สวัสดีค่ะสาวๆ ชาว SistaCafe ทุกคน

ใครที่กำลังลดความอ้วนอยู่ หยุดก่อนค่ะ ช้าก่อน วันนี้เรามีสาระความรู้ดีๆ เกี่ยวกับการลดความอ้วนมาฝาก ซึ่งการลดความอ้วนนั้น เราต้องอาศัยความพยายามมาก และที่สำคัญเราเองก็ต้องดูด้วยว่ามีผลข้างเคียงอะไรหรือไม่ หากว่ามีก็ต้องหาว่ามีวิธีป้องกันอะไรบ้าง เอาล่ะพร้อมแล้วมาดูกันเลย

1. เกิดผิวหย่อนคล้อย

รูปภาพ:https://www.boldsky.com/img/2017/05/ci-18-1495097560.jpg

ผิวหย่อนคล้อยเป็นหนึ่งในผลข้างเคียงที่พบมากที่สุดของการลดน้ำหนักเร็วเกินไป โดยผิวหย่อนคล้อยมักเกิดขึ้นเนื่องจากผิวหนังไม่สามารถหดตัวได้เร็วเท่าที่ร่างกายลดน้ำหนักไป  ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพส่วนใหญ่ก็เลยมักจะแนะนำให้เน้นการลดน้ำหนักที่ช้าและลดอย่างคงที่ เพื่อให้เวลาร่างกายหดตัวจะพอดีกับการหดตัวของผิวนั่นเอง นอกจากนี้ผิวหย่อนคล้อยยังขึ้นอยู่กับการออกกำลังกายด้วย ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายหรือเทรนเนอร์ด้วยค่ะว่าจะออกกำลังอย่างไร ผิวจึงจะไม่หย่อนคล้อย

2. เกิดผลเสียต่อสุขภาพผม

รูปภาพ:https://i.ndtvimg.com/i/2018-04/hair-loss_620x350_71523002637.jpg

ส่วนใหญ่แล้ว อาหารที่เหมาะสมกับการลดความอ้วนก็คืออาหารที่มีแคลอรี่น้อยๆ นั่นหมายความว่าคุณจะไม่มีสารอาหารที่จำเป็นเพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงร่างกายของคุณ  ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นก็คืออาหารแคลอรี่น้อยจะพาคุณไปสู่การขาดสารอาหารต่อไปเรื่อยๆ จนทำให้ผมร่วง ข้อบกพร่องของสารอาหารขนาดเล็กที่มีอยู่ในร่างกายอาจทำให้เส้นผมอ่อนแอ ดังนั้นเทคนิคของการทานอหารช่วยลดความอ้วนก็คือการทานโปรตีนมากกว่าเดิม และทานอาหารให้เพียงพอในแต่ละวันด้วยค่ะ

3. ส่งผลต่อสุขภาพผิวของคุณ

รูปภาพ:http://ivtherapycenter.com/wp-content/uploads/2014/07/vitamins-skin-health.jpg

แม้ว่าอาหารที่คุณทานเข้าไปนั้นอาจจะทำให้คุณผอมได้ แต่ต้องระวังด้วยว่าอาหารที่ทานเข้าไปอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวได้ด้วยเช่นกัน โดยอาหารที่คุณทานจะเป็นตัวกำหนดสิ่งที่จะปรากฏบนผิวของคุณ การทานอาหารที่ไม่ดีอาจนำไปสู่ผิวแห้ง สิว ผิวหมองคล้ำ และเกิดริ้วรอยได้ ทางที่ดีคุณควรทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด

4. ทำให้ท้องผูก

รูปภาพ:https://i.ndtvimg.com/i/2016-06/constipation_625x350_81467115223.jpg

บ่อยครั้งเลยก็ว่าได้ที่การทานอาหารบางอย่างเป็นประจำจะทำให้ท้องผูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงอาหารที่เราทานก็จะส่งผลให้ท้องผูกได้ จะดีกว่าหรือไม่หากว่าเราหันมาเพิ่มอาหารที่มีเส้นใยจำนวนมาก เช่น ธัญพืช สลัด ผลไม้ดิบและผักอื่น ๆ เพื่อให้ลำไส้ของคุณเคลื่อนตัวได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้การทานผลไม้ที่อุดมไปด้วยเส้นใยยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผิวของคุณนั้นชุ่มชื้นตลอดเวลาอีกด้วย

5. ส่งผลต่อรอบเดือน

รูปภาพ:https://i.ndtvimg.com/i/2016-09/menstrual-pain-625_625x350_51474008539.jpg

ความผันผวนของน้ำหนักที่คุณลดไปนั้น อาจทำให้วงจรการมีประจำเดือนของคุณผันผวน ดังนั้นสาวๆ ก็ควรปรึกษาหารือกับนักโภชนาการในการจัดทำแพลนมื้ออาหารเพื่อสุขภาพสำหรับการลดน้ำหนักอย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องส่งผลต่อรอบเดือนของคุณ เพราะการมีรอบเดือนที่สม่ำเสมอจะทำให้ผิวของคุณสวยขึ้นกว่าเดิม

6. มีปัญหากับการนอน

รูปภาพ:https://www.spineuniverse.com/sites/default/files/imagecache/gallery-large/wysiwyg_imageupload/3998/2017/04/20/insomnia_LifetimeStock-261519-M.jpg

สิ่งที่คุณทานในแต่ละวันมีผลโดยตรงต่อรูปแบบการนอนของคุณ การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในแพลนการทานอาหารของคุณอาจส่งผลต่อการนอนหลับของคุณ เพื่อให้การนอนหลับของคุณเป็นไปอย่างมีความสุขแล้วล่ะก็ควรทานคาร์โบไฮเดรตให้มากขึ้นและพยายามทานโปรตีนให้มากขึ้นอีกด้วยนะคะ

7. เกิดโยโย่เอฟเฟ็กต์ได้

รูปภาพ:https://sumedico.com/wp-content/uploads/2016/11/As%C3%AD_es_el_cerebro_al_padecer_anorexia_o_bulimia.jpg

สำหรับบางคนที่ลดน้ำหนักผิดวิธี เช่นงดแป้งเพียงอย่างเดียว หรือเน้นไปที่การนับแคลเพียงอย่างเดียวโดยที่ไม่ออกกำลังกาย เมื่อคุณเบื่อหน่ายและกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเกิดความอ้วนอีกครั้งได้นั่นเองค่ะ

และนี่ก็คือผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อคุณลดความอ้วน การลดความอ้วนที่ถูกวิธีคือการไม่อดอาหาร แต่ควบคุมอาหารและพยายามออกกำลังกายมากๆ หากทำตามวิธีเหล่านี้คุณจะลดความอ้วนได้สำเร็จอย่างแน่นอนค่ะ