#คุยกับตัวเองพื้นที่ของคนที่ชอบหาเวลาคุยกับตัวเอง เพื่อให้เกิดความคิดที่ตกผลึกก่อนไปสื่อสารกับคนอื่นแต่จะคุยแบบเปล่งเสียงออกมาหรือไม่ก็ได้ ไม่ต้องกลัวใครมองว่าบ้าเพราะบอกเลยว่าคนเราน่ะบ้ากันทั้งนั้น!สำหรับep.6 ว่าด้วยเรื่องธรรมชาติที่แสนจะธรรมดาในชีวิตมนุษย์ นั่นคือการเกิดและการตาย คำถามคือหากปลายทางของมนุษย์ทุกชีวิตต้องตาย ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วฟ้าส่งเรามาเกิดทำไมกันเล่า เคยถามตัวเองบ้างมั้ยว่าเราเกิดมาเพื่อตายจากไปแค่นั้นหรอ  !?

∞ เคยถามตัวเองมั้ยว่า เราเกิดมาทำไม?

ยืนยันว่าระหว่างที่เกิดคำถามนี้ขึ้นมาในหัว ไม่ได้รู้สึกน้อยใจในโชคชะตา ไม่ได้อยู่ในภาวะคิดสั้น และไม่ได้กำลังโกรธโลก แค่หมายความตามนั้นจริงๆว่าแท้จริงแล้ว เราเกิดมาทำไมกันนะ เราทุกคนเกิดมาเพื่ออะไรกันแน่

หลายคนอาจตอบเร็วๆได้ว่าเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตบางคนอาจบอกว่าเกิดมาเพื่อหาความสุข บางคนบอกเกิดมาเพื่อกินชาไข่มุก บ้างก็บอกว่าชั้นเกิดมาเพื่อรักเธอ (>///<)

หรือหากมองให้ลึกลงไปอีกนิดวิทยาศาสตร์อาจตอบให้ว่าเป็นผลลัพธ์จากการสืบพันธ์ุของมนุษย์ เมื่ออสุจิผสมรวมกับไข่ เกิดการปฏิสนธิกันในสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิที่เหมาะสมเราจึงถือกำเนิดมาจากความตั้งใจของมนุษย์คู่หนึ่งที่ต้องการผลิตชีวิตใหม่ขึ้นเพื่อสืบตระกูล

หรืออาจตอบได้ในเชิงพุทธศาสนาที่ว่าเกิดมาเพื่อ‘ ชดใช้กรรม ’เพราะในเชิงพุทธ เราเชื่อว่ากรรมหรือการกระทำต่างๆ เป็นต้นเหตุของการเกิดมาในชาติภพถัดไปพูดง่ายๆ ว่าชาติที่แล้วทำอะไรไว้ ชาติหน้าก็ต้องเกิดมาชดใช้กรรมนั้น และหมั่นสร้างกรรมดีต่อไป

รูปภาพ:

แต่แล้วมันยังไงต่อล่ะก็ถ้าเราเกิดมาเพราะเหตุผลเหล่านั้นจริงๆ โลกสร้างเราขึ้นมาแล้ว แต่สุดท้ายปลายทางทุกคนก็ต้องตายเหมือนๆ กันหมดถ้าอย่างนั้นในระหว่างมีชีวิตพระเจ้าต้องการบอกอะไรกับเรางั้นหรอ ไม่อย่างนั้นคือเราเกิดมาเพื่อมีความสุขแล้วจากไป เกิดมาสืบทอดตระกูลแล้วจากไป จบ แค่นั้นจริงดิ

หรือจริงๆ แล้วมันยังมีนัยซ่อนเร้นของการเกิดมามากกว่านั้น..

หรือในระหว่างที่มีชีวิต แต่ละคนอาจมีภารกิจบางอย่างที่ถูกกำหนดไว้ว่าต้องทำให้สำเร็จอย่างนั้นรึเปล่า

แล้วภารกิจที่ว่านั้น คืออะไรกันล่ะ..

∞ หรือที่เราเกิด เพราะไม่เก็ตซักที !?

บางทีภารกิจที่ว่า อาจเป็นภารกิจพิเศษนั่นคือการเรียนรู้อะไรบางอย่างในระหว่างการใช้ชีวิตพูดง่ายๆ คือเราเกิดมาเพื่อให้ได้เรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่เก็ตซักที ไม่เคยเข้าใจมันเลย ซึ่งถ้าใครที่สามารถเก็ตหรือเข้าใจได้ในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ คนนั้นก็ถือว่าทำภารกิจสำเร็จและอาจไม่ต้องเกิดอีกต่อไปคล้ายกับโมเดลของพระพุทธเจ้าเรื่องการนิพพานนั่นแหละ

รูปภาพ:

เช่นเดียวกับโมเดลจากหนังเรื่องโนอาห์ตามตำนานเรือโนอาห์คือ เรือนี้จะต้องเร่งสร้างขึ้นตามคำบอกเล่าจากพระเจ้าที่ว่า เมื่อถึงจุดหนึ่งโลกมนุษย์จะโกลาหลวุ่นวาย เราจะเข่นฆ่ากันเอง และทำลายผู้อื่นรวมถึงสัตว์และธรรมชาติไม่รู้จบ โลกจะบอบช้ำ เมื่อนั้นจะเกิดน้ำท่วมโลกมาชำระล้างสิ่งสกปรกชั่วร้ายให้มลายสิ้น ทุกคนจะตายหมด เหลือไว้ก็เพียงเรือโนอาห์ที่บรรทุกชีวิตที่บริสุทธิ์อย่างสรรพสัตว์ทั้งหลาย พร้อมด้วยโนอาห์และครอบครัวของเขา

แต่ตามเรื่องราวในหนัง กว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จตามที่ว่ามานั้นช่างมีอุปสรรคมากมาย แม้ปากทุกคนในครอบครัวจะรับฟัง เข้าใจในคำบอกเล่าของพระเจ้า แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะด้วยความเป็นมนุษย์ทำให้ยังมีกิเลส ความหวัง ความเชื่อ หรือก็คล้ายๆ กับแนวพุทธๆ ที่บอกว่าโดยเนื้อแท้แล้วมนุษย์ก็ยังมีรักโลภโกรธหลงอยู่ จึงทำให้ภารกิจของพระเจ้านั้นทำได้ยากยิ่งขึ้นไปอีก

ทั้งตัวละครแม่ที่สงสารและใจอ่อนกับเพื่อนร่วมโลกคนอื่นๆที่โดนพายุฝนซัดและลอยไปมาในน้ำท่วมจนอยากช่วยเหลือให้ขึ้นเรือมาด้วยกันทั้งฮาร์มลูกชายคนกลางของโนอาห์ที่ให้ความสำคัญกับความรักความหลงในช่วงวัยฮอร์โมนของเขาเหนือสิ่งอื่นใด เหนือคำสั่งของพ่อที่ได้รับสืบต่อมาจากพระเจ้า มุ่งแต่อยากจะหาคนรักมาไว้เคล้าคลอข้างกาย

รวมถึงตัวโนอาห์เองที่มุ่งมั่นแต่จะทำภารกิจของพระเจ้าให้สำเร็จจนหลงลืมความเป็นเพื่อนมนุษย์และความเห็นอกเห็นใจไปชั่วขณะแล้วไหนจะยังมีมนุษย์ร่วมโลกคนอื่นๆ ที่ไม่เชื่อคำทำนายนั้น ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ และต้องการจะแย่งชิงพื้นที่และอำนาจของกันและกัน เกิดการเข่นฆ่า สร้างความโกลาหลวุ่นวายเป็นอุปสรรคอีกมากมาย

แต่สุดท้ายโนอาห์และครอบครัวก็ทำสำเร็จ หลังอุทกภัยทำลายล้างเรือรอดพ้นนำพาผู้รอดชีวิตเหล่านั้นไปตั้งถิ่นฐานในดินแดนใหม่ได้ และใช้ชีวิตใหม่อย่างไม่เบียดเบียนธรรมชาติและสัตว์อื่นๆ ตามที่พระเจ้าว่าไว้แต่ถามว่านั่นคือภารกิจที่แท้จริงที่พระเจ้าต้องการให้เราทำและสำคัญกว่าความต้องการส่วนตัว อย่างที่โนอาห์บอกจริงๆ หรือ

เราว่าไม่ใช่..

รูปภาพ:

แต่ภารกิจที่แท้จริงที่พระเจ้าหมายถึงน่าจะหมายรวมถึงการให้เราเกิดมาเพื่อ ' เรียนรู้ ' ที่จะอยู่บนโลกมนุษย์อย่างสมดุลที่สุดมากกว่าสมดุลทั้งในแง่การเรียนรู้ที่จะอยู่กับเพื่อนร่วมโลกคนอื่นๆ สรรพสัตว์และธรรมชาติมากมาย อยู่ร่วมกันได้อย่างเข้าอกเข้าใจ ไม่เบียดเบียนกันอย่างที่โนอาห์เข้าใจก็ส่วนหนึ่ง

อีกส่วนหนึ่งก็คือส่วนที่โนอาห์ยังไม่เข้าใจ และเพิ่งได้เรียนรู้จากภารกิจครั้งนี้นั่นคือการมีสมดุลภายในของมนุษย์เอง หรือการรู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง เข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ว่าย่อมมี รัก โลภ โกรธ หลง แต่ยังคงควบคุมได้ด้วยคุณธรรมในจิตใจประเด็นก็คือนั่นไม่ใช่สิ่งที่เราจะเก็ตและทำกันได้ง่ายๆเพราะในวันนึงเราอาจเข้าใจสัจธรรมนี้ได้อย่างดี แต่วันถัดมาย่อมมีเหตุการณ์มากมายยั่วยุให้เราสติหลุด อยากทำตามอารมณ์รัก อารมณ์โกรธหรืออารมณ์ต่างๆ ของเราอยู่เสมอและกว่าจะเก็ตมันอีกทีก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราได้เรียนรู้และได้ฉุกคิดนั่นแหละ

เหมือนกับที่โนอาห์เองเพิ่งมาเก็ตในส่วนนี้จริงๆ ก็เป็นตอนท้ายของเรื่องที่ต้องสูญเสียความสัมพันธ์ใกล้ชิดของคนในครอบครัว ทั้งสูญเสียในแบบชั่วขณะและแบบถาวรไปแล้ว

เช่นเดียวกันภารกิจพิเศษที่มนุษย์เราได้รับมาจึงน่าจะเป็นการเรียนรู้ เรียนรู้ที่จะสร้างสมดุลในชีวิตทั้งภายในและภายนอก และกว่าที่เราทุกคนจะทำได้จริงๆ ต้องเกิดการเรียนรู้จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เราพบเจอในแต่ละวันซะก่อนนี่คือการchallengeมนุษย์ ให้รู้จักเก็ต ทำความเข้าใจชีวิตให้ได้ก่อนที่จะตายจากโลกใบนี้ไปเมื่อทำได้แล้วก็ย่อมเข้าใจสาเหตุของการเกิด ย่อมรู้ว่าชีวิตที่เหลือมีไปเพื่ออะไร และควรจะทำอะไรต่อก่อนจะสิ้นลมหายใจ จะได้ไม่ทำพลาดซ้ำ ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก

และนี่แหละคือภารกิจที่แท้จริง คือเหตุผลที่เรายังต้องเกิดมา ตราบใดที่เรายังไม่เก็ตเรื่องนี้ ก็ต้องกลับมาเกิดใหม่ วนซ้ำเรื่อยไป จนกว่าจะเก็ต จะได้เรียนรู้ในช่วงชีวิตหนึ่งของชาตินั้น

รูปภาพ:

∞ เราทำอะไรกันอยู่ ?

ก่อนที่เราจะ lost หลงทางในการใช้ชีวิตไปมากกว่านี้ อาจกลับมานั่งถามตัวเองกันก่อนว่า ตอนนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่ ชีวิตที่ผ่านมาทำภารกิจที่ว่านั้นสำเร็จไปแล้วแค่ไหน เราใช้ชีวิตเพื่อให้มีงานทำมีเงินใช้ มีความสุข ประสบความสำเร็จ มีอายุมาจนถึงขนาดนี้ เราเข้าใจอะไรในชีวิตมากขึ้นรึยัง

เมื่อได้คำตอบในส่วนนั้นแล้ว จะทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นด้วยว่าตอนนี้เรามาถูกทางแล้วหรือไม่ และได้รู้ไปถึงว่าเรายังไม่ได้ทำอะไรอีก

เพื่อที่จะได้ไปคิดต่อว่าชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ต้องทำอะไร คิดให้ละเอียดอีกทีว่าตอนที่มีชีวิตได้ทำอะไรให้กับตัวเอง ให้คนอื่นๆ และเพื่อโลกใบนี้ยังไงแล้วบ้างเพราะในทางหนึ่งมันคือการเลือกทางเดินของตัวเองในช่วงชีวิตอันแสนสั้นที่เหลืออยู่ เหมือนๆ กับที่เค้าพูดกันว่าเราเลือกที่จะเป็นคนแบบไหน อยากให้โลกจดจำเราไปในแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับเราแบบนั้นเลย

และเมื่อถึงจุดที่ต้องจากโลกนี้ เราจะได้ไปแบบคนที่เก็ตแล้วจริงๆ ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก และเพื่อที่ว่าก่อนตาย โลกจะได้จดจำเราไปในแบบที่เราอยากให้มันเป็นได้ด้วยยังไงล่ะ

เหมือนกับแนวคิดของหนังเรื่องนี้ ที่เราไปเจอมาพอดี๊จากตัวอย่างหนังแอนิเมชั่นเรื่องSOULหนัง Disney เรื่องใหม่ที่มีคิวฉายในเดือน มิถุนายน ปี 2020 ปีนี้แหละ(ถ้าไม่โดนเลื่อนไปซะก่อนนะ ><)หากยังมีชีวิตอยู่ถึงกัน เราก็ตั้งใจว่าจะไปดู อย่าลืมไปดูกันนะ

- - - - - - - - - - - - - - - - -

ก็อย่างที่ทุกคนรู้กัน ว่าเปิดต้นปีมาด้วยเรื่องราวโหดๆ อย่างสถานการณ์สหรัฐ-อิหร่าน, ไฟป่าออสเตรเลีย, ฝุ่น PM2.5, โจรชิงทองลพบุรี, ยิงที่โคราช, COVID-19, ไฟไหม้ป่าเชียงใหม่-เชียงรายนี่ก็ผ่านมาจะครึ่งปีแล้วหากคุณยังเป็นผู้รอดชีวิตจากสถานการณ์เหล่านี้ ถ้ายังมีชีวิตอยู่จงใช้ชีวิตทุกวินาทีอย่างคุ้มค่า

และอย่าลืมหาให้เจอ ว่าเราทำภารกิจเหล่านี้ไปแล้วแค่ไหน อย่าต้องให้มานั่งถามตัวเองในวันที่เราจากไปแล้วและต้องกลับมาเกิดใหม่บนโลกใบนี้อีกเลย

จบ ep.6 แล้วล่ะ เจอกันใหม่ ep. หน้า บายฮะทุกคนน<3

เรื่อง :https://sistacafe.com/curators/8785ภาพ :https://sistacafe.com/curators/51