ฮัลโหลค่าา สาวๆSistaCafeคนน่ารักทุกคนเลย(♥ω♥ ) ~♪แม้ช่วงนี้จะเริ่มปลดล็อกหลายๆ อย่างในสถานการณ์โควิดแล้ว แต่หลายบริษัทก็ยังเลือกที่จะ work at home หรือบางคนโชคร้ายต้องโดนลอยแพ ว่างงานอยู่บ้าน เครียดแล้วก็กินๆๆๆ จนรู้ตัวอีกทีไขมันเริ่มปลิ้นตามแขน ต้นขา หน้าท้อง กางเกงที่เคยใส่ได้ต้องโละหมด ทุกวันนี้ใส่แต่ยางยืด จะเดินเหินก็อึดอัดตัวเองไปหมดจนวันนึงดันมีอีเวนต์ต้องออกงานกะทันหันจ้า งานแต่งงานเพื่อนงี้ งานมีตติ้งเฉพาะกิจงี้ หรือที่ทำงานใหม่เรียกสัมภาษณ์สัปดาห์หน้า เดือนหน้า แต่หุ่นยังเป็นแบบนี้ก็คงไม่ไหวแต่จะลดน้ำหนักได้ไวๆ ไม่เสียสุขภาพ และไม่ใช้ยาลดความอ้วน ( ที่เราเกลียดมาก! ) ยังไงดีนี่สิ ที่เป็นปัญหา!แน่นอนว่าการลดแบบช้าๆ แต่มั่นคง น้ำหนักลดเดือนละไม่เกิน 2-4 กิโล ถือเป็นการไดเอทที่ดีที่สุด แต่เราก็เข้าใจว่าโอกาสใช้หุ่นบางครั้งมันก็มาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว แถมเวลานั้นเราก็อยากจะดูดีดูผอมที่สุดด้วย...วันนี้เราจึงมาบอกต่อ' 8 ทริคลดน้ำหนักแบบติดสปีด 'ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพคอนเฟิร์มว่า ทำง่าย ไม่โยโย่ ไม่พึ่งยา ไม่เสียสุขภาพ แต่เห็นผลลัพธ์ไวทันตาเห็นแน่นอน!แหนะ สนใจกันแล้วใช่มั้ยล่า~ งั้นถ้าพร้อมแล้วก็มาอ่านกันเลยค่ะ (♥ω♥*)

1. ชั่งน้ำหนักในทุกๆ 'วันศุกร์' ✧*

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/7e1e96df895d842e80d06a95612f264b.jpg

อะงงล่ะสิ ว่าทำไมต้องเป็นวันศุกร์?? มีงานวิจัยออกมามากมายว่า

คนที่ชั่งน้ำหนักบ่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ จะประสบความสำเร็จในการไดเอทมากกว่าคนที่นานๆ ทีถึงจะชั่ง ผัดผ่อนไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็อ้วนกว่าเดิม นั่นเพราะทุกครั้งที่ขึ้นชั่งเราจะเห็นเลขน้ำหนักชัดเจน ( แถมบางยี่ห้อเลขเป็นสีแดงด้วย ) จึงเหมือนบังคับไปในทางจิตวิทยาว่าเราต้องไม่ทำให้เลขนี้เพิ่มขึ้นไปมากกว่าเดิมค่ะ

ที่ต้องเป็นวันศุกร์ เพราะคนส่วนใหญ่จะเริ่มกระบวนการไดเอทวันแรกของสัปดาห์ ซึ่งมักเป็นวันจันทร์ ทำได้ดีมาจนถึงวันศุกร์ แต่ไปตบะแตกช่วงสุดสัปดาห์แล้วก็วนลูป! เพื่อหยุดลูปนี้ เราจึงแนะนำให้เธอชั่งวันศุกร์ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจว่าตลอด 4 วันที่ผ่านมาเธอทำได้ดีแค่ไหน และเตือนสติว่าอย่ากินเยอะเกินไปช่วงวันเสาร์อาทิตย์


( แต่ถ้าขยันชั่ง จะชั่งทุกวันจันทร์และวันศุกร์ก็ยิ่งดี เพราะวันจันทร์จะเป็นผลลัพธ์ว่าวันหยุดเธอกินแหลกแค่ไหน และไม่กลับไปทำแบบเดิมอีก )

**อย่าลืมเก็บสถิติน้ำหนักตัวเองไว้ ว่าเธอจะลดได้ดีช่วงไหน หย่อนช่วงไหน แล้วปรับให้เข้ากับสไตล์ตัวเองตามสะดวก เมื่อได้เวลาชั่งที่เหมาะกับตัวเองแล้ว เป้าหมายในการพิชิตหุ่นสวยก็ง่ายขึ้นค่ะ

(♡´❍`♡)*✧

2. เปลี่ยนจานอาหารปกติ เป็น 'ชามเล็กใส่ของว่าง' แทน ✧*

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/5e7a06ff4e5d86acb11b972564a406c7.jpg

ใครเล่าจะเชื่อว่า แค่เปลี่ยนขนาดของ ' จานใส่อาหาร ' ก็ช่วยให้น้ำหนักลงแบบเนียนๆ ไม่รู้ตัวมานักต่อนัก!

ที่จริงสมัยก่อนจานข้าวไม่ได้กว้างและหลุมลึกเท่านี้ เขาก็ตักใส่ชามเล็กๆ ทั่วไปนี่ล่ะค่ะ มากว้างขึ้นช่วงหลังๆ ทั้งที่พลังงานมนุษย์ใช้เท่าเดิม ( เผลอๆ ใช้น้อยลงเพราะมีเทคโนโลยีมากขึ้น ) เมื่อจานใหญ่ก็ตักข้าวเยอะขึ้น ทำให้อ้วนขึ้นโดยปริยาย

ดังนั้นเราต้องกลับไปสู่ยุคเก่าด้วยการใส่ชามเล็กๆ ขนาดเท่า ' ชามใส่สลัดผัก ' เพื่อลดความอ้วนจะดีกับหุ่นเรามากกว่า

เมื่อเรากินข้าวในจานที่เล็กลง ในทางจิตวิทยาเราจะรู้สึกว่าเรากินเต็มจานแล้ว เรา ' ควรต้องรู้สึกอิ่ม ' โดยไม่อยากตักเพิ่ม และยังมีผลด้านจิตใจที่ดีกว่าอีกด้วย จะสังเกตว่าเวลาไปร้านอาหารแนว full course โอมากาเสะใดๆ แต่ละจานเสิร์ฟมาขนาดเท่าอุ้งมือ แต่เรากลับรู้สึกอิ่ม รู้สึกพึงพอใจมากกว่ากินข้าวแกงจานใหญ่ตามร้านทั่วไป

ลองใช้กฎนั้นกับการไดเอทดู! เธอจะลดปริมาณแคลอรี่ได้กว่าครึ่งในแต่ละวันเลยทีเดียว หรือถ้ากินนอกบ้าน ก็เลือกกินแค่ครึ่งจานเท่านั้น รับรองความผอมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

3. ใส่น้ำตาลหรือไขมันดีลงใน 'สลัดชามโปรด' บ้างสิ ✧*

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/35360d0152d8165dc038f8d6c73f2290.jpg

ถ้าพูดถึงอาหารลดความอ้วน แทบจะเป็นกฎสากลโลกว่า ' สลัดผัก ' มาวินอันดับหนึ่ง คิดอะไรไม่ออกก็เลือกกินสลัดไว้ก่อน แต่มันก็แอบเป็นดาบสองคมเหมือนกัน หากเลือกแต่ผักใบเขียวล้วน มีแต่รสขมๆ จืดๆ โปรตีนไม่มี ไขมันไม่มี

แต่ดึงดันจะกินแทนมื้ออาหารหลักทั้ง 3 มื้อ เกรงว่าจะตบะแตกลงมาซัดขนมในตู้เย็นตั้งแต่วันแรก... แคลอรี่มันน้อยเกินไปค่ะเธอออ แล้วร่างกายมันฉลาดนะ ถ้ากินน้อยเกินที่ร่างกายต้องการ มันจะเข้าสู่ระบบจำศีล คราวนี้น้ำหนักไม่ลงละ แต่ตัวบวมขึ้นเพราะกักเก็บไขมันกลัวเราจะตาย ดังนั้นอย่าหาทำ!!

เราไม่ได้ห้ามให้กินสลัดแต่อย่างใด แต่ขอให้เพิ่ม' อาหารอื่นๆ 'ลงไปบ้าง จะใส่น้ำสลัดรสอร่อยสักช้อน ก็ไม่ทำให้น้ำหนักพุ่งขึ้นขนาดนั้นหรอก


หรือใส่รสสัมผัสกรุบๆ เนื้อครีมมี่หวานๆ อย่างถั่วและธัญพืช, อะโวคาโด, ผลไม้อบแห้ง ท็อปปิ้งด้านหน้าด้วยเนื้อปลาและไก่ไม่ติดมัน ก็ช่วยให้อิ่มท้องได้นานขึ้น เป็นมื้อหลักที่เฮลตี้สุดๆ และไม่ตบะแตกภายหลัง

ด้วยนะคะซิส ♥(ノ´∀`)

4. ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้วใหญ่ๆ ก่อนกินอาหารทุกมื้อ ✧*

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/35e815e619b9a1ae009e85c6fafc2fce.jpg

ทริคข้อนี้น่าจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว คือการดื่มน้ำเปล่า 1 แก้วใหญ่ๆ ก่อนมื้ออาหาร จะช่วยทำให้เธออิ่ม กินได้น้อยลง ทำให้ผอมได้เร็วขึ้นค่ะ!

มีงานวิจัยจาก obesity journal พบว่า ผู้ป่วยโรคอ้วนที่ดื่มน้ำปริมาณ 500 มิลลิลิตรก่อนอาหารมื้อหลัก 30 นาที จะลดน้ำหนักได้มากกว่าคนไม่ดื่มถึง 1.5 กิโลกรัม!! หากดื่มน้ำก่อนทั้งสามมื้อ ก็อาจจะลดได้เฉลี่ย 5 กิโลใน 3 เดือนเลยทีเดียว! ดังนั้นทริคนี้เวิร์คชัวร์

นอกจากดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร เราแนะนำให้ค่อยๆ จิบน้ำเรื่อยๆ ทั้งวันก็ช่วยให้ไม่หิวได้ เติมน้ำให้ร่างกายตลอดเวลา ได้ทั้งความอิ่มแบบไร้แคลอรี่ ไม่กินจุกจิก ผิวพรรณชุ่มชื้นเต่งตึงยิ่งขึ้น ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานดีขึ้น ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น

ไม่ต้องห่วงว่าจะดื่มน้ำจนจุกนะคะ เพราะยังไงร่างกายคนเราก็ต้องการน้ำประมาณ 2 ลิตรต่อวันอยู่แล้ว

ทั้งนี้ถ้าเบื่อรสสัมผัสน้ำเปล่าแล้ว จะดื่มเป็นชาสมุนไพร ชากลิ่นต่างๆ ที่ 0 แคลอรี่ หรือใส่ผลไม้ลงไปแช่เป็น infused water ก็ช่วยได้ค่ะ

5. เพิ่มการออกกำลังกายประเภท 'เวทเทรนนิ่ง' เข้าไปด้วย ✧*

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/41ab76a7c13720b4fdaf876987f0bc13.jpg

อยากลดน้ำหนักลงไวๆ แค่คาร์ดิโอ วิ่ง เดินลู่ ปั่นจักรยานให้หัวใจทำงานอาจจะไม่พอแล้วล่ะค่ะ ต้องเพิ่ม ' เวทเทรนนิ่ง ' เข้าไปในตารางด้วย เพราะการออกกำลังกายชนิดนี้จะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ กระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานดีขึ้น กินเท่าเดิมแต่ผอมลง!

สาวๆ บางคนกลัวร่างกายล่ำ บอกเลยว่าไม่มีทาง! นักเพาะกายกินโปรตีนเป็นถังๆ ออกกำลังกายวันละหลายชั่วโมง กล้ามยังไม่ค่อยจะขึ้นเลย คนทั่วไปอย่างเราออกแบบปกติ อย่างมากก็ตัวเฟิร์มขึ้นเท่านั้นค่ะ ดังนั้นหมดห่วง!

ใครงบน้อยก็ไม่จำเป็นต้องสมัครคอร์สฟิตเนสแพงๆ จ้างเทรนเนอร์ชั่วโมงละหลายร้อย ( หรือคนฮอตๆ หน่อยอาจเป็นพัน ) ก็ได้ เพราะเธอสามารถออกกำลังได้เองที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการซิทอัพ ยกพื้น ยกดัมเบล สควอท ล้วนเป็นการกระชับและออกกำลังให้กล้ามเนื้อแข็งแรง


ข้อดีของการเวทเทรนนิ่งคือเธอไม่ต้องเคร่งกับอาหารแคลอรี่ต่ำ หรือกินน้อยจนเกินไป ไม่ต้องสติแตกกับการกินแต่ผักกับน้ำเปล่า กินปกติธรรมดาก็หุ่นเป๊ะได้ สัดส่วนลด แถมไม่ย้วยด้วยนะเออ!

6. ตักข้าวกินแต่ละคำ วางช้อนส้อมลงก่อน เคี้ยวให้เสร็จ ค่อยตักใหม่! ✧*

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/2ab4fd2e09de8d4897c9b047e8c2cd0b.jpg

เราเชื่อว่าสาวๆ สายกินมากมาย จะมีลักษณะการกินบางอย่างที่คล้ายกัน เช่น ถือช้อนส้อมติดมือตลอดเวลา ระหว่างเคี้ยวก็เตรียมจิ้มเนื้อยัดเข้าปากคำถัดไปทันที ปากไม่เคยได้พัก ยิ่งบุฟเฟ่ต์นะ เคี้ยวกันจนไม่รู้รสชาติเลย เน้นเอาคุ้มอย่างเดียว สุดท้ายก็เลยอ้วนขึ้น!


ดังนั้นถ้าอยากผอม เปลี่ยนวิธีการกินใหม่ค่ะ จะถือช้อนส้อมต่อเมื่อตักอาหารขึ้นมาเท่านั้น

เมื่อตักเข้าปากเสร็จ ระหว่างเคี้ยวให้วางช้อนส้อมทันที ใส่ใจกับทุกๆ คำที่เคี้ยว ทั้งรสชาติ texture อุณหภูมิของอาหาร เคี้ยวช้าๆ ดื่มด่ำกับทุกสัมผัส เมื่ออาหารหมดปากแล้วจึงตักคำต่อไป

พราะสมองของเรา หลังกินเสร็จต้องใช้เวลาสักพักถึงจะส่งสัญญาณว่าอิ่ม หากกินเร็ว สมองประมวลไม่ทันก็กินเยอะเกินความจำเป็นได้ ดังนั้นขอให้กินช้าๆ กินอย่างมีสติทุกครั้งในทุกมื้อ นอกจากผอมลงแล้ว ระบบย่อยอาหารก็จะทำงานได้ดีขึ้น ไม่ต้องพึ่งยาธาตุระบายกรดเกินอีกต่อไปด้วยค่ะ! ( ˊᵕˋ )♡.°⑅

7. วางขนมหวาน ของกินเล่นไว้ในที่สูงๆ เอื้อมไม่ถึง หรือเอาไปซ่อนซะ! ✧*

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/3e863e55d83d73b3aa75811a775d7d65.jpg

ความยั่วยุมันห้ามใจยาก เรารู้ดี! ถึงจะพยายามบอกตัวเองว่า " ฉันกำลังไดเอท ฉันกำลังลดความอ้วน " แต่มีขนมหวาน ช็อกโกแลต ลูกอม คุกกี้ของโปรดวางอยู่ตรงหน้า มันก็ทำใจยากที่จะไม่เอื้อมมือไปหยิบมากิน ไปๆ มาๆ เอื้อมบ่อย พุงยื่นเลยทีนี้


อย่ากระนั้นเลย เอาไปเก็บไว้ในที่สูงๆ ที่หยิบยาก หยิบไม่สะดวก เช่น หลังตู้เก็บจานข้าว ชั้นบนสุดของตู้หนังสือ หรือให้คนที่บ้านเอาไปซ่อน แล้วไม่ต้องบอกเธอว่าซ่อนไว้ที่ไหน จนกว่าจะไดเอทสำเร็จ ก็เป็นทริคที่น่าสนใจค่ะ

ช่วงลดความอ้วน อย่าเอาของล่อตาล่อใจไปวางบนเคาน์เตอร์ห้องครัว หรือในตู้เย็นที่แค่เปิดก็เจอ เพราะเธอจะอดใจให้ไม่กินไม่ได้แน่นอน หรืออีกทริคคือ ถ้าอยู่คนเดียว และในบ้านไม่มีที่ซ่อนจริงๆ แต่มีขนมเหลืออยู่ ก็เอาผ้าคลุมปิด และอย่าไปเปิดมัน!


เมื่อเราไม่เห็นขนมในสายตานานๆ เราก็จะลืมไปเองว่าเคยมีขนมนั้นอยู่ ทำให้เราลดน้ำหนักได้โดยไม่มีอุปสรรคค่ะ

8. โหยขนม แต่กลัวยั้งปากไม่อยู่ ให้กิน 'ของหวานชิ้นพอดีคำ' ก่อนมื้อหลัก ✧*

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/57fec4cd30d663b2a65f8ecab9d851c0.jpg

ถ้าลดน้ำหนักกันหลายสัปดาห์ หรือเข้าขั้นหลักเดือน ผู้หญิงอย่างเราต้องเจอกับช่วงที่เลี่ยงไม่ได้อย่าง ' ประจำเดือน ' เป็นแน่แท้ ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าช่วงเมนส์มาเป็นอะไรที่โหยมาก อยากกินขนมหวานๆ ของมันๆ ( เป็นเรื่องของฮอร์โมนด้วย )

หากช่วงที่หิวแล้วไม่ยอมกินขนมบ้างเลย มีสิทธิ์ตบะแตกซัดเค้ก บิงซู ชานมไข่มุกช่วงเมนส์มาสูงมาก ซึ่งอาจลงเอยด้วยการที่น้ำหนักเยอะกว่าก่อนลด... #แล้วฉันจะไดเอทไปทำไมกัน...

ปัญหานี้แก้ได้ง่ายๆ ด้วยการ ' กินขนมหวานชิ้นเล็กแบบพอดีคำ ( bite-size ) ' ก่อนกินอาหารมื้อหลักค่ะ เช่น คุกกี้ช็อกชิพ 2 ชิ้นเล็ก, เค้กครึ่งชิ้น, ชานมไข่มุกครึ่งแก้ว, ผลไม้ 2-3 ชิ้น เพื่อให้ร่างกายซึมซาบกับความสุขที่ได้กินของหวาน แล้วค่อยเติมด้วยอาหารมื้อหลักให้อิ่ม


สาเหตุที่ไม่ให้กินหลังมื้อหลัก เพราะเธออาจจะยั้งปากไม่อยู่ กินไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้นได้ แต่ถ้ากินก่อน เธอจะรู้ว่ายังมีมื้อหลักที่ต้องกิน ทำให้ไม่กินขนมเยอะจนเกินไปค่ะ ( ๑ ❛ ڡ ❛ ๑ )❤

---------------------------

ก็จะประมาณนี้เลย กับ 8 ทริคลดความอ้วนด่วนๆ แบบติดสปีดเทอร์โบ ที่เราอยากให้สาวๆ ที่กำลังนอยด์กับหุ่นตัวเอง ต้องออกงานแต่มีเวลาจำกัดไปลองทำดู!ทุกวิธีไม่มีอะไรอันตราย เป็นแค่การปรับไลฟ์สไตล์ตัวเองให้เข้มข้นขึ้น เอื้อกับการไดเอทมากขึ้นเท่านั้น ที่เหลือก็อยู่ที่วินัยและความพยายามแล้ว ขอให้นึกถึงเป้าหมายเข้าไว้ อย่าเพิ่งท้อกลางทาง หากคิดจะล้มเหลวก็ขอให้ดูตัวเลขน้ำหนักที่ผ่านๆ มา เธอลดมาขนาดนี้แล้วเราจะยอมแพ้เหรอ? ขอให้ฮึบไว้แล้วไปต่อนอกจากหุ่นเป๊ะสวยแล้ว ยังได้สุขภาพดีๆ เป็นของแถมอีกด้วยอย่าปล่อยตัวเองไว้กับหุ่นเก่าอีกเลย มาเฉิดฉายกับหุ่นใหม่แกะกล่องที่เธอปั้นขึ้นเองดีกว่า สู้ๆ นะคะซิส! (∗ᵒ̶̶̷̀ω˂̶́∗)੭₎₎̊₊♡