สวัสดีค่ะ สาวๆSistaCafeที่กำลังปวดหัว ตัวร้อนทุกคน! //เปื่อย...ที่ทักทายแบบนี้ เพราะเรากำลังจะพูดถึง' อาการเป็นไข้ 'ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ยิ่งช่วงนี้หน้าฝนกำลังมาด้วย หลายคนต้องเดินทางตากฝนกลับบ้าน กลับมาก็อาการออกละ...ซึ่งปกติถ้าเริ่มตัวร้อน คันคอ เมื่อยเนื้อตัว เราก็จะกินยาลดไข้ แอสไพรินบ้าง พาราเซตามอลบ้าง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ร่างกายจะกินยาได้บ่อยๆ บางคนอาจเป็นไข้เดือนละหนสองหน แถมร่างกายก็เซนซิทีฟกับสารเคมี กินมากก็กลัวมีผลกับตับไต อยากรักษาเองด้วยวิธีธรรมชาติมากกว่า จะทำยังไงได้บ้าง?ที่จริงในต่างประเทศ หากไม่ใช่ไข้ที่ขึ้นสูงรุนแรงจริงๆ เขาก็มักจะลดไข้กันเองที่บ้านนี่แหละค่ะ ถ้าไม่หนักมากก็จะไม่กินยาเลย เพื่อกระตุ้นภูมิให้ร่างกายแข็งแรง ดังนั้นวิธีที่เราเอามาบอกต่อในวันนี้ เป็นสิ่งที่ฝรั่งต่างชาติหลายคนทำเป็นปกติ และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายด้วยจึงคุ้มค่าที่จะลองทำตาม หากโชคร้ายเป็นไข้ขึ้นมาแต่ก่อนอื่น เราไปทำความรู้จัก' อาการเป็นไข้ 'ที่สากลเขานิยามกันก่อนดีกว่าค่ะ

-- จะรู้ได้อย่างไรว่าเรา 'เป็นไข้' แล้ว --

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/d823f775a67b6d8001d357d29477fac4.jpg

โดยปกติแล้ว อาการไข้คือการที่อุณหภูมิของร่างกาย ' สูงกว่า 37 องศา ' ค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นต่อเนื่องไม่เกิน 7 วัน ( ถ้าไม่เป็นโรคร้ายแรง 1-2 วันก็ดีขึ้นเยอะแล้ว ) มีทั้งแบบไข้ต่ำคือ 37.6-38.3 องศา, มีไข้ปานกลาง  38.4-39.4 องศา และ 39.5-40.5 องศาคือมีไข้สูงค่ะ

อาการส่วนใหญ่ของไข้ >>ปวดหัว, ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว เจ็บตามข้อ, เจ็บคอ, อาการขาดน้ำ, รู้สึกเย็น ตัวหนาวสั่น, มีอาการเจ็บตามร่างกาย, ( หากไข้สูง ) มีอาการเพ้อ เห็นภาพหลอน

เมื่อไหร่ควรไปหาหมอ >>

ปกติคนเราจะเป็นไข้มากกว่า 1 ครั้งในชีวิตอยู่แล้ว ถ้าไข้ขึ้นประมาณ 36-37 ก็ยังถือว่าปกติ สามารถรักษาตัวได้เองที่บ้าน อย่างวิธีในบทความนี้ แต่เมื่อไข้เริ่มขึ้นสูงกว่า 38 และมีอาการเจ็บหน้าอก ปวดหัวรุนแรงมากขึ้น เจ็บกล้ามเนื้อ อาเจียนบ่อยๆ ให้รีบพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลโดยด่วนที่สุดค่ะ!

เมื่อรู้ลักษณะและอาการคร่าวๆ ของการเป็นไข้แล้ว หากเป็นเพียงอาการตัวร้อน ไม่มีอาการข้างเคียงรุนแรง ก็ลองใช้8 ทริคลดไข้แบบไม่พึ่งยาตามวิธีด้านล่างนี้กันได้เลยค่ะ ♥(ˆ⌣ˆԅ)


1. ชามะรุม ( Moringa )

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/e334c8e7db86a9020a03af9ec43b09e2.jpg

' มะรุม ' เป็นสมุนไพรธรรมชาติที่ใช้กันทั่วโลก เป็นยาแผนโบราณที่ใช้รักษาอาการไข้และไข้หวัดใหญ่ค่ะ มีสรรพคุณเด่นๆ คือต้านการอักเสบและยาต้านจุลชีพ ( antimicrobial ) ที่ช่วยลดอาการอักเสบ

เพราะไข้ก็คือสัญญาณการอักเสบของร่างกายอย่างหนึ่ง เพื่อต่อสู้กับจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดไข้นั่นเอง ดังนั้นการดื่ม ' ชามะรุม ' ร้อนๆ สักถ้วย จะช่วยให้อาการไข้ดีขึ้นได้ค่ะ

เพียงเตรียมถุงชามะรุมกับน้ำร้อน นำถุงชาลงไปหย่อนในถ้วยที่ใส่น้ำร้อนๆ แช่ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วดื่มตอนที่ชายังอุ่นๆ ทำต่อเนื่องเช้าเย็น อุณหภูมิร่างกายจะค่อยๆ ลดลงกลับมาเป็นปกติ

2. น้ำขิง

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/7808401f1aa8bc324789fa9bb6db16e8.jpg

' ขิง ' เป็นสมุนไพรที่นอกจากช่วยเรื่องอาการเจ็บคอแล้ว ยังมีสรรพคุณต้านอาการอักเสบและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกด้วย ส่วนประกอบที่มีในขิงจะช่วยต้านอาการติดเชื้อ ลดการอักเสบ

ลดจุกเสียด ไมเกรน ลดอาการภูมิแพ้ และในระยะยาวยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน และช่วยลดน้ำหนักอีกด้วยค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม >> ขิง, น้ำอุ่น 1 แก้ววิธีทำ : เพียงหั่นขิงเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปต้มในน้ำ ก็ได้น้ำขิงสดใหม่พร้อมดื่มแล้ว! ดื่มในขณะที่ยังอุ่นๆ จะได้ผลดีที่สุด ดื่ม 2 ถ้วยต่อวัน จะช่วยบรรเทาอาการไข้ได้ค่ะ

3. พริกไทยดำ ( Black Pepper )

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/51ab13d74a094ce62fc4b0d7083b03d5.jpg

' พริกไทยดำ ' ไม่ใช่แค่เครื่องปรุงรสอร่อยในอาหารเท่านั้น แต่ยังมีส่วนประกอบทางชีวภาพ ( bioactive ) ที่ช่วยลดอาการอักเสบ และมีฤทธิ์ระงับอาการปวดจากธรรมชาติ ช่วยลดอาการเจ็บกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยตามข้อ และอาการปวดหัวที่มาจากไข้ได้ด้วยค่ะ (♥ω♥ ) ~♪

สิ่งที่ต้องเตรียม >>เมล็ดพริกไทยดำบดหยาบ 1/2 ช้อนชา, น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำเปล่า 1 แก้ว

วิธีทำ : ต้มน้ำให้เดือด ใส่เมล็ดพริกไทยและน้ำผึ้งลงไป คนให้เข้ากัน น้ำผึ้งจะเพิ่มรสหวานให้ดื่มง่ายขึ้น รอให้เย็นลง ยกจากเตา เทใส่แก้วแล้วดื่มในช่วงที่ยังอุ่นๆ ดื่มวันละถ้วยทุกวันจนกว่าอาการไข้จะลดลง

4. ขมิ้นใส่นมอุ่น (Turmeric Milk )

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/369456e626eec1cfdc1201e344dd5739.jpg

ขมิ้นมีส่วนประกอบหลักคือ ' เคอร์คูมิน ( curcumin ) ' ซึ่งมีงานวิจัยออกมาแล้วว่า มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการอักเสบในร่างกายได้ หากสาเหตุมาจากไข้หวัดใหญ่หรืออาการเป็นไข้ ทั้งนี้ยังมีคุณสมบัติลดไข้ตามธรรมชาติ


ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลงโดยไม่ต้องกินยาแต่อย่างใดค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม >> ผงขมิ้น 1 ช้อนชา, นมอุ่น 1 แก้ว

วิธีทำ : ต้มนมให้เดือด ใส่ผงขมิ้นลงไป คนให้เข้ากัน แล้วรีบดื่มขณะที่ยังอุ่นๆ ดื่ม 1 ถ้วยตอนเช้า และ 1 ถ้วยตอนเย็น ไม่กี่วันอาการไข้ก็จะค่อยๆ หายไปค่ะ

-- ตัวช่วยอย่างสมุนไพรลดไข้จบลงเพียงเท่านี้ แต่การดูแลตัวเองเพิ่มเติมในด้านอื่นๆ ก็สำคัญดังเช่นข้อข้างล่างดังต่อไปนี้เลยค่ะ --

5. เติมน้ำให้ร่างกายมากขึ้น ดื่มน้ำเยอะๆ จิบน้ำทั้งวัน อย่าให้ขาด!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/5104da619c0045b33067239c328eb52f.jpg

เวลาสาวๆ เป็นไข้ ระบบในร่างกายจะมีอาการขาดน้ำ ( dehydrated ) มากกว่าปกติ

จะสังเกตว่าเวลาเป็นไข้จะรู้สึกหิวน้ำ ปากแห้ง ตัวแห้งไปหมด นั่นเพราะเกิดกระบวนการใช้ของเหลวทั้งหมดกำจัดแบคทีเรียออกจากร่างกาย เป็นการต่อสู้ตามธรรมชาติของร่างกายเรานั่นเอง

ดังนั้นถ้าอยากหายจากไข้ไวๆ ต้องเติมน้ำให้ตัวเองตลอด

ห้ามขาดน้ำเด็ดขาด!

แต่ช่วงเป็นไข้ ร่างกายก็ต้องการเครื่องดื่มที่ให้พลังงานเพื่อสู้กับเชื้อโรคเช่นกัน เพื่อให้แข็งแรงและไม่เซื่องซึม

ดังนั้นไม่ควรดื่มแค่น้ำเปล่าเท่านั้น แต่ให้ดื่มจำพวกน้ำเกลือแร่และน้ำผลไม้ด้วย เพื่อเพิ่มพลังงานอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเคี้ยว และยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกายได้ด้วย


แนะนำให้ดื่มน้ำผลไม้สด 2 แก้วต่อวันเพื่อบำรุงสุขภาพจนกว่าอาการไข้จะดีขึ้นนะคะ

6. นอนหลับพักผ่อนให้มากๆ ยิ่งอดนอน ไข้ยิ่งไม่ลด

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/c17d744baf08cbec4ecb96f059541a8a.jpg

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เป็นไข้คือ

' ความเครียด '

บางครั้งอาการไข้คือสัญญาณเตือนจากร่างกายว่าต้องการนอนหลับพักผ่อนให้เต็มอิ่ม ซึ่งวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่มักทำกันไม่ได้ บรรเทาได้ง่ายๆ ด้วยการนอน!

แค่นอนให้ครบ 7-8 ชั่วโมงก็ช่วยบรรเทาอาการป่วยได้มากมาย รวมถึงการเป็นไข้ด้วยนั่นเอง

ควรนอนในที่ห้องอากาศถ่ายเท ถ้าอากาศไม่ร้อนเกินไป นอนห้องพัดลมดีกว่าห้องแอร์ที่อากาศวนเวียนอยู่ในห้อง ดีไม่ดีเสี่ยงเป็นหวัดรุนแรงกว่าเดิมด้วย

!

ใส่ชุดนอนแขนขายาว ห่มผ้าคลุมทั้งตัวกันอาการหนาวสั่น ดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ ก่อนนอน อาจใช้เวลาสัก 2-3 วัน แต่สุดท้ายอาการไข้จะดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

7. ความร้อนดับได้ด้วยความเย็น >> ทำร่างกายให้เย็นๆ เข้าไว้

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/bca5c9c86918dd7cf412a99c600c012f.jpg

เพราะร่างกายของเราผลิตความร้อนสุดขีดในช่วงเป็นไข้ ( ก็เกิดอาการอักเสบนี่นะ ) จึงต้องเบรกไม่ให้เกิดอาการช็อก ด้วยการใช้ความเย็นเข้าสู้!

ดยวิธีบ้านๆ ที่นิยมใช้และหายได้จริง คือนำผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นโปะไว้ที่หน้าผากแล้วนอนนิ่งๆ วิธีนี้จะช่วยลดอุณหภูมิร่างกายได้ทันที และบรรเทาอาการเจ็บ ปวดเมื่อยซึ่งพ่วงมากับอาการไข้ได้ด้วยค่ะ

แต่เนื่องจากบ้านเมืองเราอากาศร้อน หากใช้น้ำเย็น แป๊บเดียวก็หายเย็นและน้ำอาจจะหกเลอะเทอะเตียงได้ หากซื้อแผ่นแปะเจลลดไข้ หรือแผ่นประคบเย็นได้ก็จะดีมาก แค่แปะไว้ที่หน้าผากก็ไข้ลดลงได้ง่ายๆแต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างแพงก็อยู่ที่ความสะดวกของแต่ละคนแล้วกันน้า (๑・ω-)~♥”

--------------------------------------

ทริคลดไข้ง่ายๆ ทำได้เองที่บ้าน ทั้ง 7 ข้อก็มีเท่านี้ อยู่ที่สาวๆ เลยว่าจะเลือกข้อไหนไปใช้ หรือจะทำทุกข้อพร้อมกันก็ได้ถ้าสะดวก จะได้ช่วยให้หายเร็วขึ้น =w=bที่จริงอาการเป็นไข้แทบจะเรียกว่าเป็นโรคสามัญพื้นฐาน เป็นได้ง่ายๆ แต่หายไว ในบางครั้งที่เป็นไข้ธรรมดา ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาเสมอไปก็ได้ ลองใช้วิธีธรรมชาติตามนี้ดู อาการก็ดีขึ้นได้เช่นกันแถมไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงของยาสำหรับคนร่างกายเซนซิทีฟ ไม่ต้องไปหาหมอให้เปลืองค่ายาด้วย

ใครแจ็คพอตปวดหัวตัวร้อน เป็นไข้ขึ้นมา ก็อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ ให้ร่างกายชุ่มชื้นอยู่เสมอ กินสมุนไพรลดไข้ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ หาแผ่นลดไข้ หรือผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย แป๊บเดียวโรคนี้ก็หายไปได้เองแต่ถ้าทำทุกวิธีแล้วยังไม่หายแถมเป็นไข้หนักขึ้น ให้รีบไปหาหมอทันทีนะคะ อย่าทิ้งไว้นาน อาจมีอาการติดเชื้อแทรกซ้อนได้!!วันนี้เราขอตัวลาไปก่อนแล้วน้า เจอกันใหม่ บ๊ายบายค่า