ไฮค่าาา สาวๆSistaCafeคนจ๋วยทุกคนน (°◡°♡)เป็นกันไหมคะซิส? ทำงาน เก็บเงินลำบากลำบน ก็เพื่อซื้อ ' สกินแคร์ ' กอบกู้หนังหน้าของเรา ให้ไม่พังก่อนวัยอันควรนี่แหละ! วัยเรียนหน่อยก็หลักร้อย วัยทำงานก็หลักพัน แต่ไม่ทาไม่ได้ยิ่งในยุคนี้ที่หน้าตาเป็น First Impression แสนสำคัญ จะให้พาหน้าเหี่ยวๆ สิวบุก จุดด่างดำพร้อยไปเดท ไปสมัครงานก็กระไรอยู่ มิน่า คลิปรีวิว Skincare Routine ในยูทูป มีกี่คลิปยอดวิวก็พุ่ง ใครก็อยากรู้ว่าไอเทมตัวไหนใช้ดีอะเนอะแต่สาวๆ ขา... แทนที่จะสอดส่อง ทดลองสกินแคร์ใหม่กับหน้าไปเรื่อยๆ ลองหันกลับมาสำรวจของที่มีในกรุสักนิด เพราะบางที เธออาจมีสกินแคร์ตัวเริ่ดอยู่แล้ว แต่ ' ใช้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ' ก็เป็นได้!มีหลายคนมากที่มีของดี แต่ใช้ไม่เป็น แล้วโทษสกินแคร์ว่าของไม่ดี โยนทิ้งซะงั้น เสียดายมากกก โนค่ะ! ถ้าเธอเป็นคนหนึ่งที่คิดจะเปลี่ยนของใหม่ลองมาทำ 8 ทริคบูสต์คุณภาพสกินแคร์ให้ถึงขีดสุด ในบทความนี้ดูก่อน เผลอๆ หน้าใสปิ๊งขึ้นพรึ่บพรั่บ แบบไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเลยเด้อแหนะๆ ไม่เชื่ออะดิ งั้นเลื่อนลงมาอ่านทริคด้านล่างกันได้เลยจ้าา

1. หน้ามีคราบเกาะ ครีมจะติดหน้าได้ไง? ไปสครับหน้าก่อน!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/10/10/cuMyL8.jpg

สาวๆ หลายคนลืมนึกถึงข้อนี้ไปซะสนิท!อยากให้นึกภาพว่า การทาครีมคืองานศิลปะ! ผิวหน้าของเราก็เหมือนผืนผ้าใบ ถ้าผ้าใบไม่เคยขัดให้เรียบเนียนเลย สีที่ทาลงไปก็ย่อมตะปุ่มตะป่ำ ซึมนาน หน้าไม่ใสเท่าที่ควร ถ้าเทียบกับผิวหน้า ก็เหมือนมีเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เกาะเป็นขี้ไคลบางๆ ติดอยู่เต็มไปหมด ถ้าอยากให้ครีมซึมเข้าผิว 100% เธอต้องทำการ ' สครับหน้า ' ค่ะ

บางคนคิดว่า ใช้โฟมล้างหน้าทั่วไปก็น่าจะพอ แต่นั่นจะทำความสะอาดได้แค่คราบสิ่งสกปรก ซีบัมและน้ำมันในแต่ละวันเท่านั้น

ถ้าต้องการให้หน้าสะอาดเอี่ยม ล้ำลึกถึงรูขุมขน สาวๆ ควรใช้สครับสำหรับผิวหน้า ( ถ้าไม่มี ใช้โฟมล้างหน้าสูตรที่มีเม็ดบีตส์ก็ได้ ) นวดเป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้า อย่างน้อย 1 ครั้ง/ สัปดาห์

เพื่อปรับพื้นที่ผิว ด้วยวิธีนี้รูขุมขนจะเล็กลง กระชับเรียบเนียน แถมช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี แก้มแดงโดยธรรมชาติ ทาครีมซึมเร็วนักล่ะ ไม่เชื่อก็ลองดู!


2. ทาผิดขั้นตอนรึเปล่า? ต้องทาสกินแคร์ 'ตามลำดับ' หน้าถึงจะใสนะจ๊ะ!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/10/10/cuyIkN.jpg

เราเชื่อว่ายังมีผู้หญิงหลายคน มีครีมหลายตัวในกรุ แต่ยังไม่รู้ขั้นตอนการทาที่ถูกต้อง คิดว่าทาครีมตัวไหนก่อนก็เหมือนกัน!

เลยจะเจอเคสที่ว่า ทาครีมเนื้อข้นคลั่กจนทั่วหน้าไปแล้ว ก็วนกลับมาทาเซรั่มเนื้อใสอีก ต่อด้วยเจลแต้มสิว แล้วเอามาส์กทับ ผสมปนเปกันไปหมดจนดูไม่จืด

นอกจากหน้าจะมันเหนียวเหนอะแล้ว ยังสูญเสียประสิทธิภาพของครีมไปโดยใช่เหตุด้วยเด้อ!

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ถ้าเธอมีปัญหาผิวอะไรอยู่ เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำจากแสงแดด หรือสิวอักเสบ หลังล้างหน้าเสร็จ ให้เช็ดด้วยโทนเนอร์ และตามด้วยสกินแคร์รักษาปัญหาผิวนั้นๆ ก่อนเลย ค่อยตามด้วยเซรั่มและครีม เรียงไปตามลำดับความเข้มข้นของครีม

ให้นึกเสมอว่า

' เนื้อบางทาก่อน เนื้อข้นทาทีหลัง '

ยกเว้นสารจำพวกเรตินอยด์ที่ค่อนข้างแรงกับผิว ถ้าทาตัวแรก ผิวอาจระคายเคืองได้ค่ะ

ทั้งนี้ ถ้าเธอมีปัญหาผิวหลายอย่างในครั้งเดียว เราแนะนำให้เธอทาทีละอย่าง แต่สลับเวลากัน

เช่น ถ้าเธอมีทั้งสิวกับจุดด่างดำ ให้ทาแต้มสิวอย่างเดียวช่วงเช้า และทาวิตซีลดจุดด่างดำอย่างเดียวก่อนนอน เพื่อให้ได้ใช้ประสิทธิภาพของครีมเต็มร้อยนะคะ!


3. ทิ้งผิวไว้เป็นชั่วโมง เพิ่งทาครีม? ไม่ได้นะ ต้องทา 'หลังล้างหน้าเสร็จทันที'

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/10/10/cuFNA1.jpg

บางคนอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จก็ไปเล่นคอม ไถฟีดโซเชียล เล่นกับหมา etc. ปล่อยหน้าแห้งผาก ถึงจะเริ่มทาครีม ที่จริงมันไม่ดีนะ!

ผิวหน้าของเราก็เหมือนกับ ' ฟองน้ำ ' ที่จะซึมซับสารต่างๆ ได้ดีที่สุดตอนที่มันยังเปียกอยู่! ดังนั้นจะทาครีมบำรุงอะไร ก็ควรทาหลังล้างหน้าเสร็จทันที ตอนที่ผิวหน้ายังชื้นๆ อยู่ ( ชื้นพอนะ ไม่เปียกโชก อันนั้นทาครีมก็หลุดหมดจ้า )

กฎนี้ใช้ได้กับสกินแคร์ทุกตัวในกรุที่เธอมี รวมถึงพวกสารเรตินอยด์ด้วย ยกเว้นอย่างเดียวคือ ' กันแดดแบบ mineral-based ' เท่านั้น

เพราะเขาออกแบบมาให้สะท้อนแดด ถ้าทาตอนผิวชื้น หน้าจะไม่สม่ำเสมอกัน เป็นด่างๆ เหมือนเปื้อนชอล์กได้ค่ะ

4. ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นรึเปล่า? ควรใช้ 'น้ำอุ่น' ครีมจะซึมได้ดีกว่า!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/10/10/c60Yol.jpg

แม้

' น้ำอุ่น '

จะทำให้ผิวแห้งหากใช้ต่อเนื่องนานๆ แต่มันดีกับการทาครีมบำรุงผิวมากๆ!

หากสาวๆ ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นแทนน้ำเย็น อุณหภูมิผิวจะสูงขึ้นเล็กน้อย ทำให้เลือดลมไหลเวียนได้ดี รูขุมขนขยาย จึงสลายสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขนได้ง่ายกว่า

หมอผิวหนังกล่าวว่า ยิ่งมีพื้นที่ระหว่างเซลล์เยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีพื้นที่กว้างไว้ซึมได้มากเท่านั้น ทำให้ครีมซึมไวขึ้น ส่วนผสมเข้าถึงผิวและจับตัวกับเซลล์ได้เร็วขึ้นเมื่อผิวกำลังอุ่นๆ อยู่

ดังนั้นใครที่ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นอยู่ตลอด ลองสลับมาใช้น้ำอุ่นบ้างค่ะ รับรองเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าแน่นอน (´♡‿♡`)


5. โปะครีมชั้นบนสุดด้วย 'ขี้ผึ้งเนื้อหนา' เพื่อล็อคความชุ่มชื้นให้ผิว!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/10/10/c6WMyW.jpg

สาวคนไหนผิวแห้งกรอบ เอะอะลอกเป็นขุยต้องอ่าน! วิธีเดียวที่ช่วยเพิ่มการซึมซาบของครีมให้ดีขึ้น เร็วขึ้น คือหลังทาสกินแคร์ทุกตัวแล้ว ให้ ' โปะ ' ชั้นนอกสุดด้วยขี้ผึ้งเนื้อหนาข้น

เพราะขี้ผึ้งพวกนี้จะมีส่วนผสมจากปิโตรเลียม เนยธรรมชาติ น้ำมัน และแว็กซ์ ซึ่งช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้ผิวได้ตลอดทั้งคืน ถ้ากลัวเหนอะเกินไปก็ใช้การเกลี่ยเบาๆ เฉพาะผิวที่ลอกเป็นพิเศษก็ได้ค่ะ ตื่นมาตอนเช้า ผิวจะนุ่ม ชุ่มชื้นขึ้นจนรู้สึกได้

แต่ทั้งนี้ก็มีข้อควรระวัง!

ถ้าเธอเป็นสาวผิวมันเยิ้มมากๆ เป็นสิวง่าย ต้องข้ามข้อนี้ไป หรือใช้แค่ช่วงฤดูหนาว เพราะขี้ผึ้งเหล่านี้เนื้อหนักและข้นมาก ถ้าใช้เยอะไปจะยิ่งอุดตัน สิวขึ้นมากกว่าเดิม


และไม่ควรใช้ควบคู่กับสารเรตินอยด์ กรดผลไม้ วิตซี หรือทุกอย่างที่มีกรด เพราะมันจะยิ่งทำให้ฤทธิ์แรงขึ้น ทำให้ผิวระคายเคืองค่ะ

6. อย่าทาเรตินอยด์มั่วซั่ว ต้องทา 'เฉพาะก่อนนอน' เท่านั้น!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/10/10/cuF3XJ.jpg

รู้แหละว่าใครก็อยากหน้าใสเร็วๆ แต่ก็ต้องรู้ลิมิตของการทาด้วย! เรตินอยด์ปกติจะใช้ลดจุดด่างดำ ความหมองคล้ำบนผิวหน้า จึงไม่ควรทา ' ช่วงกลางวัน ' ที่มีแสงแดดเด็ดขาดเพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของครีมลดลงเมื่อเจอรังสียูวีค่ะ ทาแค่ช่วงกลางคืน ก่อนนอนเท่านั้นก็พอ!ระหว่างสาวๆ หลับ อุณหภูมิของผิวหน้าจะสูงขึ้น 1/2 องศา เพราะจะมีเลือดมาอยู่ที่ผิวมากขึ้น และด้วยผิวที่อุ่นขึ้นเล็กน้อยนี้ จึงทำให้เกิดการขยายหลอดเลือด ทำให้เรตินอยด์เข้าแทรกซึมมีประสิทธิภาพสูงสุด ที่จริงกฎนี้ใช้ได้กับสกินแคร์ทุกตัวเลย แต่เรตินอยด์จะเห็นชัดที่สุดค่ะ

7. แค่ครีมยังไม่พอรึเปล่า? ลองใช้ 'เซรั่ม' ทาเพิ่มอีกชั้นสิ

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/10/10/cuF7Rn.jpg

บางคน เอาจริงๆ ก็ขี้เกียจแหละ แค่ทาครีมบำรุงผิวตัวเดียวก็น่าจะพอแล้วนี่นา? บอกเลยว่าไม่พอ ไม่งั้นสาวเกาหลีคงไม่มี Skincare Routine เป็นสิบๆ ขั้นตอนหรอกจ้า!

ถ้าเธออยากตัวหอมทั้งวัน เธอก็ต้องฉีดน้ำหอมไม่ใช่โคโลญจน์ ผิวหน้าก็เช่นกัน ถ้าอยากบำรุงสูงสุดก็ควรใช้ ' เซรั่ม ' ร่วมด้วย

ถ้านับประสิทธิภาพของทุกตัว เซรั่มเป็นสกินแคร์ที่มีส่วนผสม ' เข้มข้น ' ที่สุด ซึมไวที่สุด ซึมได้ทั่วทั้งผิวหน้าที่สุด ไม่เหมือนพวกโลชั่นหรือครีม ที่จะมีส่วนผสมทำให้ผิวนุ่ม ซึ่งขัดขวางการซึมของสกินแคร์ไม่ให้เข้าผิวได้เต็มที่

ถ้าทุกวันนี้เธอยังใช้แค่ครีมกระปุกเดียว ลองซื้อเซรั่มมาใช้ควบคู่กันดู บางทีที่ผิวหน้ายังไม่ค่อยโอเค อาจเพราะเธอแค่ ' ทาไม่ครบ ' เท่านั้นเองค่ะ


8. อย่าทาครีมหลายตัวมั่วๆ ต้อง 'จับคู่ส่วนผสมให้ถูกต้อง' ด้วยจ้า!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/10/10/c6dtvR.jpg

เรื่องนี้จะค่อนข้างซับซ้อนขึ้นมาหน่อย!

สำหรับส่วนผสมบางอย่างของสกินแคร์ ถ้าอยากให้ผิวหน้าดีสูงสุด ก็ต้องจับคู่สารบำรุงผิวให้ถูกต้องนะคะ

แต่ไม่ต้องกลัว มันไม่ได้ยากเหมือนท่องสูตรเคมีขนาดนั้น แค่จำคู่หลักๆ ก็พอ

สิ่งที่ควรจับคู่กัน

- สารต้านอนุมูลอิสระทุกชนิด + ครีมกันแดด ให้ผิวสวยกระจ่างใส

- เรตินอล + กลีเซอริน ให้ผิวไร้ริ้วรอยและชุ่มชื้น

- เรตินอล + กรดไฮยาลูรอนิค ให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ ไม่แห้ง

- วิตามินซี + วิตามินอี ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ต้านริ้วรอยจากแสงแดด

สิ่งที่ห้ามจับคู่กันเด็ดขาด

- วิตามินซี + AHA กรดจะรุนแรงมาก ทำให้วิตซีคุณภาพลดลง

- วิตามินบี 3 + AHA ผิวหน้าระคายเคือง

- วิตามินซี + เรตินอล แสบผิว อาจแพ้ได้ถ้าผิวแพ้ง่ายค่ะ

--------------------------------------

ฮั่นแน่! อ่านถึงตรงนี้แล้ว สาวๆ รู้หรือยังว่าสกินแคร์ที่มีตอนนี้ คุณภาพมันไม่ดีจริงๆ หรือเธอใช้ผิดวิธีมาตลอด?? บางคนยังมีความเชื่อว่า แค่ทาครีมบนผิวก็พอ จะทาตอนไหนไม่สำคัญ ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ถึงกับว่าทาผิด แล้วจะรุนแรงคอขาดบาดตายขนาดนั้น แต่ถ้าเราทาให้ถูกได้ มันก็ยิ่งส่งเสริมประสิทธิภาพของครีมให้ดีขึ้น ให้ผิวหน้าดีขึ้น โดยไม่ต้องไปพึ่งคอร์สความงามแต่อย่างใด

ก็ลองเอาไปทำตามกันดู แต่ถ้ายังไม่เวิร์ค ก็ค่อยหอบหน้าไปหาหมอเด้อ! วันนี้ก็ขอตัวไปประทินผิวหน้าบ้างละ อายุมากแล้ว ริ้วรอยเริ่มมา แง T^T เจอกันจ้า บ๊ายยย