ฝนตก แต่กระเป๋าหนังลูกรักจะเปียกไม่ได้! 7 ทริค 'ดูแลกระเป๋าใบโปรดให้สวยเป๊ะ' พร้อมใช้ทุกโอกาส
รวมวิธียืดอายุ ดูแลกระเป๋าหนังให้อยู่ทน ใช้ได้ใช้ดี ไม่มีพัง!!
เผยแพร่: 27 มิ.ย. 2562 15:44 น.
Views: 6,133
รหัสบทความ: 68654
ฮาโหลสาวๆ
กระเป๋านั้น ถือว่าเป็นไอเทมสุดเลิฟของสาวๆ หลายคน
เรียกว่ารักยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดในชีวิต ยอมกินมาม่าเป็นเดือนๆ เพื่อเก็บเงินซื้อกระเป๋าใบโปรด ดังนั้นเรื่องการดูแลรักษาจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะถ้าสาวๆ ได้ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมาใช้ด้วยแล้ว ไม่ต้องพูดถึง เพราะราคานี้สุดหิน ดังนั้น
เมื่อซื้อกระเป๋ามาแล้ว เราทุกคนต่างก็อยากจะใช้มันไปให้นานๆ จะได้ไม่ต้องเปลืองตังค์ซื้อใหม่
ที่สำคัญแต่ละใบก็ไม่ใช่ถูกๆ
ดังนั้น
วันนี้เราก็เลยรวบรวม 7 วิธีในการดูแลกระเป๋าหนังมากฝากกัน
โดยรับรองว่าถ้าทำตามแล้ว กระเป๋าใบโปรดจะอยู่กับเราได้นานขึ้นแน่นอน เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
#1 ดูแลด้วยน้ำยาปกป้องหนัง
อย่างที่เราทุกคนเคยได้ยินก็คือยิ่งกระเป๋าหนัง ( แท้ ) เก่าเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งสวยเท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าปล่อยปะละเลยให้มันเก่าก่อนที่ควรจะเป็น ซึ่งจริงๆ แล้วหนังแต่ละประเภทก็คือดีเทล รายละเอียดไม่เหมือนกัน ดังนั้นอันนี้สาวๆ ก็ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมเองนะคะ
แต่หลักๆ แล้วเราสามารถรักษากระเป๋าให้ดูสวยด้วย
การรักษาความชุ่มชื้นให้กับตัวหนัง โดยใช้ครีมอเนกประสงค์สำหรับเช็ดโดยตรง
และ
อาจจะต้องใช้สเปรย์เพื่อเคลือบกระเป๋าด้วย
เพื่อที่ว่าเวลาฝนตกหรือโดนน้ำหกใส่ มันก็จะไม่เข้าไปทำร้ายกระเป๋านะคะ
#2 สปากระเป๋าอย่างน้อยปีละครั้ง
ข้อนี้อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ถือกระเป๋าราคาแพงสักหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม
เธอควรส่งให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
เพราะ
นอกจากมันจะช่วยรักษาความสะอาดของกระเป๋าเราแล้ว ยังเป็นการยืดอายุการใช้งานกระเป๋าใบนั้นไปด้ว
ย ซึ่งร้านเขาก็จะสามารถทำความสะอาดได้ถูกวิธี และยังสามารถซ่อมแซมกระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรดของเราได้ตรงจุดที่สุดน
ดังนั้นก่อนซื้อก็อย่าลืมเจียดเงินสักนิด เพื่อเก็บไว้ไปดูแลกระเป๋าใบโปรดของเราด้วยนะคะ
#3 เร่งให้หนังนิ่มด้วยมือของเรา
แต่ทั้งนี้ก็จะมี
กระเป๋าบางทรงที่พอเป็นหนังก็อาจจะดูแข็งๆ ท่อๆ จนเกินไป โดยเฉพาะทรงถุงผ้าใหญ่ๆ ซื้อพอถือแล้วก็จะดูแปลกๆ
ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ซึ่งเราสามารถแก้ปัญหาได้ด้วย
การวางกระเป๋าบนพื้นเรียบๆ และเริ่มม้วนจากด้านล่างขึ้นด้านบนเป็นลักษณธ Reroll
หลังจากนั้นก็ทำด้านอื่นๆ หมุนพลิกกลับด้านในออกแล้วม้วนอีกครั้ง เพียงเท่านี้เราก็จะได้กระเป๋าหนังนิ่มๆ ทรงเก๋ๆ พร้อมใช้งานแล้วค่ะ
#4 หูกระเป๋า จุดอ่อนไหว
หูกระเป๋านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่ไม่ควรมองข้าม ต้องดูแลเป็นประจำ เพราะมันคือส่วนที่เราต้องจับเพื่อสะพายตลอดเวลา นอกจากนี้
บรรดาเครื่องสำอางหรือครีมต่างๆ ก็อาจจะทำให้หูกระเป๋าและสายสะพายของเราซีดได้
นี่ยังไม่นับคนที่ชอบใส่ของหนักๆ จัดแน่นๆ ด้วยแล้วยิ่งร้ายเข้าไปใหญ่ ดังนั้นวิธีที่จะ
ยืดอายุการใช้งานหูกระเป๋าและสายสะพายคือให้หาผ้าพันคอหรือผ้าเก๋ๆ มาพันตรงหูกระเป๋า
เพื่อลดการสัมผัสโดยตรง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยยืดหูกระเป๋าเราได้นะคะ
#5 ยกออกมาตากลม หลังใช้เสร็จ
โดยจากข้อมูลที่เราไปอ่านมานั้น เขาบอกกันว่าการเก็บรักษาที่ดีที่สุดคือการปล่อยให้กระเป๋าได้ " หายใจ " ห้ะ!! กระเป๋าหายใจได้ด้วย หลายคนคงจะงง แต่ไม่ยากอย่างที่คิด
หลังจากการใช้ทุกครั้ง ก่อนเก็บเข้าตู้ทุกครั้ง ให้ผึ่งลมสักพัก
เป็นการปรับอุณหภูมิของกระเป๋า คลายความร้อนหรือเย็นออกไป
หลังจากนั้นเมื่อเอาเข้าตู้เสื้อผ้าก็ไม่ควรรูดปิดหมด เพื่อที่กระเป๋าจะได้หายใจรับอากาศอย่างน้อยๆ ก็อาทิตย์ละครั้ง
นะคะ เพียงเท่านี้กระเป๋าเราก็อยู่ได้นานแล้วค่ะ
#6 ก่อนเก็บใส่ซองคลุมให้เรียบร้อย
ถ้าสาวๆ สังเกตให้ดี จะเห็นว่าทุกครั้งที่ซื้อกระเป๋ามา เขาจะแถมถุงผ้ามาให้ ซึ่งนั่นล่ะคือไอเทมสำคัญที่เราเอาไว้เก็บกระเป๋า
ดังนั้นห้ามโยนทิ้งหรือเอาไปใส่ของอย่างอื่นโดยเด็ดขาด เอาไว้คลุมกระเป๋าตัวเองนี่แหละ
นอกจากนี้ ขณะที่เราจะเอาไปเก็บไว้ในตู้นั้น ถ้าเป็นไปได้ก็ควรติดตั้งตัวดูดความชื้นด้วย
เพราะอากาศบ้านเราร้อน ซื้อเมื่อเจอกับความเย็นของแอร์ ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้
โดยอุณหภูมิควรจะอยู่ที่ 23-27 องศา ดังนั้นแนะนำว่าอย่าลืมดูอุณหภูมิก่อนเก็บด้วยนะคะ
#7 จัดทรงให้ดีก่อนเก็บ
สำหรับ
กระเป๋าบางทรงนั้น เพื่อให้กระเป๋าคงรูปไม่ย้วยง่าย เราแนะนำว่าควรหาอะไรนิ่มๆ
เช่น กระดาษทิชชู่ และพลาสติกกันกระแทก หรือกระดาษหนังสือพิมพ์
มาใส่ในกระเป๋าให้เต็มเพื่อเป็นการรักษาทรงกระเป๋าไว้
เพียงเท่านี้ทรงกระเป๋าของเราก็จะไม่ยืดยานจนใช้งานไม่ได้นะคะ
เป็นยังไงบ้างคะสำหรับ 7 วิธีการดูแลกระเป๋าที่เราเอามาฝากกันวันนี้ หวังว่าสาวๆ คงจะชอบกันนะคะ ใครที่กำลังซื้อกระเป๋าใบใหม่ หรืออยากดูแลกระเป๋าก็ลองเอาไปใช้กันนะคะ
เอาล่ะ แล้วครั้งหน้าก็อย่าลืมติดตามเรานะคะ วันนี้ไปก่อนแล้วค่ะ บาย