วันนี้ก็จะมาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ

ผลิตภัณฑ์ น้ำมันปลา Fish oil ของ Mega we care

กันน้า

เพื่อนๆ เคยทานอาหารเสริม Fish oil กันไหม แล้วทราบไหมว่า Fish oil ช่วยอะไรบ้าง เราทานทำไม แล้ว Fish oil แบบไหนถึงจะดี บทความนี้เราจะมาพูดเรื่องประโยชน์ของ Fish oil

ก่อนอื่นก่อนเพื่อนๆจะซื้อ Fish oil มา รู้ไหมว่า Fish oil ยี่ห้อนั้นนำน้ำมันปลามาจากแหล่งไหน

Fish oil ควรผลิตมาจากปลาที่ดีที่สุดโดยเรียงลำดับดีมากที่สุดลงไปหาน้อยคือ

ปลาทะเลน้ำเย็น

ปลาทะเลน้ำลึก

ปลาทะเลตามธรรมชาติ

ปลาเลี้ยงในฟาร์ม

ปลาทะเลน้ำตื้น บริเวณชายฝั่งซึ่งอันนี้จะเสี่ยงอาจมีสารพิษตกค้างในน้ำมันปลา

ซึ่ง  Fish oil ของ Mega we care วัตถุดิบเค้ามาจาก

ปลาทะเลน้ำลึกเขตหนาวจาก ไอซ์แลนด์

ที่ให้ปริมาณกรดไขมันโอเมก้า-3 สูง ก็ถือว่ามีคุณภาพดีมากๆ เลย

รูปภาพ:

สิ่งที่ทำให้คุณค่าของ Fish oil แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันนั่นก็คือ กรดไขมัน 2 ตัว ชื่อ EPA และ DHA ซึ่งอยู่ใน Fish oil เป็นตัวที่มีคุณค่าต่อสุขภาพ แต่

จากการสำรวจยี่ห้อดังๆของ Fish oil เทียบกับ Fish oil ของ Mega we care ก็พบว่ามีเท่ากันหมดเลยนะ

คือมี

ไขมัน Omega 3 1000 มิลลิกรัม ประกอบด้วย

กรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก ( อีพีเอ ) 180 มิลลิกรัม

กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก ( ดีเอชเอ ) 120 มิลลิกรัม

นอกจากนี้ของ Mega we care ยังมี

วิตามินอี 1.4 มิลลิกรัม

สมาคมโรคหัวใจอเมริกัน ( American Heart Association; AHA ) ได้แนะนำชาวอเมริกันว่า การทาน Fish oil

วันละ 3000 มิลลกรัม ถือว่าเป็นขนาดที่ปลอดภัย

จากคำแนะนำของWorld Health Organization และ North Atlantic Treaty Organisation เขาบอกว่า ใน 1 วันควรได้รับ EPA+DHA 0.3 ถึง 0.5 กรัม ต่อวัน ซึ่งถ้าเรารับประทาน Fish oil ของ Mega wecare วันละ 1เม็ดก็ถือว่าเพียงพอฮะ

เพราะเราจะได้ EPA+DHA = 180+120 = 300 มิลลิกรัม หรือ 0.3 กรัมต่อวัน

กลไกของ Omega 3 ในร่างกาย

กลไกของ omega3 ในการช่วยลดการอักเสบจะเกี่ยวข้องกับ omega6 ซึ่งจากการวิจัยจะบอกว่า พวกเราในชีวิตประจำวัน ได้รับ omega6 กันเยอะมาก เพราะจากน้ำมันพืช ของทอดทั้งหลาย แต่เขาแนะนำว่าเราต้องทาน omega6 ในสัดส่วนที่น้อยลง และควรได้รับ omega3 ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น

เอ๊ะ ทำไม omega6 มันเกี่ยวกับ omega3

ร่างกายเรามีเอนไซม์ตัวหนึ่ง ชื่อ Delta 6 desaturase ( D6D ) ซึ่งใช้สำหรับเปลี่ยนร่างไขมัน omega6 และomega3 ให้เป็นกรดไขมันตัวอื่นๆ ที่สำคัญคือ กรดไขมันสองตัวมันแย่งกันใช้เอนไซม์!

เมื่อเราได้รับ

Omegaุ6

ซึ่งมี Linoleic acid มันจะถูกเอนไซม์ D6D เปลี่ยนให้กลายเป็น

Arachidonic acid

ซึ่ง

มีบทบาทในการส่งเสริมการอักเสบ ทำให้เสริมอาการของโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ

ในขณะที่เมื่อเราทาน

Omega3

เข้าไปซึ่งมีกรดไขมัน Alpha-linolenic acid ( ALA )

แย่งยื้อเอาเอนไซม์ D6D มาใช้ ซึ่งทำให้ได้ EPA และ DHA

ซึ่งถ้าใครที่ไม่ค่อยได้ทานปลา จะได้รับ EPA DHAน้อยมากกก ไม่เพียงพอที่จะสู้กับโรค

เพราะฉะนั้น ยิ่งเราทานน้ำมันจากน้ำมันพืช

เรายิ่งได้ omega6 มาก เราจะยิ่งได้รับ EPA และDHA ที่น้อยลงยิ่งไปกว่านี้อีกนั่นเอง

แถม EPA และ DHA ยังเป็นกรดไขมันที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพมากมาย

คุณประโยชน์ของ Omrga3 ( ALA, EPA, DHA )

1. Omega-3 ช่วย

ลดโรคซึมเศร้า ลดความกังวลใจ

EPA จะมีฤทธิ์ช่วยแก้อาการซึมเศร้าได้มากที่สุด

2. Omega-3 ช่วย

บำรุงสายตา

โดยDHA จะช่วยบำรุงเรติน่า

3. Omega-3

ลดไขมันในเลือด คือค่า Triglycerides

ซึ่งช่วยให้ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ แต่ถ้าใครไขมันเลือดสูงแบบ Cholesterolสูง แต่Triglyceridesปกติ ก็อาจจะไม่ได้ช่วยนะ

4. Omega-3 ช่วย

ลดความดันโลหิตสูง การดื้ออินซูลิน

5. Omega-3 ช่วย

ต่อสู้กับการอักเสบ

ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ โรคมะเร็ง หรือโรคร้ายแรงอื่นๆ

6. Omega-3 อาจช่วยแก้ไขโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เช่น

โรคเบาหวานtype1 โรคปวดข้อรูมาตอยด์

7. Omega-3 ช่วยบรรเทาโรคทางจิตประสาท เช่น

โรคจิตเภท โรคอารมณ์สองขั้ว

8. Omega-3 ช่วย

ป้องกันภาวะสมองเสื่อม

รวมทั้งโรคอัลไซเมอร์

9. Omega-3 ช่วยให้

นอนหลับง่ายขึ้น

เนื่องจากDHA มีส่วนช่วยเพิ่มระดับเมลาโทนิน

10. Omega-3 ช่วย

ส่งเสริมสุขภาพของผิวหนังและเส้นผม

เพราะDHAเป็นวัตถุดิบในการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ เมื่อได้รับDHA จะช่วยให้

ผิวหนังอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น ลบรอยเหี่ยวย่นจากความชรา

ส่วนEPA ก็ช่วยเสริมสร้างไขมันให้ผิวหนัง เติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง

บำรุงต่อมรากผม ป้องกันผิวเหี่ยวย่นก่อนวัย ป้องกันการเกิดสิวที่ใบหน้า

แล้วเราต้องทาน Fish oil อย่างไร

ผู้ใหญ่กินน้ำมันปลาชนิดแคปซูล สามารถกินได้วันละ 1 แคปซูลหลังอาหารเช้า

ถ้าทานเพื่อให้ลดการอักเสบของข้อ หรือป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด ให้ทานถึง 2-4 กรัมต่อวัน

ถ้าทาน 2 เม็ด ทานเช้า เย็น หลังอาหาร

ถ้าทาน 3 เม็ด ทานเช้า กลางวัน เย็น หลังอาหาร

ที่ต้องหลังอาหารเพราะน้ำมันปลาเป็นน้ำมัน ละลายได้ดีในไขมันจึงควรให้มีอาหารซึ่งมีไขมันมาเป็นตัวละลายน้ำมนัปลาของเรานะ

ข้อควรระวังเกี่ยวกับ Fish Oil

เนื่องจาก

Fish oil มันมีอันตรกิริยา กับยาหลายตัวเหมือนกันนะ

แม้แต่ยาแก้ท้องเสีย เรายังพบว่ามันมีผลรบกวนกับยาเลย อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้

สำหรับ

ใครที่กำลังทานยาโรคประจำตัวไปด้วย ควรปรึกษาหมอหรือเภสัชกร

เพื่อจะได้รู้ว่ามันไปเสริมฤทธิ์หรือลดฤทะฺ์อะไรของยารึเปล่า

โดยเฉพาะ

ยาละลายลิ่มเลือด และแอสไพริน อันนี้แน่นอนว่าไม่ควรทาน Fish oil นะ

เพราะมันจะยิ่งที่ให้เลือดไหลดีมากกว่าเดิม แล้วก็คนเป็นโรคเกี่ยวกับมีเลือดออกง่าย ก็ไม่ควรทานนะ

ใครที่ต้องไป

ทำฟัน หรือผ่าตัด ก็ควรงดเว้น Fish oil

เป็นเวลา 14 วันเป็นอย่างน้อย

ช่วงใกล้คลอดก็ไม่แนะนำนะ

เพราะยิ่งเราเสียเลือด ทาน Fish oil เลือดยิ่งไหลออกมากเลย