ชุมชนเก่าหัวตะเข้ ชุมชนเก่าแก่ริมคลองอายุกว่าร้อยปีย่านลาดกระบัง ยังคงมนต์เสน่ห์ของอาคารไม้ มุงหลังคาด้วยสังกะสี กลิ่นอายของบรรยากาศเก่าๆ ยังหลงเหลืออยู่จนถึงปัจจุบัน

วันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งที เราก็ไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมชมบ้านริมคลองสักหน่อย ไปเดินชิลๆ หาของกินอร่อยๆ แม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็เดินทางไปได้อย่างสะดวกสบาย

เราเริ่มต้นที่ Airport Rail Link มักกะสัน เพื่อไปที่สถานีลาดกระบัง ค่าตั๋วราคา 30 บาท



รูปภาพ:รูปภาพ:

ถึงลาดกระบัง ก็เดินมาที่ด้านหน้าสถานี เพื่อมาขึ้นรถสองแถวสาย 333 ค่ารถ 8 บาท

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

นั่งรถสองแถวมาลงที่ซอยลาดกระบัง 17 หรือตลาดสดอุดมผล จากนั้นก็เดินเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอกับป้ายตลาดเก่าหัวตะเข้

รูปภาพ:รูปภาพ:

ตลาดเก่าหัวตะเข้เป็นตลาดเล็กๆ มีร้านอาหาร, คาเฟ่, ร้านกาแฟ และแหล่งข้อมูลความรู้ชุมชน ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาแวะเวียน, เยี่ยมชม ร้านค้าและผู้คนอาจจะไม่พลุกพล่านมาก แต่สัมผัสได้ถึงความสงบและเสน่ห์ของชุมชนริมน้ำ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

มาถึงก็เริ่มหิว เรามาที่ร้านอาหารตามสั่ง สั่งผัดไทยกับทะเลทอด หน้าตาดี คุณภาพดี และราคาดี จานละ 40 บาทเท่านั้น ผัดไทยผัดแบบแฉะๆ หน่อย กุ้งตัวใหญ่ ส่วนทะเลทอด ใส่กุ้ง,หมึก, หอย วัตถุดิบสดดี นั่งกินไป ก็รับลมริมคลองไปด้วย ชิลสุดๆ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

จากนั้นก็มาต่อกันที่ร้าน สี่แยกหัวตะเข้ Cafe & Guesthouse วันเสาร์-อาทิตย์ร้านนี้เป็นร้านที่ฮอตฮิตสุดๆ โต๊ะเต็ม ยืนรอคิวสักพักถึงได้โต๊ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ที่ร้านมีอาหารให้เลือกหลากหลาย ทั้งเมนูข้าว, เมนูเส้น, ของทานเล่น, ขนมหวาน และเครื่องดื่ม เราก็จัดมาเบาๆ คือมาม่าทะเลต้มยำน้ำข้น, ปังปิ้งเนยนม, ไวท์มอลต์เย็นและโกโก้เย็น

รูปภาพ:

มาม่าทะเลฯ ใส่กุ้ง,หมึก, คะน้า, เห็ด และไข่ เส้นมาม่าต้มมาแบบเหนียวนุ่ม เส้นไม่แข็ง แต่น้ำซุปเค็มไปหน่อย

รูปภาพ:

ปังปิ้งเนยนม ปิ้งมาพอดี ตรงขอบกรอบๆ ข้างในนุ่มๆ ทาเนยทั่วแผ่นและนมไม่แฉะเกินไป

รูปภาพ:

ส่วนไวท์มอลต์นี้ชนะใจเรา หอมกลิ่นนม, กลิ่นมอลต์ หวานกำลังดี ดื่มแล้วสดชื่นมาก และชอบที่ทางร้านใช้หลอดกระดาษด้วย

รูปภาพ:

ระหว่างทานก็นั่งมองบรรยากาศในร้านบ้าง นอกร้านบ้าง สบายตาดี

รูปภาพ:รูปภาพ:

หลังจากทานเสร็จ ก็เดินเล่น เดินย่อยกันต่อ ใกล้ๆ ร้านสี่แยกฯ มีสะพานไม้ที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกัน ขึ้นมาบนสะพานก็จะได้เห็นวิวบ้านเรือนโบราณริมคลอง ในบรรยากาศที่เงียบสงบ ถ้าข้ามสะพานแล้วเดินไปอีกนิด ก็มีภาพกราฟฟิตี้ให้ได้ถ่ายรูปด้วย (ภาพไม่เยอะมากและบางภาพสีเริ่มจางแล้ว)

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

กลับเข้ามาในตัวตลาด มีร้านกาแฟ, ร้านขนมและไอศครีมโฮมเมดด้วย แต่เรายังอิ่มอยู่ เลยเดินเล่น, ถ่ายรูป ซึบซับบรรยากาศเก่าๆ คลาสสิคๆ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ขากลับเราเลือกกลับโดยรถไฟ โดยไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟหัวตะเข้ ระหว่างเดินไปสถานีว่าจะแวะไปดูภาพกราฟฟิตี้แถววิทยาลัยช่างศิลปก่อน พอเดินไปถึงฝนตกปรอยๆ ดูจากท้องฟ้าแล้วฝนน่าจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ เลยรีบเดินไปที่สถานีรถไฟ และอดถ่ายรูปไปตามระเบียบ

รูปภาพ:รูปภาพ:

มาถึงสถานีรถไฟหัวตะเข้ ก็ซื้อตั๋วกลับ ค่าตั๋วคนละ 7 บาท รถไฟมาจากฉะเชิงเทรา จะออกเวลา 17.06 น.

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ใครที่กำลังหาที่เที่ยว หรือที่นั่งอ่านหนังสือ นั่งทำงาน ในบรรยากาศชิลๆ ลมเย็น สบายๆ ที่ตลาดหัวตะเข้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้จะเป็นตลาดเล็กๆ แต่ไม่จอแจและไม่วุ่นวายมากนัก การเดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ ราคาอาหาร/เครื่องดื่มก็ไม่แพงอีกด้วย

สรุปค่าใช้จ่าย (ต่อคน)

- Airport Link 30 บาท

- รถสองแถว 8 บาท

- ผัดไทย-ทะเลทอด 40 บาท

- สี่แยกหัวตะเข้ 75 บาท

- รถไฟกลับ 7 บาท

รวม160 บาท/คน