บางทีความรักก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิดเสมอไป!ในสายตาของสาวซิสต้า โลกของความรักอาจจะดี สวยหรูเหมือนในเทพนิยาย แต่เราไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้ บางครั้งเรารักหนุ่มคนนั้นสุดหัวใจ แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก!เธอหลงเสน่ห์ของเขาเต็มเปา แต่เขาแค่คบเธอเพื่อผลประโยชน์เท่านั้นเอง
สาวซิสต้าบางคนก็หัวดื้อสุดๆ รักไปแล้วจะให้ทำอย่างไรล่ะ! ลองอ่านบทความ“วิธีทำอย่างไรเมื่อเธอ “รัก” แต่เขาแค่ “ชอบ”ดูเพื่อรู้ว่าจะเตรียมตัวกับรักครั้งนี้ยังไงจะเลิกหรือไปต่อ?เลื่อนลงมาอ่านกันเลยค่ะ! (｡･ˇ_ˇ･｡)
1. คอยสังเกตสีหน้าและท่าทาง ว่าเขาชอบ หรือเขารัก!
มีคนบอกว่า “ถ้าอยากรู้ว่าเขารักหรือเปล่า ลองดูแววตาของเขาสิ” ความรักมันปิดกันไม่อยู่หรอกนะ!ถ้าเขารักเธอ ความรักนั้นจะแสดงออกผ่านสีหน้าและแววตาอย่างชัดเจน เขาจะดูร่าเริง สดใส เหมือนมีคน “สูบลม” เติมพลังงานให้อยู่ตลอดเวลา จากที่ไม่สนใจ ห่วงใยใคร ก็หันมาเป็นห่วงเธอไม่คลาดสายตาเสียอย่างนั้นแต่ก็ต้องยอมรับว่า มีผู้ชายบางคนที่ “เย็นชา” (บางคนอาจบอกว่าตายด้าน) ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาให้รับรู้เลย ตกลงรักหรือไม่รักกันแน่!
ใช้สายตาทั้งคู่ของเธอคอยสังเกตเลยว่า ที่เธอให้รักไปทั้งใจ เขาพร้อมจะตอบกลับมาหรือเปล่าเดาไม่ยากหรอก แค่สังเกตสีหน้า ท่าทาง ความห่วงใยเช่น แกล้งจะออกไปทำธุระทั้งที่ฝนตกแล้วบ่นว่า“เฮ้อ ไม่มีร่ม จะทำยังไงดีน้า”ถ้าเขาไม่มีกะจิตกะใจจะให้ยืมร่มสักคันล่ะก็ เริ่มพึงระวังไว้แล้วล่ะว่า เขาไม่รู้สึกอะไรกับเธอเลย!
2. จำไว้ว่า ใครรักมากกว่า ก็เจ็บมากกว่า!
มีคนเคยบอกว่า “ความรักก็เหมือนหนังยาง คนรักมากกว่าดึงไว้ คนรักน้อยกว่าปล่อยยางเมื่อไหร่ก็ดีดเข้าหาอีกฝ่าย”คิดดูสิว่าฝ่ายที่โดนยางดีดจะเจ็บแค่ไหน!คนไม่รักก็คือไม่รัก เขาอยากจะทำอะไรก็จะทำโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนรัก กลายเป็นว่าเธอต้องเป็นฝ่ายวิ่งไล่ตามอยู่เสมอ เหนื่อยบ้างไหมคะ?
ปัญหาใหญ่ในที่นี้คือ เธอทั้งคู่คบกัน แต่อีกฝ่ายทำเหมือนไม่ใส่ใจ เธอเลยเหมือนอยู่ในสถานะโสดกลายๆ จะประกาศตัวว่าโสดก็ไม่ได้ จะบอกว่ามีแฟนก็พูดได้ไม่เต็มปากนัดจะไปเที่ยวกัน พอเพื่อนเขามาชวนก็ยกเลิกนัดของเธอทันทีโดยไม่มีเยื่อใย พูดง่ายๆ ว่าเป็นตัวสำรองเสมอแล้วถ้าสถานการณ์ยิ่งแย่ลง เธอจะทนไหวเหรอยิ่งบางราย “หน้าชื่นอกตรม” ยอมเป็นเบี้ยล่างเพราะสถานะ “แฟน” เป็นสิ่งเดียวที่จะยึดเขาไว้ได้ ซึ่งไม่โอเคอย่างยิ่ง รีบถอนทัพออกมาซะก่อนที่จะสายเกินไป!
3. อย่าหวังว่าเขาจะเป็นตัวจริงของเธอเลย!
เขาสามารถทิ้งเธอให้อยู่คนเดียวได้เป็นวันๆ ไปกินเหล้า เที่ยวกลางคืน พอตกดึกก็กลับมาโทรหา บอกว่ารักนักรักหนา แล้วเธอก็หลับหูหลับตาเชื่อคิดว่า“ตีสองตีสามเขาก็ยังโทรหา แสดงว่าเขาเป็นห่วงเรานะเนี่ย”ทั้งที่บางทีข้างปากของเขายังมีลิปสติกติดอยู่เลย!รู้ไว้เลยว่าเธอกำลังบั่นทอนคุณค่าในตัวเอง เธอคิดว่าตัวเองด้อยจนต้องรอรับสายจากผู้ชายคนเดียวเลยเหรอเจ้าหนุ่มคนนั้นก็ไม่มีทีท่าจะสำนึก เพราะเธอใจดี แค่ป้อนคำหวานไปหน่อยเธอก็หลงจะแย่แล้ว!
เปลี่ยนวิธีคิดใหม่เถอะ! เธอควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้สมองของเธอคิดอยู่ตลอดว่า “สักวันหนึ่งเขาจะเลิกเรื่องพวกนี้แล้วกลับมาตายรังเองนั่นแหละ”ซี่งไม่เถียง บางคนก็กลับ แต่บางคนจะกู่ไม่กลับเสียละมากกว่า!อย่ามัวเสียเวลากับผู้ชายห่วยๆ เลยนะเธอ
4. . จำไว้ว่า เธอจะเสียเขาไปเมื่อไหร่ก็ได้!
“ความชอบ” ใครสักคนไม่ใช่สิ่งที่มีรูปร่างและจับต้องได้ แต่สัมผัสได้ด้วยใจ! ความรักไม่เหมือนมาตรวัดเทอร์โมมิเตอร์ หรือเกจน้ำมันรถที่บอกตัวเลขชัดเจนขนาดนั้นหรอกนะความรักมันลึกซึ้งกว่านั้นมาก จึงไม่แปลกที่แค่การขยิบตาวิ๊งๆ ของเขาไม่กี่ครั้งก็ทำให้เธอหลงละเมอเพ้อพกไปไกลได้
นี่อาจเป็นความจริงที่เจ็บปวด แต่จงยอมรับเถอะว่า“เขาไม่รัก และเขาอาจจะหายตัวไปเมื่อไหร่ก็ได้”ถ้าเธอมัวแต่คิดว่าจากที่เขาชอบเล่นๆ จะกลายมาเป็นความรักได้ ก็จงรอต่อไปเถอะ อยู่กับความโลเลแล้วเมื่อไหร่จะเจอรักแท้ที่มั่นคงล่ะ!
5. คิดใหม่ซิว่าที่เขาบอกรัก เชื่อได้แค่ไหน!
ลองคิดทบทวนดูซิ ที่เขาบอก “รัก” เธอ แน่ใจจริงๆ ไม่ใช่เงินในกระเป๋า รถยนต์ บัตรเกม ทรัพย์สินทั้งหลายแหล่เธอเป็น“แม่บุญทุ่ม”ยอมจ่าย ยอมเปย์ให้เขาตลอดเวลาที่เขาร้องขอเลยหรือเปล่าเข้าทำนองเสียเป็นแสน แขนก็ไม่ได้จับ!น่าเสียดายที่บางคนยอมจ่ายเงินเป็นปึกๆ ให้ผู้ชายคนหนึ่งเพื่อหลอกตัวเองไปวันๆ ว่า“เขารักเธอ”
เอาล่ะ แม่สาวผู้โหยหาความรักทั้งหลาย! เธอจ่ายเงินให้ผู้ชายที่เรียกตัวเองว่า “แฟน” เสียจนหมดหน้าตัก ถามว่าเขาเคยให้อะไรตอบแทนเธอบ้างคำว่ารักของเขาเชื่อถือได้แค่ไหนจำไว้เถอะ ความรักที่เริ่มจากเงิน ไม่มีทางเป็นความรักที่แท้จริงไปได้หรอกเขาเห็นเธอเป็นแค่กระเป๋าเงินเคลื่อนที่เท่านั้นแหละค่ะ
6. เมื่อเลิกกัน เธออาจต้องเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว!
เมื่อยื้อเขาต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ ความสัมพันธ์ที่ง่อนแง่นก็ต้องจบลง ความรักขาดสะบั้น! (หรืออาจจะไม่เคยมีตั้งแต่แรกก็เป็นได้…) สายใยที่เคยมีก็ไม่เหลืออีกต่อไปเขาอาจไม่เคยมีความห่วงใยให้กับเธอเลยด้วยซ้ำ ของไม่เคยเริ่ม จะให้จบได้อย่างไรกันล่ะ (โอย เจ็บจี๊ด)
เมื่อแก้วเริ่มมีรอยร้าว เธอเป็นฝ่ายคอยอุดรูรั่วอยู่ฝ่ายเดียว พยายามดึง รั้งเขาไว้ให้อยู่กับตัว แต่คนจะไปยังไงก็ห้ามไม่อยู่เขาสะบัดมือเธออย่างแรงและลอยไปตามทางของเขา โดยที่เราได้แต่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ เท่านั้นเองจะกรีดร้อง น้ำตาไหลเป็นสายเลือดเท่าไหร่ ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม
จำไว้เถอะว่า ความสัมพันธ์แบบนี้ ถ้าถึงเวลาแยกทาง เธอนั่นแหละจะเจ็บอยู่คนเดียว เผลอๆ เขาอาจมีแฟนใหม่รออยู่แล้วด้วยซ้ำ!
7. เธอจะคอยโทษตัวเองถ้าเขาบอกเลิก!
หากรักกันหวานจี๋จ๋าอยู่ดีๆ เขาก็เห็นว่าเงินของเธอเกลี้ยงกระเป๋า จึงตัดสินใจขอ “ห่างกันสักพัก” หรือที่เรียกว่าบอกเลิกนั่นแหละ!เขาพยายามจะไปหาที่“เกาะ”ใหม่นั่นเอง แต่แทนที่เธอจะคิดว่าหมดเวรหมดกรรมต่อกันสักที เธอกลับเฝ้าแต่โทษตัวเองตลอดเวลาว่า“ฉันทำผิดอะไร?”, “ฉันให้เงินเขาน้อยไปเหรอ?”, “ฉันจุ้นจ้านกับเขามากไปหรือเปล่า?”โถ ดราม่าไปอีก!
ช่วงเวลาเก่าๆ ย้อนกลับมาเหมือนหมุนเทปยืด เธอย้ำกับตัวเองเหมือนคนบ้าว่าเธอเป็นฝ่ายผิดเอง กอดขา กอดเข่าอีกฝ่ายไม่ให้ไปเราอยากบอก (เหมือนที่บอกในหลายๆ ข้อ) ว่าให้ปล่อยเขาไปซะ!เธออาจจะเก็บตุ๊กตา ดอกกุหลาบที่เขาให้ไว้เป็นความทรงจำก็ได้ แต่อย่าไปรั้งคนที่ไม่อยากอยู่กับเราเลยดีกว่า!(แต่ทางที่ดี เก็บทิ้งให้หมดเลยค่ะ แนะนำเป็นการส่วนตัว!)
รักข้างเดียวมันเจ็บปวดแบบนี้เองสินะ! ความสัมพันธ์ที่ทั้งสองฝ่ายรักไม่เท่ากันมันเจ็บปวด!ถ้าเธออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงหรือเดิมพันให้เขารักเธอตอบเด็ดขาด!อย่าเสียสละในเรื่องผิดๆ อย่างยอมให้เขายืมเงิน ยอมถูกด่าทั้งที่เขาเป็นคนผิด เพราะจะยิ่งทำให้ผู้ชายคนนี้เคยตัวและคิดว่าเธอเป็น “ทาส” ไม่ใช่ “แฟน”ในที่สุดชีวิตรักก็ไปไม่รอดอยู่ดี(และผู้ชายที่ดีก็ไม่ควรปล่อยให้แฟนออกหน้าแทนด้วย) (」`o´)」
ถ้าจะรัก จงรักอย่างมีสติ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ถอยออกมาสักหนึ่งก้าว บางทีเธออาจได้ “ดวงตาเห็นธรรม” ว่าควรทำอย่างไรต่อไปค่ะ แล้วเจอกันบทความหน้านะคะสาวๆ ^____^
