สวัสดีค่าเพื่อนๆ ทุกคน //

เข้าสู่ช่วงอัปเดตสกินแคร์ที่ชอบใช้กันจ้าา เนื่องจากโดนหน้าร้อนที่ผ่านมาทำร้าย T__T ทั้งปัญหาหน้าหมองคล้ำ ผิวแสบแดง ไม่กระจ่างใส จึงทำให้เรามีการปรับเปลี่ยนเซ็ตสกินแคร์เป็นพวกวิตซี ไวท์เทนนิ่ง ไปพักนึง ซึ่งหลายตัวเราใช้แล้วชอบมาก จึงเก็บมาเขียนรีวิวในวันนี้กันจ้า ไปดูกันเลย

รูปภาพ:

Skinsista Vit C Extra Bright Booster

รูปภาพ:

Skinsista Vit C Extra Bright Booster ( 4xx บาท )

จะบอกว่า Vit C ของ Skinsista แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ไม่ใช่แค่ Vit C แต่เป็น Vit C ที่ผสานไฮยารูลอน เข้มข้น และที่พิเศษคือ เขาเป็น Vit C ในรูป แบบ Encapsulated ( เอนแคปซูเลท ) แคปซูลนาโน ซึ่งจะซึมลึกถึงชั้นผิว เนื้อบางเบา ปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่ เผยผิวกระจ่างใส เรียบเนียน เปล่งปลั่ง กระจ่างใส สุขภาพผิวดี แม้ถูกทำร้ายด้วยแสงยูวีและมลภาวะ ส่วนผสมอ่อนโยน ปราศจากสารกันเสีย, น้ำมัน, สี และ แอลกอฮอล์

รูปภาพ:

เนื้อครีม:เป็นเนื้อเซรั่มใส บางเบาซึมง่าย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว มีกลิ่นหอม VitC เลมอนอ่อนๆ ทาแล้วรู้สึกสดชื่น

รูปภาพ:

วิธีการใช้:

ทาทั่วใบหน้าที่สะอาดตอนเช้าและเย็น เป็นขั้นตอนแรกของการบำรุงผิว เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมก่อนการบำรุง ( ซึ่งเราจะแต้มเซรั่ม 5 จุดบนใบหน้า และเกลี่ยตามแนวรูขุมขนค่า )

รูปภาพ:

ความรู้สึกหลังใช้:หลังใช้ติดต่อกันอาทิตย์นึง พบว่าผิวกระจ่างใสขึ้นจริงๆ ผิวดูสม่ำเสมอ รูขุมขนกระชับ จุดด่างดำดูจางลง รู้สึกผิวนุ่มขึ้น มีความเด้งอิ่มน้ำ ซึ่งรอยสิวใหม่ๆ จะจางลงเร็วมากกก แต่รอยสิวที่อยู่นานแล้วก็จะต้องใช้เวลาหน่อยค่ะ

ข้อควรระวังอีกนิดช่วงที่ใช้ Vit-C ตัวนี้พยายามอย่าโดนบริเวณหัวสิว เพราะจะแสบและคันยิบๆ ฝุดๆ T__T ใครเป็นสิวอยู่แนะนำให้เลี่ยงทาบริเวณสิวไปก่อนนะคะ รอสิวยุบก่อนค่อยทาค่าา

Biotherm Life Plankton Essence

รูปภาพ:

Biotherm Life Plankton Essence ( ราคาประมาณ 2,xxx บาท )

เอสเซนส์ยอดฮิต อุดมด้วยไปด้วย Life Plankton แพลงตอนสกัดบริสุทธิ์จากน้ำแร่ร้อนธรรมชาติถึง 5% ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส มีริ้วรอย เผยผิวใหม่ที่เรียบเนียน กระจ่างใส ดูอ่อนกว่าวัย ลดการอักเสบและระคายเคืองผิวในบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ ช่วยให้สิวยุบตัวได้เร็วยิ่งขึ้น

รูปภาพ:

เนื้อครีม:เป็นเอสเซนส์สีใสๆ ขุ่นๆ เหมือนน้ำ แต่มีความหนืดเล็กน้อย ส่วนเรื่องกลิ่นนี่แบบ กลิ่นตุ่นๆ ตุ่ยๆ มาก ( แม้จะใส่น้ำหอมมาเพื่อกลบกลิ่นแล้วก็ตาม ) ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบกลิ่นนี้เลย ต้องไปลองเทสต์ดูก่อนนะคะ แรกๆ แอบรับกลิ่นไม่ได้ แต่ตอนนี้ชินแล้วค่ะ มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพื่อการบำรุงผิว ศรีทนด้ายย 555

วิธีใช้:ค่อยๆ เหยาะเอสเซนส์ลงบนฝ่ามือ ตบๆ นวดๆ ตามแนวรูขุมขนทั่วใบหน้า ใช้ทาบำรุงผิวเวลาเช้า-เย็นหลังล้างหน้า

รูปภาพ:

ความรู้สึกหลังใช้:หลังใช้ติดต่อกันหลายอาทิตย์ สิ่งแรกที่สัมผัสได้เลยคือ ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้นจริงๆ ริ้วรอยดูจางลง ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ส่วนรอยแดงก็ดีขึ้นตามลำดับค่ะ เราเป็นคนที่ช่วงปีกจมูกผิวจะแห้งมาก จึงทำให้เป็นรอยแดงได้ง่าย แต่หลังจากใช้ตัวนี้แล้ว ผิวดูสม่ำเสมอขึ้นเยอะเลยค่ะ

ข้อควรระวัง เนื่องจากเอสเซนส์เข้มข้นมาก ไม่แนะนำให้ทาก่อนแต่งหน้าในช่วงเช้า เพราะอาจจะทำให้เมคอัพหลุดและหน้าเยิ้มได้ค่ะ ย้ายไปทาช่วงเย็นหรือก่อนนอนจะดีกว่าค่า

ส่วน 2 ตัวด้านล่างนี้ขอรีวิวไปพร้อมๆ กันเพราะใช้คู่กันค่า ^__^ //

Innisfree Whitening Pore Synergy Serum

รูปภาพ:

Innisfree Whitening Pore Synergy Serum ( ได้ฟรีจากการซื้อของที่ Shop Innisfree )

เซรั่มที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากเปลือกส้ม ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส รูขุมขนดูกระชับและเรียบเนียน มีฟลาโวนอยด์มากถึง 6 ชนิด คั้นสดจากน้ำผลไม้เปลือกส้มเจจูแบบดั้งเดิม ช่วยขจัดปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผิวดูสุขภาพดี เปล่งปลั่งยิ่งขึ้น

รูปภาพ:

เนื้อครีม:เป็นเนื้อเซรั่มใส มีเม็ดบีดส์สีส้ม ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ตัวเม็ดบีตส์ ถ้าเทแล้วมันออกมาเยอะไป ก็จะต้องใช้เวลาเกลี่ยนิดนึงกว่ามันจะแตกตัว ส่วนเรื่องกลิ่น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของส้ม ทาแล้วสดชื่น

วิธีใช้:ทาเบาๆ ตามแนวรูขุมขนทั่วใบหน้า ( ใช้ทาบำรุงผิวเวลาเช้า-เย็นหลังล้างหน้า )

Innisfree Whitening Pore Cream

รูปภาพ:

Innisfree Whitening Pore Cream ( ได้ฟรีจากการซื้อของที่ Shop Innisfree )

ครีมบำรุงผิวสำหรับกลางวัน มีส่วนผสมของเปลือกส้มเจจู ช่วยให้ผิวดูสม่ำเสมอ มอบความชุ่มชื้น และดูแลปกป้องผิวจากแสง UV มีซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ที่ช่วยลดจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้เรียบเนียน เผยผิวกระจ่างใสดูมีชีวิตชีวา

รูปภาพ:

เนื้อครีม:เป็นเนื้อครีมสีขาว บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเลยค่ะ มีความเป็นเนื้อเจลขึ้นๆ ด้วยซ้ำ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของส้ม ทาแล้วสดชื่นวิธีใช้:ทาเบาๆ ตามแนวรูขุมขนทั่วใบหน้า ( ใช้ทาบำรุงผิวเวลาเช้า-เย็นหลังล้างหน้า )

รูปภาพ:

ความรู้สึกหลังใช้:หลังใช้ติดต่อกัน 1 เดือน พบว่าคู่นี้เวิร์คมากในการกระชับรูขุมขน ( อยากไปถอยขนาดจริงมาใช้เลยค่ะ 555 ) ช่วงที่ใช้เราจะยังไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่พอถ่ายรูปแล้ววางเทียบกันพบว่ารูขุมขนดูกระชับขึ้นเยอะเลย

ข้อควรระวังถ้าทาโดนสิวก็จะมีความคันยิบๆ เช่นกัน แนะนำให้หลีกเลี่ยงบริเวณสิว และ 2 ตัวนี้ไม่ค่อยช่วยเรื่องความชุ่มชื้นเท่าไหร่ ถ้าผิวใครแห้งมากๆ ควรทามอยส์เจอไรเซอร์เพิ่มเติมค่ะ ส่วนใครผิวผสม-ผิวมัน สามารถใช้ 2 ตัวนี้ได้เลยค่า

รูปภาพ:

#สรุป

Skinsistaกระจ่างใสสุด

Biothermชุ่มชื้นสุด เหมาะสำหรับผิวแห้งและรอยแดง

Innisfreeกระชับรูขุมขนสุด

ซึ่งแต่ละตัวเราใช้ไม่พร้อมกัน อย่าง Biotherm เราจะทาก่อนนอน ส่วนช่วงเช้า-เย็นก็จะเป็น Skinsista และ Innisfree สลับกันไปค่ะก็จบไปแล้วสำหรับรีวิวในวันนี้ แต่ละตัวก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน สนใจตัวไหนก็ลองเลือกใช้ให้เหมาะกับผิวของเรานะค้า ไว้พบกันใหม่รีวิวหน้า บ๊ายบายค่าา ^___^ //