ฮาโหลสาวๆ

เรื่องการเรียนนั้น

ทักษะหนึ่งที่เราขาดกันไม่ได้เลยก็คือการจดเลคเชอร์นั้นเอง

โดยเฉพาะน้องๆ ที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยจะรู้เลยว่าการเรียนในห้องเรียนกับในมหาวิทยาลัยนั้นมันต่างกันมากๆ เพราะในมหาวิทยาลัยอาจารย์นั้นแทบจะไม่สอนตามในหนังสือ แต่จะสอดแทรกและพูดในสิ่งที่เธอต้องรู้และจะต่อยอดมันออกไปตลอดเวลา คุณพระ!

โดยสิ่งเหล่านี้จะต้องใช้เวลาในการปรับตัว ดังนั้นวันนี้เราจึงมีทริคเพื่อเพิ่มทักษะในการจดบันทึกมาฝากกัน

ค่ะ โดยวิธีการนี้อาจจะไม่เหมือนคนอื่นๆ สักหน่อยนะคะ แต่รับรองว่าทำตามแล้วไม่ผิดหวัง เอาล่ะ ถ้าพพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีเทคนิคอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/86/14/cf/8614cf5e2a243803795d8d88fe10ea2e.jpg

#1 อ่านสไลด์ ( หนังสือ ) ก่อนเรียน

โดยทั่วๆ ไปแล้วในมหาวิทยาลัยอาจารย์ส่วนใหญ่มักให้บทเรียนไม่ว่าจัเป็นสไลด์ที่สอน หรือแม้แต่หลังสือที่ต้องใช้เรียนเสมอ

ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นที่จะช่วยทำให้คุณเข้าใจและจดบันทึกง่ายขึ้นก็คืออ่านทำความเข้าใจสิ่งเหล่านั้นก่อน

เพราะอ่านแล้วคุณก็มีความรู้บางส่วนเกี่ยวกับมัน ซึ่งมันจะทำให้คุณรู้ว่าต้องเขียนข้อความอะไร หรือจะเขียนข้อความนั้นหรือไม่ หรือว่าจะเกิดขึ้นในสไลด์ถัดไป

ดังน้้นอย่ามัวจดในสิ่งที่ไม่จำเป็น เพียงให้เวลามันก่อนเข้าเรียนสักเล็กน่อย เธอก็จะมีความสุขในห้องเรียนมากขึ้น

แล้วค่ะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/d3/14/1d/d3141d6c3876b00b6e31cee2c31fb30c.jpg

#2 ใช้หัวเรื่องในการกำรหนดสิ่งต่างๆ

เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำใวห้คุณจดบันทึกได้เข้าใจมากขึ้น

ดังนั้นคุณควรใช้หัวเรื่องในการกำหนดสิ่งต่างๆ เพื่อช่วยทำกรอบความคิด กำหนดว่ากำลังพูดหรือจดเรื่องอะไรอยู่

ซึ่งมันจะง่ายมากๆ

ต้องการถอดรหัสโน๊ตของคุณในภายหลัง

( กลับมาอ่านทบทวนเองที่บ้าน ) เคล็ดลับคือสาวๆ อาจะทำสัญลักษณ์เพื่อช่วยกำหนดว่าสิ่งไหนต่อจากสิ่งไหนก็ได้ หรือจะใช้สีเป็นตัวช่วยก็ไม่ผิดนะคะ ขึ้นอยู่กับความสะดวกแต่ละคนเลยค่ะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/99/80/ea/9980ea5a5b5725bfd244b5c52034bb5c.jpg

#3 ใช้ตัวอักษรย่อๆ

นี่ก็เป็นสิ่งสำคัญ เราไม่ควรเสียเวลาในการเขียนประโยคที่สมบูรณ์ แต่ควรโฟกัสกับเนื้อหาโดยอาจจะเขียนให้สั้น กระชับที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่เมื่อกลับมาอ่านก็เข้าใจได้มันหมายถึงอะไรตัวอย่างเช่น เราอาจจะใช้คำย่อ เช่นคำว่า " psy " แทนคำว่าจิตวิทยา นักจิตวิทยา จิตวิทยา ฯลฯ โดยแม้เธออาจจะคิดว่ามันอาจทำให้สับสน แต่ในความเป็นจริงบริบทรอบข้างจะทำให้เราสามารถเข้าใจในสิ่งที่จดได้เองนะคะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/65/75/17/657517bb25036fb7e67feb623187ef72.jpg

นอกจากนี้เธอยังสามารถคิดคำย่อของตัวเองขึ้นมาใหม่ก็ได้( ขึ้นอยู่กับตัวเธอเอง ) แต่เพียงแค่ต้องเช็คให้แน่ใจว่าแม้เธอใช้คำใหม่ แต่เธอก็ยังรู้ว่าสิ่งนั้นหมายถึงอะไรโดยบ่อยครั้งเราักจะจดหรือทำพจนานุกรมสั้น ๆ เล็ก ๆ ไว้ด้านบนหนังสือเสมอเพื่อให้เราอ่านเข้าใจและจดมันได้ง่ายที่สุดนะคะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/ea/b1/96/eab1967fc74c575b29748478d5ceb57b.jpg

#4 จดบันทึกโดยดูที่ภาพรวม

เป็นความจริงที่ว่าเราไม่จำเป็นต้องจดทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจารย์พูดบางครั้งการยกตัวอย่างของอาจารย์อาจไม่ตรงประเด็น และอาจทำให้เขาไขว้เขวได้หากจดมันลงไปด้วยดังนั้นคุณควรฟังและทำความเข้าใจตอนที่อาจารย์สอนในห้องเรียนตลอดเวลา จดเพียงแค่ประเด็นบางอย่างที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ดูภาพรวมว่าอาจารย์พูดถึงเรื่องอะไร  แล้วจดมะนลงไปก็พอนะคะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/87/dc/48/87dc48b8b6f08c07cdd4e6813d78020b.jpg

#5 โยนความสวยงามทิ้งไป

นี่ไม่ใช่เวลาที่เราจะมานั่งคิดถึงความสวยงามนะคะ เพราะสิ่งที่เราต้องการที่สุดก็คือเนื้อหาความรู้บางคนเสียเวลาไปกับการไฮไลท์สี เปลี่ยนสีปากกา บลาๆซึ่งมันจะเป็นโทษมากกว่าประโยชน์แน่นอน ดังนั้นลองโยนเรื่องความสวยงามทิ้งไป ( ในตอนแรก )หลังจากนั้น เมื่อเรากลับมาทำสรุปเองที่บ้านค่อยกลับมาจดใหม่ให้สวยอีกครั้งก็ได้ค่ะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/70/34/b1/7034b161b4b871058ebec1b271d504ef.jpg


เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับเทคนิคที่เราเอามาฝากกันวันนี้ หวังว่าสาวๆ คงจะชอบกันนะคะ ใครที่กำลังเรียนอยู่ และอยากจดเลคเชอร์ให้เร็วและรู้เรื่องมากขึ้น ก็ลองเอาไปทำตามกันดูนะคะ รับรองว่าเรียนเก่งขึ้นแน่นอน เอาละ วันนี้เราต้องไปก่อน ครั้งหน้าจะมีอะไรมาฝากกันก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ วันนี้ไปก่อนแล้วค่ะ บาย