สวัสดีค่ะทุกคนนนนนนวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับน้ำมันปลา ( Fish Oil )กัน เพราะน้ำมันปลาเป็นที่นิยมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะอุดมไปด้วยสาร DHA หลายๆ คนคุ้นเคยกันว่า น้ำมันปลาทานแล้วสมองดี จนทำให้เราเรียนเก่งขึ้น แต่ทว่าน้ำมันปลาไม่ใช่มีแค่ทานแล้วบำรุงสมองเท่านั้นน้า แต่บำรุงทั้งหัวใจและข้ออักเสบ รวมไปถึงชะลอวัยแก่ นี่ขนาดเกริ่นมาเยอะนะเนี่ย เราจะมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ


รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/56/10/90/561090b4f8e593fe4b26a8ca2520d8b2.jpg

ความสำคัญของ "น้ำมันปลา"

รูปภาพ:https://content.fortune.com/wp-content/uploads/2018/11/fish-oil-amarin-vascepa-e1542061146807.jpg


น้ำมันปลา ( Fish Oil )

เป็นน้ำมันที่สกัดออกมาจากส่วนต่างๆ ของปลา เช่น เนื้อปลา หนังปลา หัวปลา เป็นต้น

ซึ่งมาจากปลาทะเลน้ำลึก ที่อุดมไปด้วย Omega 3 และ DHA ปริมาณมากกว่าปลาน้ำจืด

เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน ปลาแอนโชวี่ เป็นต้น

มีไขมันโอเมก้า 3 สูงถึง 1-4 กรัมต่อเนื้อปลา 100 กรัมมีบทบาทในการช่วยบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ บำรุงข้อเข่าอักเสบ รวมไปถึงชะลอวัยแก่อีกด้วย

ประโยชน์ของ "น้ำมันปลา"

รูปภาพ:https://cdn-prod.medicalnewstoday.com/content/images/articles/323/323144/sources-of-omega-3-and-healthy-fats.jpg

1. มีโอเมก้า 3 บำรุงสมองและหัวใจ ยับยั้งในการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ลดไขมันในเลือด ป้องกันการอุดตันในเลือดในส่วนต่างๆ ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดความดัน ลดการเต้นของหัวใจที่เต้นผิดปกติ

2. ลดการอักเสบ ปวด บวมของข้อเข่าเสื่อม ข้อรูมาตอยต์ และข้อยึดในตอนเช้า

3. มี DHA เสริมการทำงานของเซลล์สมอง การรับประทานน้ำมันปลาจะมีส่วนในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ ช่วยเพิ่มสารที่ช่วยลดเส้นใยในสมองเป็นตัวการทำลายส่วนความจำ อีกทั้งยังช่วยลดอาการไมเกรน ลดอาการซึมเศร้า สมาธิสั้น และโรคอารมณ์สองขั้ว

4. สำหรับคนที่เป็นโรคหอบหืด การรับประทานน้ำมันปลาอย่างต่อเนื่องจะช่วยบรรเทาโรคหอบหืดได้

5. การรับประทานปลาที่มีไขมันปริมาณมาก ทำให้บรรเทาอาการโรคผิวหนังได้ อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูุสดใส สุขภาพดี ชะลอความแก่ให้แลดูอ่อนเยาว์

ข้อควรระวัง

รูปภาพ:https://www.pobpad.com/wp-content/uploads/2017/02/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AA%E0%B9%89.jpg

1. ในน้ำมันปลามีส่วนผสมของโอเมก้า 3 ที่มีในส่วนช่วยของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดไหลช้าลง กรณีเป็นผู้ที่รับประทานเป็นประจำ อาจมีความเสี่ยงเกิดเลือดออกมากยิ่งขึ้น กรณีที่ผ่าตัด แผลในกระเพาะอาหาร ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรหยุดรับประทานก่อนรับการเข้าผ่าตัด 14 วัน

2. ผู้ที่แพ้น้ำมันปลา แพ้อาหารทะเล เช่น มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง หรือแม้แต่ใครไม่ได้แพ้น้ำมันปลา แต่มีอาการแบบนี้ ควรรับประทานหลังอาหารทันที แต่ไม่ต้องปริมาณมาก

3. ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ อาจต้องระมัดระวังในการรับประทาน

น้ำมันปลา vs น้ำมันตับปลา

รูปภาพ:https://selfhacked.com/cdn-cgi/image/fit=scale-down,w=784px,q=80,f=auto/app/uploads/2018/07/bigstock-223178311-min-1.jpg

น้ำมันปลาสกัดจาก

ปลาทะเลน้ำลึกส่วนหัว หาง เนื้อและหนัง

เต็มไปด้วยกรดไขมันดีมากมาย โดยเฉพาะ

DHA หรือ Docosahexaenoic Acid


เป็นไขมันในปลาที่มีมากที่สุด

และ

Omega 3

รู่จักกันดีในการบำรุงสมอง หัวใจ ผิวพรรณและข้อเข่าตามที่เราได้อธิบายข้างต้นไว้

ส่วน

น้ำมันตับปลา ( Cold Liver Fish Oil )

สกัดจากตับของปลาค็อด อุดมไปด้วย

วิตามิน เอ ช่วยสร้างเยื่อบุผิวหนังและกระดูก บำรุงสายตา และวิตามิน ดีช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกาย

แนะนำเมนูปลา

รูปภาพ:https://welovejapanesefood.com/101food/japan_tmpl/uploads/2016/06/sashimifood-foto.jpg

ซาชิมิ

เมนูอาหารญี่ปุ่นสุดฮิตที่ไม่สั่งไม่ได้แล้วค่ะ ของโปรดส้มเองค่ะ ซาซิมิ หรือ ปลาดิบ ประกอบด้วย ปลาแซลมอนสีส้มยั่วๆ ปลาทูน่าเนื้อแดงน่ากิน โดยปลาแต่ละชนิด ล้วนมีไขมันเยอะ จึงเต็มไปด้วยโอเมก้า 3 นิยมรับประทานกับโชยุและวาซาบิ หรือจะเอามาวางบนหน้าซูชิ ถึงแม้ว่าซาชิมิจะมีโอเมก้าก็จริง แต่ไม่ควรรับประทานเป็นประจำ อาจทำให้เกิดพยาธิได้

รูปภาพ:https://www.seasonedkitchen.com/wp-content/uploads/roasted-salmon-steaks-lemon-butter-seasonedkitchen.com_.jpg

สเต็กปลาแซลมอนย่าง

สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่ชอบทานซาชิมิ หรือ ปลาดิบ เราแนะนำเป็นปลาแซลมอนย่าง ไม่ว่าจะย่างซีอิ๊ว เทอริยากิ หรือย่างเกลือ ของโปรดของทุกคนไม่แพ้กัน เป็นปลาที่ผ่านความร้อนเพื่อทำให้สุกแล้ว แถมปลอดภัยและกินได้บ่อยด้วยน้าา

รูปภาพ:https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2017/06/IMG_20170612_174925-Copy.jpg

ปลาทูทอด

เมนูนี้เพื่อนๆ ทุกคนได้เคยทานกันหมดแล้ว ตอนเด็กๆ คุณแม่เคยทอดให้เราทาน เป็นปลาที่หาซื้อง่ายตามท้องตลาด ราคาไม่แพง เวลาตอนไปจ่ายตลาดมักจะเห็นเจ้าปลาทูนึ่งนอนในเข่ง นิยมนำไปทอดแล้วทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะจิ้มกับน้ำพริกกะปิก็อร่อยฟินเวอร์

รูปภาพ:https://img.taste.com.au/xg3XMRpy/taste/2016/11/mediterranean-tuna-salad-31059-1.jpeg

สลัดทูน่า

เอาใจสายคลีนกันหน่อย อย่างสลัดทูน่า เพียงแค่ใช้ทูน่ากระป๋อง(แนะนำสูตรในน้ำแร่) ใส่ในผักสลัดและคลุกเคล้ากับน้ำสลัดสุดฟิน เวลาคิดไม่ออกว่ามื้อเย็นทานอะไร แนะนำเมนูนี้ค่ะ

รูปภาพ:https://img.kapook.com/u/surauch/cook/Maccerel%20Manu2.jpg

ยำปลากระป๋อง

นิยมเป็นปลาซาร์ดีนหรือปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ ถึงจะเป็นแค่เมนูสิ้นคิดที่ทุกคนคิด แต่คุณประโยชน์เพียบ ทั้งโอเมก้า 3 และโปรตีน เพื่อนๆ หลายคนเคยทานและทำเป็นด้วย แค่เปิดกระป๋อง อุ่นร้อนๆ แล้วนำไปยำ และรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ อิ่มอร่อย แต่ไม่สิ้นคิดด้วยน้าา

รับประทาน "น้ำมันปลา" อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

ปกติคนเราต้องการโอเมก้า 3 จากน้ำมันปลา

วันละ 1,000-3,000 มิลลิกรัมต่อวัน

หากไม่ชอบรับประทานปลาเพราะกลัวกลิ่นคาว หรือนานๆ จะทานครั้งเพราะราคาสูงกว่าเนื้อสัตว์ทั่วไป เรามีทางเลือกก็คือ

" อาหารเสริม "

รูปภาพ:https://abcpharmacy.co.th/wp-content/uploads/2018/10/Mega-We-Care-Fish-Oil-1000mg.jpg

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม

Mega We Care Fish Oil 1000mg.

100 แคปซูล อาหารเสริมน้ำมันปลาธรรมชาติ อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ดีต่อสมอง หัวใจและข้อเข่า จากปลาทะเลน้ำลึกเขตหนาวจากประเทศไอซ์แลนด์ ปราศจากสารปนเปื้อน ผลการวิจัยทางการแพทย์มั่นใจว่าปลอดภัยและคงความประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ ข้อเข้าเสื่อม รูมาตอยด์ บำรุงสมอง สายตา

วิธีรับประทาน:

วันละ 3 แคปซูลหลังมื้ออาหาร

รูปภาพ:https://data.whicdn.com/images/303227671/superthumb.jpg?t=1513224593

เป็นอย่างไรบ้างคะเพื่อนๆ ได้ความรู้เกี่ยวกับน้ำมันปลา หรือ Fish Oil ตอนเด็กๆ เคยสอนว่าถ้าทานปลาแล้วจะฉลาด งั้นถ้าอ่านแล้วหาเมนูปลาแสนอร่อยมาทานบ้างแล้ว หรือถ้าเพื่อนๆ ไม่ค่อยได้ทานปลาหรือกลัวกลิ่นคาว ก็สามารถหาซื้ออาหารเสริม Fish Oil มาทานเองได้ที่ Watsons, Boots และร้านขายยาชั้นนำทั่วไป หวังว่าเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ทุกคนนะคะ ครั้งหน้าส้มจะมาเขียนเรื่องอะไร รอติดตามตอนหน้านะคะ