เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ดั้งโด่งได้ง่ายๆ เพราะคลินิกแทบจะเปิดกันเยอะพอกันกับร้านสะดวกซื้อแล้ว อีกทั้งราคาก็ไม่ได้แพงอย่างแต่ก่อนมาก บางแห่งถึงกับขนาดที่ว่าจัดโปรโมชั่นลดราคาเหลือแค่หลักพัน (7,xxx-9,xxx บาท)
แต่จะเอาถูก ดี หรือทำตามเทรนด์ ของอย่างงี้ต้องศึกษาข้อมูลกันก่อน
#1 อย่าเอาราคาถูกเป็นหลัก
อย่าตั้งงบประมาณไว้ว่าจะเอาราคาถูกที่สุด การศัลยกรรมใช่ว่าจะมีแค่เรื่องสวยงาม แต่มันเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเราด้วย ( เรทราคาที่เหมาะสมควรจะอยู่ใน 15,xxx-2x,xxx โดยประมาณ )
#2 ศึกษาเงื่อนไข ข้อมูลแต่ละที่ให้ดีก่อนตัดสินใจลุย
ก่อนจะเลือกคลินิกสักแห่งไว้อัพเกรดความสวย ลองสแกนหาข้อมูลแต่ละแห่ง เช่น อ่านในหน้าเพจของคลิกนิก, inboxไปถามรายละเอียด หรือโทร.ไปตามเบอร์โทรที่ให้ไว้ เพื่อถามข้อมูลไว้เปรียบเทียบกันแต่ละที่ก่อนตัดสินใจเลือกเพียงหนึ่งเดียว ( อย่าลืมคำถามที่เจาะลึกไปอีกเช่น แก้จมูกได้หรือไม่? เลือกจ่ายผ่านวิธีไหนได้บ้าง? รวมไปถึงการดูโปรไฟล์หมอเพื่อสแกนความน่าเชื่อถือ อย่าดูเพียงแค่พรีเซนเตอร์เป็นหลัก )
#3 เลือกมา 1 ที่ แล้ว Walk in อินเข้าไปคุยกับหมอโดยตรง
ถึงแม้คลินิคศัลยกรรมเดี๋ยวนี้จะเป็นไปในเชิงธุรกิจเสียส่วนใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าทุกที่จะยอมเปิดโอกาสให้เราซักไซ้ไล่เรียงแบบตัวต่อตัวกันได้ ( walk-in ) เลือกมาที่คิดว่าแจ่มที่สุดสัก 1 แห่งก่อน เพื่อทำการนัดหมายพูดคุยกับหมอ อย่าลืมเตรียมเงินไปด้วย เพราะคลินิคบางแห่งเขามักจะคิดว่าเราจะได้ทำชัวร์ๆ เลยเรียกเก็บเงินค่าทำจมูกก่อนเข้าพบหมอ ( ถ้าไม่ได้ทำ ค่อยขอเงินคืนได้ )
#4 สำหรับคนที่ประสบอุบัติเหตุมาก่อน ทำใจไว้เลยว่าอาจไม่มีโอกาสได้ทำสวย
ถึงแม้คลินิคหลายแห่งจะโฆษณาว่าสามารถทำได้หลายรูปทรงตามความต้องการของคนไข้/ลูกค้า แต่มันมีข้อยกเว้นอยู่อย่างหนึ่งคือ" คนไข้ที่เคยมีประวัติประสบอุบัติเหตุกับจมูกมาก่อน "ในแบบที่ว่าต้องให้หมอโรงพยาบาลเท่านั้นที่แก้ไขให้ เหตุที่คลินิกทั่วไปจะไม่รับทำ นั่นก็เพราะเขาไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้หมอที่เป็นเจ้าของไข้คนเดิมเราทำอะไรกับจมูกเราไปก่อนบ้าง ( ในแบบฟื้นฟูรักษาเพื่อสุขภาพมากกว่าความสวย เช่น ใช้กระดูกอะไรทำ? เย็บแบบไหน? มีความเสี่ยงอะไรหรือไม่? ) หากต้องการจะอัพสวยก็ต้องไปขอให้หมอเจ้าของไข้เราคนเดิมทำการตรวจอย่างละเอียดพร้อมทั้งเขียนรายงานฝากเรามาให้หมอคนใหม่ สรุปเลยก็คือ ถ้าคุณเป็นคนไข้อุบัติเหตุมาก่อน ควรเลือกรักษาตัวและอัพความสวยให้ดีที่สุดตั้งแต่เมื่อครั้งยังอยู่ในโรงพยาบาล หมอคลินิกทั่วไปเขาไม่อยากเสี่ยงให้เราเสียโฉมกว่าเดิมหรอกจ้ะ
#5 สำหรับคนที่ร่างกายพร้อมทำ มาลุ้นกันว่าจะได้แก้จมูกหรือไม่
นอกจากปฏิบัติตามที่หมอสั่งอย่างเคร่งครัด เช่น การนอน การกินยาลดอาการบวม การประคบเย็น เพื่อให้จมูกเข้ารูปที่สุด หายบวมไวที่สุด คราวนี้ก็ต้องมาลุ้นกันอีกว่าจะได้แก้ทรงจมูกหรือไม่ เพราะการศัลยกรรมก็คือความเสี่ยงอย่างหนึ่ง ถ้าโชคดีทำครั้งเดียวก็ผ่าน ถ้าโชคร้ายก็ต้องแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเข้าที่เข้าทาง เช่น ซิลิโคนไม่เข้ากับร่างกายเรา, ทำแล้วจมูกไม่เท่ากัน, หายใจไม่สะดวก ( เตรียมเงินไว้ด้วยจ้ะถ้าจำเป็นต้องแก้ เพราะคลินิกส่วนใหญ่เขาไม่ได้รวมค่าแก้จมูกไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่จ่าย )
#6 พอใจในสิ่งที่มีอยู่ อย่ากดตัวเองให้ต่ำลง
ไม่ว่าจะศัลยกรรมแล้ว หรือไปหาหมอแล้วผิดหวังหมอไม่ทำให้ หรือไม่ได้ศัลยกรรมเลยแต่ทีแรก สุดท้ายแล้วคนเราอย่าลืม" ความพึงพอในในตัวเอง "เพราะเมื่อใดก็ตามที่คนนั้นมาทัก คนนี้มาบอก แล้วเราจะเหนื่อยถ้าวิ่งตามคนอื่นไปหมด งามแต่พอดิบพอดีก็พอ อย่าเสพติดความงามให้มากจนไม่เป็นอันทำอะไร เรายังมีเรื่องอื่นๆ อีกมากให้ภูมิใจในตัวเอง ใช่ว่าแค่ความสวยความงามซะหน่อย
บทความที่เกี่ยวข้อง
10 เหตุผลว่าทำไมผู้หญิงถึง 'เสริมจมูก' ที่ผู้ชายไม่เข้าใจ
https://sistacafe.com/summaries/9326
4 ทรงจมูกยอดฮิต สำหรับสาวๆ ที่อยากศัลยกรรมจมูก
https://sistacafe.com/summaries/4438