ไฮค่าซิสสสส

เชื่อว่าเคยเจอกันทุกคน!! ฟีลประมาณว่า ไปแพ้น้ำ แพ้เครื่องสำอาง อะไรสักอย่างมา, โดนมด แมลงกัดหน้า หรืออยู่ในช่วงมีประจำเดือน อะไรก็ตาม ก็คือ' หน้าพัง 'แต่สวรรค์ดันเป็นใจ ( หรือนรกลงโทษก็ไม่รู้ - - ) ให้ต้องไปอีเวนต์สำคัญด่วนจี๋!!

งานแต่งเพื่อนสนิทเอย งานรับปริญญาญาติเอย แต่พอจะแต่งหน้ากลบ ทั้งสิวอักเสบ รอยหมองคล้ำ อยู่ครบเลย

ยิ่งปัดให้หน้าฉ่ำ ก็เหมือนไปเน้นหลุมสิว ไปกันใหญ่ ส่องกระจกแล้วจะกรี๊ด! ไม่ไหวจริง จะแต่งหน้าไงให้สวยดีอะ ถ้าสภาพหน้าเป็นงี้??

มันก็พอมีทางอยู่นะ! ถึงผิวเดิมเธอจะพังแค่ไหน ก็พอมีทริคจะ ' สร้างผิวขึ้นมาใหม่ ' เหมือนเป็น second skin ได้ แถมยังดูเป็นงานผิว ไม่หนา ไม่โบกปูนได้ด้วยนะเอ้อ!

แค่ต้องรู้จักใช้รองพื้น คอนซีลเลอร์และแป้งให้เป็น ใช้แปรงให้ถูกประเภทแค่นั้นเอง

เธอก็ทำได้ แค่อ่าน

' 8 ทริคแต่งหน้าเพื่อผิวโกลว์ฉ่ำ สวยใส ' แม้ผิวเดิมจะพังแค่ไหนก็ตาม

มาค่ะ มาตามเราไปดูกัน ว่าต้องเริ่มจากสเต็ปอะไรบ้าง

1. ลืม 'วิธีแต่งหน้าแบบเดิมๆ ที่เคยทำ' ไปก่อนเลย!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/12/ZmOKtk.jpg

เนื่องจากตอนนี้สภาพผิวของเธอ ' ไม่ปกติ ' ดังนั้นขอให้ลืมขั้นตอนการแต่งหน้าแบบเดิมๆ ที่เคยใช้ทุกวันไปก่อน ส่องกระจกดีๆ แล้วดูว่า มีปัญหาผิวอะไรที่ต้องการปกปิดบ้าง

ซึ่งเวลาหน้าพังแต่ละครั้ง ก็ไม่ได้พังในจุดเดิมๆ ซ้ำกันใช่ไหมล่ะ? ครั้งนี้อาจมีรอยแดง ต่อไปหน้าบวม ครั้งหน้าอีกอาจเป็นสิวเม็ดเป้งก็ได้!

ดังนั้นควรศึกษาการแต่งหน้าปกปิดปัญหาผิวไว้หลายๆ แบบ ทั้งการใช้แปรง ใช้ฟองน้ำ ใช้นิ้ว และมีเครื่องสำอางไว้หลายๆ เนื้อสัมผัสด้วยยิ่งดี เพราะปัญหาผิวแต่ละอย่าง ก็ตอบสนองกับเมคอัพเนื้อต่างกัน

เช่น สิวต้องใช้คอนซีลเลอร์เนื้อครีม แต่รอยสิวเล็กๆ แค่แบบลิควิดก็พอ เป็นต้น

2. ใช้ 'สกินแคร์' แทน 'ไพรเมอร์'

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/12/Zml97J.jpg

ลองนึกสภาพหน้าพัง หน้าสิว จุดด่างดำเพียบสิ ยิ่งใช้ไพรเมอร์พอกลงไป บางทียิ่งเน้นปัญหาให้ดูชัดขึ้นมากกว่า! คือจริงๆ ขั้นตอนการแต่งหน้าที่ดี ก็ต้องเตรียมผิวให้ดูเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ก่อนลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์นั่นแหละแต่เราแนะนำให้เธอใช้พวกสกินแคร์ เช่น โลชั่นเนื้อบาง หรือน้ำตบเอสเซนส์จะดีกว่า เพราะทำให้ผิวสดชื่นจากภายใน อีกทั้งไพรเมอร์บางตัวจะทำปฏิกิริยากับรองพื้น ทำให้เห็นผิวที่ไม่โอเคนั่นเองแต่ถ้าไม่อยากทาครีมอะไรให้เหนียวหน้า ก็มีอีกหลายทาง เช่น ใช้โทนเนอร์แบบแผ่น ที่จะมีด้านนึงเรียบๆ ไว้เช็ดหน้า และอีกด้านขรุขระไว้ผลัดเซลล์ผิว เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกไป พร้อมแต่งหน้าให้ดูฉ่ำวาว( แต่ครีมกันแดดต้องทาทุกคนนะ เพื่อป้องกันรังสียูวีไม่ให้หน้าพังไปมากกว่านี้ ) หรือมาส์กหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาทีก่อนแต่งหน้าก็ช่วยได้ ช่างแต่งหน้านิยมทำวิธีนี้ให้ดาราก่อนแต่งหน้า ด้วยค่ะและถ้าพอมีงบ แนะนำให้ใช้ ' โรลกลิ้งหน้า ( face roller ) ' นำมากลิ้งบริเวณกราม ไปจนถึงโหนกแก้ม ช่วยลดหน้าบวมได้ดีสุดๆ คอนเฟิร์ม!!

3. รู้จักใช้รองพื้นที่เหมาะกับ 'สีผิวจริง' ของตัวเอง

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/12/Zm2pXz.jpg

เมื่อก่อนรองพื้นแต่งหน้า จะมีวนๆ อยู่ไม่กี่ยี่ห้อ ไม่กี่สี ทั้งที่ผิวผู้หญิงมีหลากหลายมากๆ ทั้งผิวขาว ผิวสองสี ผิวน้ำผึ้ง ผิวคล้ำแต่ตอนนี้เรามียี่ห้อรองพื้นที่หลากหลายมากขึ้น บางยี่ห้อมีมากกว่า 40 เฉดสีออกมาแล้ว ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ เราจะได้ผิวหน้าที่มีมีติ ดูเรียวเป็นธรรมชาติมากขึ้น ดูไม่หลอก ไม่ปลอม!!และถ้าเราได้สีผิวที่ตรงกับสีรองพื้นพอดี ก็จะกลบปัญหาผิวได้กริบ เนียน ไม่มีเศษเสี้ยวของรอยสิวมาให้ช้ำใจเล่นด้วยค่ะวิธีทดสอบก็ไม่ยาก แค่ลองนำรองพื้นสีนั้นมาทาที่สันกราม ถ้าสียังตัดกันชัดเจนอยู่ แปลว่าไม่เข้ากับผิว ให้ลองไปจนกว่าสีรองพื้นกับสีผิวหน้า กลืนจนแยกไม่ออกว่าทารองพื้นไว้ตรงไหนนั่นแหละ ซื้อสีนั้นได้เลย กลบผิวได้สวยเนียนแน่นอนทั้งนี้ทั้งนั้น ผิวหน้าของเราไม่ได้สีเดิมตลอดเวลา ถ้าพอมีงบอยู่บ้าง แนะนำให้ซื้อรองพื้นเฉดสีอ่อนและเข้ม มากกว่าเฉดสีจริงของเรา 1 เฉด เก็บไว้ เผื่อวันไหนผิวไม่เจอแดด ซีดขึ้นก็ใช้สีอ่อน เจอแดดแรงมาก็ใช้สีเข้มหรือถ้าอยากได้แบบงานผิวจริงๆ แนะทริคให้หยดรองพื้นทั้ง 3 เฉดสีในถาดผสม คนให้เข้ากันแล้วใช้ฟองน้ำเกลี่ยบนผิวหน้า ผิวจะดูอิ่มๆ เป็นธรรมชาติมากกว่าใช้รองพื้นสีเดียวค่ะ

4. ทำผิวให้ 'โกลว์ฉ่ำ' อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยไฮไลท์เตอร์ และเซ็ตติ้งสเปรย์

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/12/Zmj44u.jpg

เข้าสู่ขั้นตอนของการเสกผิวฉ่ำ! เมื่อลงผิวเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ ' ไฮไลท์เตอร์ ' แตะตามจุดต่างๆ บนผิวหน้า เพื่อสร้างมิติให้ผิว ถ้าแตะถูกจุด มันจะดูโกลว์แบบไม่มันเมือก ไม่เยิ้ม

แนะนำให้ใช้แบบเนื้อครีม ผิวจะดูชุ่มชื้น โดยแตะบนหว่างคิ้ว แตะที่แก้มนิดหน่อย และกรามนิดๆ เพื่อให้ลุคที่ดูสดใส เฟรชๆ เหมือนเด็กวัยมัธยม แตะนะคะ ย้ำว่าแตะ อย่าปาด เดี๋ยวจะกลายเป็นลูกนิมิตเด้อ!

ต่อไปก็ตามด้วย ' เซ็ตติ้งสเปรย์ ' ( หรือถ้าไม่มี จะใช้สเปรย์น้ำแร่ก็ได้ ) ฉีดเบาๆ ให้ทั่วผิวหน้า จะได้ลุคหน้าโกลว์ใส แบบไม่มันค่ะ

5. ใช้คอนซีลเลอร์พาเลท 'หลายเฉดในตลับเดียว' เก็บรอยทุกชนิดบนหน้า

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/12/Zmj1pE.jpg

ยิ่งมีปัญหาผิวเยอะ หลากชนิดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องใช้ ' พาเลทคอนซีลเลอร์ ' หลายสีมากขึ้นเท่านั้น นอกจากจะใช้แทนรองพื้นได้แล้ว ยังสามารถปกปิดรอยสิวและรอยคล้ำใต้ตาได้อีกด้วย!โดยแนะนำให้ใช้บีบี / ซีซีครีมทาให้ทั่วผิวหน้าก่อน แล้วใช้คอนซีลเลอร์ชนิด Full-Coverage ปกปิดในส่วนที่มีปัญหามีทริคง่ายๆ ว่า ถ้าจะปิดใต้ตา ให้ใช้อายไพรเมอร์ลงบางๆ ก่อน เมื่อไพรเมอร์แห้ง ค่อยทาคอนซีลเลอร์ลงไป จะเพิ่มคุณสมบัติให้ติดทนนานมากขึ้นค่ะในส่วนของการปิดรอยคล้ำใต้ตา ควรใช้คอนซีลเลอร์สีสว่างกว่าสีผิวจริงหนึ่งเฉด เพื่อลบความหมอง ( ผิวสีม่วงใต้ตา ) แต่ถ้ากลัวว่ายิ่งใช้สีสว่าง จะยิ่งเน้นความคล้ำ ให้ดูว่าเป็นรอยคล้ำ หรือรอยแดงกันแน่ถ้ารอยคล้ำให้ใช้สีชมพู ถ้ารอยแดงให้ใช้สีเขียว รับรองใต้ตาเนียนกริ๊บ ไม่ดูปลอมแน่นอนจ้า

6. อย่าลืมการ 'คอนทัวร์' ให้หน้าเรียวด้วยจ้า!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/12/ZmjR0S.jpg

การคอนทัวร์ก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอน ที่จะทำให้หน้าคมชัด มีมิติ ไม่ดูแบน โดยเราแนะนำให้ใช้บรอนเซอร์แบบลิควิด เพื่อสามารถวาดเงาตามโครงหน้าได้ง่าย

ด้วยความเป็นเนื้อครีม เวลาใช้แปรงทามันจะกลืนไปกับผิว ไม่ดูหลอก มีความเงานิดๆ ให้ดูสวย สร้างงานผิวภายใต้เนื้อแป้ง แต่อยู่เหนือรองพื้น

ในส่วนของเฉดสีคอนทัวร์ จะมีทั้งเฉด taupe ( น้ำตาลอมเทา ) และเฉดสีติดส้ม ( orangey ) ถ้าใช้สี taupe จะดูฟุ้งๆ เข้ากับผิวขาว ส่วนเฉด orangey จะเหมาะกับผิวแทน ผิวบ่มแดด

ลองเลือกตามสีผิวของตัวเองได้เลยนะคะ

7. เปลี่ยนเซ็ตและชนิด 'แปรงแต่งหน้า' ให้เข้ากับสภาพผิว

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/12/ZmjorJ.jpg

ใครที่ติดใช้แปรงกับเมคอัพทุกอย่าง ขอให้เปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะในเวลาที่ผิวเราไม่โอเคบางทีการใช้ ' นิ้วมือ ' ของเราเกลี่ยเนี่ย อาจได้งานผิวที่เนียนละมุนกว่าใช้แปรงด้วยซ้ำ ที่สำคัญเกลี่ยได้ไวกว่าด้วยค่ะซิส!ลองลดจำนวนแปรงลง แล้วใช้แค่แปรงที่สำคัญ ที่ยังไงก็ดีกว่าใช้นิ้ว เช่น แปรงปัดแป้งฝุ่น แปรงเฉดดิ้งคอนทัวร์ แปรงปัดบลัชออน หรือแปรงทามุมปากให้สีลิปสติกเนี้ยบโละแปรงเกลี่ยรองพื้นแล้วใช้นิ้วเกลี่ยแทน จะได้งานผิวที่ดูธรรมชาติ ไม่เป็นปื้น ไม่ตกร่อง และไม่เป็นรอยแปรงเป็นเส้นๆ ด้วยจ้า ให้สามผ่านไปเล้ย

8. ใช้ 'แป้งฝุ่นโปร่งแสง' แทนแป้งผสมรองพื้น

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/12/Zmj6j8.jpg

ถ้าพูดถึงแป้งสำหรับ ' งานผิวธรรมชาติ ' ดูฉ่ำแบบหน้าไม่แบน ไม่หนาเป็นปูน ก็ต้องนึกถึงแป้งฝุ่นโปร่งแสงแบบกระปุกอะเนอะ! แนะนำให้ใช้คู่กับแปรง ปัดๆ ให้แป้งกระจายนิดนึงก่อนปัดบนผิวหน้า จะได้ผิวที่ดูแมทแต่ไม่แห้งไม่พอกหน้าขาวเป็นชอล์ก ไม่เปลี่ยนสีของรองพื้นด้วย ใช้ครั้งนึงก็ปริมาณน้อย กระปุกนึงคุ้มค่า ใช้ได้นานแน่นอนถ้าอยากให้ฉ่ำกว่านี้อีก! ก็สามารถสเปรย์น้ำแร่ทับได้อีกรอบ ผิวหน้าจะดูฉ่ำ ดิวอี้สุดๆ หรือจะใช้มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางก็ได้บีบที่มือนิดนึง ถูๆ บนมือให้พออุ่น แล้วทาบนโหนกแก้ม จะได้ประกายวาวๆ แบบไม่มัน เชื่อว่าสาวซิสทุกคนต้องเลิฟค่ะ

---------------------

เห็นไหมว่า เทคนิคซ่อมผิวในสถานการณ์เร่งด่วนมันมีอยู่จริง! บางคนไม่รู้หลักแต่งหน้า ก็แต่งไม่ตรงจุด คิดว่าถ้ามีสิว มีรอยหมอง มีจุดด่างดำ ก็เอาคอนซีลเลอร์สีเดียวโปะๆ ไปก็พอ จนหน้าแข็งเป๊กเป็นตุ๊กตายาง - -แต่ที่จริงแล้ว มันต้องใช้อุปกรณ์หลายอย่าง เมคอัพหลายเฉดสี เพื่อสร้างผิวใหม่ที่ดูฉ่ำแต่ไม่ปลอมได้ ครั้งแรกอาจจะงงๆ จับคู่สี ใช้แปรงไม่เป็น แต่ฝึกไปเรื่อยๆ เธอก็จะแต่งได้เนียนขึ้นเรื่อยๆ เองค่ะ

เข้าใจว่าผู้หญิงไม่ได้สวยพร้อมออกงานได้ทุกวัน แต่วันไหนพัง เราก็ต้องมีวิธีแก้ไขปัญหา แค่นี้เราก็ดูสวย ( ในรูปถ่าย ) ได้ตลอดแล้ว อิอิ ^^ใครชอบก็ฝากกดฟอล กดหัวใจให้เราด้วยน้า ขอบคุณค่ะ แล้วเจอกันใหม่ บ๊ายบายย

---------------------