เฮลโหววววว..... ช่วง SiataCafe พาเที่ยวกลับมาอีกแล้วจ้า เห็นแอคนี้ก็รู้ทันทีว่าเช็คอินเก่ง ฮี่ๆ มาตามสัญญาที่เคยบอกว่าจะพาไปเที่ยวต่างประเทศราคาถูก!! จะเพื่อนๆ นักศึกษา หรือพี่ๆ วัยทำงานก็ตามไปเที่ยวด้วยกันได้หมด!
เป็นประเทศที่ไม่คิดว่าจะมีอะไรแต่ไปแล้วประทับใจไม่น้อยเลยค่ะ
ประเทศนี้ก็คือ " มาเลเซีย "
♥ ไปกับเรางบสบายกระเป๋าแน่นอน!
สำหรับงบในทริปนี้ของเรารวมค่าใช้จ่ายแล้วไม่เกินที่ 6,000 บาท บอกก่อนว่าแบงค์พัน 6 ใบในที่นี่รวมค่าเดินทางแล้วนะจ๊ะ ไม่ใช่แค่ค่ากินค่าเที่ยวเด้อ ( จะค่าเครื่องบิน รถไฟ ที่พัก กิน เที่ยว เปรี้ยวที่เมืองไหนในมาเลเซีย ก็ใช้ไปแค่ 6,000 เท่านั้นแหล่ะแกร้! )
แต่มาเลฯ มีอะไรไปทำไมตั้ง 5 วัน ? ที่ไปเยอะเพราะกะไปเที่ยวแบบจุกๆ แหล่ะแก เช็คอินให้ทั่วเมืองน่าเที่ยว ปีนัง , กัวลาลัมเปอร์ , มะละกา , ปุตราจายา ไปให้หมดเลยจ้า ( รอบเดียวแล้วจบกัน ) เที่ยวหนักขนาดนี้ไปยังไง กินแบบไหน เที่ยวอย่างไรให้ถูกแต่จัดเต็ม รีวิวให้หมด! พร้อมแล้วก็ตามเราไปเที่ยวด้วยกันเล้ยยย! Go Go Go!

งบ 6000 ไปได้ขนาดนี้! จัดเลย 4 เมือง 4 อารมณ์ ทริปเที่ยวคมๆ ที่มาเลฯ จ้า
► เดินทางยังไงให้ประหยัด ◄
จริงๆ แล้วประเทศมาเลเซียมีเครื่องบินไปลงหลายเมืองเลยค่ะ ทั้งเมืองหลวงอย่างกัวลาลัมเปอร์ เมืองท่องเที่ยวอย่างปีนัง และเมืองโคตาคินาบารู ราคาตั๋วเครื่องก็มีทั้งถูกและแพง แต่ทริปนี้เราเลือกที่จะลองข้ามแดนไปมาเลฯ โดยไม่ใช่การบินตรงโดยเครื่องบิน ประหยัดเงินกว่าแต่เปลืองเวลาหน่อย แลกมากับการได้ลองเดินทางรูปแบบใหม่ๆ ได้เห็นอะไรระหว่างทางอีกเพียบ!
แต่จะเดินทางยังไงให้เซฟเงินที่สุดลองไปดูกันค่ะ
ไหนบอกไม่มีเครื่องบินแล้วรูปเครื่องบินมาจากไหน ? ฮ่าๆ นั่งด้วยจ้าแต่ไม่ได้นั่งยาว เนื่องจากตั๋วเครื่องบินจากไทยบินตรงไปปีนังราคาแรงมาก หากอยากจะไปโดยเครื่องบินก็ต้องบินไปที่กัวลาฯ แล้ววนกลับมาปีนังอีกที ย้อนไปย้อนมาเวอร์ๆ เราเลยตัดสินใจนั่งเครื่องไปลงหาดใหญ่แล้วต่อรถไฟไปมาเลกัน!!
ค่าเดินทางของเราทั้งหมดอยู่ 2,500 บาท รวมทุกการเดินทางไปยังทุกเมือง โดยสตาร์ทจากดอนเมืองไปลงหาดใหญ่แต่เช้า เดินหาอะไรกินเพลินๆ ก่อนจะต่อรถไฟกันที่นั้นค่า
( หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ )

หลังจากนั่งรสมินิบัสออกจากสนามบินหาดใหญ่ในราคา 60 บาท มายังสถานีรถไฟหาดใหญ่ เราก็ต้องไปทำการจองตั๋วไปยัง " ปาดังเบซาร์ " ซึ่งเป็นชายแดนที่จะข้ามไปยังมาเลฯ ได้ค่ะ ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 50 บาท เท่านั้น นั่งระยะใกล้ๆ ประมาณหนึ่งชั่วโมง
( ปาดังเบซาร์ - บัตเตอร์เวอร์ธ )

*เวลาของมาเลเซียจะเร็วกว่าเรา 1 ชม. ฉะนั้นดูตารางเวลารถไฟแล้วเผื่อเวลาให้ดีๆ นะคะ ที่สถานีนี้ต้องใช้เวลาของมาเลเซียแล้วน่า *ค่าตั๋วต้องจ่ายเป็นเงินริงกิตของมาเลเท่านั้น อย่าลืมแลกเงินกันไปก่อน ราคาจะอยู่ที่ 11.40 RM ประมาณ 100 บาท
รถไฟบ้านเขาดีกว่าเราหลายขุมเลยค่ะ และตรงเวลามากสามารถนั่งไปยังกัวลาลัมเปอร์ได้ด้วย แต่เราจะลงแค่ที่ " บัตเตอร์เวอร์ธ " เพื่อข้ามไปยังปีนังกันก่อน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. นอนสบายๆ ไปเลย
( บัตเตอร์เวอร์ธ - ปีนัง )

ใกล้จะถึงความเป็นจริงแล้วววว.... เมื่อถึงบัตเตอร์เวอร์ธให้เพื่อนออกมานอกสถานีมองหาบัสที่รับส่งฟรีไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ที่จะพาเราข้ามไปยังฝั่งปีนัง เรือจะออกทุกครึ่งชั่วโมง มีตั้งแต่เช้ายันถึงดึกๆ ประมาณ 4 ทุ่มเลยค่ะ ค่าโดยสารอยู่ที่ 1.20 RM หรือประมาณ 10 บาท เท่านั้น ลำใหญ่คล้ายๆ เรือข้ามไปเกาะช้างชมวิวเพลินๆ แป๊ปเดียวก็ถึงปีนังแล้ว
สำหรับการเดินทางไปกัวลาฯ เรานั่งเครื่องจากปีนังไปถูกมากๆ หลักร้อยบาท ส่วนอีกสองเมืองก็สามารถนั่งรถบัส และรถไฟได้จากกัวลาฯ เลยค่ะ แต่ตอนนี้ไปเที่ยวปีนังกันก่อน ใครก็ว่าเมืองนี้ดีงาม มีความถ่ายรูปมันส์ จริงหรือไม่ใช่หรือมั่วไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า!
เบรคจากการเดินทางยาวๆ ไปดูสาว Fah Sarika พาเที่ยวปีนังเรียกน้ำย่อยกัน
► Penang " ปีนัง " ◄

ถ้าพูดชื่อว่า " ปีนัง " เชื่อว่าคนไทยน่าจะรู้จักมากกว่าการบอกว่าไปเที่ยวมาเลเซียอีกล่ะ เพราะปีนังเป็นเกาะเล็กๆ ที่ขึ้นชื่อว่าเต็มไปด้วยบ้านเรือนโบราณอันสวยงาม แต่ที่ปังมากๆ ก็ต้องยกให้ย่าน George Town ที่มีสตรีทอาร์ตเท่ๆ อยู่จำนวนมากกกกกก รอให้เพื่อนๆ ไปตามล่าหามุมถ่ายรูปสวยๆ กันอยู่ แถมเขตจอร์จทาวน์เขายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (World Heritage) รับรองโดยองค์การ UNESCO อีกด้วย
( Hotel - Reunion Heritage House )
ก่อนจะพาไปเที่ยวที่อื่นเราขอพาเพื่อนๆ มาดูโรงแรมของเราซะหน่อย จะบอกว่าที่พักปีนังราคาดีมากๆ ที่พักดีๆ ราคาถูกมีเยอะเลยค่ะ พวกเราเลือกพักกันในย่าน George Town เพราะนอกจากจะเดินเล่นได้สบายๆ แล้ว ยังใกล้กับท่าเรือเฟอร์รี่ที่เราข้ามาด้วยค่ะ จากท่าเรือเดินมานิดหน่อยก็ถึงที่พักเลย
ที่พักของเรามีชื่อว่า " Reunion Heritage House " บ้านเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่ถูกนำมารีโนเวตให้สวยจนน่าตกใจ แม้ทางเข้าจะเป็นแค่ตัวบ้านเล็กๆ แต่ข้างในคือยาวมากกกกและสวยตะลึงภาพตรงปกเป๊ะ นอกจากเป็นโรงแรมเก๋ๆ แล้วก็เป็นคาเฟ่ด้วยค่ะ ลองไปดูห้องนอนของเรากันดีกว่า

ห้องพักของเราเป็นสองชั้น นอนได้ 3 คน ตกแต่งสวยมีกลิ่นอายเฮอร์ริเทจเวอร์ นอน 2 คืนราคาอยู่ที่ 3400 รวมอาหารเช้า แต่เรามีส่วนลดอีก 550 บาท ก็เลยถูกไปอีกเหลือคนละไม่ถึง 1000 เลยแกร้
! แจกส่วนลดที่พักฟรี 550 บาท !
ว่าแล้วก็ขอแจกส่วนลดให้เพื่อนๆ หน่อย นี้ไม่ใช่การขายของแต่พอดีเราจองที่พักแล้วได้ส่วนลดมาเลยเอามาแบ่งปันกันน่า ใครที่มีแพลนจะจองโรงแรมกับ Booking.com กดจองผ่านลิ้งเรา > Click < หลังจากเข้าพักรับ Cash Back คืนเลย 550 บาท ( ได้คืนจริงนะจ๊ะเพราะลองใช้เองแล้ว )
ปล. ใช้จองที่ไหนก็ได้ทั่วโลกแต่สำหรับยอดจองตั้งแต่ 1,100 บาทขึ้นไปถึงจะใช้ได้น่า
เอาส่วนลดไปให้แล้วก็ไปเที่ยวกันเถ๊อะ!
( AVATAR SECRET GARDEN )
ที่แรกที่เราไปคือสวนที่ประดับด้วยแสงไฟที่ชือว่า " AVATAR SECRET GARDEN " ตั้งอยู่ที่วัดไทย Thai pak koong temple ติดริมทะเลเลยค่ะ
แนะนำให้เพื่อนๆ ไปช่วงเย็นๆ ไปจนถึงค่ำๆ ดีงามมาก ถ่ายรูปกับแสงไฟในสวน และประภาคารริมทะเล แต่ต้องบอกว่าไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนะคะ แต่ก็เป็นที่เที่ยวเช็คอินถ่ายรูปสวยๆ อีกที่ ซึ่งให้ฟีลต่างไปจากความเป็นปีนัง

ค่าเข้าชม : 1 RM ( ประมาณ 8 บาท )
เวลาเปิดปิด : 8:00–0:00 น. ทุกวัน
การเดินทาง : รถบัส 101 ลงป้ายทางเข้าวัด ( แนะนำว่า Grab สะดวกว่าและถูกมากๆ )
( Penang Hill )
Penang Hill คือจุดชมวิวที่สูงที่สุดของปีนัง เพื่อนๆ สามารถชมวิวเมืองปีนังแบบพาโรนามาได้จากบนยอดเขานี้เลยค่ะ มีทั้งวิวธรรมชาติ อากาศเย็นๆ และวิวเมืองสวยๆ ไปเช้าๆ เพื่อนๆ จะได้เจอกันหมอกจางๆ ด้วยนะ สำหรับการขึ้นไปบนยอดเขาก็มีให้เลือก 2 ทางคือการเดิน และการนั่งรถรางไฟฟ้า ( แนะนำว่านั่งรถเถอะค่ะ เดินเป็นวันก็ไม่น่าถึงไกลมากจริงๆ จ้า )

หน้าตารถรางไฟฟ้าที่พาเราขึ้นไป จะบอกวว่าขึ้นสูงมากๆ นั่งด้านหน้าคือเห็นวิวชัดสุดๆ

ข้างบนก็จะเขียว ได้ภาพสวยๆ ประหนึ่งอยู่เมืองหนาวไปเลยจ้า
ค่าเข้าชม : ค่ารถราง แบบธรรมดาคนละ 30 RM ( ประมาณ 240 บาท ) / แบบด่วนคนละ 60 RM ( ประมาณ 475 บาท ) *สำหรับเพื่อนๆ ที่โชว์บัตรนักศึกษาจะได้ส่วนลดเหลือแค่ 15 RM นะคะ
เวลาเปิดปิด : 06.30 – 23.00 น ทุกวัน
การเดินทาง : รถบัส 201 และ 204 ( ส่วนเรายังใช้บริการ Grab เหมือนเดิม )
( Hin Bus Depot Art Centre )
ใครที่อยากหาที่ถ่ายรูปชิคๆ นอกจากสตรีทอาร์ตย่าน George Town ก็ต้องมาที่นี่เลยจ้า " Hin Bus Depot Art Centre " อาร์ตแกลลอรี่ของศิลปินปีนังที่เปิดให้เข้าชมฟรี! ภายในมีทั้งพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ กราฟฟิตี้เจ๋งๆ รวมไปถึงร้านขายของที่ระลึกคูลๆ และคาเฟ่น่ารักๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเพื่อนๆ ไปในวันอาทิตย์เขาจะมี Handmade Market ขายสินค้าทำมือ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ต้นไม้ และงาน Craft สวยๆ มากมาย มาให้เราเลือกช้อปด้วยนะ


ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
เวลาเปิดปิด : 12.00 – 22.00 น ทุกวัน
การเดินทาง : ( เรายังใช้บริการ Grab เหมือนเดิม )
( George Town )

มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์อย่างย่าน " George Town " จะบอกว่าย่านนี้เต็มไปด้วยสตรีทอาร์ตให้เดินถ่ายรูปเพลินๆ เยอะไปหมดทั้งภาพเล็กภาพใหญ่ซ่อนและกระจาายตัวอยู่ทั้งย่าน รวมกับบ้านเรือนสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในสไตล์ชิโนโปรตุกีส บอกเลยว่าสวยแถมยังมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากๆ จริงๆ ค่ะ
แนะนำว่าให้ตื่นเช้าสักหน่อยออกมาเดินถ่ายรูปเล่นช่วงเช้าๆ พวกเธอจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวปีนัง อากาศเย็นสบาย และยังถ่ายรูปได้โดยไปไม่ต้องไปแย่งกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ( เพราะเขายังไม่ตื่นมาเดินเที่ยวแบบเรายังแกร้ ) จะบอกว่าหากมาช่วงสายๆ เย็นๆ บริเวณนี้นักท่องเที่ยวเยอะมาก!! จะถ่ายรูปแต่ละมุมเธอต้องต่อแถวเอา ไม่ไหวหรอกเชื่อสิมาเช้าเวิร์คสุด




แต่ละภาพคือดีงามมากๆ ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปไม่หยุด ไอเลิฟจริงๆ ค่ะ สำหรับใครที่ไม่อยากเดินหาสตรีทอาร์ตแบบไม่มีจุดหมาย เพื่อนเธอคนนี้รวมโลเคชั่นแต่ละจุดไว้ให้แล้ว ปักหมุดใน Google Map ให้เลย เดินตาม Map เจอแน่นอนจ้า
( Esplanade )
เพื่อนๆ คนไหนที่พอจะมีเวลาเหลือสักหน่อยก็อย่าลืมมาเดินเล่นรับลมชมวิวบริเวณนี้เลยค่ะ " Esplanade " เป็นเหมือนที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวปีนัง อยู่ติดริมทะเลและมีสวนสาธารณะให้นั่งเพลินๆ แนะนำว่าควรมาช่วงเย็นๆ นะคะ บรรยากาศดีมากขอบอก

เดินไปสักพักจะเจอกับ Cheong Fatt Tze Blue Mansion หรือ Blue Mansion ที่โด่งดังของปีนัง แต่เราเวลาไม่พอเลยได้แต่มองจากด้านนอก ใครมีโอกาสก็อย่าลืมแวะไปนะคะ
► กินอะไรที่ " ปีนัง " คาเฟ่ปังๆ อ่ะมีไหม ? ◄
จะบอกว่า " ปีนัง " เขามีสตรีทฟู้ดให้เพื่อนๆ ลองชิมไม่น้อยเลยน่า แต่ที่กรี้ดมากๆ ก็คือปีนังเขามีคาเฟ่เก๋ๆ ซ่อนอยู่เพียบ แต่มันเป็นฟีลเก๋แต่กลมกลืน แต่ละร้านแม้จะมีเอกลักษณ์ของตนเองแต่สิ่งที่ทุกร้านมีเหมือนกันก็คือการช่วยกันรักษาความสวยงามของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมให้ยังอยู่ และมันคูลมากๆ เลยพวกเธอ จะมีร้านไหนแนะนำว่าให้ไปลองชิมบ้าง ไปดูกันเลยจ้า!
( Two Buns )
ร้านแรกที่ควรไปโดนก็คือ " Two Buns " ร้านเบอร์เกอร์ฮิปส์ๆ ในย่าน George Town ไฟนีออนสีชมพูและตู้เกมส์คืออะไรที่เริ่ดมากๆ ราคาเบอร์เกอร์ก็จะอยู่ที่ 15-20RM รสชาติถือว่าไม่แย่เลยค่ะ แต่ค่อนข้างจะมีกลิ่นเครื่องเทศแรงหน่อยตามสไตล์อาหารลูกผสมแขก แนะนำว่าให้สั่งมาอันเดียวแล้วแบ่งกันทานเอานะคะ เพราะชิ้นไม่เล็กเท่าไรแถมราคาก็ถือว่าแรง เอาแค่ชิมๆ ก็พอจ้า


( CHINA HOUSE )
" CHINA HOUSE " ก็เป็นคาเฟ่ที่ควรไปเช็คอินเมื่อไปถึงปีนัง เพราะในนี้ไม่ได้มีแต่คาเฟ่ที่เต็มไปด้วยขนมเค้กหน้าตาดีให้ทาน แต่ยังมีทั้งแกลลอรี่ ร้านขายของที่ระลึก และร้านเสื้อผ้าเก๋ๆ อยู่รวมกัน จนได้ชื่อว่าเป็นคาเฟ่ที่ยาวที่สุดเลยค่ะ
เพื่อนๆ สามารถเดินผ่านคาเฟ่เข้าไปชมส่วนอื่นๆ ก่อนได้ค่ะ แต่หากจะชิมขนมและเครื่องดื่มต้องมาจองคิวรอโต๊ะก่อนนะจ๊ะ แอบกระซิบว่าเค้กช็อกโกแลตดีมาก! ในส่วนของราคาอาหารและเครื่องดื่มก็จะไล่ๆ กับคาเฟ่ในบ้านเราค่ะ

( Awesome Canteen )
ถ้าพูดถึงคาเฟ่ที่ดังและปังมากๆ ของปีนังก็ต้องยกให้ " Awesome Canteen " เลยค่ะ คาเฟ่ดิบเท่ แต่โล่งโปร่งนั่งสบายๆ เราชอบที่การตกแต่งให้อาคารเป็นส่วนเดียวกับธรรมชาติ มีแสงส่องเข้ามาและมีต้นไม้ใหญ่อยุ่ในร้าน ลดความอึดอัดของการไปนั่งคาเฟ่ที่คนเยอะๆ ไปได้มากเลย ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มเขาก็มีทั้งเมนูหนักท้องและของหวานให้สาวๆ เลือกกินตามใจ

( Toh Soon Cafe )
Toh Soon Cafe บอกเลยว่าเป็รร้านอาหารเช้าที่ Local มากๆ ของปีนัง แต่ก็หนาแน่นไปด้วยผู้คนต่อคิวรอชิม ร้านกาแฟแบบโกปี๊ดั้งเดิมแห่งนี้ที่ทีเด็ดอยู่ที่ขนมปังปิ้งไข่ลวกใครมากินต้องสั่งทุกโต๊ะ ( รวมทั้งเราด้วย ) อร่อยจริงๆ เธอ เพราะเขาปิ้งขนมปังด้วยเต่าถ่านแถมไข่ลวกก็ยังต้มแบบอุณหภูมิเป๊ะ ทุกอย่างคือบ้านๆ แต่ลงตัว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนล้นขนาดนี้
เพราะคนเยอะมากจริงๆ ไม่งั้นต่อคิวรอนานมากกเลยแกร้!

( ล็อกล็อก Lok Lok )

( Urban Artisan )

ไอศครีมซอฟเสริฟโฮมเมด ที่มาในโทนสีหวานๆ พาสเทลแบบทูโทน รสละมุน
( Tai Tong ติ่มซำ )

อีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดไปโดนก็คือติ่มซำ ที่เมืองนี่คือดีมากมีให้เลือกเยอะ หยิบกับเองตามใจ และอร่อยด้วยล่ะเธอจ๋า ติ่มซำเป็นอาหารเช้าร้านจะเปิดตั้งแต่เช้าไปจนถึงบ่ายสอง เท่านั้นนะ
ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้เธอช่างเป็นคนดีขอหอมแก้มสักทีจะได้ไหม ? ฮ่าๆ คือมันยาวมากค่า ยาวจริงๆ เพราะอยากเล่าละเอียดๆ ให้เพื่อนๆ ตามไปเที่ยวด้วยกันได้จริง
EP. แรกคงต้องขอจบกันไปที่ " ปีนัง " ก่อน แล้วเราจะมาต่อใน EP. หน้า พาพวกเธอเข้าสู้เมืองหลวงอันยิ่งใหญ่อย่างกัวลาลัมเปอร์ แล้วไปต่อกันที่เมืองน่ารักอย่างมะละกา ปิดท้ายด้วยเมืองใหม่ที่สวยงามกินขาดของมาเลเซียอย่างปุตราจายา

Comments