รูปภาพ:https://media2.giphy.com/media/ZwtwW9Ly3vJcI/giphy.gif

แต่ แด แด แด~~~ แต่ แด๊ แด่ แด~~ //หยิบผ้าคลุมหน้ามาใส่

ไฮค่าาา สาวซิสทั้งหลาย เราเชื่อว่าความฝันสูงสุดของหลายๆ คนที่อ่านอยู่ตอนนี้ ก็คงอยากเป็น 'เจ้าสาว 'ใช้เวลาทั้งชีวิตกับคนที่ใช่อะเนาะ คงมีความสุข โรแมนติกเหมือนในเทพนิยายทุกวันแน่ๆ ><แต่นึกภาพสาวๆ ต้องสละสถานะ ' โสด ' เป็น ' แต่งงานแล้ว ' ก็เรื่องใหญ่อยู่เด้อไหนจะต้องจัดงานแต่ง เตรียมการ์ด เตรียมสถานที่ ใครมีออร์แกไนซ์ก็ง่ายหน่อย แต่ใครทำเองหมดนะเธอเอ๊ยย หัวหกก้นขวิดกันสุดๆ #ใครว่าแต่งงานง่ายคะซิส??นอกจากช่วงเตรียมงานแล้ว ในวันงานก็ต้องเตรียมกำหนดการ ดูแลแขก ชุด หน้า ผมก็ต้องเป๊ะตลอดเวลา จะไปถ่ายรูปแขกทั้งที่หน้าเยิ้มก็ใช่ที่ ( แม้แขกคนนั้นจะเป็นคนที่ 13505 ก็ตาม )' การแต่งหน้าเจ้าสาว ' จึงมีทริคบางอย่างที่ไม่เหมือนแต่งหน้าทั่วไป เพราะต้องติดทน แต่ยังได้งานผิวฉ่ำ ซึ่งแอบซับซ้อนสำหรับมือใหม่ แต่ถ้าเธอไม่อยากเสียเงินจ้างช่าง ( เพราะงบหมด! ) ก็ลองอ่าน 8 ทริคเมคอัพ สำหรับเจ้าสาวมือใหม่ ให้หน้าสวยเนียน เป๊ะทั้งวันแบบที่เจ้าบ่าวไม่เผ่นหนีกลางงานแน่นอน อิอิ >.<พร้อมแล้วก็ เริ่มกันเล้ย!

1. ต้องเตรียมผิวหน้าขั้นตอนแรก ด้วย 'ไพรเมอร์' เสมอ!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9vp6y.jpg

ไม่ว่าจะผิวดี ผิวฉ่ำมงแต่เกิด หรือผิวพังแห้งกร้านมาตั้งแต่ชาติปางไหน ก็ห้ามพลาดขั้นตอนแรกของการแต่งหน้าอย่าง ' ทาไพรเมอร์ ' เด็ดขาด!

เพราะผิวหน้า ก็เปรียบเสมือนผืนดินที่ขรุขระ มีจุดด่างดำ ไม่สดใส ไม่เรียบเนียน 100% จึงต้องใช้ไพรเมอร์ปรับสภาพผิว เพื่อเตรียมพร้อมรับเครื่องสำอางอื่นๆ ต่อไปนั่นเองค่ะ

ทางที่ดี ควรเตรียมผิวด้วยการใช้ ' สกินแคร์ ' บำรุงผิวตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็นโทนเนอร์ มอยส์เจอไรเซอร์ สครับและมาส์ก อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนถึงวันงาน

แต่เพื่อความปลอดภัย อย่าใช้สครับที่ผิวหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ป้องกันอาการผิวระคายเคือง แต่ต้องทาครีม และใช้มาส์กหน้าทุกวัน มาส์กรัวๆ ไปเลยค่ะ รับรองวันงานผิวฉ่ำ อิ่มน้ำจากภายในแน่นอน แต่งหน้าเบาๆ ก็รอด #ผิวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง!


2. ลองแต่งหน้าหลายๆ แบบ ว่าสไตล์ไหนเหมาะกับเราที่สุด

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9GSd0.jpg

วันแต่งงาน คือวันที่เราควรมีความสุข และเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด อย่าปล่อยให้ช่างแต่งหน้าที่ไหนไม่รู้ มาดีไซน์หน้าเราว่าควรปรับตรงนั้น แก้ตรงนี้ สรุปได้หน้าใครมาไม่รู้ที่ไม่ใช่ตัวตนเราเลย โน!เธอควรลองให้เขาแต่งหลายๆ แบบ เช่น ลุคหวาน ลุคเนี้ยบ ลุคสดใส หรือลุคแซ่บหน่อยๆ เพื่อดูว่าแบบไหนเข้ากับชุดเจ้าสาวของเธอที่สุดเอาง่ายๆ เธอมั่นใจไปเจอหน้าแขกกับเมคอัพลุคไหน ก็เอาลุคนั้นแหละจำไว้ให้มั่นว่า ภาพถ่ายเจ้าสาวในวันแต่งงาน จะอยู่คู่กับเธอไปตลอดกาล เหมือนวันรับปริญญาที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้อีก ดังนั้นควรเลือกลุคเมคอัพที่เธอแฮปปี้ที่สุดนะคะ ^^ปล. แต่ถ้าอยากได้ลุคเจ้าสาวคลาสสิกๆ ที่เขานิยมแต่งกัน สวยทุกกาลเวลาทำผิวให้ใสเข้าไว้ ปัดแก้มสีชมพูอมส้ม ปากสีอ่อนๆ และแต่งตานิดๆ พอให้เปลือกตาดูมีมิติ ใช้อายไลเนอร์แบบเจลเขียนขอบตาให้ตาดูกลมโต ชัดขึ้นลุคนี้ถ่ายรูปสวย ใครแต่งก็รอดชัวร์!


3. เครื่องสำอางทุกขิ้นที่ใช้ ควรต้อง 'ติดทน'

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9yZEI.jpg

แม้งานแต่งจะจัดในห้องแอร์ ไม่ใช่สวนกลางแจ้งร้อนๆ เหงื่อชุ่ม แต่เชื่อเถอะว่า เธอได้วิ่งวุ่นทั้งวันแน่ ทั้งเชิญแขก พูดบนเวที เต้นในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เซลฟี่กับเพื่อนๆ ดื่มฉลอง etc. ถ้าแต่งบางไปตั้งแต่แรก มีสิทธิ์หลุดตั้งแต่ครึ่งงานเช้าดังนั้นแนะนำว่าให้ใช้ทุกขั้นตอนของเมคอัพแบบ ' ติดทน ' จะดีที่สุด เธอคงไม่อยากสวยเป๊ะตอนเช้า แต่เยินเป็นซากตอนภาพสุดท้ายก่อนเลิกงานหรอกใช่ไหมคะซิส??แน่นอนว่าต้องใช้ไพรเมอร์! แต่อย่าลืมทาบนส่วนเปลือกตาและริมฝีปากด้วย จะได้ติดทนทั้งหน้า แล้วค่อยลงรองพื้น โดยอย่าโปะทับหนาๆ เร็วๆ มันจะเป็นปื้นไม่สวย ให้ทาชั้นบางๆ แล้วค่อยๆ เกลี่ยทับกันหลายชั้น ผิวจะดูสวยกว่าตามด้วยบลัชออน ไฮไลท์ แป้งฝุ่นและลิปสติก ( แนะนำให้ใช้ลิปไลเนอร์ระบายให้ทั่วปากก่อน ค่อยลงลิปครีม ถ้าเนื้อครีมหลุด ก็ยังเหลือสีจางๆ อยู่ ) เท่านี้ก็สวยเป๊ะได้ตั้งแต่เช้ายันดึกแล้วค่าา


4. ใช้คอนซีลเลอร์เนื้อครีม เก็บสิวให้เนียนกริ๊บ!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9ycXP.jpg

บางทีก็เหมือนสวรรค์แกล้ง ถึงอีเวนต์สำคัญ ปัญหาผิวผุดมารัวๆ เลยจ้า ทั้งจุดด่างดำ ฝ้า กระ หรือแม้แต่สิวอักเสบเม็ดเป้ง! ( แย่สุดคือมาคืนก่อนงานแต่ง ล้องห้าย ) จะรักษาก็ไม่ทันแล้ว แนะนำให้หาคอนซีลเลอร์ ' เนื้อครีม ' ดีๆ มาปกปิดแทนดีกว่าโดยลงรองพื้นให้ผิวเนียนก่อน แล้วค่อยแต้มคอนซีลเลอร์เป็นจุดบางๆ เลเยอร์ทับกันหลายชั้น เพื่อปกปิดสิวนั้นให้เนียนกริบค่ะรอยคล้ำใต้ตาก็เช่นกัน! ใช้คอนซีลเลอร์จุดสามจุดที่ใต้ตา แล้วค่อยๆ เกลี่ยให้กลมกลืน จนรอยคล้ำหายไป ( เกลี่ยไปทางเดียวกันเด้อ อย่าปาดกลับไปกลับมา หน้าจะดูเปื้อนมากกว่าสวย )แล้วปัดทับด้วยแป้งฝุ่นโปร่งแสง เป็นอันเสร็จ!


5. ถ้าชอบผิวฉ่ำ ควรแต่งให้ดูโกลว์ แต่หน้าไม่มันเยิ้ม!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9ypnq.jpg

ยุคนี้เจ้าสาวหน้าแห้ง หน้าดูหนาเป็นปูนฉาบมันเอ้าท์ไปแล้ว ต้องผิวฉ่ำวาว กระจ่างใส ดูเหมือนดื่มน้ำวันละ 8 แก้วตลอดเวลา ถึงจะดูสวย ดูเด็กกว่าวัยเหมือนสาวเกาหลี!

แต่ถ้าใครแต่งผิด อาจกลายเป็นเจ้าสาวหน้ามันย่อง ถ่ายรูปทีหน้าผากสะท้อนแสงพร้อมทอดไข่ดาวแทน ดังนั้นต้องรู้ทริคใช้ไฮไลท์สักนิดนึงค่ะ >.<

เพื่อไม่ให้ดูหน้าเยิ้ม ให้ใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสงปัดที่ส่วนหน้าผาก ข้างจมูกและคางด้วยพัฟ แล้วใช้ไฮไลท์สีอ่อนๆ ที่ส่วนขมับและโหนกแก้มส่วนบน ตามด้วยอายแชโดว์ชิมเมอร์ที่หัวตาและโหนกคิ้ว

เท่านี้หน้าก็ดูวาวเป็นธรรมชาติ แต่ไม่เยิ้มน่าเกลียดแล้วค่ะซิส


6. ปัด 'มาสคาร่ากันน้ำ' แทนการติด 'ขนตาปลอม'

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9FW4P.jpg

หลายคนบอกว่าตัวเองไม่ใช่คนเจ้าน้ำตา ไม่ใช่คนเซนซิทีฟขนาดนั้น แค่งานแต่งเองไม่ร้องไห้หรอก ขนตาหลุดกันไปเท่าไหร่แล้ว กับพิธีกรหรือพ่อแม่ที่พูดซึ้งๆ กลางงานจนร้องไห้โฮ ดังนั้นปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า!

ในวันสำคัญแบบนี้ เลี่ยงการติดขนตาปลอมใหญ่ๆ หนาเป็นแพ เพราะถ้าร้องไห้ น้ำตาจะไปละลายกาวติดขนตา จนอาจร่วงลงมาระหว่างงานได้ค่ะ

ทางที่ดี เลือกเป็นมาสคาร่าสูตรกันน้ำ ปัดทับหลายๆ รอบจะสวยกว่า แนะนำให้มีสักสองแท่ง แท่งนึงเน้นยาว อีกแท่งเน้นหนา ปัดสลับกัน ก็จะได้ขนตางอนเด้งแบบตุ๊กตาพอดี ^^

//แต่ตอนล้างอาจยากนิดนึง ต้องใช้รีมูฟเวอร์แปะตาไว้นานหน่อยนะคะ


7. เลือกสีเล็บมือให้เรียบ เนี้ยบ แต่ไม่ดูจืดจนเกินไป

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9FB9N.jpg

ผิวหน้าก็สวยเป๊ะแล้ว จะขาดสีเล็บมือก็คงจะไม่ได้! ที่จริงไม่มีกฎทาเล็บตายตัวนะคะ เอาที่เจ้าสาวสบายใจ ชอบสีโทนไหน ลายไหนก็ทาแบบนั้น แต่ถ้าจัดงานแต่งแนวเรียบๆ มินิมอล ก็แนะนำเป็นสีเล็บเอิร์ธโทน สีใสหรือสีนู้ด ( French Nails )

เพื่อไม่ให้สีดึงความสนใจไปจากเมคอัพบนหน้าเรา หลักๆ คือเล็บสีอ่อนเข้าไว้ค่ะ

สำหรับสาวๆ ที่มีอันเดอร์โทนผิวชมพู ควรทาเล็บสีชมพูใสๆ ถ้าอันเดอร์โทนผิวสีมะกอก ควรทาเล็บสีเบจอุ่นๆ แต่ถ้าเป็นสาวผิวเข้ม ผิวสองสีแบบสาวไทย ให้ทาเล็บสีนู้ด สีน้ำตาล หรือสีเทา/ สีดำไปเลย

อย่าทาโทนสีขาวจัด ขาวโล้น เพราะมันอาจจะออกเป็นสีเทา ทำให้ผิวดูคล้ำกว่าเดิมค่ะ


8. พกเมคอัพชิ้นเล็กๆ ไว้เติมระหว่างงาน!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9FC8t.jpg

ถึงเมคอัพจะติดทนยังไง ก็ไม่มีทางที่เมคอัพทุกส่วนบนใบหน้าจะไม่หลุด ไม่จางลงเลยตั้งแต่เช้ายันดึก จะมีบางชิ้นที่ยังไงก็ต้องเติม เช่น ลิปกลอส แป้งฝุ่น

ยิ่งถ้าใช้อายแชโดว์ อายไลเนอร์แบบฝุ่น แต่งไปนานๆ ผงอายแชโดว์จะเริ่มร่วง ( หรือที่ฝรั่งเรียกว่า fallout ) จึงต้องคอยเช็คความเรียบร้อยระหว่างวันค่ะ

เราแนะนำให้สาวๆ พกแป้งฝุ่นกระปุกเล็ก ลิปกลอสแท่งจิ๋ว คอตตอนบัด และทิชชู่แผ่นเล็ก พกติดตัวไว้ในกระเป๋าคลัทช์ที่เธอต้องถือทั้งวันอยู่แล้ว

เท่านี้ก็เติมหน้าได้ง่ายและเร็วขึ้น เป๊ะถูกใจเจ้าบ่าวแล้วล่ะค่ะ (─‿‿─)♡

---------------------------

เพราะวันแต่งงาน ควรเป็นวันที่เจ้าสาวมีความสุขที่สุด จึงไม่ควรทำอะไรให้ความสุขสะดุด กำหนดการต้องราบรื่น สถานที่ต้องดี แขกต้องสบาย ที่สำคัญหน้าผมเจ้าสาวต้องเป๊ะ!! แค่รู้ทริค 8 ข้อในการแต่งหน้าเจ้าสาวแล้ว ก็ไม่ต้องจ้างช่างให้ยุ่งยาก ก็สวยเป๊ะ ถ่ายรูปเคียงข้างเจ้าบ่าวได้ตลอดงานค่ะ หวังว่าจะถูกใจคนที่กำลังวางแพลนงานแต่ง ใกล้เป็นว่าที่เจ้าสาวทุกคนน้า

❤  ถ้าชอบก็ฝากกดหัวใจ กดฟอลเป็นกำลังใจให้กันด้วยเด้อ แล้วเจอกันค่า บ๊ายบายย