รูปภาพ:https://cdn.lowgif.com/medium/0a4c0dc934a4a929-sad-sailor-moon-gifs-find-share-on-giphy.gif

" เขาจะคิดว่าเราอ้วนไหม "" แต่งตัวแบบนี้คนจะมองไหมนะ "" ตัดผมสั้นจะถูกคนล้อไหม "

เราเชื่อว่าในสังคมไทย สาวซิสที่ยังมีความคิดแบบนี้ค่อนข้างเยอะ คือแคร์มากๆ ว่าคนนั้นคนนี้จะคิดเห็นยังไงกับเรา ตั้งแต่เรื่องภายนอกอย่างรูปร่างหน้าตา ทรงผม สไตล์การแต่งหน้า ไปจนถึงรถที่ขับ งานที่ทำ เงินในบัญชี กลัวคนจะตัดสิน มองว่าไม่ดี


บางคนก็เสียใจ จิตตก แอบมานั่งร้องไห้ที่บ้าน แต่บางคนก็ทะเยอทะยาน อัพเกรดให้ดูไฮโซขึ้นทั้งที่การเงินไม่พร้อม เดือดร้อนตัวเองไปอีก พีคที่สุดคือกลัว ' ความคิด ' จะไม่เหมือนคนอื่น ต้องไหลตามคนส่วนมากจนเสียตัวตนไปเลย ( แบบนี้น่ากลัวสุด )

หากเธอเป็นคนหนึ่งที่สนใจสายตา คำพูดของคนนอกเอามากๆ บางทีเผลอทำสิ่งที่คนอื่นไม่ชอบ แล้วมานั่งเสียใจทีหลัง กลัวที่จะแตกต่าง กลัวคนเกลียด ยอมให้คนแปลกหน้ามาบงการชีวิตตัวเอง ไม่ชอบนิสัยแบบนี้เลย แต่ไม่รู้จะปรับปรุงแก้ไขอย่างไรลองมาอ่าน' 7 วิธีเลิกนอยด์ว่า คนอื่นจะคิดกับเรายังไง 'ในบทความนี้กันได้เลยมาปรับแนวคิดเพื่อมั่นใจในตัวเองขึ้นกันค่ะ╰(*´︶`*)╯♡

1. ย้อนกลับไปคิดว่า 'ทำไม' เราถึงต้องแคร์คนอื่นขนาดนั้น?

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/c28cf5e207f960f359f82a62b716effe.jpg

เนื่องจากเราอยู่ในสังคมเอเชียที่การอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะ การต้องการการยอมรับจึงถูกปลูกฝังอยู่ในสังคมมานาน บางคนเกรงกลัวต่อคำพูดคนอื่น กลัวคนจะมองไม่ดี ทั้งที่ยังไม่เคยนึกถึงสาเหตุเลยว่า เราจะกลัวคนอื่นขนาดนั้นไปทำไม สุดท้ายเกิดอะไรขึ้นเขาก็ไม่ได้มารับผลลัพธ์อะไรกับเรา


ไม่ว่าจะในทางดีหรือร้ายทั้งนั้น เราจะแต่งตัวแบบไหน ทำผมแบบไหน ขับรถอะไร เราก็ยังต้องใช้ชีวิตต่อไป เขาก็ใช้ชีวิตของเขาเหมือนกัน เขาเองยังไม่ให้เราวิจารณ์เลย แล้วเขามีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์เรา ลองคิดในมุมกลับดูค่ะ

กำหนด ' จุดยืน ' ตัวเองให้ดีก่อนว่า ตัวตนของเธอคืออะไร อย่าให้คนอื่นก้าวล่วงล้ำเส้นนั้น การมีจุดยืน ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนหัวแข็ง ติชมอะไรไม่ได้เลย แต่การ ' ติ ' ก็ต้องมีขอบเขตเหมือนกัน และเราจะรับมาปรับใช้หรือไม่ก็ได้คนบางคนด่าคนอื่นอย่างเดียว ไม่ได้ติเพื่อก่อ ไม่มีความสร้างสรรค์ แถมด่าจบไม่กี่นาทีก็ลืม แบบนี้จัดอยู่ในประเภท' ปากหอยปากปู 'ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับชีวิต ไม่จำเป็นต้องให้ค่าค่ะ

2. สนใจแค่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ 'เท่านั้น' อย่าฟุ้งซ่าน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/b1a8e1ed09ed3ab3d7365fda8b6d79d3.jpg

จงอยู่กับตัวเองในปัจจุบัน อย่าไปจมจ่อมกับอดีต หรือฟุ้งซ่านกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึงในอนาคตมากนัก หากต้องตัดสินใจอะไร ให้ใช้ความรู้สึกจากปัจจุบันเป็นหลัก เช่น จะซื้อชุดเดรสสวยๆ สักชุด ไม่ต้องไปคิดล่วงหน้าว่า


" ซื้อแล้วคนจะมองว่าโป๊ไปไหม จะดูแพงเกินฐานะไหม จะมีเพื่อนมาล้อไหม "


ถ้า ณ ขณะนั้นเธอมองว่าเดรสชุดนี้สวย ไม่ได้โป๊เข้าข่ายอนาจาร และมีกำลังซื้อได้ไม่ได้เดือดร้อนใคร เธอก็มีสิทธิ์เต็มที่ 100% ในการซื้อ ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากคนอื่น

เรื่องในอดีตเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว เรื่องในอนาคตก็ยังไม่เกิด ซึ่งนอกเหนือการควบคุมของเราอยู่แล้ว โฟกัส ' ตัวเอง ' เป็นหลัก เคารพความรู้สึก ยอมรับการตัดสินใจของตัวเราเองให้ได้


ตัดคำว่า' ถ้า 'ในพจนานุกรมของตัวเองออกไป คิดแค่ว่า" ฉันคิดว่าแบบนี้ดีแล้ว ถึงเกิดอะไรขึ้น ฉันก็ยอมรับได้ เพราะฉันเป็นคนเลือกเอง "ท่องประโยคนี้ซ้ำๆ จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้น บรรเทาความกังวลลงไปได้เยอะเลยล่ะ

3. ยอมรับเถอะว่า คนส่วนใหญ่ไม่มีใครสนใจเรื่องของเธอ 'จริงๆ' หรอก

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/36a273a3e51524c07d4b15fe9bdf6f5d.jpg

ข้อนี้อาจจะดูโหดร้ายกับใจสาวๆ บางคนไปสักนิด แต่ซิสคะ ไม่มีใครในโลกนี้ที่สนใจเรื่องของเธอ 100% จริงๆ หรอกค่ะ ถ้าไม่ใช่เรื่องที่มีผลกับพวกเขาโดยตรง! คนทุกคนก็สนใจแต่ตัวเองเป็นหลักทั้งนั้นแหละ รวมถึงคนที่ช่างติเตียน วิพากษ์วิจารณ์เธออยู่ทุกวันด้วย


ตอนเขาว่างเขาก็มานั่งพิมพ์ด่าเธอ นินทาเธอ ตพอตัวเองมีเรื่องบ้างก็เงียบหายไป แต่คำพูด Toxic ที่สร้างบาดแผลให้เธอไม่ได้หายไปด้วย ซึ่งเขาก็ไม่ได้แคร์ว่าเธอจะเจ็บไหม พูดให้แรงๆ เลยคือเธอเสียใจจนฆ่าตัวตายเขาก็เหลือบมองแวบนึงแล้วด่าคนอื่นต่อ นั่นล่ะค่ะความเห็นแก่ตัวในสังคมนี้

แต่ละคนก็มีชีวิตของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบ และแทบทุกคนก็โฟกัสที่ตัวพวกเขาเองเป็นหลัก ไม่ใช่เธอ แล้วเธอจะไปแคร์ทำไม? คนที่ด่าคนอื่น ลองมีคนอื่นไปด่าเขาด้วยถ้อยคำเดียวกัน เขาเองก็อยู่ไม่สุขเหมือนกันแต่ถ้าเราด่ากลับก็จะสาดโคลนกันไม่จบไม่สิ้น ดังนั้นใจเขาใจเรา ทำตัวเองให้ดี ไม่ต้องไปวิจารณ์ใคร ต่างฝ่ายต่างใช้ชีวิตกันไปน่ะดีที่สุดแล้วค่ะ

4. ฝึกฝนการ 'รักและยอมรับตัวเอง' ( Self Love and Acceptance )

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/9a3744c4e67964b74a03481b3c6e3ad1.jpg

อยากเป็นสาวมั่นให้ได้ เธอต้อง ' รักและยอมรับตัวเอง ' ก่อน เพราะนั่นคือแก่นหลักของการสร้างความมั่นใจ


การที่คนคนหนึ่งใช้ชีวิตขึ้นอยู่กับความพอใจของคนอื่นเป็นหลัก บ่งบอกได้เลยว่าเธอคนนั้นไม่มี self-confidence หรือความมั่นใจในตัวเองเลย และมี self-esteem หรือความพึงพอใจในตัวเองต่ำ ซึ่งส่งผลเสียกับสุขภาพจิตในระยะยาวอย่างแน่นอน

ค่อยๆ ฝึกฝนการรักตัวเองให้มากขึ้นทุกวัน เริ่มจากการดูแลตัวเองให้ดีขึ้น เช่น กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ ทำงานอดิเรกที่ทำให้มีความสุข

อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปี แต่เธอจะมั่นใจในตัวเองมากขึ้น หลงรักตัวเองมากกว่าเดิม และเมื่อจุดสนใจคือตัวเราเป็นหลัก เราก็จะไม่มีเวลามานั่งห่วง หรือกังวลความคิดเห็นจากใครอีกเลยค่ะ

5. อยู่กับกลุ่มคนที่ 'ให้พลังบวก ให้กำลังใจ' กับเธอเสมอ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/d7348e71ccd78bdb842e8345d3754ce4.jpg

ในโลกนี้มีสองขั้วเสมอ แม้จะมีกลุ่มคน Toxic ที่พร้อมจะวิจารณ์ ปล่อยพลังลบออกมา ก็ยังมีกลุ่มคนที่รักเรา เป็นพลังบวกและคอยให้การสนับสนุนเราอยู่เสมอ เช่น ครอบครัว พี่น้อง แก๊งเพื่อนสนิท แม้คนที่ไม่สนิทกับที่บ้าน แต่เราเชื่อว่ามิตรภาพในโลกออนไลน์ หรือเพื่อนจากการไปลงเรียน อบรมคอร์สต่างๆ ข้างนอก ก็ต้องมีสักคนที่หวังดีกับเธอ


คนที่จะพูดแต่เรื่องดีๆ สอนให้เธอมีความมั่นใจ ไม่ต้องฟังเสียงนกเสียงกา ยิ่งเราใช้เวลากับพวกเขาเยอะเท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้รับพลังความสุขยิ่งขึ้นเท่านั้น

พยายามหากลุ่มเพื่อนที่สนิทกันจริงๆ ซื่อสัตย์ จริงใจ กล้าบอกข้อเสีย ( ที่ไม่ใช่การด่า ) อย่างตรงๆ เป็นคนที่จะหันหน้าไปถามได้ว่า " ชุดนี้มันไม่ดีจริงๆ เหรอ / ผมทรงนี้มันแย่จริงๆ เหรอ ถ้าไม่มีอคติน่ะ? "


และเราสามารถเชื่อใจกับคำตอบของเขาได้ ถ้าเขาบอกว่า " ก็แค่ต่างจากคนอื่น แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร " ก็คือจบ! มีแรงซัพพอร์ตที่ดี เราก็จะยิ่งมั่นใจในตัวเองค่ะ

6. เข้าใจความจริงว่า 'เราทำให้ทุกคนพอใจไม่ได้'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/22ab74b6efeb73939a1ca8dba4ef015e.jpg

อันนี้คือสัจธรรมเลย จะเป็นเจ้าหญิง เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ หรือได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพมาจากไหน ก็ไม่สามารถทำให้ทุกคนบนโลกใบนี้พอใจได้หรอก!

แม้แต่พระพุทธเจ้ายังมีคนนินทาเลย นับประสาอะไรกับคนธรรมดาอย่างเรา เพราะมนุษย์ล้วนมีความคิด ความเห็นของตัวเอง ต่างคนก็ต่างพื้นเพ ระดับการศึกษา แนวคิดที่ถูกปลูกฝังแต่เกิด เพราะฉะนั้นไม่มีเรื่องไหนที่ความเห็นของทุกคนจะเป็นไปในทางเดียวกัน 100% อยู่แล้ว เรื่องปกติมาก

ต้องทำใจยอมรับว่า จะมีบางคนที่เหมือนเงาแค้น คอยตามจิกตามด่าเธออยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเธอจะทำดี เป็นนางฟ้ามาโปรดแค่ไหนก็ตาม คนจะเกลียดก็คือเกลียดอยู่ดี ในทางกลับกัน ก็จะมีกลุ่มคนที่พร้อมรักและให้กำลังใจเธอ แม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่ทำพลาด เขาก็จะไม่ซ้ำเติมและรักเธอตลอด เหมือนแฟนคลับกับแอนตี้ของดารานักร้องนั่นแหละค่ะ ( ที่จริงคนที่มีแต่คนรัก เราว่าน่ากลัวกว่าอีกนะ เพราะนั่นคือการครอบงำแล้ว )


ดังนั้นจงมีจุดยืนว่าเธอเป็นคนแบบนี้ และจะไม่เปลี่ยนตามความต้องการของใคร เลิกนอยด์และใช้ชีวิตให้แฮปปี้ดีกว่า

7. ชีวิตมันสั้น ใช้ซะ อย่ามัวกังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/e9466472c829e699e059f9e389db8292.jpg

ข้อสุดท้าย สรุปกันสั้นๆ เลยละกันว่า ชีวิตมนุษย์มันสั้นค่ะ สั้นกว่าที่เราคิดเอาไว้มาก ค่าเฉลี่ยอาจจะอยู่ที่ 70-80 ปี หรืออายุยืนหน่อยก็อาจจะร้อยกว่าปี แต่แน่ใจได้ยังไงว่าจะอยู่ถึงตอนนั้น?แม้สุขภาพแข็งแรงดี ทั้งภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุก็จ่อคิวจะเล่นงานได้ถ้าโชคชะตาดลบันดาลขึ้นมา นึกภาพว่าเธอใช้ชีวิตตามคนอื่นมาตลอด คิดว่าจะได้ปลดปล่อยตัวเองตอนแก่ แต่ดันโดนรถชน เครนหล่นทับ เป็นผู้ป่วยติดเตียงตลอดชีวิต นอนร้องไห้ไปก็ย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว น่าเศร้านะ!ไม่ต้องรอแก่ ไม่ต้องรอโตอะไรทั้งนั้น ถ้าไม่เดือดร้อน ไม่กระทบใคร ก็หันมาใช้ชีวิตที่อยากใช้ตั้งแต่วันนี้เลย เพราะ Life is too short เธอมีแค่ชีวิตเดียว ชาติหน้าจะมีไหมไม่รู้ แต่ตอนนี้เธอมีชีวิตที่เหลืออยู่ ก้าวออกมาจากกรอบที่อัดเธอจนหายใจไม่ออก แล้วบรรลุเป้าหมายของตัวเองดีกว่าไม่ว่าจะเป็นความฝันเล็กๆ หรือฝันระดับชาติ ก็ถือเป็นสิ่งที่มีค่าทั้งนั้น เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุข อาจจะมีเสียงวิจารณ์มาระหว่างทางบ้าง แต่ขอให้ยึดมั่นกับสิ่งที่ทำ จะสำเร็จหรือไม่ สุดท้ายย้อนกลับมามอง เธอจะภูมิใจในตัวเองอย่างที่สุดเลยค่ะ ^ ^

รูปภาพ:https://media1.tenor.com/images/260ba6dc866c24843f3bfda07d1f1b70/tenor.gif?itemid=5807080

--------------------------

อ่านจบถึงตรงนี้แล้ว สาวซิสทุกคนคงกระจ่างแล้วว่า เราเสียเวลากับการให้คนอื่นมาวิจารณ์ตัวเองมากพอแล้ว อาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำ!ท้ายที่สุดทุกคนก็ต้องรับผิดชอบกับชีวิตและการตัดสินใจของตัวเอง เรามีสิทธิ์ที่จะออกแบบชีวิตตัวเองยังไงก็ได้ ตราบใดที่ไม่กระทบหรือไปเดือดร้อนคนอื่น สิ่งหนึ่งที่หลายคนหลงลืมไป คือชีวิตก็เหมือนนาฬิกาทราย ทรายในขวดแก้วของทุกคนมีจำกัด ชีวิตมันสั้นกว่าที่คิด ไม่ได้มีเวลาเผื่อให้คนอื่นมาบงการนักหรอก!อยากให้ซิสทุกคนกระตุ้นความมั่นใจของตัวเอง กล้าที่จะแตกต่าง ทำอะไรนอกกรอบให้มากขึ้น กล้าที่จะมีเมื่อเราแฮปปี้จากภายใน การเรียนหรือการทำงานก็จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยสู้ๆ นะคะทุกคน หลุดออกมาจากกรอบสังคมให้ได้ เราเป็นกำลังใจให้เสมอ

( ´ ▽ ` ).。o♡