มีใครรู้จักหนุ่มTroye Sivanบ้าง ยกมือขึ้นนนนนนนน

เรียกได้ว่าหนุ่มคนนี้กำลังมาแรงเลยล่ะค่ะ สำหรับหนุ่มทรอย ซีวาน หนุ่มน้อยมากความสามารถเจ้าของเพลงฮิตอย่างWildที่มี MV เกี่ยวกับเพื่อนบ้านที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งตกหลุมรักกัน แต่ความพีคมันอยู่ที่เด็กสองคนนี้เป็นผู้ชายค่ะ! ถูกใจสาววายกันทั่วบ้านทั่วเมืองเลยทีเดียว แต่เพลง Wild ก็ไม่ใช่เพลงเดียวที่ทั้งเพราะและมีความหมายดีนะคะ เพราะเพลงของหนุ่มทรอยทุกเพลง ล้วนมีเนื้อเพลงที่มีไพเราะและสอดแทรกอะไรให้ได้คิดอยู่ตลอดเลย

วันนี้เราจึงนำ 8 เพลงดีๆ ของหนุ่มทรอยมาฝากกันนั่นเองต่ะ รับรองเลยว่าแต่ละเพลงนั้นเป็นเพลงคุณภาพมากจริงๆ


1. Heaven Feat. Betty Who

ขอบอกก่อนเลยค่ะว่ามีความไบแอสเพลงนี้เป็นพิเศษ คือชอบมากกกกกก เพราะความหมายดีมากๆนั่นเอง

โดยเนื้อเพลง Heaven นั้น ทรอยได้กล่าวเกี่ยวกับการเป็นเพศที่สามหรือว่าการเป็นเกย์ของเขาเอง เขาเคยคิดว่าการที่เป็นแบบนี้มันคงผิดบาปใช่ไหม? แล้วเขาจะมีสิทธิ์ได้ขึ้นสวรรค์หรือเปล่า? แต่เมื่อเขาได้ทบทวนดีแล้วๆ ถ้าหากว่าการขึ้นสวรรค์นั้นทำให้เขาต้องสูญเสียความเป็นตัวตนไป บางที เขาอาจจะไม่ต้องการขึ้นสวรรค์แล้วก็ได้นะ คือมันสามารถให้เราได้คิดอะไรหลายๆ อย่างเลยนะคะเพลงนี้ ไม่ว่าสาวๆ จะเป็นยังไงก็แล้วแต่ จงภูมิใจในตัวเองเถอะค่ะ เพราะไม่ว่าจะพยายามปิดบังต่อคนอื่นยังไง ตัวเราก็ยังคงเป็นตัวเราอยู่ดี


2. Happy Little Pill

เป็นเพลงที่ฟังดูเหงาแบบ โอ๊ยย โดดเดี่ยวจังเลยลูกกก โดย Happy little pill นั้นกล่าวถึงการที่แม้จะอยู่ท่ามกลางฝูงชนก็ยังรู้สึกอ้างว้างอยู่ดี ทำได้แค่ใช้ชีวิต ใช้เงินแล้วก็ดื่มเหล้า เป็นการฆ่าเวลาไปวันๆ เขาจึงหวังให้ยาแห่งความสุขเม็ดเล็กๆ ช่วยมาเดิมแต่งท้องฟ้าของเขาให้มีสีสันขึ้นมาหน่อยเถอะ ประมาณนี้ ไม่แน่ใจว่ายาที่ว่านั้นหมายถึงการเปรียบเปรยอะไร แต่ด้วยทำนองและเนื้อร้อง สาวๆ จะรับรู้ได้ถึงความฟุ้งฝันอยู่พอสมควรเลยล่ะค่ะ


3. For Him Feat. AllDay

หวานจนมดขึ้นเลยล่ะค่ะสำหรับ For him เป็นเพลงน่ารักๆ ที่ในเนื้อเพลงบอกไว้ว่า คุณไม่ต้องพูดว่ารักเพื่อแสดงความรักของคุณหรอกนะ แล้วก็ลืมดาวตกกับพระจันทร์สีเงินไปได้เลย เพราะว่าเรากำลังจะสร้างสีสันใหม่ขึ้นมาเอง ความรักของเราน่ะหอมหวานอย่างกับน้ำผึ้งเลยนะ อีกอย่าง ผมก็ไม่ต้องการเงินหรืออะไรทั้งนั้น เพราะสิ่งที่ผมต้องการมีแค่คุณเท่านั้นแหละครับ...จ้า จ้า หวานไปอีกกกกกกกกก ฮือออออ


4. Wild

เป็นเพลงแรกในซีรีส์เพลง Blue Neighbourhood ค่ะ สำหรับเพลง Wild โดยเนื้อหาของเพลงก็จะพูดถึงความรัก อาจจะเป็นความรักของในช่วงเด็กถึงวัยรุ่น เพราะว่ายังเป็นความรักที่ขาดการยั้งคิดอยู่นั่นเองค่ะ ในเอ็มวีก็จะมีเด็กผู้ชายสองคนที่เป็นเพื่อนบ้านกัน ซึ่งนั่นก็คือทรอยและคนรักของเขาในเพลงนั่นเอง

5. Fools

เป็นหนึ่งในซีรีส์เพลง Blue Neighbourhood ที่ต่อมาจากเพลง Wild นั่นเองค่ะ โดยเนื้อหาของเพลง Fools ก็จะกล่าวถึงความเหนื่อยล้าที่พวกเขาต้องรักกันอย่างหลบๆ ซ่อนๆ อย่างที่ทุกคนรู้ดีค่ะ ว่าการรักเพศเดียวกันนั้นไม่ใช่สิ่งที่ในทุกๆ สังคมจะยอมรับได้ หนุ่มทรอยจึงตั้งใจที่จะสื่อถึงเรื่องราวเหล่านั้น ผ่านทางบทเพลงนั่นเองค่ะ


6. Talk Me Down

เป็นเพลงสุดท้ายในเพลงซีรีส์ Blue Neighbourhood ซึ่งประกอบไปด้วย Wild, Fools และ Talk me down ซึ่ง Talk me down มีความหมายว่า การพูดเพื่อทำให้ใจเย็นลงค่ะ บอกเลยว่า นอกจากเนื้อเพลงจะเศร้าแล้ว เอ็มวียังเศร้าไม่แพ้กัน ประมาณว่า ผมอยากจะนอนเคียงข้างคุณนะ อยากจะจับมือคุณเอาไว้ด้วย แต่ก็ทำไม่ได้ ผมอยากให้คุณมาหาตอนนี้เลยได้ไหม ช่วยมาพูดให้ผมใจเย็นลงก่อนที่ผมจะทำอะไรไม่ดีลงไป ( ในที่นี้หมายถึงการฆ่าตัวตายค่ะ ) คือมันเศร้าแรงมากถ้าสาวๆ ดูตามซีรีส์เพลงด้วยก็จะเข้าใจเนื้อเรื่องขึ้นนั่นเอง


7. Youth

เอ็มวีฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวมากๆ วำหรับเพลง Youth เนื้อเพลงก็ค่อนข้างมีความนัยอยู่นะคะ ซึ่งก็แน่นอนว่าถ้าฟังแล้วก็จะรู้สึกอารมณ์ดี เหมาะกับการฟังในวันพักผ่อนมากๆ เลย


8. Blue Feat. Alex Hope

เป็นเพลงที่ให้ฟีลหม่นๆ ครามๆ ค่ะสำหรับเพลง Blue ซึ่งบลูในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสีฟ้า แต่หมายถึงความเศร้าหมอง โดยเนื้อเพลงก็จะพูดถึงการขอร้องให้คนรักนั้นอยู่ต่อกับตัวเอง ถ้าไม่อย่างนั้นผมคงเศร้ามากๆ ประมาณนี้ค่า


หวังว่า 8 เพลงเพราะและความหมายดีจากหนุ่มทรอย ซีวาน จะทำให้สาวๆ มีความสุขกันในวันหยุดนะคะ รับรองเลยค่ะว่าเพลงของหนุ่มน้อยคนนี้จะไม่ทำให้สาวๆ ผิดหวังแน่นอน :D


บทความที่เกี่ยวข้อง