ฮัลโหลค่าา สาวๆSistaCafeคนผมบาง ผมน้อย ( เอ็นดูววว! ) ทุกคน(●´∀`)ノ♡คือเธอรึเปล่า? หนึ่งในคนที่เลี้ยงผมยาวเท่าไหร่ ผมก็ไม่หนา ทำทรงผมบัน ถักเปีย ม้วนลอนทีก็ผมบางโหรงเหรง เห็นหนังศีรษะอยู่ลางๆ ต้องพึ่งแฮร์พีซแซมทั่วหัวอยู่ร่ำไป ไม่กล้าให้คนเห็นตอนแกะผมปลอมออกหมดเลยค่ะ นึกว่าหัวล้าน! เวลาสระผมหรือหวีผมแต่ละครั้ง ผมก็ร่วงเป็นกระจุก บางทีแทบเต็มกำมือ นึกว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เกินเรื่องไปมากแม่!อยากมีฟีลมัดผมแล้วผมหนานุ่มเหมือนเจ้าหญิงราพันเซลบ้างไรบ้าง ทำไมผมถึงร่วงขนาดนี้นะ?? เครียดยิ่งเครียดผมยิ่งร่วงกว่าเดิมอีก เอิ่บ T Tนอกจากความเครียด หรือแพ้สารอะไรสักอย่าง ที่มักเป็นสาเหตุหลักๆ ของผมร่วงแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้เธอผมบาง ไม่หนามีวอลลุ่มเท่าที่ควร ลองมาเช็ค' 8 ต้นตอ ทำผมบางผิดปกติ 'ในบทความนี้ดู แล้วเช็คว่าเธอเข้าข่ายหนึ่งในคนมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้หรือไม่ จะได้หาทางแก้ไขกันทันนะคะ ><พร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย!!

1. ผมร่วงจากการดึงรั้ง (Traction alopecia)

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/68291bf321d6a622f77b86c13c5c7fe7.jpg

เชื่อว่าสาวๆ แทบทุกคนไม่คุ้นชื่อโรคนี้ ' Traction alopecia ' คือชื่อเรียกภาวะผมร่วงจากความเครียด หรือการถูกดึงรั้งแรงๆ ที่รูขุมขนบนหนังศีรษะ ทำให้เส้นผมอ่อนแอลง ไม่แข็งแรง นุ่มลื่นสุขภาพดี ข้อเสียอีกอย่างคือ เมื่อเกล็ดผมไม่แข็งแรง สารอาหารน้อย ก็ทำให้ผมไม่ค่อยยาวเท่าที่ควร

! สาวซิสบางคนรู้สึกไหมว่า ไว้ผมยาวมาเป็นปีแล้ว แต่ผมก็ยังสั้นอยู่เลย บางทีเธออาจมีภาวะนี้แอบแฝงอยู่ก็เป็นได้ค่ะ

การถูกดึงรั้งที่ว่า ก็มาจากทำ ' ทรงผมที่มีการดึงรั้งผมจนแน่น ' เช่น ผมหางม้า ผมเปีย การติดกิ๊บแฮร์พีซบ่อยๆ หรือใช้ที่หนีบผมลอนทุกวัน เหล่านี้ทำให้เกล็ดผมสูญเสียความแข็งแรง ทำให้เลือดไม่ไปไหลเวียน หรือส่งอาหารให้เส้นผมได้มากเท่าที่ควรจะเป็นโดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบทำผมเปียถักติดหนังศีรษะ หรืออยากทำผมลอนธรรมชาติด้วยการถักเปียนอน ตัวทำร้ายสุขภาพผมเลยล่ะ

วิธีแก้ไข :เรียนรู้สภาพเส้นผมของตัวเองว่า มีความหนาแน่นเท่าไหร่ ( มีผมประมาณกี่เส้น ) และเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผม 1 เส้น ( ผมหนาเท่าไหร่ ) รวมถึงความยืดหยุ่นของเส้นผม ซึ่งอาจต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญตามคลินิกเกี่ยวกับเส้นผม เพื่อรับคำแนะนำว่าเธอต้องทำผมทรงไหนจึงจะไม่ทำร้ายผมแต่ถ้างบน้อย แบบบ้านๆ เวลาทำผมทรงไหน ก็อย่าไปมัดแน่นเกินไป! หากเริ่มรู้สึกหัวตึง ปวดหัว ให้รีบคลายยางรัดผมทันที เท่านี้เส้นผมก็จะร่วงน้อยลงจนรู้สึกได้

2. ใช้ไดร์/ที่หนีบ/ที่ม้วนลอน ให้เส้นผม 'สัมผัสความร้อน' อยู่บ่อยๆ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/b4e5cb88f55c2939d9ac402d7ede42c5.jpg

หนึ่งในสาเหตุหลักๆ ที่ผมร่วงเลยแหละ นั่นคือการใช้ ' อุปกรณ์เกี่ยวกับเส้นผม ' ที่ให้ความร้อนสัมผัสเส้นผมบ่อยๆ เช่น ไดร์เป่าผม ที่หนีบผมตรง เครื่องม้วนผม

เด็กมหาลัยหรือสาวออฟฟิศบางคน ต้องม้วนผม หนีบผม เป่าผมให้แห้งก่อนออกจากบ้านทุกวัน ทำให้เกล็ดผมแห้ง เปราะ ขาดง่าย และมีแนวโน้มจะผมร่วงเยอะกว่าที่ควรจะเป็น ใช้บ่อยเท่าไหร่ สุขภาพผมก็แย่ลงมากขึ้นเท่านั้น!

เวลาความร้อนที่เข้มข้นมากๆ แห้งมากๆ ( เหมือนวันร้อนจัดช่วงซัมเมอร์ ที่อากาศ 40 กว่าองศา แต่ไม่มีความชื้นเลย ร้อนแบบแห้งๆ ) สัมผัสเข้ากับเส้นผม จะทำให้ผมอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงชี้ฟู จัดทรงยาก และแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะกลับมานุ่มสลวยแบบเดิม #บอกเลยว่าเป็นเศร้า

วิธีแก้ไข :

เราคงห้ามไม่ให้สาวๆ เลิกใช้อุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้ ความสวยความงามอะเนอะ แต่ขอให้

ปกป้องสุขภาพเส้นผมด้วยการ ' คุมระดับความร้อนให้เหมาะสม ' ใช้ระดับอุ่นๆ หรือร้อนนิดๆ ก็พอ เพื่อไม่ให้เส้นผมเปราะบางมากเกินไป หรือเวลาใช้ที่หนีบผม เครื่องม้วนผม หากใช้ที่ช่อผมนี้แล้ว ก็อย่าหนีบซ้ำที่ช่อผมเดิมเป็นครั้งที่สอง เพื่อลดความเสียหายของเส้นผม


หรือถ้าจะให้ดี ซื้อสเปรย์ป้องกันความร้อน ฉีดเส้นผมทุกครั้งก่อนจัดแต่งทรงผม ก็ยิ่งทำให้ผมร่วงน้อยลงค่ะ

3. ทำสีผมบ่อยเกินไป เปลี่ยนสีผมทุกเดือน!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/c339d0cd4fa8f3492dd7e490d41775a1.jpg

สาวๆ สายแฟชั่นนิสต้า อยากเปรี้ยวจี๊ดสะใจด้วยการทำสีผมทุกเดือน ไม่เคยมีสีไหนที่ไม่เคยทำ ผ่านมาแล้วทั้งผมกัดสีบลอนด์ สีชมพู สีม่วง สีส้ม ไม่เคยพักผมว่างเลยจ่ะ

หรือบางคนก็กัดสีผมเดิมๆ นี่แหละ แต่กัดบ่อยมากแม่! โคนผมขึ้นไม่กี่วันก็รีบไปกัดใหม่อีกแล้ว งงมาก #ฉันจะไม่ยอมผมดำที่แท้จริง

หนังศีรษะบอบช้ำ เส้นผมโดนกระบวนการทางสารเคมีเยอะเกินไป ก็ย่อมทำให้สภาพเส้นผมอ่อนแอ ขาดความยืดหยุ่น นำไปสู่การแห้ง เปราะขาด แข็งเป็นเส้นตรงเหมือนหลอดดูดน้ำ หรือเคสหนักสุดก็ผมหยิกหยอยไร้น้ำหนัก หรือที่เรียกว่า


' ผมเป็นวุ้น '


นั่นล่ะค่ะ

วิธีแก้ไข :


หากสาวๆ รักในการทำสีผม แต่ก็อยากให้ผมแข็งแรง ควรมีช่วงเว้นระยะบ้างอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงของผมร่วงลง ปรับการทำสีผมเป็นโฟมเปลี่ยนสีผม หรือใช้การไฮไลท์บางช่อผมแทน ก็ลดปัญหาผมเสีย ผมร่วงได้ และอย่าลืมใช้ครีมนวดผม กับมาส์กหมักผมอยู่เสมอ เพื่อเติมความชุ่มชื้นและอาหารให้เส้นผม อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

4. แปรงผมอย่างรุนแรง ผมพันกันก็กระชากจนหัวแทบหลุด!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/4d30ecbcba5f28b757eec48ea11eedc1.jpg

ไม่ใช่ชาวร็อคนะ แต่กระชากเส้นผมกันสะใจเหลือเกิน ไม่แปลกที่ผมร่วงทีเป็นกระจุก!

แม้การแปรงผม หวีผมเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นหนังศีรษะ ให้ผมยาวเร็วขึ้นก็เถอะ แต่การหวีแรงแบบกระชาก ผมพันกันแทนที่จะใช้นิ้วช่วยสาง ใช้ออยล์ช่วย กลับใช้หวีดึงสุดแรงเกิดจนสังกะตังหลุดมาเป็นก้อน -_- เจริญละ

การใช้ความรุนแรงกับเส้นผม ไม่ทำให้ผมพลิ้วสวยเร็วขึ้นแต่อย่างใด ในทางกลับกัน ยิ่งทำลายสุขภาพเส้นผม ทำให้ผมงอกช้าลง

หรือการหวีผมทันทีหลังสระผมเสร็จ ผมเปียกหมาดๆ เกล็ดผมจะอ่อนแอมาก ยิ่งไปหวีกระทบ มันก็ยิ่งพังน่ะสิคะซิส!

วิธีแก้ไข :ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม ใช้แปรงกลมๆ ที่ซี่ทำจากพลาสติกรูปทรงโค้งมน และเว้นช่องห่างๆ กัน เพื่อไม่ให้เส้นผมเข้าไปพันกันวุ่นวาย และหวีจากปลายขึ้นโคน และใช้ ' สเปรย์ป้องกันผมพันกัน ' ฉีดปลายผมก่อนหวี ก็จะยิ่งทำให้หวีผมได้อย่างสบายใจมากขึ้น ผมก็ร่วงน้อยลงด้วย

5. ฤดูกาลเปลี่ยนแปลง ก็ทำให้ผมร่วงได้!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/0d0c40adf6456403daf487fe46a58339.jpg

ปัจจัยนี้ค่อนข้างพูดลำบาก เพราะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เนอะ! ในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว มีแนวโน้มที่เส้นผมจะอ่อนแอลง เปราะบาง ร่วงได้ง่ายขึ้น เพราะระดับความชื้นและแสงแดด กระทบกับเส้นผมโดยตรง


ผลลัพธ์อาจมีทั้งสีผมซีด ผมแตกปลาย เปราะบาง ขาดง่าย ไม่เงางาม โดยเฉพาะสาวๆ อย่างเราที่ผมอ่อนแอกว่าผู้ชาย จึงต้องใส่ใจเรื่องการดูแลเป็นพิเศษค่ะ


วิธีแก้ไข :หาเวลาเล็มปลายผมออกบ้าง! ดีที่สุดคือเล็มก่อนถึงฤดูร้อนเต็มตัว เพราะแสงแดดจัดๆ จะทำร้ายเส้นผมได้อย่างรุนแรง จึงควรตัดไฟแต่ต้นลม! การเล็มผมเป็นประจำจะทำให้ผมยาวเร็วขึ้น และดูสุขภาพดีกว่าเดิม อีกวิธีคือ หากจะเล่นน้ำที่สระหรือลงทะเล ฉีดสเปรย์กันแดดที่เส้นผมก็ช่วยได้อีกแรง เพื่อไม่ให้เส้นผมได้รับคลอรีนจากสระ 100% ต้นตอทำผมแห้งเสียด้วยค่ะ!

6. ปัจจัยจาก 'ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว' เช่น อาหาร ความเครียด

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/66c21f031678174418663221f51f5a77.jpg

ารใช้ชีวิตประจำวันของเราในหลายๆ ด้าน ก็ส่งผลต่อสุขภาพเส้นผมเช่นกัน หลักๆ เลยก็คือความเครียด ทั้งทางร่างกายและจิตใจ


เพราะเวลาเราเครียด ฮอร์โมนคอร์ติซอลจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ระบบในร่างกายผิดปกติ รวมถึงกระทบกับกระบวนการเติบโตของเส้นผม การดูดซับสารอาหารของเส้นผม ฮอร์โมนปั่นป่วน และสุขภาพหนังศีรษะแย่ลงค่ะ

สาวผมบาง อาจเป็นสัญญาณของการขาดโปรตีน, วิตามิน D และ B 12 ในมื้ออาหารอีกด้วย เพราะโปรตีนเคราตินในผม ทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น


ดังนั้นคนกินอาหารสายวีแกนหรือมังสวิรัติ เส้นผมอาจไม่ค่อยหนาหรือเงางามเท่าคนกินเนื้อนมไข่ ถ้าพวกเขาไม่ระวังเรื่องอาหารให้ดี

วิธีแก้ไข :นอกจากปรับอาหาร 3 มื้อให้มีโปรตีนและธาตุเหล็กเพิ่มมากขึ้น ให้สุขภาพร่างกายและเส้นผมดีขึ้นแล้ว เราแนะนำให้สาวๆ กินอาหารเสริมเพิ่มเติมด้วยค่ะ! โดยเฉพาะน้ำมันปลา ( fish oil ) ที่มีโอเมก้า 3  เพื่อให้ได้รับไขมันดีเข้าสู่ร่างกายอย่างเพียงพอ เมื่อร่างกายได้สารอาหารครบ สุขภาพเส้นผมก็จะดีขึ้นด้วย หรือจะกินวิตามินที่เสริมความเงางามของเส้นผมด้วยก็ยิ่งดีค่ะ

7. ตั้งท้อง มีเบบี๋ในครรภ์ / ใกล้วัยหมดประจำเดือน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/da063023ef97c3d0c4f28fc2fae357b4.jpg

เมื่อฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ซึ่งสำหรับผู้หญิงก็หนีไม่พ้นอยู่สองประการใหญ่ๆ คือตั้งครรภ์ กับถึงช่วงวัยหมดประจำเดือน ก็มักส่งผลต่อผิวหนัง เส้นผมได้


เมื่อเธอมีเจ้าตัวน้อยในท้อง เธออาจมีผิวที่โกลว์ เปลั่งปลั่ง และผมที่หนาเป็นประกายเงางามขึ้น แต่หลังจากคลอดแล้ว คุณแม่มือใหม่หลายคนก็ประสบปัญหาผมร่วงเป็นกำๆ เป็นเรื่องปกติค่ะ

วัยหมดประจำเดือน เมื่ออายุเยอะ ผมงอกช้า ผมก็จะร่วงมากขึ้นตามไปด้วย เส้นผมจะเส้นเล็กลง พิกเมนต์น้อยลง ( ผมหงอกจะเริ่มมาก็ตอนนี้! ) รูขุมขนบนหนังศีรษะมากมาย ก็หยุดกระบวนการเกิดเส้นผมใหม่อย่างถาวร ทำให้ผมของคนสูงอายุจะเส้นเล็กๆ บางๆ สีอ่อน เพราะฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงค่ะ

วิธีแก้ไข :ใจร่มๆ ไว้ นี่ไม่ใช่จุดจบของชีวิต!แม้เราจะห้ามธรรมชาติอย่างการแก่ชราไม่ได้ หรือสาวๆ ที่อยากมีลูก ก็ต้องผ่านกระบวนการนี้อย่างไม่มีข้อยกเว้น แต่สำหรับสาวตั้งครรภ์ ผมที่บางจะไม่ได้บางตลอดไป เมื่อคลอดลูกแล้ว ฮอร์โมนก็จะกลับมาเป็นปกติได้ส่วนสาวที่เริ่มสูงวัย แม้ผมร่วงจะเป็นอาการที่ค่อนข้างถาวร แต่ก็สามารถจัดการได้ ปรึกษาหมอได้ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงขนาดนั้นค่ะ

8. ปัจจัยทางพันธุกรรม / ป่วยเป็นโรคบางอย่าง

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/3560f93652156d9547831a19c2e33700.jpg

แม้จะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ต้องบอกว่าคนที่มีภาวะผมร่วงรุนแรงกว่า 80% คือคนที่มีปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรม คือญาติสายตรง ( พ่อ แม่ พี่สาว น้องสาว ) มียีนผมร่วง เราจึงมีแนวโน้มที่จะผมร่วงง่ายตามไปด้วยและอีกปัจจัยคือการป่วยเป็นโรคบางอย่าง เช่น alopecia areata ซึ่งเป็นโรคผมร่วงเพราะภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ เป็นต้นค่ะวิธีแก้ไข :หาหมอสิคะจะรออะไร! หากผมร่วงรุนแรงจนอยู่ในเกณฑ์ผิดปกติแล้ว อย่าลังเลที่จะไปโรงพยาบาล ให้หมอเฉพาะทางรักษาอาการผมบาง ว่ามันเกิดจากพันธุกรรมหรือเรามีโรคแฝงอยู่กันแน่ หากมีอะไรที่ต้องรักษาจะได้ทำเสียแต่เนิ่นๆ ไม่ให้ผมร่วงลุกลามไปกว่านี้ค่ะ

รูปภาพ:https://lh6.googleusercontent.com/proxy/9qepioe01ykc21YeBtAHuLcCsGIr3gDxV44WhnptRoAb6t2IboVUZAha7gcNxA742RDsQ3OX-X2zZRj72yPu5oGuvbB9GseUhmWrL1dC1fj8eyuniF4mzATm6bxyUx1MNpkcxlcZPAsiRVayAZ6ui6r4=s0-d

-----------------------------

อ่านจบถึงตรงนี้แล้ว สาวๆ คนผมบาง ผมร่วงง่าย เข้าข่ายข้อไหนกันบ้างเอ่ย? สำหรับปัจจัยที่พอแก้ไขได้ เช่น การใช้อุปกรณ์ความร้อน อาหาร ความเครียด แปรงผมแรง สระผมบ่อย ก็สามารถแก้ไขได้ตามคำแนะนำในบทความนี้แต่หากเป็นปัจจัยที่จริงจังขึ้น เช่น พันธุกรรมและโรคต่างๆ ก็อย่านิ่งนอนใจ รีบหาหมอผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้ลาออกจากสมาคมคนผมบาง มาเป็นคนผมสวยกัน แม้ผมอาจไม่หนาเงางามสวย 100% เหมือนคนที่พันธุกรรมดี ดูแลตัวเองดีมาตั้งแต่แรก แต่สุขภาพเส้นผมของเธอจะแข็งแรงขึ้นกวาเดิมแน่นอนอย่างน้อยก็ลดจำนวนแฮร์พีซที่ต้องติดออกไปนอกบ้านแหละน่า อิอิ! สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน ขอให้สาวๆ ผมสวย ผมเฮลตี้ทุกคนเลยน้า บ๊ายบายค่า (◍•ᴗ•◍)❤