- - สวัสดีค่ะ สาวๆSistaCafeคนน่ารักทุกคน(♥ω♥*)- -ในยุคสมัยนี้ที่ทุกอย่างคือการแข่งขัน มาตรฐานต่างๆ ในสังคมก็ยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ จนบางทีก็เป็นท้อเรียนก็ต้องได้เกรดดี กิจกรรมเด่น กีฬาก็ต้องได้ ภาษาที่ 3 ที่ 4 ก็ควรมีถ้าอยากหางานได้เร็ว ไล่ไปจนถึงวัยทำงานที่แข่งกันเข้าบริษัทใหญ่ สวัสดิการดี พัฒนาทักษะทั้ง hard skill และ soft skill อย่างเอาเป็นเอาตาย จนบางครั้งก็ละเลยความรู้สึกของตัวเองทุ่มเทพลังงานไปกับการแข่งขัน มิชชั่นคอมพลีทก็ดีไป แต่หลายคนก็ทำได้ไม่ถึงเป้าที่ ( ตัวเอง ) วางไว้ เกิดความเครียด ตีอกชกหัวว่าทำไมตัวเองทำไม่ได้ ก่นด่าตัวเองว่าหัวไม่ดี โชคร้าย etc. จนโลกหดหู่ไปหมด แค่คิดก็เครียดตามแล้ว....เรื่องปากท้อง หน้าที่การงาน เงินเก็บในอนาคตก็สำคัญ แต่ทั้งนี้' สุขภาพจิต 'ควรมาเป็นอันดับหนึ่งค่ะ ( แต่คนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกลับกัน คนถึงไม่ค่อยยอมไปหาจิตแพทย์ ) เพราะถ้าชุดความคิดเราไม่ดี สุขภาพจิตแย่ ก็จะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนหรือทำงานแย่ลงอยู่ดีวันนี้เราจึงมาชวนสาวซิสทุกคนให้ปรับมุมมองในแง่บวก เลิกคิดลบ " ใจดีกับตัวเองให้มากขึ้น " ทั้ง 7 ขั้นตอนนี้ เพื่อความสุขยั่งยืนที่แท้จริง จะต้องทำแบบไหน ยังไงบ้าง ก็เลื่อนลงมาอ่านด้านล่างกันได้เลยน้า (♥ω♥ ) ~♪

❤ 1. 'ให้อภัย' ตัวเองบ่อยๆ อย่าปล่อยความนอยด์ไว้นาน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/5bedbc7d66099ca95e2f8f5d67859154.jpg

พูดเหมือนง่าย แต่ตอนลงมือทำจริงก็คงยากพอดู แต่ถ้ากลั้นใจก้าวผ่านความกล้าตรงนี้ไปได้ ข้ออื่นๆ ที่เหลือก็ง่ายแล้วล่ะค่ะ!

ไม่ง่ายเลยที่จะลืมความผิดพลาดหรือสะเพร่าของตัวเองเนอะ

ยิ่งสำหรับคนที่มีความรับผิดชอบสูง เป็น Perfectionist หรือเป็นคนดัง มีคนคอยจับตามองตลอด พลาดทีนึงก็พร้อมมีคนบางส่วนลุยกระทืบซ้ำตลอดเวลา

ทำให้บางคนไม่กล้าจะก้าวผ่าน ไม่กล้าให้อภัยตัวเอง จมจ่อมอยู่ในความเศร้าโศกอยู่อย่างนั้น

จำไว้นะคะว่า ถ้าจะมีคนที่ช่างแซะ ขยันทำให้เธอเสียใจที่สุดก็คือ ' ตัวเธอเอง ' นั่นแหละ ไม่ใช่ใครอื่น!

หลายคนพร้อมให้อภัยเพื่อนสนิท ครอบครัว หรือคนไม่รู้จักในอินเตอร์เน็ต แต่ไม่ยอมให้อภัยตัวเอง โทษตัวเองทุกวันกับความผิดที่บางครั้งก็เล็กน้อยมากๆ แต่ระยะยาวทำให้สุขภาพจิตเสียถาวรไปเลย

ดังนั้นลองฝึก' ให้อภัยตัวเอง 'ดูค่ะ หากทำอะไรพลาดไป ให้หยุดคิด ทบทวน และหาทางออกว่าเราจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกได้ยังไง เพราะนั่นคือเราพยายามหาทางแก้อย่างสุดความสามารถแล้ว


ถ้าเป็นคนอื่น เขาอาจไม่ทำขนาดนี้ เรายังให้อภัยเขาได้เลยนี่นา แล้วทำไมตัวเองจะให้ไม่ได้ล่ะ? อาจจะทำไม่ได้ทันที แต่ถ้าเธอไม่หยุดฝึก เราเชื่อว่าต้องทำได้ในสักวันค่ะ

❤ 2. ลองเขียน 'จดหมายรัก' ให้ตัวเองดูสิ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/6f8cfffc0a1f00fbab54e477c019c616.jpg

ถ้าโลกนี้ไม่มีใครให้กำลังใจเรา เราก็ปลอบโยนตัวเองได้ค่ะ! ลองเขียนจดหมายรักจ่าหน้าถึงตัวเองดู ร่ายข้อดีของตัวเองให้เต็มหน้ากระดาษ ถ้าเกิดปัญหาเป็นตัวเองแล้วเขียนไม่ออก หัวไม่แล่น ก็ลองคิดว่าคนคนนั้นเป็นคนที่เธอรักและห่วงใยก็ได้

วิธีนี้ตอนเขียนอาจจะเขินๆ หน่อย แต่โมเมนต์ที่เขียนเสร็จ ใส่ซองแล้วนำกลับมาอ่านใหม่ หัวใจมันพองฟูอย่างบอกไม่ถูกเลยนะ!

ในอีกแง่นึงก็นึกภาพว่า เรากำลังเขียนจดหมายหาตัวเองในอดีต ที่อาจจะเคยทำผิดพลาดอะไรสักอย่าง เราในเวอร์ชั่นที่โตแล้วอยากบอกอะไรเด็กคนนี้บ้าง? อยากปลอบใจ ให้ข้อคิดอะไรที่เด็กคนนี้อ่านแล้วจะมีความสุขบ้าง ใส่ไปให้เต็มที่


สำหรับหลายๆ คน การให้พลังงานบวกมันง่ายกว่าให้ตัวเอง ดังนั้นก็ให้กำลังใจจากมุมมองของคนนอกดู เธอจะเขียนใส่ซองไว้อ่านเองตอนนั้นเลย ส่งไปรษณีย์หาตัวเอง หรือเก็บไว้ในซอกตู้ลึกๆ ไว้กลับมาแกะเปิดอ่านในอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้าก็ได้ค่ะ

❤ 3. ซื้อดอกไม้เป็นรางวัลให้ 'ตัวเอง' เพราะทุกวันคือวันพิเศษ!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/247aaeffb606fd5e7b051fbfc9f9db3f.jpg

ไม่ต้องรอให้ผู้ชายซื้อมาฝาก หรือรอวันเกิด วันปีใหม่ วันรับปริญญาอะไรทั้งนั้น เพราะในทุกวันที่เรามีชีวิตอยู่คือวันพิเศษ จะวันไหนเราก็ซื้อช่อดอกไม้โตๆ ให้ตัวเองได้ เป็นวิธีมอบความใจดีให้กับตัวเองอีกทางหนึ่งสาวๆ บางคนอาจไม่อินกับการซื้อดอกไม้ เพราะเป็นของสด เหี่ยวเร็ว กลัวเปลืองเงิน แต่เราอยากให้ลองซื้อมาสักครั้ง ถึงกินไม่ได้ แต่ถ่ายรูปได้ ตกแต่งบ้านได้ ของสวยงามจากธรรมชาติเนี่ย มันฮีลจิตใจได้จริงๆ นะถ้างบน้อยหน่อยจะซื้อแค่ดอกไม้แบบที่ชอบ แค่ดอกสองดอกไว้ประดับแจกันก็ได้ เช่นกุหลาบ ทานตะวัน คาร์เนชั่น เดซี่ etc. หรือถ้างบเยอะ อยากให้กำลังใจตัวเองหนักๆ ก็สั่งช่อดอกไม้อลังๆ ผูกโบว์ส่งตรงถึงตัวเองเลยถึงจะรู้ว่าเงินตัวเองก็เถอะ แต่ความรู้สึกที่ได้รับช่อดอกไม้สดๆ หอมๆ ไว้ในมือ มันรู้สึกดีสุดๆ เหมือนผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกเลยแหละ ไม่เชื่อต้องลองค่ะ

❤ 4. เมื่อเกิดปัญหา ถ้าทำไม่ได้อย่าจมอยู่กับตัวเอง แต่จง 'ขอความช่วยเหลือ'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/883acd8be31d1714141fe810910260a0.jpg

สาวๆ คงมีหลายโมเมนต์ในชีวิตที่ต้องเจออุปสรรคที่หนักหนาสาหัส จนอยากจะร้องกรี๊ด ทึ้งผมให้รู้แล้วรู้รอดไป บางคนเครียดแล้วกินแหลก ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ หรือหนักสุดก็พึ่งยา เพราะไม่อยากรับรู้เรื่องที่ตัวเองคนเดียวแก้ไขไม่ได้


ยิ่งถ้ามีความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีแล้วด้วยล่ะก็ จะหลุดพ้นจากวังวนนั้นยากมากๆ หรืออาจจะไม่หลุดออกไปเลยก็ได้ค่ะ

เราไม่จำเป็นต้องใจร้ายกับตัวเองขนาดนั้นก็ได้ เธอก็แค่มนุษย์คนนึง ไม่ใช่เทพเจ้าที่จะรู้เรื่องทุกอย่างบนโลกใบนี้

แค่พยายามยอมรับว่าตัวเอง ' ไม่รู้ ' และหาทางขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง คนดีๆ เขาจะช่วยเธอโดยเร็วที่สุด ไม่ได้คิดว่าเธออ่อนด้อย ไม่มีศักดิ์ศรีอย่างแน่นอน

เพราะงั้นไม่ต้องคิดมาก ถ้าทำไม่ได้คือทำไม่ได้ ให้คนช่วยก่อนที่สุขภาพจิตจะพังไปกว่านี้ดีกว่านะคะ

❤ 5. เลือกอยู่สังคมที่คนส่วนใหญ่มี 'Mindset บวก' ไม่ตัดสินคนอื่นง่ายๆ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/11e1fe300660cae1b99e8fcf55ba296d.jpg

เคยได้ยินไหมคะว่า อยู่ในสังคมแบบไหนก็จะหล่อหลอมให้เราเป็นแบบนั้น บอกเลยว่ามันคือเรื่องจริง!ให้นึกภาพง่ายที่สุดก็สถาบันครอบครัว ซึ่งถือเป็นสังคมขนาดเล็กที่สุด ถ้าพ่อแม่พี่น้องของเธอเลี้ยงดูด้วยความกดดัน ต้องสอบได้ที่หนึ่งทุกเทอม ต้องเข้ามหาลัยรัฐอันดับหนึ่งให้ได้ในคณะที่พวกเขาต้องการ หรือในสังคมทำงานมีแต่คนที่เก่งกว่าเธอ แน่นอนว่าความรู้สึกแย่ mindset ติดลบมันจะมาโดยอัตโนมัติเพราะไม่มีใครมอบพลังงานดีๆ ให้เธอเลย สุดท้ายก็ส่งผลกับสภาพจิตในที่สุด บางคนเครียดรุนแรง แต่บางคนก็สภาพจิตแย่ไปเลยค่ะธรรมชาติของมนุษย์ เมื่ออยู่สังคมไหนนานๆ จะชอบหรือไม่ เราก็อยากจะกลืนไปเป็นพวกเดียวกัน หากไปอยู่กับกลุ่มที่ไม่ใช่จะทรมานตัวเองเปล่าๆ จึงอยากให้สาวซิสปรับความคิดใหม่ว่า ' ทำไมยังเก่งไม่เท่าพวกนี้สักที ' เป็น ' แบบนี้ไม่ใช่ละ เราว่าเราน่าจะอยู่ผิดที่ ' และเปลี่ยนสังคมใหม่ซะ หาคนที่มีชุดความคิดมองบวก มีทัศนคติที่ดีจะดีกว่าถ้าพื้นฐานความคิดของสังคมเป็นคนดี ไม่ว่าเราจะมีบุคลิก นิสัย ความเก่งระดับไหน ก็จะไม่มีใครตัดสินหรือบุลลี่เรา ดังนั้นสิ่งที่ต้องเปลี่ยนคือสังคมค่ะ ไม่ใช่ดื้อดึงจนเหนื่อยตัวเอง( ทั้งนี้ หากสังคม toxic นั้นคือครอบครัวที่เลี่ยงยาก ก็พยายามเปิดอกคุย แต่ถ้าไม่ได้ อย่างมากสุดก็เลี่ยงการปะทะจะดีที่สุดค่ะ )

❤ 6. มีวันว่างสักวันในสัปดาห์ ที่ได้ทำตามใจตัวเองบ้าง!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/c630ec1c5967a023f6d734069f13c4fd.jpg

หากในชั่วชีวิตนี้ เธอทุ่มเทเวลาไปกับการเรียน หรือหน้าที่การงานมาโดยตลอด จนแทบจะไม่มีเวลาให้ตัวเองเลย อ่านหนังสือ ทำรายงาน ปั่นงาน ไม่ได้หลับได้นอน 7 วันต่อสัปดาห์ จนตาลึกโหลโทรมไปหมด นอกจากสุขภาพกายแย่แล้ว สุขภาพจิตก็จะเสียไปด้วยนะคะหยุดทรมานตัวเอง หาวันเบรกให้ตัวเองบ้างสักวันนึง ที่เธอจะผ่อนคลายอย่างเต็มที่ อยากทำงานอดิเรกแบบใดก็ได้ อ่านหนังสือ วาดรูป ดูคอนเสิร์ต etc. เพื่อฟื้นฟูจิตใจตัวเอง เชื่อสิว่าได้ผล!ใครเป็นสาวออฟฟิศนั่งโต๊ะทั้งวัน เป็นออฟฟิศซินโดรม ทั้งปวดหลัง เมื่อยขา หรือนักเรียนที่นั่งหลังขดหลังแข็งเรียนหนังสือ ทำการบ้านบางทีที่สุขภาพจิตไม่ค่อยดีเพราะร่างกายไม่แข็งแรงด้วยค่ะ เราแนะนำให้ไปรีแลกซ์ที่สปา นวดผ่อนคลายเส้นบ้างก็ดีนะ เป็นความใจดีอีกแบบที่เราอยากให้ร่างกายสาวๆ ได้รับ ทำงานหนักมานาน ควรได้รับผลตอบแทนบ้างหรือถ้าใครพอใจกับการนอนโง่ๆ สั่งอาหารมากิน ดู Netflix ที่บ้านมากกว่าก็จัดไป เอาทางที่เธอทำแล้วสบายใจดีที่สุดค่ะ อย่าลืมพักผ่อนเยอะๆ ด้วยนะ จะได้มีแรงพร้อมสู้กับวันใหม่ค่ะ

❤ 7. ใคร หรืออะไรที่ทำให้เรารู้สึก 'ดิ่ง' จงเดินออกมา อย่าไปทน!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/9120d79392733661e22eb78524b29323.jpg

แม้จะฟังแล้วน่าเศร้า แต่สังคมที่ไหนก็ตาม คงหนีไม่พ้นเรื่องซุบซิบนินทา คน toxic ที่ชอบใส่ร้าย กดดัน ด่าว่าเราจนต้องร้องไห้ หรือดูถูกว่า

' น้ำหน้าอย่างเธอก็ทำได้แค่นี้แหละ '


ที่จริงคำพูดแนวนี้มันเป็นดาบสองคมนะ ใครเก็บไว้เป็นแรงผลักดันแล้วทำได้จริงมันก็ดี แต่สำหรับบางคนยิ่งไปบ่อนทำลาย ทำให้เขาไม่อยากสู้กับอะไรอีกเลยดังนั้นคำสอนที่ว่าให้ด่าเยอะๆ จะได้ทำงานดี เราว่าเป็นข้ออ้างของคนที่พูดจาดีๆ กับคนอื่นไม่เป็นมากกว่า

การอยู่กับคนที่ความคิดเป็นพิษน่ะ มันคือการใจร้ายกับตัวเองแน่นอน ดังนั้นทางแก้ก็ง่ายๆ อย่าไปทน จงเดินออกมา เทคนเหล่านั้นไปเลยค่ะ!

ถ้าเราพยายามทำในแบบของเราอย่างดีที่สุดแล้ว ก็ยังโดนด่า โดนแซะ โดนบุลลี่เหมือนไมใช่คนระดับเดียวกับพวกเขา การ walk out อาจจะเป็นความใจดีที่สุดที่เรามอบให้ตัวเองก็ได้ ไม่ต้องไปทำร้าย แก้แค้นให้เสียเวลา รอให้พระเจ้าพิพากษาพวกเขาดีกว่า

(¬‿¬ )

-------------------------------------

ในปี 2020 นี้ มีเรื่องให้กดดันตัวเอง โกรธแค้นกับโชคชะตาทั้งเรื่องในบ้าน สังคม การเมือง โควิด เต็มไปหมดนับนิ้วไม่ถ้วน ข่าวในโซเชียลก็ต้องตาม งานก็ต้องทำ จนเลือดในสมองจะแตก บางทีถ้าเครียดจนไม่ไหวแล้ว พักบ้างก็ได้นะคะซิส!ไปหาเรื่องพักผ่อน รีแลกซ์ทำบ้าง ให้จิตใจฟื้นฟูดีขึ้นแล้วค่อยสู้ใหม่ ถ้าจิตใจเราพร้อม ไม่คิดลบ ไม่ดิ่ง ไม่ดาวน์ นั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดแล้ว ไม่มีใครสมควรได้รับความกดดันจนสุขภาพจิตเสีย ไม่มีใครสมควรโดนดูถูกหรือถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวแม้โลกจะโหดร้าย แต่เราเชื่อว่าเพิ่มความใจดีเข้าไปสักหน่อย เธอจะมีความสุขที่ยั่งยืนได้อย่างแน่นอน วันนี้เราขอตัวไปก่อนน้า สวัสดีค่า (灬♥ω♥灬)