เฮลโหววววว.....


ช่วง

SiataCafeพาเที่ยวกลับมาอีกแล้วจ้า

เห็นแอคนี้ก็รู้ทันทีว่าเช็คอินเก่ง ฮี่ๆ

มาตามสัญญาที่เคยบอกว่าจะพาไปเที่ยวต่างประเทศราคาถูก!!

จะเพื่อนๆ นักศึกษา หรือพี่ๆ วัยทำงานก็ตามไปเที่ยวด้วยกันได้หมด!

และทริปนี้เราจะพาทุกคนไปกันที่ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่ไปได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งเครื่องบินด้วยนะเป็นประเทศที่ไม่คิดว่าจะมีอะไรแต่ไปแล้วประทับใจไม่น้อยเลยค่ะประเทศนี้ก็คือ" มาเลเซีย "

♥ ไปกับเรางบสบายกระเป๋าแน่นอน!

สำหรับงบในทริปนี้ของเรารวมค่าใช้จ่ายแล้วไม่เกินที่6,000 บาทบอกก่อนว่าแบงค์พัน 6 ใบในที่นี่รวมค่าเดินทางแล้วนะจ๊ะ ไม่ใช่แค่ค่ากินค่าเที่ยวเด้อ( จะค่าเครื่องบิน รถไฟ ที่พัก กิน เที่ยว เปรี้ยวที่เมืองไหนในมาเลเซีย ก็ใช้ไปแค่ 6,000 เท่านั้นแหล่ะแกร้! )

แต่มาเลฯ มีอะไรไปทำไมตั้ง 5 วัน ?ที่ไปเยอะเพราะกะไปเที่ยวแบบจุกๆ แหล่ะแก เช็คอินให้ทั่วเมืองน่าเที่ยวปีนัง , กัวลาลัมเปอร์ , มะละกา , ปุตราจายา


ไปให้หมดเลยจ้า ( รอบเดียวแล้วจบกัน )


เที่ยวหนักขนาดนี้ไปยังไง กินแบบไหน เที่ยวอย่างไรให้ถูกแต่จัดเต็มรีวิวให้หมด! พร้อมแล้วก็ตามเราไปเที่ยวด้วยกันเล้ยยย! Go Go Go!

รูปภาพ:

► เดินทางยังไงให้ประหยัด ◄

จริงๆ แล้วประเทศมาเลเซียมีเครื่องบินไปลงหลายเมืองเลยค่ะ ทั้งเมืองหลวงอย่างกัวลาลัมเปอร์ เมืองท่องเที่ยวอย่างปีนัง และเมืองโคตาคินาบารู ราคาตั๋วเครื่องก็มีทั้งถูกและแพง

แต่ทริปนี้เราเลือกที่จะลองข้ามแดนไปมาเลฯ โดยไม่ใช่การบินตรงโดยเครื่องบินประหยัดเงินกว่าแต่เปลืองเวลาหน่อยแลกมากับการ

ได้ลองเดินทางรูปแบบใหม่ๆ

ได้เห็นอะไรระหว่างทางอีกเพียบ!

เราเริ่มต้นจากปีนัง > กัวลาลัมเปอร์ > มะละกา > ปุตราจายาแต่จะเดินทางยังไงให้เซฟเงินที่สุดลองไปดูกันค่ะ

รูปภาพ:

ไหนบอกไม่มีเครื่องบินแล้วรูปเครื่องบินมาจากไหน ?

ฮ่าๆ

นั่งด้วยจ้าแต่ไม่ได้นั่งยาว

เนื่องจากตั๋วเครื่องบินจากไทยบินตรงไปปีนังราคาแรงมาก หากอยากจะไปโดยเครื่องบินก็ต้องบินไปที่กัวลาฯ แล้ววนกลับมาปีนังอีกที ย้อนไปย้อนมาเวอร์ๆ

เราเลยตัดสินใจนั่งเครื่องไปลงหาดใหญ่แล้วต่อรถไฟไปมาเลกัน!!

ค่าเดินทางของเราทั้งหมดอยู่ 2,500 บาท


รวม

ทุกการเดินทางไปยังทุกเมือง

โดยสตาร์ทจากดอนเมืองไปลงหาดใหญ่แต่เช้า เดินหาอะไรกินเพลินๆ ก่อนจะต่อรถไฟกันที่นั้นค่า

( หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ )

รูปภาพ:

หลังจากนั่งรสมินิบัสออกจากสนามบินหาดใหญ่ในราคา 60 บาท มายังสถานีรถไฟหาดใหญ่ เราก็ต้องไปทำการจองตั๋วไปยัง" ปาดังเบซาร์ "ซึ่งเป็นชายแดนที่จะข้ามไปยังมาเลฯ ได้ค่ะค่าโดยสารจะอยู่ที่ 50 บาทเท่านั้น นั่งระยะใกล้ๆ ประมาณหนึ่งชั่วโมง

แต่ต้องคำนวนเวลาดีๆ เพราะรถไฟมีแค่2 รอบต่อวันเท่านั้นคือ 7:30 และ 14:00หากตกรถไฟก็ยังมีรถตู้ข้ามไปได้แต่ราคาขึ้นมาอีกหลายเท่าตัวเลยค่ะ

( ปาดังเบซาร์ - บัตเตอร์เวอร์ธ )

รูปภาพ:

เมื่อรถไฟถึงปาดังเบซาร์เพื่อนๆ ต้องเข้าไปผ่าน ตม. ก่อนจึงจะทำการซื้อตั๋วรถไฟมาเลเซียได้ค่ะพอรถไฟจอดก็เดินเข้าไปชั่นล่างเลยหลังจากผ่านตม. แล้วค่อยขึ้นบันไดไปซื้อตั๋วรถไฟบริเวณชั้นบนแล้วลงมารอรถไฟที่ชานชลาข้างล่างอีกทีค่ะ

*เวลาของมาเลเซียจะเร็วกว่าเรา 1 ชม. ฉะนั้นดูตารางเวลารถไฟแล้วเผื่อเวลาให้ดีๆ นะคะ ที่สถานีนี้ต้องใช้เวลาของมาเลเซียแล้วน่า

*ค่าตั๋วต้องจ่ายเป็นเงินริงกิตของมาเลเท่านั้น อย่าลืมแลกเงินกันไปก่อน ราคาจะอยู่ที่ 11.40 RM ประมาณ 100 บาท

รถไฟบ้านเขาดีกว่าเราหลายขุมเลยค่ะ และ

ตรงเวลามาก

สามารถนั่งไปยังกัวลาลัมเปอร์ได้ด้วย แต่เราจะลงแค่ที่

" บัตเตอร์เวอร์ธ "

เพื่อข้ามไปยังปีนังกันก่อน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. นอนสบายๆ ไปเลย

รูปภาพ:https://scontent.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/33477501_1516146901846883_3682073856543031296_n.png?_nc_cat=109&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.fna&oh=bbffefd7c551b58f38fe3beaa39face7&oe=5C455C60

( บัตเตอร์เวอร์ธ - ปีนัง )

รูปภาพ:

ใกล้จะถึงความเป็นจริงแล้วววว....

เมื่อถึงบัตเตอร์เวอร์ธให้เพื่อนออกมานอกสถานีมองหาบัสที่รับส่งฟรีไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ที่จะพาเราข้ามไปยังฝั่งปีนัง


เรือจะออกทุกครึ่งชั่วโมง มีตั้งแต่เช้ายันถึงดึกๆ ประมาณ 4 ทุ่มเลยค่ะค่าโดยสารอยู่ที่ 1.20 RM หรือประมาณ 10 บาท เท่านั้น

ลำใหญ่คล้ายๆ เรือข้ามไปเกาะช้างชมวิวเพลินๆ แป๊ปเดียวก็ถึงปีนังแล้ว

สำหรับการเดินทางไปกัวลาฯ เรานั่งเครื่องจากปีนังไปถูกมากๆ หลักร้อยบาท ส่วนอีกสองเมืองก็สามารถนั่งรถบัส และรถไฟได้จากกัวลาฯ เลยค่ะ

แต่ตอนนี้ไปเที่ยวปีนังกันก่อน ใครก็ว่าเมืองนี้ดีงาม มีความถ่ายรูปมันส์ จริงหรือไม่ใช่หรือมั่วไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า!


► Penang " ปีนัง " ◄

รูปภาพ:

ถ้าพูดชื่อว่า" ปีนัง "เชื่อว่าคนไทยน่าจะรู้จักมากกว่าการบอกว่าไปเที่ยวมาเลเซียอีกล่ะเพราะปีนังเป็นเกาะเล็กๆ ที่ขึ้นชื่อว่าเต็มไปด้วยบ้านเรือนโบราณอันสวยงามแต่ที่ปังมากๆ ก็ต้องยกให้ย่าน George Town ที่มีสตรีทอาร์ตเท่ๆ อยู่จำนวนมากกกกกก รอให้เพื่อนๆ ไปตามล่าหามุมถ่ายรูปสวยๆ กันอยู่แถมเขตจอร์จทาวน์เขายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (World Heritage) รับรองโดยองค์การ UNESCOอีกด้วย

แค่ไฮไลท์ก็น่าไปแล้วแต่ปีนังยังมีที่เที่ยวปังๆ กว่านั้น ทั้งคาเฟ่เก๋ๆ ที่เที่ยวธรรมชาติ และ Night life สวยๆเอาเป็นว่าถ้าพวกเธอได้มีโอกาสข้ามมาเที่ยวมาเลเซีย แค่มาถึงปีนังก็ถือว่าคุ้มแล้ว! ว่าแต่" ปีนัง "จะมีที่ไหนควรจะไปเช็คอินกันบ้าง งานนี้เราลิสมาให้แล้ว!!

_____________________________________

การเดินทาง :ปกติหลายคนจะรีวิวว่าให้นั่งบัส มีหลายสายวิ่งทั่วปีนัง แต่เราอยากแนะนำว่านั่งGrabเถอะ ราคาถูกมากกกก!ไปกัน2-3 คน ใกล้ไกลแค่ไหนก็หารกันหลักสิบบาทเท่านั้น คือดีมากนั่งสบายส่งถึงที่หมาย แอร์เย็นเฉียบ!

( Hotel - Reunion Heritage House )

รูปภาพ:

ก่อนจะพาไปเที่ยวที่อื่นเราขอพาเพื่อนๆ มาดูโรงแรมของเราซะหน่อย จะบอกว่า

ที่พักปีนังราคาดีมากๆ ที่พักดีๆ ราคาถูกมีเยอะเลยค่ะ

พวกเราเลือกพักกันในย่าน

George Town

เพราะนอกจากจะเดินเล่นได้สบายๆ แล้ว ยังใกล้กับท่าเรือเฟอร์รี่ที่เราข้ามาด้วยค่ะ จากท่าเรือเดินมานิดหน่อยก็ถึงที่พักเลย

ที่พักของเรามีชื่อว่า

" Reunion Heritage House "

บ้านเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่ถูกนำมารีโนเวตให้สวยจนน่าตกใจ แม้ทางเข้าจะเป็นแค่ตัวบ้านเล็กๆ แต่ข้างในคือยาวมากกกกและสวยตะลึงภาพตรงปกเป๊ะ นอกจากเป็นโรงแรมเก๋ๆ แล้วก็เป็นคาเฟ่ด้วยค่ะ ลองไปดูห้องนอนของเรากันดีกว่า

รูปภาพ:

! แจกส่วนลดที่พักฟรี 550 บาท !

ว่าแล้วก็

ขอแจกส่วนลดให้เพื่อนๆ หน่อย

นี้ไม่ใช่การขายของแต่พอดีเราจองที่พักแล้วได้ส่วนลดมาเลยเอามาแบ่งปันกันน่า ใครที่มีแพลนจะจองโรงแรมกับ

Booking.com


กดจองผ่านลิ้งเรา


>

https://www.booking.com/s/34_6/ee2363b8

<


หลัง

จากเข้าพักรับ Cash Back คืนเลย550 บาท

( ได้คืนจริงนะจ๊ะเพราะลองใช้เองแล้ว )

ปล. ใช้จองที่ไหนก็ได้ทั่วโลกแต่สำหรับยอดจองตั้งแต่ 1,100 บาทขึ้นไปถึงจะใช้ได้น่าเอาส่วนลดไปให้แล้วก็ไปเที่ยวกันเถ๊อะ!

( AVATAR SECRET GARDEN )

รูปภาพ:

ที่แรกที่เราไปคือ

สวนที่ประดับด้วยแสงไฟที่ชือว่า" AVATAR SECRET GARDEN "


ตั้งอยู่ที่วัดไทย Thai pak koong temple ติดริมทะเลเลยค่ะ


แนะนำให้เพื่อนๆ ไปช่วงเย็นๆ ไปจนถึงค่ำๆ ดีงามมาก ถ่ายรูปกับแสงไฟในสวน และประภาคารริมทะเล

แต่ต้องบอกว่าไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนะคะ แต่ก็เป็นที่เที่ยวเช็คอินถ่ายรูปสวยๆ อีกที่ ซึ่งให้ฟีลต่างไปจากความเป็นปีนัง

รูปภาพ:

ค่าเข้าชม :

1 RM ( ประมาณ 8 บาท )

เวลาเปิดปิด :

8:00–0:00 น. ทุกวัน

การเดินทาง :

รถบัส 101 ลงป้ายทางเข้าวัด ( แนะนำว่า Grab สะดวกว่าและถูกมากๆ )

( Penang Hill )

รูปภาพ:

Penang Hill

คือ

จุดชมวิวที่สูงที่สุดของปีนัง


เพื่อนๆ สามารถชมวิวเมืองปีนังแบบพาโรนามาได้จากบนยอดเขานี้เลยค่ะ มีทั้งวิวธรรมชาติ อากาศเย็นๆ และวิวเมืองสวยๆ

ไปเช้าๆ เพื่อนๆ จะได้เจอกันหมอกจางๆ ด้วยนะ

สำหรับการขึ้นไปบนยอดเขาก็มีให้เลือก 2 ทางคือการเดิน และการนั่งรถรางไฟฟ้า

( แนะนำว่านั่งรถเถอะค่ะ เดินเป็นวันก็ไม่น่าถึงไกลมากจริงๆ จ้า )

รูปภาพ:รูปภาพ:

ค่าเข้าชม :

ค่ารถราง แบบธรรมดาคนละ 30 RM ( ประมาณ 240 บาท ) / แบบด่วนคนละ 60 RM ( ประมาณ 475 บาท )

*สำหรับเพื่อนๆ ที่โชว์บัตรนักศึกษาจะได้ส่วนลดเหลือแค่ 15 RM นะคะ

เวลาเปิดปิด :

06.30 – 23.00 น ทุกวัน

การเดินทาง :

รถบัส 201 และ 204 ( ส่วนเรายังใช้บริการ Grab เหมือนเดิม )

( Hin Bus Depot Art Centre )

รูปภาพ:

ใครที่อยากหาที่ถ่ายรูปชิคๆ นอกจากสตรีทอาร์ตย่าน George Town ก็ต้องมาที่นี่เลยจ้า

" Hin Bus Depot Art Centre "


อาร์ตแกลลอรี่ของศิลปินปีนังที่เปิดให้เข้าชมฟรี! ภายในมีทั้งพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ กราฟฟิตี้เจ๋งๆ รวมไปถึงร้านขายของที่ระลึกคูลๆ และคาเฟ่น่ารักๆ


โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเพื่อนๆ ไปใน

วั

นอาทิตย์เขาจะมี Handmade Market

ขายสินค้าทำมือ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ต้นไม้ และงาน Craft สวยๆ มากมาย มาให้เราเลือกช้อปด้วยนะ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ค่าเข้าชม :

ไม่มีค่าเข้าชม

เวลาเปิดปิด :

12.00 – 22.00 น ทุกวัน

การเดินทาง :

( เรายังใช้บริการ Grab เหมือนเดิม )


( George Town )

รูปภาพ:

มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์อย่างย่าน

" George Town "

จะบอกว่า

ย่านนี้เต็มไปด้วยสตรีทอาร์ตให้เดินถ่ายรูปเพลินๆ เยอะไปหมดทั้งภาพเล็กภาพใหญ่ซ่อนและกระจาายตัวอยู่ทั้งย่าน

รวมกับบ้านเรือนสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในสไตล์ชิโนโปรตุกีส

บอกเลยว่าสวยแถมยังมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากๆ จริงๆ ค่ะ


แนะนำว่าให้ตื่นเช้าสักหน่อยออกมาเดินถ่ายรูปเล่นช่วงเช้าๆ พวกเธอจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวปีนัง อากาศเย็นสบาย และยังถ่ายรูปได้โดยไปไม่ต้องไปแย่งกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ

( เพราะเขายังไม่ตื่นมาเดินเที่ยวแบบเรายังแกร้ ) จะบอกว่าหากมาช่วงสายๆ เย็นๆ บริเวณนี้นักท่องเที่ยวเยอะมาก!! จะถ่ายรูปแต่ละมุมเธอต้องต่อแถวเอา ไม่ไหวหรอกเชื่อสิมาเช้าเวิร์คสุด

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

แต่ละภาพคือดีงามมากๆ ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปไม่หยุด ไอเลิฟจริงๆ ค่ะ สำหรับใครที่ไม่อยากเดินหาสตรีทอาร์ตแบบไม่มีจุดหมาย เพื่อนเธอคนนี้

รวมโลเคชั่นแต่ละจุดไว้ให้แล้ว ปักหมุดใน Google Map ให้เลย เดินตาม Map เจอแน่นอนจ้า


>>https://www.google.com/maps/d/u/0/viewer?mid=14uG8p-BO9SuYpijavTdNoiAkSCg&shorturl=1&ll=5.416379545438629%2C100.33425350000005&z=15<<

( Esplanade )

รูปภาพ:

เพื่อนๆ คนไหนที่พอจะมีเวลาเหลือสักหน่อยก็อย่าลืมมาเดินเล่นรับลมชมวิวบริเวณนี้เลยค่ะ

" Esplanade "

เป็น

เหมือนที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวปีนัง อยู่ติดริมทะเลและมีสวนสาธารณะให้นั่งเพลินๆ

แนะนำว่าควรมาช่วงเย็นๆ นะคะ บรรยากาศดีมากขอบอก

รูปภาพ:รูปภาพ:

► กินอะไรที่ " ปีนัง " คาเฟ่ปังๆ อ่ะมีไหม ? ◄

จะบอกว่า

" ปีนัง "

เขามีสตรีทฟู้ดให้เพื่อนๆ ลองชิมไม่น้อยเลยน่า แต่ที่กรี้ดมากๆ ก็คือ

ปีนังเขามีคาเฟ่เก๋ๆ ซ่อนอยู่เพียบ

แต่มันเป็นฟีลเก๋แต่กลมกลืน

แต่ละร้านแม้จะมีเอกลักษณ์ของตนเองแต่สิ่งที่ทุกร้านมีเหมือนกันก็คือการช่วยกันรักษาความสวยงามของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมให้ยังอยู่ และมันคูลมากๆ เลยพวกเธอ

จะมีร้านไหนแนะนำว่าให้ไปลองชิมบ้าง ไปดูกันเลยจ้า!

( Two Buns )

รูปภาพ:

ร้านแรกที่ควรไปโดนก็คือ

" Two Buns "

ร้านเบอร์เกอร์ฮิปส์ๆ ในย่าน

George Town

ไฟนีออนสีชมพูและตู้เกมส์คืออะไรที่เริ่ดมากๆ ราคาเบอร์เกอร์ก็จะอยู่ที่ 15-20RM รสชาติถือว่าไม่แย่เลยค่ะ แต่ค่อนข้างจะมีกลิ่นเครื่องเทศแรงหน่อยตามสไตล์อาหารลูกผสมแขก แนะนำว่าให้สั่งมาอันเดียวแล้วแบ่งกันทานเอานะคะ เพราะชิ้นไม่เล็กเท่าไรแถมราคาก็ถือว่าแรง เอาแค่ชิมๆ ก็พอจ้า

รูปภาพ:รูปภาพ:

( CHINA HOUSE )

รูปภาพ:

" CHINA HOUSE "

ก็เป็นคาเฟ่ที่ควรไปเช็คอินเมื่อไปถึงปีนัง เพราะในนี้ไม่ได้มีแต่คาเฟ่ที่เต็มไปด้วยขนมเค้กหน้าตาดีให้ทาน

แต่ยังมีทั้งแกลลอรี่ ร้านขายของที่ระลึก และร้านเสื้อผ้าเก๋ๆ อยู่รวมกัน จนได้ชื่อว่าเป็นคาเฟ่ที่ยาวที่สุดเลยค่ะ


เพื่อนๆ สามารถเดินผ่านคาเฟ่เข้าไปชมส่วนอื่นๆ ก่อนได้ค่ะ แต่หากจะชิมขนมและเครื่องดื่มต้องมาจองคิวรอโต๊ะก่อนนะจ๊ะ

แอบกระซิบว่าเค้กช็อกโกแลตดีมาก! ในส่วนของราคาอาหารและเครื่องดื่มก็จะไล่ๆ กับคาเฟ่ในบ้านเราค่ะ

รูปภาพ:

( Awesome Canteen )

รูปภาพ:

ถ้าพูดถึงคาเฟ่ที่ดังและปังมากๆ ของปีนังก็ต้องยกให้

" Awesome Canteen "

เลยค่ะ

คาเฟ่ดิบเท่ แต่โล่งโปร่งนั่งสบายๆ

เราชอบที่การตกแต่งให้อาคารเป็นส่วนเดียวกับธรรมชาติ มีแสงส่องเข้ามาและมีต้นไม้ใหญ่อยุ่ในร้าน ลดความอึดอัดของการไปนั่งคาเฟ่ที่คนเยอะๆ ไปได้มากเลย

ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มเขาก็มีทั้งเมนูหนักท้องและของหวานให้สาวๆ เลือกกินตามใจ

รูปภาพ:

( Toh Soon Cafe )

รูปภาพ:

Toh Soon Cafe

บอกเลยว่าเป็ร

ร้านอาหารเช้าที่ Local

มากๆ ของปีนัง แต่ก็หนาแน่นไปด้วยผู้คนต่อคิวรอชิม

ร้านกาแฟแบบโกปี๊ดั้งเดิมแห่งนี้ที่ทีเด็ดอยู่ที่ขนมปังปิ้งไข่ลวกใครมากินต้องสั่งทุกโต๊ะ

( รวมทั้งเราด้วย ) อร่อยจริงๆ เธอ เพราะเขาปิ้งขนมปังด้วยเต่าถ่านแถมไข่ลวกก็ยังต้มแบบอุณหภูมิเป๊ะ ทุกอย่างคือบ้านๆ แต่ลงตัว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนล้นขนาดนี้

ร้านเปิด 9.00 เช้า แต่แนะนำว่าให้มาก่อนเวลานะคะเพราะคนเยอะมากจริงๆ ไม่งั้นต่อคิวรอนานมากกเลยแกร้!

รูปภาพ:

( ล็อกล็อก Lok Lok )

รูปภาพ:

ล็อกล็อก lok lokคือต้องโดนแรงๆ นางเป็นจิ้มจุ่มแบบมาเลเซีย คล้ายๆ รถเข็นขายลูกชิ้น ทั้งเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ ลูกชิ้น ไส้กรอก เกี๊ยว เห็ด และผักต่างๆ เสียบไม้ไว้ เจ้าของร้านจะแจกจานให้เราคนละใบ จากนั้นก็เลือกสิ่งที่อยากกินจุ่มลงไปในหม้อน้ำเดือดๆ ลวกให้สุก แล้วก็ตบท้ายด้วยน้ำจิ้มที่มีหลายชนิดมาก คือดีคือฟิน แถมราคายังไม่แพงด้วยเธอ

( Urban Artisan )

รูปภาพ:

( Tai Tong ติ่มซำ )

รูปภาพ:

________________________________________________

ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้เธอช่างเป็นคนดีขอหอมแก้มสักทีจะได้ไหม ?

ฮ่าๆ คือมันยาวมากค่า ยาวจริงๆ เพราะอยากเล่าละเอียดๆ ให้เพื่อนๆ ตามไปเที่ยวด้วยกันได้จริง

EP. แรกคงต้องขอจบกันไปที่

" ปีนัง "

ก่อน

แล้วเราจะมาต่อใน EP. หน้าพาพวกเธอเข้าสู้เมืองหลวงอันยิ่งใหญ่อย่างกัวลาลัมเปอร์แล้วไปต่อกันที่เมืองน่ารักอย่างมะละกาปิดท้ายด้วยเมืองใหม่ที่สวยงามกินขาดของมาเลเซียอย่างปุตราจายา

อดใจรออีกนิด หวังว่าจะยังอยากร่วมเดินทางไปด้วยกันนะ :)

รูปภาพ: