หน้าใสแต่เด็ก เลยคิดเอาเองว่าวิธีดูแลผิวแบบเดิมๆ น่ะเอาอยู่เริ่มด้วยโฟมล้างหน้า ทาเซรั่ม ตามด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เป็นอันเสร็จ ถ้าเป็นตอนกลางวันก็แค่ใช้ครีมกันแดดตบท้ายไป โบ๊ะแป้งตามก็ออกบ้านได้แล้ว..แต่ใครเลยจะคิดว่า นี่คือการดูแลผิวที่ชะล่าใจมาก เพราะสิ่งที่ขาดหายไประหว่างนั้นคือการใช้‘โทนเนอร์’ด้วยประเด็นก็คือเพิ่งรู้ว่าความพิเศษของโทนเนอร์ก็คือเป็นสกินแคร์ที่รวบขั้นตอนทั้งทำความสะอาดและการบำรุงรวมไว้แล้วด้วยกัน (ไม่ต้องล้างออกด้วยนะ)
เอาล่ะ ความตาสว่างในวัยก้าวเข้าสู่เลข 3 ครั้งนี้เลยต้องขอมาแชร์โทนเนอร์ดีๆ ให้โลกรู้กันหน่อย และตัวที่ใช้อยู่ก็คือโทนเนอร์ Simpleจ่ะ .. ม่ะ ตามมาดูรีวิวและข้อมูลคุณสมบัติโทนเนอร์ในดวงใจกัน จะได้ไม่รู้ช้าแบบเราไง>////<
- - - - - - - - - - - - - - -
♡ หัวใจสำคัญของโทนเนอร์
ยอมรับว่าก่อนใช้โทนเนอร์ ก็ถามตัวเองว่า เราใช้โทนเนอร์ไปทำไม--”จนหลังจากใช้โทนเนอร์มาซักพัก เพิ่งเห็นภาพความสำคัญก็ตอนอ่านเจอประโยคที่ว่า‘ โทนเนอร์ เป็น ขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาด และเป็นขั้นตอนแรกของการบำรุง ’อ่านจบแล้วก็เออ เห็นภาพนะ เพราะงั้นถ้าจะให้บอกหัวใจสำคัญของโทนเนอร์ก็เลยจำแนกได้ว่า
♡ ทำความสะอาดผิวหน้า ขจัดน้ำมัน สิ่งสกปรกตกค้าง ที่อาจอุดตันเป็นสิว
ในแต่ละวันเราโบกเครื่องสำอาง ครีมกันแดดและสกินแคร์ต่างๆ ลงผิวมากมาย เมื่อจบหนึ่งวันสิ่งเหล่านั้นก็รวมผสมกับเหงื่อไคล ฝุ่นควันต่างๆ คั่งค้างกันอยู่บนใบหน้า การล้างหน้าอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ โทนเนอร์จึงเป็นไอเทมที่เติมเต็มจุดนี้ได้
♡ ปรับสภาพผิวให้สมดุล เติมความชุ่มชื้น ช่วยให้สกินแคร์ตัวอื่นซึมไว
หัวใจอีกข้อคือการช่วยปรับสภาพผิวโดยเฉพาะเหล่าผิวแห้ง/มัน ที่ขาดน้ำ หรือผิวที่เสียสมดุลหรือผิวแพ้ง่ายให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
♡ บำรุงผิว ลดความมัน กระชับรูขุมขน
และข้อสุดท้ายคือการบำรุงผิว โดยนอกจากจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวขาดน้ำแล้ว ก็ยังช่วยกระชับรูขุมขนดีต่อคนที่มีผิวมันด้วยด้วย- - - - - - - - - - - - - - -
♡ ‘ Simple Soothing Facial Toner ’ #โทนเนอร์ในดวงใจ
เราเป็นคนผิวแพ้ง่าย มีผิวแห้งแบบขาดน้ำ มีความมันช่วงทีโซนง่าย เลยต้องหาสกินแคร์ที่ทั้งดีต่อคนผิวแพ้ง่าย และช่วยปรับสมดุลให้ผิว เพิ่มความแข็งแรงให้ผิวไปด้วย
สำหรับตัวนี้ที่เราซื้อใช้ซ้ำบ่อยๆ ก็คือโทนเนอร์ Simpleชื่อเต็มๆ เค้าคือSimple Kind to Skin Soothing Facial Tonerล่าสุดคือซื้อซ้ำมาขวดที่ 3 แล้วนะ เราชอบเค้าตรงที่
♡ ช่วยทำความสะอาดผิวหน้า และปรับสภาพผิวให้สมดุล
♡ การันตีโดย sensitive skin experts อ่อนโยนต่อผิวสุดๆ ใช้แล้วไม่แสบ ไม่คันผิว
♡ Alcohol Free 100% ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม สี และสารเคมีใดๆ
♡ มี อัลลาโทอิน ช่วยลดการระคายเคือง
♡ บำรุงผิวด้วย โปรวิตามินบี 3 โปรวิตามินบี 5
♡ สารสกัดวิช ฮาเซลช่วยกระชับรูขุมขน
แถมยังเป็นโทนเนอร์ในกลุ่มสกินแคร์ชื่อดังอันดับ 1 ของอังกฤษที่ขึ้นชื่อเรื่องความอ่อนโยนต่อผิวด้วยนะ แล้วคือราคายังน่ารักน่าคบสุดๆปริมาณ 200 มล. ราคา 199 บาท บางทีซื้อตอนจัดโปรฯ ที่วัตสันก็เหลือ 169 บาทเอง<3
- - - - - - - - - - - - - - -
♡ *Tips เล็กๆ โทนเนอร์ ใช้ยังไง
และสุดท้าย สำหรับผู้ที่ไม่แน่ใจ ไม่รู้ว่าโทนเนอร์ ใช้ยังไงวิธีใช้ไม่ยาก โดยTips วิธีใช้โทนเนอร์ที่ควรรู้คือ
♡ เลือกแบบโนแอลดีที่สุด
♡ ต้องเช็ดจากล่างขึ้นบน ย้อนรูขุมขน ยกเว้น รอบดวงตาและริมฝีปาก ค่อยๆ เช็ด อย่ารุนแรง จะทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดริ้วรอยได้
♡ เช็ดได้ทั้งเช้าเย็น หรือเย็นอย่างเดียวสำหรับคนผิวธรรมดาและผิวแห้ง
♡ ควรใช้ภายใน 3 นาทีหลังจากล้างหน้าเสร็จ ซับหน้าแห้งแล้ว เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เพราะงั้นการล้างหน้าจึงควรเป็นลำดับสุดท้ายในการอาบน้ำนะจ๊ะ
♡ โทนเนอร์บางชนิดทาได้ ไม่ต้องเช็ด หรือใช้เป็นแบบมาสก์ก็ได้
♡ ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ผิวแห้งก็แบบนึง ผิวขาดน้ำก็ใช้อีกแบบ ถ้าผิวมันก็ควรใช้อีกแบบ ถ้าใช้ผิดประเภทหน้าจะตึงเอาได้
- - - - - - - - - - - - - - -
และนี่ก็คือทริคหน้าใส ที่เราเพิ่งมาค้นพบตอนใกล้วัย 30 นี่ล่ะ>\\\< เขินเลยแต่เอาล่ะๆ เมื่อรู้แล้วว่าโทนเนอร์จำเป็นต่อการดูแลผิวหน้ายังไง ก็อย่าลืมไปหาโทนเนอร์ที่ชอบมาใช้กันซะ สำหรับเราก็โทนเนอร์ Simpleนี่แหละ#โทนเนอร์ในดวงใจใครเคยลองใช้โทนเนอร์ของเจ้านี้ก็อย่าลืมมารีวิวแลกเปลี่ยนกันบ้าง หรือมียี่ห้อไหนใช้แล้วดีก็เม้นต์มาบอกกันได้
ไม่ต้องเขินอาย เราอยากรู้ววว>3<
