สวัสดีค่ะสาวๆ ทุกคนนนไอเทมความงามที่สาวๆ ขาดไม่ได้ชนิดหนึ่ง นี่ก็คือ "แป้งพัฟ" นิยมการใช้มาก ไม่ว่าจะสาววัยรุ่น วัยมหาลัย วัยทำงาน หรือวัยเกษียณแล้ว ไอเทมนี้มักจะติดกระเป๋าของสาวๆ ทุกคนและทุกวัย เพราะมันผสมทั้งรองพื้นและฝุ่น มาในรูปตลับ มีพัฟฟองน้ำและกระจกในตัว ทำให้สะดวกในการใช้งาน ประหยัดเวลาในการแต่งหน้า สาวมือใหม่หัดแต่งมักจะชอบพกแป้งพัฟไปด้วย ตอนเช้ามาหน้าเนียน พอตกบ่ายมีการเติมแป้งให้เนียนเหมือนตอนเช้า แต่ความจริงแล้ว ถ้าเติมแป้งอีกจะทำให้เกิดเป็นคราบ และดูหนากว่าเดิม ไม่เป็นธรรมชาติด้วย กรณีเป็นสาวมัธยมถ้าพกแป้งพัฟไปเติม ครูฝ่ายปกครองต้องรู้แน่ว่าแต่งหน้ามา ทางที่ดีเก็บแป้งพัฟไว้ใช้ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็พอค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์เทคนิคการทาแป้งพัฟอย่างไรไม่ให้โป๊ะ ให้สวยเนียนแต่เป็นธรรมชาติกันเลยนะคะ
"แป้งพัฟ" คืออะไร
แป้งพัฟ
หรือ
แป้งผสมรองพื้น
(Foundation Powder) เป็นแป้งที่การนำแป้งฝุ่นเนื้อละเอียดและครีมรองพื้นมาผ่านการอัดแข็ง เนื้อแป้งเนียนละเอียด นุ่ม บางเบา มีส่วนช่วยควบคุมความมันและปกปิดริ้วรอยต่างๆ ไม่ว่าจะสิว รอยดำรอยแดงจากสิว ฝ้าแดด และรอยหมองคล้ำต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคบนใบหน้าของเราให้ดูเนียนกริบ เสมือนผิวที่สองของเรา นอกจากนี้ยังช่วยกระเจิงแสงบนใบหน้า นิยมนำไปใช้ซับมันระหว่างวัน แต่ทว่าการใช้แป้งพัฟแบบผิดวิธี ทำให้ใบหน้าของเราเป็นคราบ หนาโป๊ะเป็นแป้ง และดูแบน เดี๋ยวเราจะมาแชร์เทคนิคการลงแป้งพัฟให้สวยเนียนปิ๊งเป็นธรรมชาติกัน
เทคนิคในการทา "แป้งพัฟ" ให้เนียนสวย เป็นธรรมชาติทั้งวัน
ล้างหน้าให้สะอาด
ก่อนแต่งหน้าทาแป้งพัฟ ควรจะล้างหน้าเพื่อขจัดความมัน สิ่งสกปรกบนใบหน้า เพื่อไม่ให้ทาแป้งแล้วเป็นคราบ
ทาสกินแคร์
หลังล้างหน้าเสร็จ ควรทาสกินแคร์ เพื่อเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว ควรเลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว สำหรับผิวแห้ง อาจเลือกทาครีม ส่วนสาวผิวมัน อาจเลือกทาเซรั่ม หรือคนเป็นสิว สามารถใช้ยาแต้มสิวก่อนแต่งหน้า นอกจากนี้ยังสามารถเป็นเมคอัพเบสที่ช่วยให้เมคอัพติดทนได้ด้วยอีกนะคะ แต่อย่าลืมลงครีมกันแดดตามด้วยนะคะ
เลือกพัฟฟองน้ำที่มีคุณภาพ
ควรเลือกฟองน้ำคุณภาพ ที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มอ่อน ถ้าทำจากผ้าฝ้ายยิ่งดีมาก เพื่อไม่ให้เกิดเสียดสีจนเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ยอมเสียตังค์ให้กับเจ้าพัฟคุณภาพหน่อยเถอะค่ะ แถมยังช่วยให้แป้งติดทนด้วยอีกน้าา ถ้าไม่เชื่อก็ลองซื้อมาเลยจ้าา
ใช้วิธีโดยการกดทับ ตบเบาๆ ไม่ถู ไม่ปาดแบบปื๊ดๆ
หยุดการปาดแป้ง หยุดกดแรงๆ หยุดถูบนใบหน้า อย่าคิดว่าปาดแป้งแล้วทำให้แป้งติดทนนานขึ้น ไม่จริงเลยค่ะ ยิ่งปาดแรงๆ ยิ่งทำให้แป้งเป็นคราบ และเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรด้วยค่ะ วิธีที่ถูกต้อง ก็คือ ใช้พัฟจิกแป้งทีละน้อยๆ อย่าใช้เยอะ แค่นี้แป้งก็ติดพัฟแล้ว จากนั้นกดเบาๆ โดยเริ่มจาก T-ZONE ตั้งแต่ร่องจมูก หน้าผาก คาง และปิดท้ายด้วยโหนกแก้มจ้าา ที่สำคัญอย่าลืมทาคอด้วย ไม่งั้นหน้าลอยนะจ้าา ถ้าอยากให้แป้งติดทนยิ่งขึ้น แนะนำให้เอาสเปรย์น้ำแร่ฉีดที่ตัวพัฟก่อนแล้วค่อยจิกแป้ง หรือต้องการความบางเบาเนียนใส สามารถใช้แปรงปัดแทนการใช้พัฟได้เลยค่ะ
อย่าลืมพกกระดาษซับมันติดตัวด้วย
ใครที่มีผิวมันมากๆ แป้งคุมมันก็เอาไม่อยู่ อย่าลืมพกกระดาษซับมันไปด้วย โดยให้ซับดูดน้ำมันให้ออกอย่างหมดจดก่อน แล้วค่อยเติมแป้ง หมดปัญหาหน้าเมือก แป้งเป็นคราบไปเลย
แนะนำ "แป้งพัฟผสมรองพื้น" ที่ตอบโจทย์ผิวสาวไทยให้สวยทนทั้งวัน
แป้งพัฟผสมรองพื้น
DEESAY Bright Skin Color Control Foundation Powder SPF30 PA++
แป้งผสมรองพื้นเนื้อบางเบา ด้วยนวัตกรรม Color Control หมดปัญหาหน้าดรอประหว่างวัน เนื้อแป้งเนียนนุ่ม ติดทน กลมกลืนเข้ากับสีผิวทันที ผิวสวยเด้งทั้งวัน พร้อมปกปิดอำพรางริ้วรอยอย่างเรียบเนียน ไม่โป๊ะ ไม่เป็นคราบระหว่างวัน คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อ พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดได้ถึง 30 เท่า มีให้เลือกทั้งหมด 3 เฉดสีเพื่อเข้ากับสีผิวผู้หญิงไทยและเอเชีย
เป็นอย่างไรบ้างคะสาวๆ ทุกคน ไม่ยากใช่มั้ยล่ะ กับการลงแป้งให้สวยเนียนเป๊ะ แต่ไม่โป๊ะ ใครที่มีแป้งพัฟติดอยู่โต๊ะเครื่องแป้งและใช้แป้งพัฟประจำ อย่าลืมเอาเทคนิคนี้ไปลองใช้กันดูนะคะ หรือถ้าเพื่อนๆ สนใจแป้งแบรนด์ที่กล่าวมานี้ สามารถหาซื้อได้กับตัวแทนจำหน่าย DEESAY ทั่วประเทศ หวังว่าเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะคะ ฝากกดหัวใจ กดแชร์ และเป็นกำลังใจให้ส้มด้วยนะคะ
Cr.เคล็ดลับทา "แป้งพัฟ" ให้หน้าสวยเนียนเป็นธรรมชาติ แถมติดทนนานตลอดวัน
https://www.sanook.com/women/81881/
Cr.7 เคล็ดลับทาแป้งพัฟให้หน้าเนียนสวย อยู่ติดทนตลอดวัน
https://www.akerufeed.com/cosmetic/7-tips-for-applying-pressed-powder
Cr.5 เทคนิคทาแป้งพัฟไม่ให้เป็นคราบ ผิวเนียนเป็นธรรมชาติ
https://www.ladyissue.com/73915
Cr.How to ทา "แป้งพัฟ" ยังไงให้สู้เหงื่อและแดด แถมติดทนไม่ดร็อประหว่างวัน
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1550021
Cr.ข้อมูลผลิตภัณฑ์
http://www.deesaycosmetics.com/category/1/