1. SistaCafe
  2. 6 สาเหตุที่เปลี่ยน 'คู่รักวัยเรียน' เป็น 'คู่ร้างวัยทำงาน'

ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม สดใสเสมอ โดยเฉพาะความรักในวัยรุ่นวัยเรียน เราต่างรู้สึกสนุกที่ได้เรียนๆ เล่นๆ ไปด้วยกัน ไม่คิดอะไรมาก มีความสุขกันไปเรื่อยๆ อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่คนวัยเดียวกันคุยกันรู้เรื่อง แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป เราต่างก็โตมากขึ้น แน่ใจได้อย่างไรว่ารักกันตั้งแต่วัยเรียน จะรักกันไปจนแก่เฒ่าได้


บางคู่ที่คบกัน ช่วยเหลือกันตั้งแต่เรียน จนกระทั่งจูงมือกันวิวาห์>>>นั่นก็ถือว่าเป็นคู่ที่โชคดีมากๆ คงไม่ใช่เพราะอายุของความรักแต่เพียงอย่างเดียวที่สะสมไปด้วยกันเรื่อยๆ แต่ยังต้องใช้หัวใจที่แข็งแรงมากๆ ผ่านหลายอุปสรรคไปด้วยกัน


หลายคู่ก็เหมือนจะไปได้ดีหลังเรียนจบ น่าจะได้แต่งงานกันเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน แต่ก็ต้องมีอันเลิกรากันไป

>>>

นั่นไม่ใช่เรื่องน่าเสียดาย มันเป็นเรื่องธรรมดามากๆ เลยสำหรับความรัก มีรักก็มีเลิกรักได้ จะช้าหรือเร็วก็เท่านั้น


ถึงแม้ว่าปัจจัยเลิกรักในวัยทำงานจะมีเหตุผลด้านหัวใจเป็นหลัก แต่ก็ต้องยอมรับไปอีกด้วยว่า มันก็มีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย


#1 ไม่มีการพัฒนา

มีการเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องมีการก้าวตามให้ทันความเปลี่ยนแปลงด้วย เพราะการเปลี่ยนแปลงมันต้องคู่กับการเติบโต ถ้าเราหรือเค้า หรือเราทั้งคู่ไม่พร้อมจะ' โต 'เป็นผู้ใหญ่ ไม่พร้อมจะมองโลกตามความเป็นจริง ยังติดนิสัยเด็กๆ สมัยเรียน อย่าว่าแต่ความรักเลยที่จะไม่รอด การทำงาน การจัดการชีวิตก็พร้อมที่จะพังเช่นกัน



#2 กดดันกับภาระมากเกินไป

เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน แน่นอนว่าต้องซีเรียสกันเรื่องหางาน หาเงิน รับผิดชอบภาระครอบครัวที่ต่างคนต่างก็มี หรือถ้าคิดจริงจังจะแต่งงานให้ได้ ก็ต้องผ่านความเห็นของผู้ใหญ่แต่ละฝ่ายด้วย บอกเลยว่าด่านนี้ ถ้าไม่แกร่งจริงก็อยู่กันไปไม่รอดหรอก ถอยออกมาจัดการปัญหาตัวคนเดียวยังจะสบายใจกว่ามีแฟนที่เหมือนจะเป็นภาระเข้ามาอีกคน


#3 หลงระเริงกับสิ่งใหม่

เมื่อเราเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เราก็จะเจอสิ่งใหม่เข้ามาเรื่อยๆ เช่นกัน ในวัยทำงาน แน่นอนอยู่แล้วว่าเราจะได้สังคมใหม่ ความสัมพันธ์ใหม่ในรูปแบบเพื่อน เจ้านาย และอาจได้แฟนใหม่ ถ้าคนสองคนไม่จับมือกันแน่นพอ หรือใครคนใดคนหนึ่งไม่ซื่อสัตย์ ไม่พอใจแค่แฟนตัวเอง


#4 ไม่เข้าใจในอาชีพของกันและกัน

การเป็นแฟนกันในวัยทำงาน จะรักกันใสๆ มีเพียงแต่ความรักอย่างเดียวเหมือนตอนเรียนคงไม่ได้แล้ว เราต่างต้องทำงานหาเงินเพื่อสร้างอนาคตกันทั้งนั้น และปัญหาการทำงานบางครั้งมันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย มันหนักรองลงมาจากปัญหาครอบครัวด้วยซ้ำ คนเป็นแฟนกันควรพร้อมที่จะช่วยแบ่งเบาความทุกข์ไปบ้าง ไม่ใช่งอแง ถือสิทธิว่าฉันเป็นแฟนฉันต้องมาก่อนงาน แฟนเลิกกันก็เป็นคนอื่น แต่งานถ้าขาดแล้วก็ไม่มีอะไรกิน โตๆ กันแล้ว ถ้าไม่อยากเลิกกันก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง เข้าใจกันให้มาก



ถ้าต้องเป็นทุกข์เพราะงานเป็นอุปสรรคทำให้วันหยุดร่วมกันหายไปเยอะ ทำให้ระยะทางต้องไกลกันมาก อย่าฝืนเลย บอกเลิกกันเถอะ ถ้าอดทนไม่ได้ เข้าใจไม่มากพอ

#5 ไม่ยืดหยุ่น คาดหวังกันมากไป

หวังว่าเราจะมีเวลาให้กันเหมือนเดิม


หวังว่าเราจะมีแค่สองเราเหมือนเดิม


หวังว่าเราจะอยู่ใกล้กันเหมือนเดิม


หวัง... อะไรก็ตามให้เหมือนเดิม เป็นไปไม่ได้หรอกจ้ะ แม้แต่เวลาผ่านไปแค่ 1 วินาที หลายอย่างรอบตัวก็ไม่นิ่งกับที่แล้ว ยิ่งเป็นคน ไม่ใช่สิ่งของ เราจะไปคาดเดาอะไรไม่ได้เลย ยิ่งวัยทำงาน เป็นวัยที่ต้องรับภาระหลายอย่างมาก ถ้าเรายังคาดหวัง ไม่ปล่อยวาง คนที่ทุกข์หนักสุดไม่ใช่แค่ตัวเรา แฟนเราก็ทุกข์ และในที่สุดก็อาจต้องจบที่การเดินแยกทาง เพื่อให้อิสระแก่กัน


#6 ไม่หนักแน่น ไม่ซื่อสัตย์

กิ๊กในวัยเรียนมันไม่น่าเครียดเท่ากับกิ๊กในวัยทำงาน ไม่ว่าจะด้วยความรักสนุกชั่วคราว, อยากลองความท้าทายที่เหนือกว่า, หรือจะเพราะเหตุใดก็ตาม มันล้วนแต่เป็นข้ออ้างที่มีโอกาสน้อยมากกกกที่จะได้รับการให้อภัย ยิ่งสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะมีครอบครัว ทางเลือกก็มีไม่มากหรอก ระหว่างอดทนไป โดยที่ไม่รู้เมื่อไหร่อีกฝ่ายจะสำนึกผิดจริง หรือตัดขาดไปซะ ชีวิตเราทั้งชีวิตไม่ควรฝากไว้กับคนไม่ซื่อสัตย์


รักกันจะรอดไม่รอด?


วัยเรียนหรือวัยทำงาน?


รักกันมานานเท่าไหร่?



เราใช้หัวใจเป็นสำคัญ แต่ก็อย่าลืมจับมือกันมองโลกความจริงด้วย



ยังจะจับมือกันฝ่าปัญหาหรือปล่อยมือด้วยความยอมแพ้ พระเจ้าไม่อาจช่วยได้เท่าตัวเราเองและตัวแฟนเราเอง มันขึ้นกับความร่วมมือของคนสองคนล้วนๆ


บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้