สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeคนอยากมีรักทุกคน ♡ ( ̄З ̄)โลกในปัจจุบัน 2020 แม้จะมีเทคโนโลยีไฮเทคมากมายที่ทำให้สาวๆ ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ทั้งโลกเชื่อมต่อกันผ่านอินเตอร์เน็ตอย่างง่ายดาย แต่ความล้ำของยุคนี้ก็มีผลข้างเคียง เพราะเมื่อคนไม่ต้องคุยกันต่อหน้าอีกต่อไป ก็ทำให้เกิดตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ไม่ว่ายังไงมนุษย์ก็เป็นสัตว์สังคมเนอะ พอต้องใช้ชีวิตคนเดียว คุยแต่กับแอพและโลกออนไลน์ ก็อยากมีคนอยู่เคียงข้างขึ้นมา ทั้งคนโสดหรือคนเพิ่งอกหักจากรักครั้งเก่า มีแฟนให้อบอุ่นหัวใจก็คงจะดี (´ ε ` )♡ยิ่งอายุมากขึ้น มีแรงกดดันจากสังคม จากครอบครัวเข้ามาว่า" ทำไมยังโสด จะสามสิบแล้วนะ ทำไมยังไม่แต่งงาน เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้ "=_= แม้จะไม่ได้อยากมีลูกก็เถอะ เห็นคนนั้นเพิ่งร่อนการ์ดงานแต่ง คนนี้เพิ่งขึ้น in a relationship กับแฟน มันก็ทำให้หวั่นๆ ในใจได้เหมือนกันทำให้บางคนพยายามไขว่คว้าหาความรักจนเกินพอดี เสี่ยงถูกหลอกหรือทำให้เสียใจใจซ้ำๆ ไม่จบไม่สิ้นเราจึงขอเตือนสติซิสทุกคนที่กำลังหารักครั้งใหม่ แต่ไม่สมหวังสักที ลองอ่าน' 7 เหตุผลดีๆ ที่เธอควรเป็นโสดไปก่อน 'ทบทวนบทความนี้ให้ดีก่อนหารักครั้งใหม่ เพื่อจะได้มีความสุขที่แท้จริงซะที ไปค่ะ!
1. เธอยัง 'รักตัวเอง เห็นคุณค่าตัวเอง' ไม่เป็นด้วยซ้ำ

อยากจะมีความรักที่แฮปปี้ จะหวังพึ่งแต่อีกฝ่ายให้มารักจนหมดใจ แต่เธอทำตัวไม่เห็นค่าของตัวเองเลย ความมั่นใจในตัวเองหดหาย ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร รักครั้งนี้หรือครั้งไหนๆ ก็คงไม่รอด จะรักคนอื่นได้ยังไง ในเมื่อต้นแบบคือตัวเธอเองยังบิดเบี้ยว ก็คงยากที่จะหล่อหลอมให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงความรักนั้น
หากอีกฝ่ายชอบเธอมาก ก็อาจเป็นความรักในรูปแบบประคับประคอง สงสาร หรือวางอำนาจครอบงำ ซึ่งไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่เฮลตี้เลยค่ะ
ที่พูดแบบนี้เพราะเราเคยเจอมาหลายคู่ ที่ฝ่ายนึงยังเปิดโลกกว้างไม่มากพอ ไม่รู้ว่าเธอสามารถใช้ชีวิตที่ดีกว่านี้ได้ ไม่จำเป็นต้องยอมตลอดเวลา และยังถูกสังคมกดให้ขี้อาย ไม่มั่นใจ จึงเลือกสามีผิด พอวันนึงได้ปลดล็อกตัวเอง เธอจึงได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่เหมาะกับเธอเลย สุดท้ายก็ต้องเลิกกัน
ที่จะพูดคือ เราต้องรู้จักตัวเองดีที่สุดก่อนไปคบใคร ไม่อย่างนั้นก็ต้องจบที่การเลิกราอยู่ดีค่ะ
2. เธอยังไม่รู้ว่า 'ความสุขที่ไม่ต้องยึดติดกับคนอื่น' เป็นยังไง

ผู้หญิงหลายๆ คนกระตือรือร้น รีบอยากมีรักใหม่เพียงเพราะมีแนวคิดยึดโยงว่า ' มีแฟนอยู่ด้วย = ความสุข ' มีคนให้ปรับทุกข์ กินข้าวดูหนัง มีเรื่องกุ๊กกิ๊กด้วยกัน หลายคนเมื่อมีแฟนก็เอาทั้งเวลา ความรู้สึกไปลงกับอีกฝ่ายหมด จนบางทีมัน overload กลายเป็นความคาดหวังที่กดทับอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆทำไมไม่โทรหา ทำไมไม่รับสาย ทำไมไม่ตอบไลน์ ทำไมจำวันครบรอบไม่ได้ etc. สุดท้ายเมื่อถึงขีดจำกัด แฟนหายใจไม่ออกกับความสัมพันธ์นี้ก็เริ่มทะเลาะกันและเลิกทั้งน้ำตา ทั้งที่ถ้าเธอยอมเขาสักนิด ก็ไปต่อได้ง่ายๆ แล้วทั้งหมดนี้ก็มาจากสาเหตุง่ายๆ ที่ว่า ' เธอไม่มีความสุขที่เป็นของตัวเอง เพราะเอาแต่ยึดติดกับคนอื่น ' คิดว่าแฟนจะต้องทำทุกความต้องการของเธอ ทำให้เธอมีความสุข ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เธอต้องหัดมีความสุขให้ได้ด้วยตัวเองก่อน อย่าผลักภาระให้อีกฝ่ายมากเกินไปความรักควรเป็นการจูงมือกันเดิน ไม่ใช่ให้เขาแบกเธอขึ้นหลัง เอาใจเธอขึ้นหึ้ง 24 ชั่วโมง ถ้าจุดเริ่มต้นของการมีแฟนคือ ' เขาต้องเพอร์เฟกต์ เขาจะเป็นความสุขอย่างเดียวของฉัน ' ก็เป็นโสดไปก่อนจะดีกว่านะ เพราะคบไปก็ผิดหวังแน่นอน
3. เธอยังอยากมี 'อิสระเต็มที่' ในชีวิต

สถานะโสดอาจจะเหงาบ้าง ไม่มีแฟนให้พาไปมุ้งมิ้ง หวานโรแมนติก ไม่มีใครให้ถ่ายรูป มอบของขวัญให้ในช่วงเทศกาลก็จริง แต่สิ่งที่เธอจะได้อย่างแน่นอนคือ ' อิสระ ' จะไปเที่ยวกลับดึกกี่โมงก็ได้ จะซื้อของแพงๆ ก็ไม่ต้องกลัวใครโกรธ อยากไปเรียนต่อ ทำงานต่างประเทศก็ทำเลย ไม่ต้องปรึกษาหรือขอคำอนุญาตจากใคร
ในขณะที่ถ้ามีแฟน ทุกอย่างต้องผ่านการปรึกษาหารือกัน ต้องคอยรายงานกัน ยิ่งเรื่องตัวห่างกันคนละประเทศ ( หรือแค่คนละจังหวัด ) ก็มีเรื่องของ long distance relationship เข้ามา หวาดระแวงจะนอกใจ ไม่มีเวลาให้กันอีก
ความรักมันก็มีมุมน่ารักอยู่เยอะแหละ แต่ก็มีมุมที่อึดอัด ทำให้เหนื่อยใจอยู่เยอะเช่นกัน จึงไม่แปลกที่คนติสต์ๆ โลกส่วนตัวสูง ยังอยากมีอิสระเต็มที่ จะไม่อยากมีใครเป็นตัวเป็นตนหรือแต่งงาน
เพราะนั่นหมายถึงความรับผิดชอบ การที่เราต้องยอมรับว่าจะมีคนมาเป็นส่วนนึงในชีวิตของเราตลอดไป หากเธอรู้ว่าตัวเองยังไม่พร้อมรับใครเข้ามาถาวรแน่ๆ ยังอยากใช้ชีวิตตามใจอยู่ การเป็นโสดน่ะดีที่สุดแล้วค่ะ
4. เธอแค่ต้องการ 'ความสัมพันธ์แก้ขัด' ประชดรักครั้งเก่า

อันนี้ค่อนข้างอันตรายมากเลย คือเธอยังไม่ต้องการมีแฟนจริงๆ ด้วยซ้ำ แค่อยากมีรักใหม่ประชดแฟนเก่าก็เท่านั้น ใครก็ได้ที่เข้ามาจีบเธอ เธอเอาหมด ซึ่งนอกจากจะไม่ช่วยอะไรเพราะเธอเองก็ยังมีแผล ความรู้สึกในใจยังไม่พร้อมเปิดรับใคร เธอยังทำร้ายหัวใจของแฟนใหม่อีกด้วย
เพราะไม่มีใครอยากเป็นตัวสำรอง แต่สุดท้ายก็เป็นแค่คนคั่นเวลา ไม่ใช่คนที่ใช่จริง สุดท้ายก็เข้ากันไม่ได้ ต้องแยกย้ายอยู่ดี
อย่างที่บอกไปตั้งแต่ข้อแรกๆ ว่า เธอต้องเติมตัวเองให้เต็มก่อน อย่าเอาบาดแผลหรือรูโหว่ไปทับถมใส่ใคร เพราะไม่มีใครอุดรูรั่วให้เธอได้
ไปทบทวนความรู้สึก ความนึกคิดของตัวเองในความสัมพันธ์เก่าๆ ให้ดีก่อน ถ้ายังมูฟออนไม่ได้ก็ควรอยู่กับสถานะโสดต่อไป อย่าไปทำให้ใครเจ็บโดยไม่จำเป็นเลยนะคะ
5. เธอต้องการคนอยู่ด้วย แต่ไม่ได้อยาก 'ผูกมัดระยะยาว'

มีผู้หญิงหลายคนที่สับสนระหว่าง ' เพื่อน ' กับ ' แฟน ' แค่อยากมีคนไว้คุยเล่นด้วย มีเรื่องหวานๆ กุ๊กกิ๊กกันบ้าง 18+ บ้างตามอารมณ์ แต่ไม่ได้อยากผูกมัดระยะยาวกับใคร เริ่มผูกพันเมื่อไหร่ถอยห่างทันที
ถ้าเธอประกาศชัดว่าเป็น FWB ( Friends With Benefit ) ก็ยังคัดกรองคนที่เข้ามาได้ แต่ถ้าเป็นคนปกติที่คาดหวังในฐานะแฟน ก็เหมือนเธอไปหลอกเขาอยู่ในความสัมพันธ์ปลอมๆ ที่สุดท้ายมันก็จะจบลงอยู่ดี เพราะแนวคิดในการคบไม่เหมือนกันตั้งแต่แรกค่ะ
ถ้ารู้ว่าให้สถานะกับคนที่เข้ามาได้แค่ ' เพื่อน ' ก็ขีดเส้นไว้ให้ชัดเจน อย่าให้อีกฝ่ายคิดไปเอง เคลียร์ตัวเองให้ดี อย่างน้อยเกิดอะไรขึ้นก็ถือว่าเขารับเงื่อนไขได้แล้ว
บางรายที่ยังใสๆ เด็กๆ อยู่ ก็อยากมีแฟนเพราะแค่อยากมีคนโทรคุย มีคนกินข้าวด้วย ไม่ต้องการลึกซึ้งกว่านั้น ถ้าเธอเป็นแบบหลัง ก็คบแบบเพื่อนสนิทดีกว่า เอาจริงๆ สำหรับบางคน คบแบบมิตรภาพอาจจะยืนยาวกว่าคบเป็นแฟนด้วยซ้ำ
6. เธอยังมี 'เป้าหมาย/ภารกิจในชีวิต' ที่เป็นโสดจะทำได้ง่ายกว่า

ข้อนี้ก็คล้ายๆ กับการยังอยากใช้ชีวิตให้เต็มที่ คือเธอเองยังอายุน้อย ยังมีความฝันที่อยากทำให้สำเร็จ ซึ่งการมีความสัมพันธ์จริงจัง อาจไปขัดกับฝันนั้นไม่มากก็น้อย ยิ่งอีกฝ่ายต้องการจะแต่งงาน อาจทำให้บางฝันต้องล้มพับเก็บไปเลย
เช่น เข้าประกวดบางรายการที่ผู้เข้าแข่งขันต้องโสดเท่านั้น, เข้าวงการบันเทิง แสดงหนัง เป็นนักร้องเดินสายคอนเสิร์ต ไม่มีเวลาให้แฟน, เที่ยวรอบโลกในประเทศธุรกันดาร ที่มีแฟนแล้วจะวุ่นวายขึ้นแน่ๆ เป็นต้น
หากเป้าหมายชีวิตในอนาคตของเธอชัดเจน และเป้าหมายนั้นยังมองไม่เห็นภาพของใครมายืนเคียงข้างได้ ก็อย่ามีความรักจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายนั้นจะดีกว่า
จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลังเวลาจะต้องเลือกแฟนหรือความฝัน เพราะสุดท้ายไม่ว่าจะเลือกอะไร ก็ต้องเจ็บอยู่ดี
7. ชีวิตทุกวันก็ยุ่งมากแล้ว ถึงมีแฟน เขาก็ไม่ 'สำคัญอันดับ 1' แน่ๆ

มีเยอะนะ สาวๆ หลายคนที่ชีวิตส่วนตัวก็ยุ่งมากอยู่แล้ว งานราษฎร์งานหลวงเข้ามาไม่ขาดสาย มีงานต้องทำ ธุรกิจต้องดูแล เรียนก็ยังไม่จบ งานอดิเรกก็กินเวลาว่างไปแทบจะทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยังไขว่คว้าหาความรักไปเรื่อย ทั้งที่รู้ว่ามีแฟนไปก็ไม่มีเวลาให้ อยากจะเกาหัวอิหยังวะมากๆ -_-
ในเมื่อชีวิตตอนนี้ ความสำคัญอันดับหนึ่งไม่ใช่การมีแฟนอยู่แล้ว จะเพิ่มภาระให้ชีวิตไปทำไมล่ะคะซิสขา
ถ้าชีวิตยังไม่ลงตัว อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ยังมีปัญหา ดราม่าคาราคาซังต้องจัดการเพียบ คือชั่งน้ำหนักแล้ว ถ้ามีแฟนก็ไม่รู้จะเอาไปวางไว้ตรงไหน ที่แน่ๆ ไม่ใช่ First Priority ก็อย่าไปรับรักหรือจีบใครตั้งแต่แรกเลย เราขอ
ถ้ายังรันชีวิตเหมือนเดิม แฟนก็เสียความรู้สึก ถ้าเอาเวลามาให้กับแฟนหมด ระบบชีวิตก็รวน ไม่เป็นผลดีกับฝ่ายไหนเลย โสดเถอะ! รอเวลาที่ตัวเองพร้อม ว่างจะทุ่มเทให้แฟนโดยไม่กระทบส่วนอื่นของชีวิตก่อนดีกว่า
ーーーーーーーーーーーーーーー
ความรักที่แท้จริง ไม่จำเป็นต้องไปหาจากคนอื่นที่ไหน แต่ต้องเริ่มจากตัวเองก่อน แม้โลกจะกว้างจนรู้สึกเหงาแค่ไหน ถ้าเรายังเป็นแผล เป็นช่องโหว่ การหาคนอื่นมาถมรอยรั่วนั้น ถมยังไงก็ไม่มีวันพอหรอกค่ะซิส
(╯︵╰,)ถ้าจะต้องมีแฟน เราต้องรักและมั่นใจในตัวเอง ยืนให้ได้ด้วยขาตัวเองก่อน ค่อยดึงคนที่เราอยากให้ความรักด้วยเข้ามาในชีวิตรักถึงจะมั่นคงและอยู่ได้ยืนยาว
(/^-^(^ ^*)/ ♡
ทุกครั้งที่เจอคนที่คิดว่าใช่ ให้ถามตัวเองก่อนว่า ' เขาจะเติมเต็มเรา แต่เขาซ่อมเราไม่ได้นะ ยังอยากจะอยู่กับเขาทั้งชีวิตอยู่ไหม " ถ้าใช่ค่อยเดินหน้าสานความสัมพันธ์ ในทางกลับกัน ถ้าเธอยังรู้สึกโหวงในจิตใจ ยังดิ่ง ยังไม่พร้อมมีใคร การคงสถานะเป็นโสดไปก่อนก็อาจจะดีกว่า โสดตลอดชีวิตไม่ตาย แต่มีรักช้ำๆ บ่อยๆ น่ะเจ็บหนักแน่นอน จำไว้~~
Cr. 9 Good Reasons To Stay Single Right Now (And How To Love Yourself) [thelawofattraction.com]
https://www.thelawofattraction.com/may-best-stay-single-right-now/