5 วิธีปฏิเสธคนที่ 'ไม่ใช่' อย่างนิ่มนวลและดูดีที่สุด

ถ้าความรักมันง่ายอย่างเกมส์จับคู่ก็ดี คนทุกคนจะได้สมหวัง แต่เพราะมนุษย์เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย โดยเฉพาะจิตใจที่ยากแท้หยั่งถึง มันเลยยากเย็นเหลือเกินน่ะสิเมื่อเราต้องไปชอบคนอื่นฝ่ายเดียว หรือคนอื่นมาชอบเราให้ตายยังไง เรากลับรู้สึกไม่ชอบซะเลย หนักเข้ากลายเป็นรำคาญ เสียความรู้สึกต่อกันไปอีก

การปฏิเสธคน มันต้องมีศิลปะกันหน่อย เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไว้ และเพื่อภาพลักษณ์ของตัวเราเอง ขืนเลือกแต่ความตรงแบบขวานผ่าซาก ผู้ชายคนอื่นๆ ก็ผวาไม่กล้าจีบกันพอดี มาเรียนรู้การปฏิเสธคนแบบนิ่มนวลและดูดีที่สุดกันค่ะ

1. พาเพื่อนไปด้วยเสมอ หากเขายื่นข้อเสนอให้ไปเดทกัน

ไม่ว่าจะชวนกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ถ้าสาวๆ เองไม่ได้รู้สึกตกลงปลงใจอะไรแต่แรก คิดว่าเขาก็ชวนกินข้าวตามมารยาท ก็ควรเหน็บเอาเพื่อนสาวไปด้วยสัก 1-2 คน หรือทำข้อตกลงกับเขาว่าถ้าไปกันสองต่อสอง เราไม่ไปนะเพราะการไปด้วยกันสองคน ต่อให้เราไม่คิดอะไร อีกฝ่ายก็รู้สึกได้ว่าเรากำลังให้ความหวังอยู่ ( ชวนเดทสองต่อสองบ่อยๆ อาจใจอ่อนมากขึ้น ประมาณนั้น )

2. เฉยๆ ไม่แสดงท่าทีตอบรับในสิ่งที่เขาทำ

ทำตัวตามสบายของเราไป แต่ระวังตัวเองด้วยว่าการกระทำบางอย่างของเรา จะไปกระตุ้นการเรียกร้องความสนใจอะไรรึเปล่า ?

ซึ่งในจุดนี้ต้องสังเกตกันเอาเองว่าเขามีแนวโน้มจะทำอะไรเมื่อเห็นเราหรือไม่ เช่น เมื่อเห็นเราออนไลน์ ก็โพสต์อะไรที่เราชอบเยอะๆ รัวๆ เพื่อดึงดูดเราให้คุยด้วย, เข้าไปคอมเม้นต์เสมอไม่ว่าเรื่องนั้นจะเกี่ยวกับตัวเขาหรือไม่ก็ตาม ( ขอให้ได้มีส่วนร่วมกับเราไว้ก่อน )

เมื่อสังเกตได้จนพอจะรู้ทัน ก็ไม่ต้องให้ความสนใจอะไรมาก อย่าไปกดไลค์บ่อย อย่าไปตอบโต้อะไรบ่อย ข้ามๆ ไปบ้าง คุยนิดหน่อยตามมารยาทพอ

3. เมื่อเขาเริ่มก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว อย่าใจเย็นปล่อยผ่าน แต่ควรเตือนไปโดยตรง

คนเราจะเล่นกันแบบถึงเนื้อถึงตัว เล่นหัวกันได้ ยุ่งเรื่องส่วนตัวของเราได้ ( ระดับหนึ่ง ) ก็ต่อเมื่อสนิทกันทั้งสองฝ่ายแล้วเท่านั้น ไม่ใช่การคิดไปเองฝ่ายเดียวของคนใดคนหนึ่ง

ดังนั้น ถ้าเราไม่อยากให้เขาเข้ามาตีสนิทกับเรามากกว่านี้ ควรเตือนไปแต่แรกเลยว่า

' เราไม่ชอบ และเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น นี่ซีเรียสจริงๆ นะ อย่าทำอีก ขอร้องล่ะ '

เรามีสิทธิปกป้องตัวเองได้ ( ค่อยๆ พูดอย่างมีเหตุผล แต่อย่าพูดกันอย่างหยาบคายนะคะ ไม่งั้นเรื่องจะลุกลามมากกว่านี้ )

4. เข้าใจ แต่อย่าสงสาร หากเขามาปรึกษาปัญหา

ไม่ว่าเขาจะปรึกษาเรื่องอะไรก็ตามที่ไม่ใช่แค่เรื่องความรักอย่างเดียว สิ่งที่เราควรทำก็คือการรับฟังเหมือนเพื่อนคนหนึ่งด้วยใจเป็นกลางอย่าแสดงอาการสงสาร หรือชี้นำว่าเขาควรทำอย่างไร เพราะนั่นคือการแสดงท่าทีว่าเราให้ความสำคัญกับเขาและเขาก็อาจนำจุดนี้ไปเข้าใจว่าเราคือคนสำคัญของเขาจริงๆ เวลาที่เวลาเดือดร้อนอะไรก็ต้องหาเราเป็นคนแรก ( เราจะหงุดหงิดเอาได้นะจ๊ะ เตือนไว้ก่อนเลย )

5. พาตัวเองไปยุ่งกับเรื่องอื่นเพื่อเลิกสนใจเขาซะที

สำหรับสาวขี้สงสาร ปฏิเสธใครไม่เป็นเลย เกรงใจแม้กระทั่งที่จะแสดงท่าทีว่าไม่ได้ชอบแต่อย่างใด ก็ใช้ชีวิตตามสบายของเราไป แต่ควรจะหากิจกรรมอื่นด้วยที่ทำให้ตัวเองยุ่งๆ เข้าไว้ เช่น สมัครสมาชิกฟิตเนส, แฮงค์เอาท์กับเพื่อนสาวมากขึ้น เพื่อเบี่ยงความสนใจจากตัวเราไม่ให้คิดสงสารแล้วหลงรักแบบผิดๆ รวมทั้งเพื่อให้เขาสนใจเราน้อยลงจนเลิกพยายามกับเราด้วย

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเลือกปฏิเสธวิธีไหนก่อน อย่าใช้เวลานานที่จะบอกกันตรงๆ ค่ะ เขาจะได้เคลียร์ซะทีว่าควรเลิกเสียเวลากับเรา และเราก็จะได้เลิกเสียเวลากับการหลบเลี่ยงบ่ายเบี่ยงจนรำคาญกันเปล่า

อย่ารู้สึกผิดกับสิทธิที่เราเลือก เพราะคนเราไม่ควรรักใครตอบด้วยความสงสาร แต่ควรรักด้วยหัวใจจริง รู้สึก ' ใช่ ' จริงๆ