สวัสดีค่ะซิส!

เคยเจอกันไหมคะ? คนใกล้ตัวที่สนิทสนมกันมาก เหมือนจะมีใจให้กัน แต่กลับไม่เคยพูดว่าความสัมพันธ์เป็นแบบไหน ทำให้ผู้หญิงอย่างเรารู้สึกนอยด์ไม่น้อย บางคนเลยถอดใจไปมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกันไปเลย เดี๋ยวก่อนค่ะ!

อย่ารีบใจร้อนขนาดนั้น เพราะผู้ชายบางคนให้พูดว่า " รัก " มันยากยิ่งกว่าไปแบกหินทั้งภูเขา เพราะผู้ชายส่วนใหญ่มักจะเน้นแสดงออกมากกว่าการใช้คำพูด

แถมบางคนยังแสดงออกถึงการตกหลุมรักแบบโงหัวไม่ขึ้นอีกต่างหาก ซึ่งผู้ชายแต่ละคนจะมีการแสดงออกที่ต่างกันออกไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้หญิงอย่างเรา จะเข้าใจเขามาก-น้อยแค่ไหน

วันนี้จึงขอแนะนำ 9 สัญญาณของผู้ชายที่ตกหลุมรักผู้หญิง ที่เขารู้แต่เราอาจจะยังไม่รู้มาฝากกันจ้า

.

1. อ่อนโยนมากขึ้นทุกวัน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/37/20/f0/3720f09750bc8d5af0e4825ffd43d978.jpg

นิสัยผู้ชายส่วนใหญ่มัก

นิ่งขรึม ดูสุขุม

และมีบางส่วนที่เป็นคน

อบอุ่น ขี้เล่น สนุกสนาน

แต่ไม่ว่าผู้ชายจะมีนิสัยแตกต่างกันอย่างไร

แต่มีสิ่งหนึ่งที่คล้ายกัน คือ มีความอ่อนโยนน้อยกว่าผู้หญิงมาก

ความอ่อนโยนในที่นี้คือความใส่ใจ ดูแล การถามไถ่ด้วยความห่วงใย หรือแม้แต่การทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในแบบที่ผู้ชายมักมองข้าม เช่น

การหยิบหนังสือเล่มโปรดของผู้หญิงมาไว้ให้, การห่มผ้าหรือดึงเสื้อผู้หญิงมาปิดจุดที่เขารู้สึกว่าโชว์มากไป หรือเริ่มรู้ว่าเราชอบอะไรเป็นพิเศษ

เป็นต้น

ซึ่งเรื่องเหล่านี้สำหรับผู้ชายแมนๆ แทบไม่ทำกันเลย ส่วนผู้ชายอบอุ่นที่ดูห่วงใยคนรอบข้างอยู่เสมอ และเป็นคนอ่อนโยนอยู่แล้ว สำหรับผู้หญิงที่เขาตกหลุมรัก ก็จะยิ่งแสดงออกได้ลึกซึ้งมากกว่านี้อีกนะ!

ดูง่ายๆ ว่าอะไรที่เขาไม่เคยทำ แต่อยู่ดีๆ แล้วมาทำกับเรา นั่นล่ะค่ะ เขาตกหลุมรักเราเข้าให้แล้วววว! ฮิ้วววว

.

2. ไม่ค่อยพูด แต่กลับแสดงออกทางร่างกาย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/d5/45/e4/d545e451cb7c95ec9bf19023e1e8da82.jpg

อีกหนึ่งเรื่องที่ผู้หญิงหลายๆ คนอาจจะยังไม่เข้าใจ

'ตกหลุมรักฉันยังไง? ไม่แสดงออกอะไรเลย'

ต้องเข้าใจว่าผู้ชายเป็นเพศที่เก็บความรู้สึกค่อนข้างเก่ง บางคนนี่ยิ่งกว่าซุปตาร์ฮอลลีวู้ด ชอบให้ตายแต่ถ้าไม่กล้า ไม่มั่นใจ ก็จะเก็บความรู้สึกไว้แบบนี้แหละ! แต่เชื่อเถอะค่ะว่าต่อให้เก็บเก่งแค่ไหน ก็ต้องมีอะไรหลุดมาบ้างล่ะ! นั่นก็คือ

การแสดงออกทางร่างกาย

ค่ะ

ถ้าให้อธิบายเรื่องนี้ตามหลักจิตวิทยา ก็อาจจะต้องร่ายยาวหมด 5 หน้ากระดาษ A4 ดังนั้นขอสรุปง่ายๆ ดังนี้ คนที่มีอาการตกหลุมรักใครสักคน เมื่อได้พบหรือได้อยู่ใกล้ชิด มักจะแสดงอาการทางร่างกายหลากหลายรูปแบบ คือ

1. หายใจถี่ เหงื่อออกง่ายและมาก

เจอหน้ากันทีไรแล้วชอบเดินหนี บางคนเห็นผู้หญิงแต่ไกลก็เริ่มหาที่ซ่อนแล้ว อาการเหล่านี้เกิดจากความตื่นเต้นล้วนๆ

2. จับหน้า จับผม ลูบคาง จับจมูก

แตะทุกส่วนบนใบหน้าบ่อยครั้ง หรืออาจลามมาจับหรือบีบต้นคอบ่อยๆ พฤติกรรมเหล่านี้มาจากอาการเขินนั่นเอง

3. ทำท่าทีเหมือนกลัวและชอบเดินหนี

แต่ถ้าสบโอกาสก็จะมองผู้หญิงคนนั้นอยู่ตลอด ผู้หญิงที่ถูกมองจะรู้สึกได้ว่าเหมือนมีคนจ้องมองตลอดเวลา และเมื่อหันไปสบตาผู้ชายคนนั้นก็จะหลบตาทันที แต่เมื่อมีจังหวะก็ยังคงมองมาเหมือนเดิม

4. ยืนยิ้มคนเดียว พูดคนเดียว ดูมีความสุขหรือครึกครื้นขึ้น

แต่จะเป็นเฉพาะเวลาคนที่เขาตกหลุมรัก เข้ามาอยู่ใกล้ๆ เท่านั้น

5. ตกใจง่ายมาก เพียงแค่ผู้หญิงไปโดนตัวเล็กน้อยหรือเพื่อนๆ ไปโดนตัว

ในขณะที่เขากำลังอยู่ในภวังค์ เพราะอยู่ใกล้กับคนที่ตัวเองตกหลุมรักอยู่ เขาจะตกใจง่ายผิดปกติ เหมือนคนใจไม่อยู่กับตัว ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงที่ชอบมาโดนตัวเขาแล้วด้วย ก็จะยิ่งตกใจหนักมากจนบางคนอาจจะนิ่งไปสักพักเลยทีเดียว ( ลักษณะเหมือนกำลังช็อค )

ทั้ง 5 อาการนี้ถือว่าเป็นอาการเด่นๆ ที่มนุษย์อย่างเราๆ มักแสดงออกเมื่ออยู่ใกล้คนที่ตกหลุมรัก ผู้ชายไม่ว่าจะบุคลิกเข้มขรึมหรือคีพลุคแค่ไหน แต่ถ้าได้ตกหลุมรักผู้หญิงสักคนมากๆ รับรองว่าต้องมีอาการเหล่านี้แน่นอน!

.

3. ไปที่ไหนก็เจอ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/2c/0a/85/2c0a85d794534f9e419c152f5067ae72.jpg

น่าแปลก? ที่เรามักจะเจอกับใครบางคนบ่อยครั้งแบบงงๆ เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะเจอตานี่อยู่ใกล้ๆ เสมอ

ไม่เดินสวนกัน ก็กินข้าวอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้างล่ะ หรือถ้ามีปัญหาอะไรก็แล้วแต่ผู้ชายคนนี้ก็มักจะเข้ามาช่วยเหลือเสมอ

แต่ถ้าคุณเป็นเพื่อนสนิทกัน ก็ให้ลองดูว่าเวลาที่คุณจะไปไหนก็ตาม แล้วขอให้เขาไปด้วย ถ้าไม่ติดธุระสำคัญเขาจะไปด้วยหรือไม่

ถ้าไปด้วยตลอดทุกครั้ง หรือแม้แต่สละเวลามาเพื่อติดตามไปด้วย นี่แหละ! เข้าขั้นหลงรักจนอยากจะติดตามเธอไปทุกที่แล้วล่ะ!

อีกเรื่องที่ดูง่ายคือเวลาไปไหนด้วยกันแล้วเขาซื้อน้ำ, ซื้อกาแฟ หรือขนมมาเผื่อเราโดยไม่ต้องบอก

ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายประเภทที่ชอบทำอะไรแบบตัวคนเดียวด้วยแล้ว แต่อยู่ดีๆ ก็ซื้อกาแฟมาฝาก ซื้อโน่นซื้อนี่มาฝาก ไปไหนก็คิดถึงและโทรมาถามว่าเอาอะไรมั้ย? แบบนี้ก็ชัดเจนแบบม้ากมากแล้วค่ะซิส!!!

.

4. คำพูดที่มีแต่ 'เรา'

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/b4/c9/34/b4c9345916ceb006a308ec2f1c2faa6a.jpg

เมื่อใดที่เขาเริ่มมองคุณเป็นมากกว่าเพื่อนสนิทหรือคนรู้จัก คำพูดที่เคยใช้ ไม่ว่าจะ

' เธอ, นาย, ฉัน, ผม, คุณ, แก หรือเรียกแค่ชื่อ '

จะถูกเปลี่ยนเป็น

เรา

มาแทนที่ โดยที่คำพูดนี้จะพูดออกมาแบบอัตโนมัติและผู้ชายบางคนก็แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพูดออกมา เพราะเมื่อใดที่ผู้ชายคนหนึ่งเริ่มตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งมากๆ เข้า

เขาจะเริ่มรู้สึกว่าต้องการให้ผู้หญิงได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต และมองว่าเธอพิเศษกว่าใคร

จึงเกิดเป็นศัพท์ที่ทำให้ดูใกล้ชิดมากขึ้น

เช่น จากที่เขาเคยพูดกับคุณว่า

" วันนี้คุณจะทานอะไรเป็นอาหารกลางวัน "

แล้วอยู่มาวันหนึ่งเกิดเปลี่ยนเป็น

" วันนี้เราจะทานอะไรกันดี "

และเริ่มใช้คำว่า

' เรา '

มากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกกิจกรรม แบบนี้ก็เตรียมมีเฮเลยค่ะ! ที่สำคัญคือคำว่า

' เรา '

นั้นยังเป็นการบ่งบอกว่าอนาคตอันใกล้ เขาจะเริ่มเดินหน้าเปลี่ยนสถานะกับคุณแล้วอีกด้วย!

.

5. ใช้สายตาสื่อความหมายมากขึ้น

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/c8/f9/00/c8f900537ed3355aab64e75cf9f3d8ee.jpg

เมื่อผู้ชายรู้สึกว่ารักมันจุกอก ตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ในขั้นรุนแรง สิ่งที่เขาจะทำมากที่สุด คือ การมองตา

ไม่ใช่การมองทั่วๆ ไป ที่มองเพียงชุด ผม หรือมองแบบไม่โฟกัสเพราะแอบเขิน แต่เป็นการมองแบบตั้งใจจ้องตาจริงจัง

แม้จะมีอาการหลบสายตาอยู่บ้าง แต่สักพักก็จะกลับมามองใหม่ อาการลักษณะนี้คือไม่อยากคลาดสายตาไปจากคนที่ชอบแต่ก็ยังกลัวอยู่นิดๆ ส่วนคนที่ต้องการให้ผู้หญิงรู้ว่า

' ผมจะใส่เกียร์เดินหน้าแล้วนะ '

จะจ้องมองให้ผู้หญิงรู้ไปเลยว่า

' มองอยู่นะ สนใจอยู่ '

และเป็นการมองที่เหมือนตกอยู่ในภวังค์ จนไม่สามารถมองผู้หญิงคนอื่นได้อีกเลย

.

6. สื่อทุกอย่างออกมาให้เป็นแค่ 'เธอ' เท่านั้น

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/1d/e1/93/1de1932f921e78cf741722b668aeb7c4.jpg

ผู้ชายที่อยู่ในช่วงตกหลุมรักขั้นรุนแรง ไม่ได้มีเพียงแค่การจ้องตาแบบจริงจังเท่านั้น แต่ให้ซิสสังเกตให้ดีว่า

โซเชียลที่ผู้ชายคนนี้เล่น มักจะสื่ออะไรแปลกๆ ในแบบที่เขาไม่เคยทำหรือทำไม่บ่อย ที่สำคัญคือทุกเรื่องที่สื่อมักจะมีความหมายที่ซ่อนเร้น


ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพของใช้ในชีวิตประจำวัน, ถ่ายรูปมือพร้อมแหวนบนนิ้ว+แคปชั่นอยากสละโสดหรือเจอคนที่ต้องการให้แหวนแล้ว, ถ่ายรูปไปเที่ยวแล้วอัปรูปทุกชั่วโมงว่าตัวเองอยู่ตรงไหน, ตั้งใจถ่ายรูปของที่ใช้ เสื้อผ้าที่สวมใส่ หรือเครื่องประดับที่เหมือนกับของผู้หญิง

รวมไปถึงการลงแคปชั่นต่างๆ ในเชิงสัญลักษณ์ที่เหมือนรู้กันแค่ 2 คน เป็นต้น

.

7. สร้างโมเมนต์ร่วมกันบ่อยขึ้น

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/61/07/c8/6107c88673d4cd8dea2e467c9c4b5010.jpg

เมื่อสื่อถึงยังไม่พอใจ ก็จะเริ่มกลายมาเป็นการสร้างโมเมนต์ที่ซิสและเขาจะอยู่ร่วมในเหตุการณ์เดียวกันบ่อยขึ้น เรียกได้ว่า

' เหมือนจะบังเอิญ '

แต่ความจริงแล้วคือความตั้งใจของเขาล้วนๆ เพราะต้องการให้โมเมนต์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นความทรงจำร่วมกันระหว่างซิสกับเขา หรือพูดง่ายๆ ว่าต้องการ

สร้างความประทับใจ

และทำให้ซิสเห็นว่าเขาเริ่มจะจริงจังต่อความสัมพันธ์นี้แล้วนะ! ที่สำคัญคือวิธีนี้ยังเป็นการเช็คตัวซิสด้วยว่า

พร้อมที่จะไปต่อกับเขาหรือไม่?

อีกด้วย

.

8. เริ่มตั้งคำถามมากขึ้น

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/cf/05/c4/cf05c4062a028c159fc7aea7b5465f7e.jpg

เมื่อใดที่เขาได้เริ่มพูดคุยกับคนที่ตัวเองตกหลุมรักมากๆ เขาจะเริ่มต้นตั้งคำถามมากมาย ไม่ใช่แค่คู่ที่ไม่เคยคบหากันมาก่อนเท่านั้นนะ! แม้แต่คู่ที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนก็ด้วยเช่นกัน

เมื่อเขาเริ่มมั่นใจแล้วว่าจะเลื่อนสถานะ

เขาจะเริ่มตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับทั้งตัวเราและตัวเขา คำถามส่วนใหญ่จะเป็นการทำให้ผู้หญิงที่เขาตกหลุมรักรู้สึกถึงความสำคัญของตัวผู้หญิง ทำให้เรารู้ว่าเรามีอิทธิพลต่อตัวเขามากมายขนาดไหน

และในขณะที่พูดคุยกัน เขาจะจดจ่ออยู่ที่คำตอบของเราเท่านั้น ที่สำคัญคือคำถามเหล่านี้ ยังเป็นการรับมือกับความรักในอนาคตของผู้ชายอีกด้วย

.

9. ต้องได้เห็นหน้าทุกวัน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/67/7c/49/677c49d2652bc8d28f719e3edbd16c4d.jpg

เมื่อเริ่มพูดคุยกัน และเรียนรู้แล้วว่าซิสกับเขาไปด้วยกันได้ดีแน่นอน! เขาจะเริ่มแสดงออกถึงความรักและความหลงใหลที่มากขึ้น

ยิ่งถ้าเขาตกหลุมรักซิสมาก่อน แล้วได้เลื่อนสถานะมาสู่คนรู้ใจด้วยแล้วล่ะก็ เขาจะทุ่มเททุกอย่าง เพื่อไม่ให้รักนี้ที่เขาอุตส่าห์ต่อสู้มาหลุดมือไปง่ายๆ

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เขาอยากจะเห็นหน้าคุณเป็นคนแรกๆ ของวัน ไม่ว่าจะมีธุระสำคัญขนาดไหน ก็จะรีบกลับมาหาคุณก่อนใคร เวลาไปเที่ยวด้วยกัน ก็มักจะเดินจับมือและมองตาคุณอยู่เสมอ

แต่เรื่องของคำพูดสำหรับผู้ชายบางคน อาจจะยากสำหรับเขาจริงๆ ซิสจึงควรเข้าใจและปล่อยผ่าน ซิสต้องคิดให้มากว่า

การกระทำสำคัญกว่าคำพูด

นะจ๊ะ!

.

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่โชคดี มีผู้ชายมาตกหลุมรัก แต่ยังดูไม่ออกว่าจริงหรือหลอก รวมไปถึงคนที่ไม่รู้ตัวมาก่อนแ ต่รู้สึกเหมือนมีคนมาวนเวียนอยู่ข้างๆ บ่อยครั้ง ลองเอาทั้ง 9 สัญญาณนี้ไปจับตามองคนคนนั้นดูสิคะ รับรองว่างานนี้ทำให้คุณหัวใจได้ชุ่มชื้นแน่นอน!

ถ้าชอบบทความนี้ก็ฝากกดไลก์ กดแชร์ และช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ (><) สำหรับวันนี้ต้องขอลากันไปก่อน แล้วมาเจอกันใหม่บทความหน้านะจ๊ะ บายจ้าาาา