ฮาโหลสาวๆเราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยมีภาวะ" นอนไม่หลับ "คือถ้าไม่เคยมี หัวถึงหมอนอนทันทีนี่ ต้องบอกว่าเป็นคนที่มีบุญมากๆ น่าอิจฉาสุดๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการนอนไม่หลับ หรือนอนไม่พอนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วงอะไร ถ้าเช้าวันรุ่งขึ้นเราไม่ต้องแบกร่างของเราไปเรียนหรือทำงานดังนั้นเพื่อช่วยเพิ่มพลังให้สาวๆวันนี้เราก็เลยมีเทคนิคบูสต์พลังมาฝากกันโดยรับรองว่าแม้ว่าอาจจะไม่ได้ฟิตเต็ม 100 % แต่ก็ไม่ล้มให้เพื่อนต้องหิ้วแน่นอน เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1. ตื่นทันทีเมื่อนาฬิกาปลุกดัง
เรารู้ว่าเธอกำลังรู้สึกแย่ที่นอนไม่พอ ก็เลยอยากจะขอเวลานอนให้มากขึ้นอีกสักหน่อย อีกสัก 5 นาทีก็ยังดี บางคนกด Snooze ติดๆ กันประมาณ 10 รอบ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การนอนแบบนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลย ซ้ำร้ายการทำแบบนั้นก็อาจจะทำให้เราเวียนหัวหนักขึ้นไปอีก
ดังนั้นเราแนะนำว่าให้พยายามรักษาเวลาตื่นนอนในทุกๆ วัน ไม่เว้นแม้กระทั่งวันที่นอนไม่พอ
เพราะนอกจากจะทำให้เรารักษานาฬิกาชีวิตของเราได้ดี
ระบบภายในไม่รวนแล้ว ยังมีผลต่อการหลับในคืนถัดไปด้วยนะคะ

2. อัดคาเฟอีนเข้าร่าง
จริงๆ แล้วข้อนี้อาจจะไม่ต้องอธิบายมากนัก เพราะเราเชื่อว่าสาวๆ ทุกคนทำกัน คือการอัดกาแฟเข้าร่างกันอยู่แล้ว โดยอย่างที่รู้ว่า
กาแฟ 1-2 แก้วในตอนเช้า จะช่วยให้เรามีแรงทำงานได้ตลอดทั้งวัน
แต่ทั้งนี้ก็ต้องขอเตือนก่อนว่า แม้กาแฟจะช่วยเราได้มากแค่ไน แต่
มันก็ไม่ใช่ข้อ้างที่เราจะอัดกาแฟเกินขนาด เพราะมันจะยิ่งทำให้เวลาการนอนของเรายุ่งเหยิงมากกว่าเดิม
นะคะ ระวังเรื่องนี้ให้ดี

3. ออกไปรับแสงยามเช้า
เรื่องนี้หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ แต่แสงแดดสามารถช่วยปลุกเราให้ตื่นได้ สาเหตุก็เป็นเพราะ
รังสีในแสงแดดนั้น จะส่งสัญญาณและเตือนร่างกายว่าตอนนี้เเข้าสู่ช่วงเวลา " กลางวัน "
ส่งผลให้ร่างกายมีแรง และตื่นมากขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว รังสีเหล่านี้ก็มีอยู่ที่หน้าจอคอม โทรศัพท์มือถือด้วย
ดังนั้นเวลาที่เราเล่นมือถือก่อนนอน ก็อาจจะทำให้ร่างกายเข้าใจผิด คิดว่าเป็นเวลากลางวันได้เช่นกัน
และอาจส่งผลให้ร่างกายตื่นตัว และนอนไม่หลับก็ได้นะคะ

4. ออกกำลังกาย
เป็นความจริงที่ว่า การออกกำลังกายสามารถช่วยปลุกและให้พลังงานกับเราได้ โดยนอกจากมันจะหลั่งสารแห่งความสุขออกมาแล้ว มันยังทำให้เรามีพลังงานตลอดทั้งวันแต่ข้อที่เรียกว่าตอบโจทย์สุดๆ ก็คือมันยังช่วยให้เรานอนหลับได้ดีขึ้นในคืนถัดไปด้วยเรียกว่าเสียเหงื่อแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่กลับได้ประโยชน์ 2 ต่อเลยทีเดียวค่ะ แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำเราก็แนะนำว่าให้เลือกท่าเบาๆ เน้นการเหยียดยืดให้เหงื่อซึมสักเล็กน่อยก็พอนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจจะปวดร้าวจนไม่มีแรงไปเรียนได้ค่ะ

5. กินอาหารมื้อเล็กๆ บ่อยๆ
อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่า การกินอาหารมื้อเล็กๆ เป็นประจำ จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราคงที่ตลอดทั้งวัน ทำให้เรามีแรงในการทำงาน ดังนั้นสำหรับวันที่เราไม่ค่อยมีแรง เพราะนอนไม่พอ ก็แนะนำว่าให้หาขนมว่าง ( สุขภาพ ) ติดตัว เพื่อกินตลอดทั้งวันเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ลดความรู้สึกเหนื่อยล้าออกไป โดยนักโภชนาการส่วนใหญ่จะแนะนำให้กินอาหาร 5-6 มื้อ และให้พยายามเว้นช่วงเวลาให้กระจายออกไปตลอดทั้งวัน เพื่อที่เราจะไม่รู้สึกเหนื่อยล้านะคะ

6. งีบหลับสั้น ๆ
ต้องบอกเลยว่านี่เป็นอีกวิธีที่ช่วยทำได้จริง และเราใช้เป็นประจำ
โดยในนอนงีบพักเป็นเวลาสัก 10-15 นาที
ซึ่งถึงแม้เวลาจะดูน้อยมาก แต่ก็อย่าดูถูกมันนะคะ โดยเฉพาะถ้าเธองีบในตอนบ่ายหลังทานข้าวด้วยแล้วล่ะก็ รับรองว่าเธอจะมีพลังงานในการทำงานต่ออย่างแน่นอนค่ะ
*เคล็ดลับก็คือพยายามนอนให้ไวสักนิด หลังทานข้าวได้จะดีมาก เพราะมันจะได้ไม่รบกวนการนอนหลับตอนกลางคืนของเรา
นะคะ

#7 เลี่ยงแป้ง น้ำตาล อาหารขยะ
ต้องบอกว่าอาหารพวกนี้เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง แน่นอนว่ามันจะช่วยให้เรามีแรงในการทำงาน แต่ก็แค่ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เพราะมันเผาผลาญและหายไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำตาลไม่คงที่ เป็นผลทำให้เราง่วงและเหนื่อยเป็นพักๆ
นอกจากนี้
ถ้ารู้สึกหิวหรืออยากกินอะไรของมันๆ ทอดแล้วล่ะก็ แนะนำให้อดใจไว้
เพราะมันเป็นกลไลของร่างกาย ทีต้องการพลังงาน เมื่อเรานอนไม่พอ ร่างกายก็จะอยากทานอาหารพวกนี้เป็นธรรมดาค่ะ

เป็นยังไงบ้างคะสำหรับ 7 เทคนิคดีๆ ที่เราเอามาฝากกันวันนี้ หวังว่าสาวๆ คงจะชอบกันนะคะ สำหรับสาวๆ คนไหนนอนไม่พอก็ลองเอาไปใช้กันนะคะ แต่ทั้งนี้วิธีที่ดีที่สุดก็คือนอนให้หลับ เลือกนอนให้มีประสิทธิภาพจะดีที่สุดนะคะ
เอาล่ะ แล้วครั้งหน้าก็อย่าลืมติดตามเรานะคะ วันนี้ไปก่อนแล้วค่ะ บาย
Cr.ways to boost your energy after a sleepless night
https://www.insider.com/ways-to-boost-your-energy-after-sleepless-night-2018-5#9-avoid-giving-into-cravings-9