สวัสดีค่า สาวๆ SistaCafe ทุกคน 。゚( ゚^∀^゚)゚。
เกิดเป็นผู้หญิง สิ่งที่สาวๆ ทุกคนเลี่ยงยังไงก็ไม่พ้น คงต้องมอบมงให้ ' ประจำเดือน ' ทั้งปวดท้องหน่วงๆ อารมณ์แปรปรวน อ่อนเพลีย กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม ตัวบวม สิวขึ้นรัวๆ แต่ที่แย่สุดคือมี ' กลิ่น ' บริเวณจุดซ่อนเร้นนี่แหละค่ะ ;__; ใส่เดรส ลมพัดกระโปรงที คนเดินข้างๆ ทำจมูกฟุดฟิด แล้วสตั๊น ผงะหนีกันหมดจ้า โอ๊ย อายมาก เสียเซลฟ์เบอร์แรงสุด #ขอปี๊บคลุมหัวที T_T
ต้องบอกก่อนว่าบริเวณ ' จุดซ่อนเร้น ' ของเราเนี่ย เป็นแหล่งของเชื้อแบคทีเรียพันล้านตัว ซึ่งมีทั้งชนิดดีและไม่ดี ทำให้เกิดกลิ่นได้แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระบบร่างกาย สุขอนามัย และอาหารการกินค่ะ ซึ่งการที่สาวๆ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ในวันนั้นของเดือน มาจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย หากรักษาความสะอาดไม่ดี กินอาหารผิดประเภท หรือฮอร์โมนผิดปกติ กลิ่นก็จะมาทักทาย ให้เราสูญเสียความมั่นใจได้ (╥_╥)
วันนี้เราเลยรวบรวม 7 ชนิด ของกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ในช่วงมีรอบเดือนที่สาวๆ ควรรู้ไว้ พร้อมสาเหตุ และวิธีดูแลรักษา ไม่ให้น้องส่งกลิ่นจนต้องอับอายอีกต่อไป รักน้อง ต้องใส่ใจน้อง ก่อนจะสายเกินไปนะคะซิส (ᗒᗣᗕ)՞ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปอ่านกันได้เลยค่า
1. กลิ่นเหมือน ' ของหมักดอง '

วิธีดูแลน้องสาว : ลดการกินของหมักดองต่างๆ เช่น กิมจิ ผลไม้ดอง หอยดอง หน่อไม้ดอง น้ำปลา ไข่เค็ม เป็นต้น เพราะจะยิ่งไปเพิ่มจำนวนเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ ทำให้น้องมีกลิ่นรุนแรงมากขึ้น
2. กลิ่นเหมือน ' ทองแดง ' ( คล้ายเหรียญสลึง )

ข้อนี้ก็เจอบ่อย! สาวๆ บางคนมักได้กลิ่นคล้ายเหล็ก หรือทองแดง เหมือนเหรียญสลึง 50 สตางค์ ในช่วงมีรอบเดือน เป็นเรื่องปกติค่ะ ไม่ต้องกังวล เหตุผลที่ได้กลิ่นนี้เพราะ ' เลือด ' ในร่างกาย ( รวมถึงเลือดประจำเดือนด้วย ) มีส่วนประกอบของเหล็ก เมื่อเลือดและเยื่อบุหลุดลอกออกมาจากมดลูก เมื่อเจอกับเชื้อแบคทีเรียบริเวณจุดซ่อนเร้น จึงก่อให้เกิดกลิ่นคล้ายเหล็กนั่นเอง
วิธีดูแลน้องสาว : กินอาหารเพิ่มธาตุเหล็กให้ร่างกาย เช่น ตับ ผักใบเขียว เนื้อแดง ไข่แดง เป็นต้น เพราะช่วงมีรอบเดือน เราจะสูญเสียเลือดไปค่อนข้างเยอะ จึงอาจทำให้ร่างกายขาดธาตุเหล็กได้ค่ะ
3. กลิ่นเหมือน ' กากน้ำตาล / กากน้ำอ้อย '

4. กลิ่นเหมือน ' สารเคมี ' ( คล้ายห้องน้ำที่ขัดเสร็จใหม่ๆ )

ดูไม่น่าเชื่อ แต่ก็เกิดขึ้นได้! บางครั้งน้องสาวของเรา ก็มีกลิ่นคล้ายสารฟอกขาว หรือแอมโมเนีย คล้ายห้องน้ำที่เพิ่งทำความสะอาดเสร็จใหม่ๆ สาเหตุเป็นเพราะ ' ปัสสาวะ ' ของเรามีสารยูเรีย ซึ่งมีส่วนประกอบของแอมโมเนียอยู่ เมื่อเกิดการหมักหมมของกางเกงชั้นใน หรือล้างจุดซ่อนเร้นไม่สะอาด เมื่อปนกับเชื้อแบคทีเรียที่น้องสาว จึงทำให้เกิดกลิ่นเหมือนสารเคมีได้ค่ะ
วิธีดูแลน้องสาว : กลิ่นแรงของแอมโมเนียในปัสสาวะ บ่งบอกว่าร่างกายเธอกำลังขาดน้ำ สาวๆ จึงควรดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร กลิ่นก็จะจางหายไปได้เองค่า ><
5. กลิ่นเหมือน ' สมุนไพร ' ( คล้ายกัญชา )

วิธีดูแลน้องสาว : กินอาหารที่มีวิตามิน โพแทสเซียม และแมกนีเซียมสูง, ออกกำลังกายเป็นประจำ และพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนให้กลับมาเป็นปกติได้ค่ะ
6. กลิ่นเหมือน ' ปลาเค็ม '

สาวไทยน่าจะเป็นกันเยอะที่สุดแล้ว! กับกลิ่นน้องสาวที่คล้ายๆ ' ปลาเค็ม ' สาเหตุคือ เธอละเลยการทำความสะอาด จึงเกิดการหมักหมมบริเวณน้องสาว ยิ่งอยู่ในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบเมืองไทย จึงทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ หากสะสมไปนานๆ จะทำให้แบคทีเรียชนิดไม่ดีมีจำนวนมากเกินไป ส่งผลให้น้องสาวกลิ่นแรง และเกิดการติดเชื้อบริเวณช่องคลอดได้เลยล่ะค่ะ
วิธีดูแลน้องสาว : หมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ ( ยิ่งช่วงมีประจำเดือน ต้องดูแลเป็นพิเศษ ) คอยเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4-5 ชั่วโมง เพื่อสกัดการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
7. กลิ่นเหมือน ' ของเน่าเสีย/ ซากสิ่งมีชีวิต '

วิธีดูแลน้องสาว : ไม่ว่าจะใช้ผ้าอนามัยแบบสอด หรือแบบแผ่นก็ตาม ให้ขยันเปลี่ยนเรื่อยๆ ทุก 3-4 ชั่วโมง ไม่ต้องรอให้ซึมซับเลือดจนเต็ม ถึงเวลาให้เปลี่ยนเลย และทำความสะอาดน้องสาว ซับให้แห้งเสมอ เท่านี้กลิ่นก็จะลดลงแล้วค่ะ
---------------------
' กลิ่น ' บ่งบอกถึงสุขภาพน้องได้จริงๆ นะคะซิส เพราะจุดซ่อนเร้นจะมีกลิ่นแบบใด สาเหตุก็มาจากเชื้อแบคทีเรียทั้งสิ้น! หากเป็นแบคทีเรียชนิดดี จะช่วยให้ค่า pH บริเวณน้องสาวสมดุล กลิ่นหอม สุขภาพดี แต่ในทางกลับกัน ถ้าปล่อยให้แบคทีเรียชนิดไม่ดีสะสม ก็จะเกิดกลิ่นเหม็นได้ *แต่ถ้ากลิ่นแรงผิดปกติ และมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คัน ผิวเบิร์นไหม้ เลือดไหลต่อเนื่องหลังหมดรอบเดือนแล้ว นี่คือสัญญาณอันตรายของการติดเชื้อภายในแล้วนะ! ต้องรีบไปหาหมอให้เร็วที่สุดเด้อ*
Content Sponsor by Laurier Natural

Comments