
ฮาโหลสาวๆ
ต้องสารภาพเลยว่าเราเป็นคนที่ชอบกินไอศครีมมาก มากถึงขนาดที่ว่าทานข้าวอิ่ม ต้องตบท้ายด้วยไอศกรีมทุกครั้ง ก็แหม...พอดีถูกสอนว่ากินคาวแล้วต้องตามต่อด้วยของหวาน แต่ไอศกรีมเจ้าดังที่เราชอบมีไม่กี่อย่าง แต่ที่ผ่านแล้วไม่กินไม่ได้ เห็นแล้วน้ำลายไหลก็น่าจะเป็นของแดรี่ควีน
โดยเฉพาะถ้าพูดถึงเมนู BLIZZARD ด้วยแล้วยิ่งรัก
เพราะนอกจากความอร่อยแล้ว เรื่องความเก๋ ยกขึ้นมากลับหัวกลับหางก่อนเสิร์ฟให้ลูกค้า ก็เป็นไอเดียน่ารักๆ ที่เราเคยทำกัน
วันนี้เราก็เลยอยากจะชวนสาวๆ มาลองทำกินเองบ้าง เพื่อเป็นการคลายร้อน
ทำให้ปิดเทอมนี้ไม่น่าเบื่อจนเกินไป ที่สำคัญคือยังมีไอศครีมติดตู้เย้นไว้ในบ้าน หิวเมื่อไหร่ก็ได้กิน! เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีส่วนผสมอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
# BLIZZARD
เราเชื่อว่าสาวๆ คงจะตกใจแน่นอน
ถ้าเราจะบอกว่าส่วนผสมนั้นมีเพียงแค่ 2 อย่าง
ใช่ค่ะ เธออ่านไม่ผิดหรอกว่าส่วนผสมนั้นมีน้อยมากๆ ที่สำคัญคือมันทำง่ายมาก แค่พริบตาเดียวก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
โดยส่วนผสมนี้สามารถทำได้ประมาณ 2 ถ้วย ใครจะทำเก็บไปทานก็สามารถเพิ่มอัตราส่วนได้เลย
และต้องบอกว่าสาวๆ สามารถเลือกท็อปปิ้งตามชอบได้เลย ขึ้นอยู่กับว่าเธอชอบรสชาติไหน ส่วนเราของยกให้ดวงใจคือ " โอริโอ้ " นะคะ ดังนั้นสูตรที่เราจะมาบอกก็คือสูตรนี้นะคะ เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูส่วนผสมเลยค่ะ


แต่ทั้งนี้ถ้าใครไม่ชอบกินไอศกรีมรสช็อกโกแลต ก็สามารถเปลี่ยนเป็นไอศกรีมรสใดก็ได้ตามใจชอบ หรือ
ถ้ากลัวอ้วนจะเปลี่ยนเป็นโยเกิร์ตไขมันต่ำแช่แข็งก็ได้เช่นกัน
แต่รสชาติก็จะไม่หอมหวานเท่าสูตรดั้งเดิมนะคะ เราขอเตือนไว้ก่อน!
ส่วนบริมาณโอรีโอ้ ( ท็อปปิ้ง ) สาวๆ ก็สามารถกะเอาตามใจชอบได้เลยนะคะ
จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่ที่เรา นี่ล่ะคือสวรรค์ของการทำอาหาร เอาล่ะ ถ้าเตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้วก็ไปทำกันได้เลยค่ะ

# วิธีทำ HOMEMADE BLIZZARD
จริงๆ แล้ววิธีทำนั้นง่ายมาก แต่มันมีเคล็ดลับที่จะทำให้ไอศครีมของเธอเหนียวข้นตามสไตล์สูตรดั้งเดิมที่ละเอียดสักเล็กน้อยนะคะ
โดยการทำสูตรนี้จำเป็นจะต้องใช้เครื่องทำขนมแบบที่มีขาตั้ง เพื่อช่วยในการตีเอาอากาศเข้าไป
ห้ามใช้เครื่องปั่นเด็ดขาดนะคะ เพราะตอนนี้เรากำลังเนื้อไอศกรีมที่มีความหนาและหนัก!

โดยขั้นตอนแรกก่อนที่จะทำก็คือ
เอาชามผสมไปแช่ในช่องแช่แข็งอย่างน้อย 10 นาทีก่อนใช้
เพื่อให้มันเกิดเป็นไอศกรีมเย็นๆ และระหว่างทำไอศกรีมก็จะได้ไม่ละลาย แต่ถ้าสาวๆ มีเวลาว่างก็สามารถแช่ข้างคืนได้เลยนะคะ เพราะเจ้าชามผสมนี้จะดูดความเย็นเอาไว้ ยิ่งเย็นมากแค่ไหนยิ่งดี จะยิ่งทำให้ไอศกรีมเซ็ตตัวเร็วขึ้น

ขั้นตอนต่อมา ก็คือตักไอศกรีมลงในชามของมิกเซอร์
พร้อมกับเลือกอุปกรณ์ในการตีในลักษณะที่เป็นใบพัด โดยตีด้วยความเร็วปานกลางไปเรื่อยๆ จนไอศกรีมหลายเป็นครีมหนึบๆ
ปกติจะใช้เวลาประมาณ 1 นาที หลังจากนั้นก็ปาดไอศครีมไปด้านข้างของชามด้วยไม้พาย เพื่อให้ส่วนผสมนั้นตีเข้าอย่างทั่วถึง และถูกรวมเป็นเนื้อเดียวกัน

หลังจากนั้นก็ให้เพิ่มโอรีโอ้เข้าไป ตีด้วยความเร็วต่ำอีกเพียงไม่กี่ครั้งจนกระทั่งส่วนผสมเข้ากันทั่วทั้งไอศกรีม เพียงแค่นี้ก็ตักส่วนผสมลงในถ้วยเสริฟแล้วพร้อมกินแล้วค่ะ รับรองได้เลยว่าไอศกรีมที่ได้ออกมาเหนียวหนึบ คว่ำแล้วไม่หกแน่นอนค่ะ

# Vegan Caramel Blondie Blizzard
แต่
สำหรับสาวๆ ที่แพ้กลูเตน หรือนมวัวเราก็ยังมีไอศกรีม Blizzard อีกสูตรมาฝากสาวๆ กัน
โดยสูตรนี้มีส่วนผสมของคาราเมลและช็อกโกแลตชิพ กินแล้วเคี้ยวเพลินแน่นอน เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีส่วนผสมอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ


# วิธีทำ Vegan Caramel Blondie Blizzard
วิธีทำก็คือเอากล้วยแช่แข็ง น้ำเชื่อม และเนยเมล็ดทานตะวัน
ใส่เครื่องผสมอาหาร ปั่นให้เข้ากันจนเนียน
หลังจากนั้นเพิ่มช็อคโกแลตชิพ แล้วผสมให้เข้ากันอีกครั้ง แบ่งส่วนผสมออกเป็น 1 - 2 แก้ว แค่นี้ก็พร้อมทานแล้วนะคะ

เป็นยังไงบ้างคะสำหรับ 2 สูตรไอศกรีม Blizzard เจ้าดังที่เอามาฝากกันวันนี้ หวังว่าสาวๆ คงจะชอบกันนะคะ ใครที่เป็นสายชอบกินก็ลองเอาไปทำตามกันดูนะคะ รับรองได้เลยว่าอร่อย คลายร้อนได้แน่นอน อยากกินเยอะๆ ก็ทำเองได้เลย ไม่ต้องซื้อที่ร้านให้แพงเนอะ เอาล่ะ วันนี้ไปก่อนแล้ว ครั้งหน้าจะมีอะไรมาฝากก็อย่าลืมติดตามนะคะ บายค่ะ
Cr.EASY HOMEMADE BLIZZARD
https://thebakermama.com/recipes/easy-homemade-blizzard/
Cr.Copycat Vegan Caramel Blondie Blizzard
https://strengthandsunshine.com/copycat-vegan-caramel-blondie-blizzard-gluten-free-allergy-free/