช่น ท้องผูก, เป็นตะคริวหรือท้องเสียโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นไปได้ว่าเธอขาดสารอาหารจำเป็นบางชนิด หรืออีกเหตุผลหนึ่งคือ อาหารที่เธอกินในช่วงไดเอทมีส่วนผสมที่ทำให้ระบบในร่างกายผิดปกติค่ะ

เชื่อเราเถอะว่า รูปร่างผอมแบบปลอมๆ ย้วยๆ ไม่มีกล้ามเนื้อ เหลือแต่ไขมันนั้น ไม่คุ้มกับการเป็นโรคปัญหาระบบทางเดินอาหารเรื้อรัง และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงขึ้นได้อีกด้วย

3. มีภาวะกระสับกระส่าย / วิตกกังวล / ซึมเศร้า

แผนอาหารไดเอทที่ถูกต้องควรทำให้เธอรู้สึกมีพลัง สดชื่น ควบคุมตัวเองได้ ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าต้องกินอาหารชนิดนี้เท่านั้นจึงจะผอม เพราะการเลือกอาหารเพื่อลดน้ำหนัก ควรโฟกัสที่สารอาหารควบคู่ไปกับแคลอรี่ ถ้าดูแต่แคลอรี่อย่างเดียว เธออาจเจอขนมพลังงานต่ำแต่เปอร์เซนต์ไขมันสูงปรื๊ดก็เป็นได้

ถ้าเธอเริ่มมีอาการ " แพนิค " หรือวิตกจริตว่ากินแบบนี้ดีไหม กินแบบนี้อ้วนแน่เลย ลังเลในการหยิบอาหารใส่ตะกร้า ถ้าพลังงานในอาหารเกินไปแค่ 5 หรือ 10 แคลอรี่ ก็กังวลจะเป็นจะตายแล้วล่ะก็ แปลว่าเธอไดเอทหักโหมมากไปแล้ว ชีวิตต้องเดินทางสายกลางและยืดหยุ่นกว่านี้ค่ะ

4. รู้สึกหิวแสบไส้อยู่ตลอดเวลา

การเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน จากโหมกินเป็นพายุบุแคมให้น้อยลง ( เท่าปริมาณคนทั่วไปเขากินกัน ) นั้น อาจทำให้เธอรู้สึกหิวเล็กน้อยในแต่ละมื้อ เพราะเธอกินน้อยลงกว่าปกติ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ

แต่ถ้าเธอไม่ได้รู้สึก " อยากกินอีกสักนิดจัง " แต่เป็นความรู้สึกประมาณว่า " หิวแสบไส้ จะขาดใจตายอยู่แล้ว " แบบนี้ไม่ปกติเด็ดๆ! ท้องร้องโครกคราก กระเพาะเรียกหาอาหารเพื่อเอามาหล่อเลี้ยงชีวิตเพราะทั้งวันเธอดื่มแต่นมกล่องเดียว เป็นต้น

อย่าหักโหมขนาดนั้นเลย เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลในระยะยาวแล้ว เธอจะเกิดอาการเก็บกดและตบะแตก

( binge ) จนน้ำหนักเด้งขึ้นสองเท่าอย่างแน่นอนค่ะ

5. เฝ้ารออย่างใจจดจ่อว่า " เมื่อไหร่การไดเอทจะจบลงสักที "

ถ้าเธอเขียนตารางอาหารและการออกกำลังกายแบบ " สุดกู่ " หรือตึงจนตัวเองอ่านแล้วก็ยังส่ายหน้า จะไดเอทวันหนึ่งๆ นั้นผ่านไปอย่างยากลำบาก บนปฏฺิทินมีกากบาทสีแดงตัวโตขีดไล่ลงมาเรื่อยๆ เหมือนต้องการให้แผนไดเอทจบลงสักทีล่ะก็ เธอไดเอทผิดวิธีอย่างแน่นอน!

หลักการสังเกตง่ายๆ คือ สูตรไดเอทแบบไหนที่ตั้งกำหนดเวลาไว้สั้นๆ เช่น สูตร 3 วัน 7 วัน หรือแม้แต่ 1 เดือนนั้น อาจทำให้น้ำหนักลดก็จริง แต่ก็จะเด้งคืนกลับมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะมันคือสูตรโกง! เธอไม่สามารถกินอาหารอย่างในสูตรไปตลอดชีวิตได้

การลดน้ำหนักที่เหมาะสม คือการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่การนับแคลอรี่แค่ชั่วครั้งชั่วคราวค่ะ

6. ตัวเลขบนตาชั่งไม่ลดลงเลย

จริงอยู่ที่ว่า ระบบร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนลดได้ช้า บางคนลดได้เร็ว แต่ถ้าใช้แผนไดเอทมานาน 2-3 สัปดาห์แล้วแต่น้ำหนักก็ไม่ลดลงเลย เหมือนเดิมเป๊ะ! ( บางคนอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ ) อาจจะได้เวลาเปลี่ยน " ชนิดอาหารที่กิน " แล้วล่ะค่ะ

น้ำหนักที่ลดลงไม่ใช่แค่การรับแคลอรี่เข้า-ออกในร่างกายเท่านั้น แต่เราต้องดูด้วยว่าเรารับแคลอรี่มาจากอาหารชนิดไหน คุณภาพของอาหารดีแค่ไหน และระยะเวลาในการลดน้ำหนักด้วยค่ะ

==========================

อ่านบทความ 6 สัญญาณนี้แล้ว ตรงกับแผนไดเอทของเธอบ้างหรือเปล่าเอ่ย ถ้าใช่ก็รีบกลับลำโดยด่วน เพราะฝืนทำต่อไปก็ไม่ผอมลง แต่จะอ้วนขึ้นได้อีก หยุด หยุด สต็อป! ヽ( `д´*)ノ

กว่าเราจะอ้วนขึ้นขนาดนี้ก็ต้องใช้เวลาสะสม จะลดให้ผอมลงก็ต้องใช้เวลาเท่ากัน! ไม่มีสูตรลดได้เร็วอยู่จริง แม้จะผอมลงได้ชั่วระยะเวลาสั้นๆ แต่หากไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการกินและออกกำลังกายที่ยั่งยืน น้ำหนักก็จะเด้งกลับมาอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบเลยทีเดียว เผลอๆ จะได้โรคกระเพาะเป็นของแถมอีกด้วย ไม่คุ้มหรอก

อยากผอมตลอดไป ไม่กลับมาอ้วนอีก งดอาหารหวาน มัน ทอด กินผักผลไม้ให้มากขึ้น ดื่มน้ำให้เพียงพอ และนอนหลับพักผ่อน 6-8 ชั่วโมงทุกวัน เท่านี้ก็ Mission Complete แล้ว สู้ๆ นะคะ ><

==========================