ฮัลโหลค่าาา สาวๆSistaCafeทุกคน (´。• ᵕ •。`) ♡

ไม่ว่าเธอจะเป็นสาวพูดเก่ง หรือพูดน้อยกับเดอะแก๊ง แต่เราเชื่อว่ามีสาวๆ หลายคนมากที่จะ ' ใบ้กิน ' ทันทีเมื่อเจอคนแปลกหน้า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ยิ่งสมัยนี้เราสื่อสารผ่านหน้าจอมากกว่าตัวจริง สกิลสังคมก็ยิ่งลดลง


อย่างเวลาไปสถานที่ใหม่ๆ ที่ทำงานใหม่ ฟิตเนส คอร์สเรียนใหม่ เจอคนใหม่ๆ จะเขินอาย ไม่กล้าเข้าไปทัก ไม่รู้จะเริ่มคุยจากอะไรดี กลัวเดตแอร์ กลัวเข้าหาแล้วอีกฝ่ายกลัว ต่างๆ นานา สรุปก็ไม่ได้เมคเฟรนด์กับมนุษย์ตัวเป็นๆ ซะที -.-

ถ้าเธอเองก็เป็นหนึ่งในคนชอบเขินอาย เลี่ยงบทสนทนากับคนอื่นตลอด แต่อยากลองเปลี่ยนตัวเอง เป็นคนเมคเฟรนด์ง่าย ชวนคุยกับใครแล้วบทสนทนาโฟลว์ ไหลลื่นสุดๆ ซะทีแล้วล่ะก็


ลองมาส่องทริคดีๆ กับ ' 8 วิธี ชวนคนแปลกหน้าคุย ' รับรองว่าได้เพื่อนใหม่ใน friend list แน่นอน

ถ้าพร้อมแล้วก็เลื่อนลงมาอ่านข้างล่างกันเลยค่ะซิส

1. ก่อนจะชวนใครคุย ดูอารมณ์เขาก่อน ว่าเขาอยากคุยด้วยมั้ย?

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/25/gMjOou.jpg

ข้อแรกนี่ ถือเป็นข้อเบสิกของการชวนคนอื่นคุยเลยค่ะซิส! ไม่ใช่แค่คนเพิ่งรู้จักหรอก แม้แต่เพื่อนในแก๊ง เวลาจะชวนคุยก็ควรสังเกตซะหน่อยว่า เขาอยู่ในอารมณ์อยากคุยด้วยมั้ย? เราอาจเปิดใจกล้าคุยกับทุกคน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะพร้อมคุยกับเรา ถ้าเธอเคยคุยกับคนแปลกหน้าเยอะๆ เช่น ทำอาชีพแนวนักข่าว หรือประชาสัมพันธ์ เธอจะรู้ดีว่าจะมีคนที่สะกิดนิดเดียว ก็คุยเป็นชั่วโมง กับคนที่หน้าหงิกมาแต่ไกล คุยแค่สองประโยคก็จอดสนิท เป็นต้น #ประสบการณ์มันจะสอนเองถ้ายังนึกภาพไม่ออก ก็ประมาณว่า เวลาเธอกำลังรีบๆ ท้องเสียอยากเข้าห้องน้ำด่วน หรือเพิ่งทะเลาะรุนแรงกับที่บ้านมา ตอนนั้นเธอก็คงยังไม่อยากเมคเฟรนด์กับใครจริงไหมคะ?หรือบางคนก็มีบุคลิกที่ดูแล้วไม่เป็นมิตรแน่ๆ ออร่าสีดำแผ่กระจาย แบบนี้ก็อย่าไปเสี่ยง คือไม่ใช่ทุกคนที่เขาอยากคุยกับเราอะ อันนี้ต้องยอมรับตามตรง ถ้าเซนส์มันบอกว่า เขาไม่อยากยุ่งกับเรา ก็ปล่อยเขาอยู่คนเดียวจะดีกว่านะ

2. สบตาหยั่งเชิงดูก่อน เปิดทางว่า เราเป็นมิตรนะจ๊ะ!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/25/gMjDVt.jpg

' การสบตา ' หรือ eye contactเป็นด่านแรกที่ง่ายสุดๆ แล้ว ในการทำความรู้จักใครสักคนถ้ายังไม่กล้าเอ่ยคำพูดออกไป ก็ใช้สายตาเปิดทางก่อน มองหาว่าใครที่เราน่าจะคุยด้วยได้ แล้วสบสายตาไปตรงๆ หนึ่งครั้ง แล้วดูปฏิกิริยาตอบกลับว่าเขาจะมองกลับมามั้ย?ด้วยเซนส์ของทุกคน สายตาที่เขามองกลับมา ( หรือมองเมินเรา ) เธอจะรู้ทันทีว่า เราจะเป็นเพื่อนกับคนคนนี้ได้หรือไม่ถ้าไม่กล้าสบสายตาตรงๆ ก็ลองเหลือบมองหน่อยๆ พอเขารู้ว่าเธอมองมา ก็ยิ้มอ่อนๆ ให้สักทีนึง ถ้าเขามองแล้วยิ้มตอบ ก็เป็นอันว่าทางสะดวก เข้าไปคุยได้เลย!ในทางกลับกัน ถ้าเขาถลึงตาใส่, มองกลับแบบเฉยๆ เหมือนมองอากาศ หรือมองเมินผ่านเธอไปเลย ก็อย่าเสียเวลาไปชวนคุยจะดีกว่า เพราะเป็นกิริยาที่ถือว่าหยาบคายและไม่เป็นมิตรเอามากๆเลยล่ะค่ะ

3. สังเกตภาษากาย (body language) ว่าเขาอึดอัด หรือยินดีคุยด้วย?

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/25/gMjrJV.jpg

นอกจากเรื่องสายตา และอารมณ์ที่แสดงผ่านทางสีหน้าแล้ว อีกอย่างนึงที่เราสามารถสังเกตนิสัยของคนได้ก็คือ ' ภาษากาย ( body language ) ' ค่ะซิส!อันที่จริงมนุษย์ทุกคน จะแสดงอารมณ์กับอีกฝ่ายเสมอ แม้จะไม่ได้ใช้คำพูดสักคำก็ตาม ซึ่งจะเห็นได้ผ่านการขยับมือ แขนขา หรือแม้แต่จังหวะการหายใจของคนคนนั้นค่ะคนที่เป็นมิตร เปิดกว้าง พร้อมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น จะผายมือออก สบตาเราไม่วอกแวก และพยักหน้าไปด้วยระหว่างที่เราพูด ถ้าเจอคนแบบนี้ถือว่ามีแต้มบุญสูงแต่ถ้าเธอเจอคนที่ยังไม่ทันพูดเลย เขาก็นั่งกอดอกไขว่ห้าง มองเราแบบหยิ่งๆ ซะแล้ว ก็ทำใจได้เลยว่า ไม่น่าจะผูกมิตรกันได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน - -


4. เริ่มจากหัวข้อทั่วๆ ไปก่อน อย่าเพิ่งลงลึกมาก!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/25/gMjvRW.jpg

ก็เพิ่งรู้จักกันอะเนอะ จะให้รีบคุยหัวข้อลึกๆ ปรัชญาชีวิต เศรษฐกิจ สังคม การเมืองตั่งต่าง ก็ดูจะรีบร้อนไปหน่อย กลัวจะได้ศัตรูก่อนจะมีเพื่อนเด้อ!จะชวนคนแปลกหน้าคุย เอาหัวข้อที่คุยง่ายๆ ไม่สร้างความขัดแย้งจะดีกว่า เช่น สภาพอากาศ สถานการณ์ที่เธอกับเขามีร่วมกัน เช่น รอสอบด้วยกัน หรือเรียนคอร์สเดียวกัน การคุยเบาๆ กรุบกริบแบบนี้เรียกว่า small talk ที่ช่วยละลายพฤติกรรมให้คนสองคนสนิทกันมากยิ่งขึ้นค่ะอาจจะไม่ต้องมีอะไรจริงจังมากก็ได้แค่เธอรอคิวซื้อกาแฟในร้าน แต่รอคิวนานมากเป็นชั่วโมงแล้ว ถ้าเจอคนที่ท่าทางเป็นมิตรหน่อย เธอก็อาจจะชวนคุยติดตลกไปว่า ' นานจังเลยนะคะ สงสัยคนขายเขาไปเก็บเมล็ดกาแฟอยู่แน่เลย 'เท่านี้ก็เรียกรอยยิ้มจากคนรอบข้างได้ง่ายๆ แล้ว


5. อะไรสวย อะไรเด่น ชมเขาบ้างก็ไม่เสียหาย (แต่อย่าประจบล่ะ!)

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/25/gMlkEI.jpg

การอยากจะเป็นเพื่อนกับใคร ' คำชม ' ใช้ได้ผลเสมอ ตราบใดที่เป็นคำชมที่จริงใจ ไม่ชมเกินเบอร์จนกลายเป็นประจบไร้เหตุผลนะ!ธรรมชาติมนุษย์ใครๆ ก็อยากได้รับคำชม หรือถูกรักกันทั้งนั้น ( จะจริงหรือไม่อีกเรื่องนึง ) แค่เรื่องง่ายๆ อย่าง ' วันนี้แต่งหน้าสวยจัง ', ' ใช้ลิปสติกสีอะไรคะ สวยจังเลย ', ' ชุดนี้สวยจังค่ะ ซื้อที่ไหนเหรอ ' เท่านี้ก็ทำให้คนฟังยิ้มหน้าบาน ได้เพื่อนใหม่โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาทเลย ヽ(♡‿♡)ノคำแนะนำจากเราคือ ให้ชมเรื่องที่เรามองเห็นจากภายนอกก่อน จะเสื้อผ้า หน้า ผม เมคอัพ อะไรก็ว่าไปอย่าเพิ่งไหลไปเรื่อยถึงนิสัย หรือเรื่องส่วนตัวของเขา เพราะแทนที่จะดีใจ เขาอาจมองเธอเป็นโรคจิตน่าสะพรึงแทนนะคะ พึงระวัง!!

6. ยิ้มเข้าไว้ ยิ้มเยอะๆ ไม่ใช่คนพูดมาก ก็ยิ้มไว้ก่อน!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/25/gMjNfS.jpg

ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนขี้อาย ไม่ใช่คนพูดเยอะอยู่แล้ว ก็ใช้อาวุธลับอย่าง ' รอยยิ้ม ' นี่แหละชนะขาด! ยิ้มเยอะๆ ยิ้มไปก่อน ยิ้มธรรมดา ยิ้มอ่อนๆ ก็พอนะคะ ไม่ต้องยิ้มแสยะ หรือยิ้มกว้างร่าเริงเกินเหตุเด้อ เดี๋ยวเพื่อนหนี!แค่ใช้รอยยิ้มเป็นมิตรกับสายตาที่จริงใจ ก็แสดงถึงความเป็นมิตร เฟรนด์ลี่ ดึงดูดให้คนรอบข้างเข้าหา โดยยังไม่ต้องพูดสักคำเลยตามหลักจิตวิทยาแล้ว รอยยิ้มจะทำให้คนที่เห็นรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจมากขึ้น คงไม่ดีแน่ถ้าเธอทำหน้าหงิกหน้างอ เหมือนจะหักคอใครสักคนอยู่ตลอดเวลา จริงไหมล่ะ?แม้เธอจะไม่ใช่คนยิ้มเก่ง ถ้าอยากมีเพื่อนใหม่เยอะขึ้น แค่ลองฝึกยิ้มให้เยอะขึ้น แล้วเธอจะตกใจว่าทำให้มีคนมาคุยเยอะขึ้นขนาดไหน ไม่เชื่อก็ลองดูค่ะ!


7. ชวนคุยหัวข้อปลายเปิด อย่าใช้ประโยคแบบที่ตอบได้แค่ 'ใช่' กับ 'ไม่'

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/25/gMlTzt.jpg

สำหรับคนเพิ่งได้รู้จักกัน ควรเน้นหัวข้อที่ได้พูดยาวๆ ไว้ก่อน เป็นหัวข้อเชิงถามความเห็น ปลายเปิดยิ่งดี เช่น ' เธอคิดยังไงที่... ' ' เธอว่าที่ xxx เป็นแบบนี้ เป็นเพราะอะไร '

อย่าใช้คำถามประเภทต้องตอบตายตัว เช่น ' ใช่ ' หรือ ' ไม่ ' เพราะมันจะเหมือนเธอเป็นตำรวจสืบสวนคำตอบผู้ร้าย มากกว่าจะหาเพื่อนใหม่ แถมไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้แสดงทัศนคติของตัวเองอีกด้วย

เมื่อเริ่มจากหัวข้อปลายเปิดแล้ว ก็ปล่อยให้อีกฝ่ายตอบไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งขัด สบตาและพยักหน้าเป็นระยะๆ แล้วแทรกคำถามไปบ้างตามโอกาส แล้วบทสนทนาจะไหลลื่น โฟลว์ขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยล่ะค่ะซิส


8. สลัดความกลัว กังวล แล้วรวมความกล้าเข้าไปคุยเลย!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/25/gMlKWk.jpg

ข้อนี้แม้จะอยู่ท้ายสุด แต่ที่จริงก็สำคัญที่สุดเช่นกัน! อุปสรรคที่คนขี้อายไม่กล้ามีเพื่อนใหม่ซะที ก็เพราะขี้เขิน ไม่กล้า กังวลไปเรื่อย จำไว้เลยว่า ถ้าไม่เริ่มที่สเต็ปแรก ก็ยากที่จะได้คุยจนเป็นเพื่อนกัน!

อย่าไปคิดอะไรล่วงหน้าเยอะแยะค่ะ ทักไปก่อน อย่างมากก็แค่คุยไม่คลิก เราก็หาคุยกับคนใหม่แค่นั้น ยังมีคนอีกเยอะแยะบนโลกนี้ที่อยากเป็นเพื่อนกับเรา don't worry, be happy!

โอเค สำหรับมือใหม่ เธออาจจะรู้สึกหน้าแตกเพล้ง! หรืออายนิดๆ เวลาเจอปฏิกิริยาไม่ดีบ้าง ก็คิดซะว่าเธอพยายามเต็มที่แล้ว ช่างมัน หาคนใหม่ เรายังไม่ชอบทุกคนบนโลกเลย คนบางคนก็คงไม่ชอบเราเหมือนกัน

ชวนคุยไปเรื่อยๆ เดี๋ยวประสบการณ์จะกล้าแกร่ง มั่นใจมากขึ้น ดูคนออกมากขึ้นว่าใครเหมาะกับเรามากขึ้นเอง ดังนั้นอย่าไปกลัว!

-------------------------------

เป็นคนขี้อายก็อย่าคิดว่า ตัวเองต้องอยู่โดดเดี่ยวบนโลกใบนี้ แค่รู้จักทริคดีๆ ในการเข้าหาคน ไม่ต้องพูดเยอะเป็นต่อยหอย เธอก็มีเพื่อนใหม่ได้ ต้องยอมรับว่า เมื่ออายุมากขึ้น มีเรื่องต้องติดต่อคนแปลกหน้ามากขึ้น การมีสกิลเป็นมิตรกับผู้คนไว้บ้าง มันจะอำนวยความสะดวกให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้นมาก ( แม้จะไม่ได้ผูกสัมพันธ์เป็นเพื่อนซี้กันทุกคนก็ตาม ) ขอแค่มีรอยยิ้ม และชวนคุยเปิดประเด็นง่ายๆ ให้เป็นก็พอค่ะ ^^

สุดท้ายนี้ ถ้าอ่านมาจนจบแต่ไม่ยอมทำก็เท่านั้น ทริคต่างๆ จะได้ผลดีที่สุด เมื่อถูกนำไปใช้!! รวบรวมความกล้า แล้วลองทักคนแปลกหน้าในชั้นเรียน หรือข้างๆ โต๊ะทำงานในออฟฟิศดูสิคะ แล้วจะพบว่า มิตรภาพนั้นหาได้ไม่ยากเลย :)