รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/ef/80/51/ef8051b0a891f6067bbff193b2c01da1.jpg

เป็นคนชอบกินนะ แต่ไม่ชอบเลย ที่มีคนมาทักว่าแกๆ กลิ่นตัวแกอะ แรงมากเลยนะWhat! นี่มันเกิดอะไรขึ้นเรามีกลิ่นตัวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!จริงๆ แล้วเรื่องกลิ่นตัวนั้น มันเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุมากๆ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุหลักๆ ที่สามารถทำให้เกิดกลิ่นตัวไดนนั้นก็คือ อาหาร วันนี้เราจะมาเปิดเผย7 อาหาร ที่กินแล้วทำให้ตัวเหม็นรู้ก่อนเผลอกิน เพราะอาหารแต่ละชนิด เป็นสิ่งที่ทุกๆ คนกินกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว!แต่จะมีอาหารอะไรบ้าง เราไปเช็คลิสต์พร้อมๆ กันเลยค่ะ

1. อาหารที่มีกลิ่นฉุน

รูปภาพ:https://www.vmcdn.ca/f/files/princegeorgematters/images/shutterstock/garlic-and-onion.jpg

เปิดมาที่อาหารชนิดแรก ที่กินแล้วทำให้เรามีกลิ่นตัว นั่นก็คืออาหารที่มีกลิ่นฉุนยกตัวอย่างเช่นกระเทียม หอม และยี่หร่าอย่างระเทียมอะ มันจะมีสารบางอย่าง ที่เมื่อพอขับออกมาเป็นเหงื่อผสมกับแบคทีเรียบนผิวหนังของเราแล้ว จะทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ค่ะ ส่วนหัวหอม แม้จะมีคำว่าหอมอยู่ในชื่อ แต่พอกินเข้าไปแล้ว ไม่ได้ช่วยให้ตัวหอมเลยนะอาหารเหล่านี้ ถ้าเรากินเยอะมากจนเกินไป มันจะส่งผลทำให้มีกลิ่นปากได้ด้วยเนื่องจากอาหารเหล่านี้จะผลิตแก๊สซัลเฟอร์ออกมา ส่งผลให้ออกซิเจนที่ไหลวนอยู่ในเลือดติดกลิ่นนี้ไปยังปอดและรูข­­­ุมขนนั่นเองเพราะฉะนั้นใครที่ชอบทานอะไรพวกนี้ จริงๆ ไม่ต้องเลิกหรอก แค่ลดปริมาณลงหน่อยก็ได้ เท่านี้ก็โอเคแล้ว

2. เนื้อแดง

รูปภาพ:https://dmrqkbkq8el9i.cloudfront.net/Pictures/2000x2000fit/6/4/4/180644_meat_7226_crop.jpg

เนื้อแดงมันคือชีวิตของมนุษย์โลกอย่างเรา! จริงๆ แล้วเนื้อสัตว์ที่เป็นเนื้อแดงนี้ก็มีกำมะถันที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เหมือนกัน เค้าว่ากันว่าเนื้อที่ส่งผลให้เกิดกลิ่นตัวมากที่สุดคือ เนื้อแบบสุกๆ ดิบๆค่ะซิส ซึ่งมีผลการวิจัยออกมาด้วยนะว่าการบริโภคเนื้อแดงอาจส่งผลต่อกลิ่นเหงื่อของเราได้เพราะเนื้อสัตว์และเครื่องในสัตว์นั้นอุดมไปด้วยซัลเฟอร์ อีกทั้งมีสารโคลีนสูงซึ่งมันเป็นอาหารที่ย่อยยาก กินมากๆ อาจจะทำให้ท้องอืดได้เมื่อมันย่อยไม่หมดนี่แหละปัญหาค่ะ เพราะมันจะทำให้เกิดการหมักหมมจนเกิดแก๊สในลำไส้ ส่งผลให้สาวๆ ผายลมและอุจจาระมีกลิ่นเหม็นเหมือนไข่เน่ายังไม่พอนะ เพราะตอนเวลาที่เหงื่อบนผิวหนังถูกขับออกมาอะ ก็จะทำให้มีกลิ่นอับ เหม็นตุๆ ด้วยแถมยังส่งผลให้มีกลิ่นปากตามมาอีกต่างหาก อือหือ! ครบทุกจุดที่สามารถมีกลิ่นได้ ไม่ไหวเลยจริงๆ

3. แกงกะหรี่ และ เครื่องเทศ

รูปภาพ:https://i1.wp.com/seonkyounglongest.com/wp-content/uploads/2019/04/Beef-Curry-4-.jpg?fit=1300%2C867&ssl=1

ใครที่ชอบทานแกงกะหรี่ รู้อย่างนี้แล้ว อาจจะทำให้เลิกชอบไปเลยก็ได้นะแกงกะหรี่ และเครื่องเทศก็มีผลทำให้เรามีกลิ่นตัวได้เหมือนกัน แม้จะเป็นอาหารที่น่าทาน แต่รู้มั้ยว่าอาหารที่ประกอบไปด้วยเครื่องเทศเหล่านี้ คือหนึ่งในสาเหตุหลักๆ ของการเกิดกลิ่นตัวเลยนะจ๊ะ แถมยังส่งผลให้มีกลิ่นตัวแรงเวอร์อีกด้วย! โดยเฉพาะกลิ่นน้ำมันหอมระเหยจากเครื่องแกง เช่น ใบยี่หร่าโอ้โห! ฝังลึกสุดๆ เลยค่ะมันจะฝังอยู่ที่รูขุมขนอะพอร่างกายเรามีเหงื่อปุ๊บ อือหือ กลิ่นตัวนี่ฉุนขึ้นมาเลยทันทีอาจจะเหม็นจนคนใกล้ตัวเบือนหน้าหนีเลยก็เป็นได้ แหม! แค่คิดก็ขมคอแล้ว!

4. หน่อไม้ฝรั่ง

รูปภาพ:https://boon.hu/wp-content/uploads/2020/06/11sparga-scaled.jpg

จริงๆ แล้วอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเวอร์ และต่ำเวอร์ ส่วนใหญ่ก็ทำให้มีกลิ่นตัวได้ นอกจากนี้ผักบางชนิด ก็ส่งผลให้เรามีกลิ่นตัวได้แบบไม่รู้ตัวด้วยเช่นเดียวกันค่ะ อย่างเช่นหน่อไม้ฝรั่ง หรือ Asparagusแม้จะเป็นวัตถุดิบสุดอร่อยของใครหลายๆ คน แต่กินมากไปก็ไม่ดีนะ ซึ่งเจ้าหน่อไม้ฝรั่งนั้น มีสารประกอบชนิดหนึ่งที่เรียกว่าMethyl Mercaptanมันมีคุณสมบัติละลายในน้ำได้ค่อนข้างสูง เมื่อเรากินผักชนิดนี้เข้าไปอะ สารชนิดนี้ก็จะผ่านเข้าไปสู่ระบบต่างๆ ในร่างกายทันที ส่งผลให้ปัสสาวะของเรามีกลิ่นฉุนนั่นเอง ซึ่งมันเกิดมาจากเจ้าสิ่งนี้แหละค่ะ นอกจากหน่อไม้ฝรั่งแล้ว ก็ยังมีผักตระกูลกะหล่ำ ถั่วและพืชชนิดฝัก ก็เป็นอีกหนึ่งต้นเหตุ ที่ทำให้มีกลิ่นตัวได้ด้วยเช่นเดียวกันนะ

5. อาหารหมักดอง

รูปภาพ:https://media.airedesantafe.com.ar/adjuntos/268/imagenes/001/505/0001505117.jpg

แค่ได้กลิ่น ก็รู้แล้วทันทีว่าถ้าฉันกินสิ่งนี้ กลิ่นตัวมาแน่ ไม่ต้องสงสัย!อาหารหมักดองมักจะเป็นของทานเล่นของใครหลายๆ คน แต่รู้มั้ยค่ะ ว่าอาหารชนิดนี้ จะทำให้เรามีกลิ่นตัวที่เหม็นเปรี้ยวแบบสุดๆคือกลิ่นของมันเป็นยังไง กลิ่นตัวของเราก็จะเป็นอย่างนั้น! คือพอเรากินสิ่งนี้เข้าไปปุ๊บ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาถูกย่อยสลายและโดนขับออกมาทางเหงื่อและน้ำลายหากทานมากๆ จะทำให้ตกขาวและน้องสาวมีกลิ่นเหม็นแถมยังทำให้ท้องอืดอีกด้วยนะ คือพูดง่ายๆ ว่า นี่เป็นอาหารต้องห้ามของสาวๆ อย่างเราเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ใช่แค่ปัญหาของกลิ่นเท่านั้นค่ะซิส แต่มันยังส่งผลให้ปวดประจำเดือนมากขึ้นกว่าปกติด้วย เพราะฉะนั้นควรเลี่ยง!

6. อาหารรสเผ็ด

รูปภาพ:https://d12man5gwydfvl.cloudfront.net/wp-content/uploads/2019/06/shutterstock_319400735.jpg

อาหารรสจัดจ้าน เป็นของโปรดของใครหลายๆ คน แต่ทานมากไปก็ไม่ดีต่อสุขภาพนะ เบาๆ หน่อยก็ดี ซึ่งอาหารรสเผ็ดเช่น แกงกะหรี่ แกงเผ็ดต่างๆ ส่วนใหญ่มักจะมีส่วนผสมของขมิ้น กระเทียม และเครื่องเทศที่มีกลิ่นแรง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมันผ่านการย่อยแล้ว จะทำให้เกิดแก๊สซัลเฟอร์ปนอยู่กับออกซิเจนในเลือดที่ไปอยู่ตามรูขุมขนค่ะ แล้วอาหารพวกนี้เป็นบ่อเกิดของเหงื่อมหาศาล ยิ่งกินเผ็ดมากๆ เหงื่อก็ยิ่งถูกขับออกมามากตามไปด้วยโดยเฉพาะใต้วงแขนนี่แหละ ที่เหงื่อจะออกมามากเป็นพิเศษ ซึ่งถ้ามันมีแค่เหงื่อก็ดีสิแต่ไม่ใช่ไง มันดันมาพร้อมกับกลิ่นฉุนของเครื่องเทศต่างๆ ที่ผสมอยู่ในอาหารเหล่านั้น!แถมยังส่งผลให้เรามีกลิ่นปากและลมหายใจที่ประกาศให้โลกรู้ว่าเราทานอะไรมาด้วย คุณพระ! แย่สุดๆ ไปเลยอะ ดังนั้นใครที่รู้ตัวว่า ตัวเองเป็นคนเหงื่อออกเยอะอยู่แล้ว หรือเป็นคนที่มีกลิ่นตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลี่ยงได้เลี่ยงนะ โอเคมั้ย!

7. อาหารขยะ

รูปภาพ:https://images7.alphacoders.com/105/1052237.jpg

และอาหารชนิดสุดท้าย ที่กินแล้วทำให้เรามีกลิ่นตัวก็คืออาหารขยะต่างๆของโปรดของดิฉันเลยจ้า แต่น่าเสียดายที่กินมากไม่ได้แล้วอะอาหารชนิดนี้ ไม่ใช่แค่ส่งผลในเรื่องของกลิ่นตัวอย่างเดียวนะ แต่ยังเป็นตัวบ่อนทำลายรูปร่างอันสวยงามของสาวๆ อย่างเราด้วยค่ะ อาหารขยะมักจะประกอบไปด้วยแป้ง น้ำตาล เนื้อสัตว์ โดยเค้ามีไขมันสูง ไฟเบอร์ต่ำ และผ่านการปรุงแต่งมามากมายซึ่งเป็นอาหารที่ย่อยยากมาก! แถมยังทำให้ท้องผูกอีกด้วยเมื่อถึงเวลาขับถ่าย แต่ดันออกมาไม่หมด ก็จะเกิดการตกค้างในลำไส้ หมักหมมจนกลายเป็นแก๊สที่ทำให้มีกลิ่นตัวและกลิ่นปากตามมา ซึ่งอาหารชนิดนี้ นอกจากจะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และต่อมไขมันที่ผิวหนังทำงานหนักแล้ว ยังทำให้อ้วนอีกด้วย เพราะฉะนั้นเบาๆ หน่อยจ้า เพื่อตัวของซิสเองนะรู้มั้ย

รูปภาพ:https://data.whicdn.com/images/331033469/original.jpg

คือมันเป็นอาหารที่เรากินกันบ่อยๆ อยู่แล้วไง ซึ่งแน่นอนว่าให้เลิกกินไปเลย ไม่ได้ค่ะ! แต่เราสามารถลดปริมาณการกินสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้นะ จริงๆ ของบางอย่างอะ มันก็ไม่ได้ดีต่อสุขภาพเท่าไหร่ ฉะนั้นผลพลอยได้คือ ลดกลิ่นตัวได้ด้วย แถมทำเพื่อสุขภาพด้วย ยังไงก็ลองไปปรับเปลี่ยนกันดูเนอะสำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย