รูปภาพ:https://media0.giphy.com/media/qL1Ig46CJ8XAc/giphy.gif

สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeที่กำลังตามหารักแท้ทุกคน (°◡°♡)เวลาอ่านนิยายรัก เรื่องราวความรักที่มีคนเล่าต่อกันมา หรือหนังรักสุดฟินในหน้าจอทีวี สาวๆ หลายคนก็วาดฝันว่านางเอกอาจจะเป็นตัวเองในสักวัน บางคนก็เลือกนั่งรอเฉยๆ ให้โชคชะตาฟ้าลิขิตส่งแฟนมาเอง แต่บางคนก็เลือกกำหนดชีวิตตัวเอง ขวนขวายพยายามหา' รักแท้ 'ที่ได้แต่งงานอยู่เคียงข้างกันไปตลอดชีวิตแต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่ทุกคู่จะเป็นแบบนั้น ซิสมากมายที่มีคนเข้ามาตลอด แต่สุดท้ายก็เข้ากันไม่ได้ ต้องเลิกรากันไป หารักครั้งใหม่วนลูปไปเรื่อยๆ คิดว่าเจอคนที่ใช่แล้ว ก็ไม่ใช่สักที จนแทบจะหมดศรัทธากับความรักไปแล้ว หรือรักดีๆ จะไม่มีอยู่จริงกันนะ??  (T_T)

อยากมีแฟนที่ดี ปฏิบัติกับเราอย่างให้เกียรติ ดูแลและประคับประคองกันไปตลอดชีวิต ลองย้อนคิดทบทวนดูซิว่า ที่ผ่านมาเธอมีแนวคิดกับความรักยังไง ต้องทุ่มให้หมดทุกอย่างรึเปล่า? เห็นค่าตัวเองบ้างไหม? หลับหูหลับตาเวลาเขาโกหกหรือเปล่า? เพราะคนเราเวลาคิดยังไงก็จะแสดงออกไปแบบนั้น ซึ่งความคิดหรือ mindset ที่เราไม่รู้ตัวว่ามันแย่ ก็จะบ่อนทำลายตัวเราเองจนทำให้รักไม่สมหวังในบทความนี้ ไม่ว่าเธอจะโสดหรือเคยผิดหวังมาก่อน ขอให้อ่าน' 7 สิ่งควรรู้ไว้ก่อนตามหารักแท้ที่ใฝ่ฝัน 'เพื่อเสกตอนจบแบบ Happy Ending ให้เกิดขึ้นแบบไม่ต้องเสียน้ำตาอีกต่อไปค่ะ ❤ (ɔˆз(ˆ⌣ˆc)

1. ต้อง 'รักตัวเอง รู้จักตัวเอง' ให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก (สำคัญมาก!)

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/ee2116e2e908cd762256213eb19ec71b.jpg

สาวๆ มากมายที่ตกม้าตายตั้งแต่ข้อแรก! จะเรียกว่าไร้เดียงสา อ่อนต่อโลกก็คงได้ คือมีความคิดในหัวแค่อยากมีแฟนหน้าตาดี มีโมเมนต์หวานๆ ให้คนอิจฉา แต่ไม่รู้ว่าแฟนนิสัยแบบไหนที่จะไปกันรอด ต้องการความสัมพันธ์ยังไง ถ้าเกิดอุปสรรคในความรักจะแก้ปัญหาได้ไหม


คิดแค่ว่าคบๆ ไปก่อนเดี๋ยวว่ากัน ความคิดแบบนี้แหละเลิกรากันไม่รู้กี่คู่แล้ว แม้ความรักต้องใช้หัวใจเป็นอันดับแรก แต่มันก็ต้องมาคู่กับสมองด้วยนะคะซิสขา!

หลายคู่ที่ยอมตกอยู่ใน Toxic Relationship โดนแฟนทำร้ายร่างกาย ด่าทอ ใช้อำนาจข่ม นอกใจนับครั้งไม่ถ้วนก็ยังยอม เพราะแค่อยากยื้อให้ความสัมพันธ์ไปรอด กลัวขายขี้หน้าชาวบ้าน คิดว่าเกิดเป็นผู้หญิงก็ยอมๆ ผู้ชายไปเถอะ etc. ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงการ ' ไม่รักตัวเอง ' เอาซะเลย

นับจากนี้ไปถ้าอยากมีความรักที่ดี เธอต้องรักตัวเอง ชัดเจนกับตัวเองว่าต้องการรักแบบไหนในชีวิต และหาแฟนที่มีเป้าหมายแบบเดียวกัน เช่น ไม่ต้องการมีลูก, ไม่คบกับคนไม่ซื่อสัตย์, ไม่คบคนที่ขี้โกหก เป็นหนี้การพนัน ดื่มเหล้า เป็นต้น ยิ่งมีเงื่อนไขเยอะ ถ้ามีคนคุณสมบัติครบเข้ามา โอกาสที่จะเลิกราก็ลดน้อยลงตามลำดับค่ะ

2. ความรักไม่สามารถ 'ซ่อม/อุดรูรั่ว' ให้เธอได้ หากเธอไม่แก้ไขตัวเอง

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/158f72f566e8a8cfe81cdce23c43ce02.jpg

ขอพูดแรงๆ สักหน่อยว่า ความรักไม่ใช่ยารักษาโรคให้ใครค่ะ ความรักคือการเติมเต็มและส่งเสริมคนสองคนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่ไม่ใช่ให้คนนึงไปอุดรูรั่วหรือซ่อมช่องโหว่ในใจของอีกฝ่าย เพราะคู่ที่เริ่มต้นด้วยการ ' อยากเยียวยา ' ในที่สุดมักไปไม่รอด เพราะนั่นคือความสงสาร ไม่ใช่ความรัก


เธอจะดีใจเหรอถ้าผู้ชายที่เข้ามาอยากคบเพียงเพราะสงสาร เห็นว่าโสดมานาน หรือเข้ามาจีบเพราะอยากทำตัวเป็นพ่อพระ ซ่อมปมด้อย แผลใจในอดีตให้ และเธอก็ตกลงคบเพราะอยากหายดี แต่ไม่ได้รักเขาในเชิงโรแมนติกใดๆ เลย นั่นไม่ใช่รักแท้ แต่เป็นรักหวังผลประโยชน์มากกว่า

เนื้อคู่ที่จะอยู่กับเราได้นาน ต้องคลิกกันในเกือบทุกมิติของชีวิต ทั้งความเป็นเพื่อน ความรักในระดับที่ใกล้เคียงกัน ความผูกพัน คุยกันแล้วมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ไม่ใช่เจอหน้ากันทีก็ปรับทุกข์ คนนึงร้องไห้เสียใจ อีกคนปลอบใจ อาจจะดูซึ้ง แต่ในระยะยาว ภาระหนักจะตกอยู่ที่คนซ่อม ที่ต้องคอยมาแก้ปัญหาให้แฟน จนวันหนึ่งขีดความอดทนอาจขาดสะบั้นได้


สุดท้ายคนเราก็ต้องแก้ปัญหาให้ได้ด้วยตัวเอง อย่าทำตัวเป็นภาระทั้งทางกายหรือทางใจของใคร เมื่อตัวเองเติมเต็มแล้วค่อยเปิดโอกาสให้ผู้ชายเข้ามาในชีวิตจะดีกว่านะคะ

3. อย่าคิดว่ารักจะเป็นแบบเดิม 'ทุกครั้ง' เพราะคนเราไม่เหมือนกัน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/532bc7f0a87493c2aed88f804a885317.jpg

สำหรับสาวๆ คนไหนที่มีประสบการณ์เดท เคยมีแฟนมาแล้วพอสมควร ซึ่งก็คงมีทั้งช่วงเวลาที่ดีและที่แย่ เมื่อคิดจะหารักครั้งใหม่ ขออย่าให้เธอเอาประสบการณ์กับแฟนเก่า มาเปรียบเทียบกับคนใหม่เด็ดขาด

เพราะคนเราไม่เหมือนกัน ทั้งหน้าตา นิสัย บุคลิก ความคิดความรู้สึก แนวทางในการแสดงความรักก็ต่างกัน ยิ่งไปเทียบยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหองระแหงกว่าเดิมเสียเปล่าๆ

เธออาจเคยคบกับคนรวย เลี้ยงข้าวเธอทุกมื้อ เปย์ของขวัญแพงๆ ให้ทุกเทศกาล โทรมาบอกรักทุกวัน แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามก็เลิกรากันไป เมื่อเธอได้เจอรักใหม่ ก็อย่าคาดหวังว่าเขาจะทำแบบเดียวกันเป๊ะๆ

เขาอาจไม่เก่งในการแสดงความรู้สึกหรืองานยุ่ง ฐานะไม่ได้รวยมากเท่าผู้ชายคนนั้น แต่หากเขายังรักและใส่ใจเธอตามที่ควรจะเป็น นั่นก็คือสิ่งที่ดีแล้ว ไม่มีใครอยากโดนเทียบกับแฟนเก่าหรอก ยกเว้นว่าเธออยากให้เขาเป็นแฟนเก่าเพิ่มด้วยอีกคน!

4. จำไว้เสมอว่า เธอมี 'ความสุข' ได้เอง แฟนเป็นแค่ส่วนเติมเต็ม!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/c932f531b587b035ee4b41d1a45a2fac.jpg

หลายคนที่ชีวิตไม่มีความสุข เพราะคิดว่าสถานะโสดเป็นเรื่องน่าอับอาย เป็นความเหงา ต้องมีใครสักคนอยู่เคียงข้าง ถ้าไม่มี = แย่ หรือถ้ามีแฟนก็ทุ่มเท ยอมแฟนทุกอย่าง เอาความสุขของตัวเองไปขึ้นตรงอยู่กับเขา โลกทั้งใบคือเขา เมื่อวันหนึ่งความรักมาถึงทางตัน อนาคตไปต่อไม่ได้ ผู้ชายนอกใจ ก็เหมือนโลกพังทลายลงมา พังทั้งอารมณ์ทั้งความรู้สึก


อันที่จริงไม่ใช่แค่เรื่องแฟน แต่สาวๆ ไม่ควรเอาความรู้สึกไปลงที่ใครแค่เพียงคนเดียว เพราะเมื่อเขาจากไป เราจะเจ็บหนักมากๆ ค่ะ

จงอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง คนมากมายที่มีชีวิตสนุก ร่าเริงสดใส มีกิจกรรม งานอดิเรก เป้าหมายในชีวิตที่ทำได้ด้วยตัวคนเดียว โดยไม่จำเป็นต้องมีแฟน ที่จริงการเป็นโสดเองก็มีข้อดีหลายอย่างที่คนมีคู่ทำไม่ได้

เช่นเรื่องของอิสระ การไม่ต้องผูกมัด ไม่ต้องคอยห่วงหรือพะวงกับใคร ไม่มีภาระผูกพัน เป็นต้น จำไว้ เป็นโสดให้มีความสุขก่อนถึงจะเริ่มคิดมีแฟน ถ้าไม่อยากเสียใจภายหลัง

5. ถึงเจอคนที่ชอบแล้ว ก็อย่ารีบร้อน ค่อยๆ ดูใจกันไปก่อน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/97853aa6bbd95677eddd51f79215e2f1.jpg

จะอายุยังน้อย หรือเข้าสู่วัยกลางคนแล้วก็ตาม ความรักก็ต้องอาศัยเวลาในการเรียนรู้ ศึกษานิสัยซึ่งกันและกันว่าจะไปกันรอดไหม ถึงสาวซิสเจอคนที่ถูกใจแล้ว กำลังคุยๆ กันอยู่ ก็อย่าเพิ่งรีบร้อนตกลงคบเป็นแฟน


อันที่จริงยิ่งอายุเยอะ ยิ่งต้องพิจารณาให้นานขึ้นด้วยซ้ำ เพราะหากมีความสัมพันธ์จริงจังเมื่อไหร่ ด้วยบริบททางสังคม รูปร่างหน้าตาที่เริ่มโรยราตามวัย หากไปกันไม่ได้ สาวสามสิบกว่า-สี่สิบ จะใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าวัยรุ่นอยู่แล้ว //สะเทือนใจมาก TT

อย่าไปเชื่อคำที่เขาบอกว่า" รถด่วนขบวนสุดท้ายแล้วนะ รีบๆ แต่งกับคนนี้เถอะ ดีกว่าโสดจนตาย "ไม่จริง! ถ้าเธอเป็นผู้หญิงมีเสน่ห์ มั่นใจ หมั่นดูแลตัวเองให้ดูดี จะอายุเท่าไหร่ก็มีคนเข้ามาได้เสมอ


ไม่จำเป็นต้องคว้าใครก็ได้เพียงเพราะต้องแต่งงาน มีลูกก่อน 30 ตามเกณฑ์ของสังคม ถ้ายังรู้สึกว่าไม่พร้อมก็ดูใจกันไป ไม่ผิด โสดขึ้นคานทองนิเวศน์สวยๆ ยังดีกว่าแต่งกันไปแล้วทุกข์ระทมใจไม่เว้นวัน เพราะเลือกคนผิด บอกเลย!

6. ไม่มีมนุษย์คนไหนเพอร์เฟกต์ 100% ลดความคาดหวังลงบ้างก็ดี

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/287de49c7bd113c013af6d840791f8a4.jpg

สาวๆ เพอร์เฟกต์ชันนิสต์ทุกคนโปรดอ่านทางนี้! แม้เธอจะประสบความสำเร็จด้านการเรียน การงาน ชีวิตส่วนตัวมาโดยตลอด ทุกอย่างต้องเต็มเป๊ะ 100% ไม่ขาดไม่เกิน เจ้าดีเทล เนี้ยบทุกรายละเอียด มาตรฐานสูงปรื๊ดยังไงก็ตาม แต่ในเรื่องของความรัก เธอต้องเว้นพื้นที่เผื่อให้ความไม่สมบูรณ์แบบบ้าง ไม่ใช่ตั้งสเปคสูงจนผู้ชายคนนั้นไม่น่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้


เช่น หน้าต้องหล่อเทียบเท่าหรือมากกว่าติ๊ก เจษ, พูดได้ 5 ภาษา, เกรด 4.00, สูง 185 ขึ้นไป ถึงมีคนคนนั้นอยู่จริง ก็ใช่ว่าเขาจะรู้สึกกับเธอเหมือนกัน คู่แข่งก็ต่อคิวยาวเฟื้อย ต้องไปลุ้นเอาข้างหน้าอีก เหนื่อยเด้อ!

ในบางครั้ง สาวๆ ก็ตั้งสเปคให้เพอร์เฟกต์ในสายตาสังคมไว้ก่อน โดยที่ก็ไม่ได้คิดทบทวนว่า ผู้ชายที่ดูดีขนาดนั้น ถ้าคบเป็นแฟนจริงๆ จะรอดรึเปล่า มีถมไปที่ฝ่ายชายหล่อ รวย เก่ง ดีทุกอย่าง แต่เป็นแฟนที่แย่ ไม่เข้าใจ ไม่ใส่ใจ สุดท้ายก็ต้องเลิกกัน


หากซิสลองเปิดใจ ให้โอกาสคนธรรมดาที่จีบเธอเข้ามาในชีวิต เขาอาจเป็นแฟนที่ดี ช่างเอาใจ ปรนนิบัติเธอเหมือนเจ้าหญิง ชนะผู้ชายเพอร์เฟกต์คนนั้นขาดลอยเลยก็ได้

7. อย่าซีเรียสกับการหาแฟนอย่างเดียว เอ็นจอยชีวิตระหว่างทางด้วยนะ!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/f20a4dd99aef1034dc460319942a035b.jpg

ข้อสุดท้ายนี้ ก็อยากเตือนสาวๆ ที่ตั้งหน้าตั้งตาหาแฟนอย่างเอาเป็นเอาตายว่า อย่าหมกมุ่น ออกไปใช้ชีวิตบ้าง! การหารักแท้ หาคนที่จะแต่งงานด้วยอาจจะดูเป็นเรื่องซีเรียส จริงจัง แต่ก็ใช่ว่าเราจะมีความสุข สนุกกับระหว่างทางไม่ได้


เธอยังสามารถไปเที่ยว ไปเรียนต่อ ไปทำธุรกิจ ไปทำงานอดิเรกที่ชอบ ไปเข้าประกวดนั่นนี่ โดยที่ยังไม่ได้ปิดโอกาสให้ใครเข้าหา เจอคนที่ใช่ก็คบ ไม่เจอก็ไม่เป็นไร ทั้งประสบการณ์ชีวิตและความรัก มันทำควบคู่กันไปได้นะ!

ความรักบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตา การเอาแต่ปัดแอพหาคู่ ไปดูตัว ไปนัดบอดตลอดเวลา ทุ่มเวลาหาแฟนซะเต็มที่ เราอาจไม่เจอคนที่ถูกใจเลย หรือเจอแต่คนแย่ๆ ที่คบกันแป๊บเดียวก็เลิกในทางกลับกัน ใช้ชีวิตตามปกติของเธอไป ผู้ชายที่ใฝ่ฝันอาจโผล่ขึ้นมาในสถานการณ์สุดบังเอิญก็เป็นได้ หลายคู่ก็เจอกันเพราะเป็นลูกค้าที่ทำงาน, ไปเที่ยวกรุ๊ปทัวร์เดียวกัน, ลงเรียนคอร์สอบรมเดียวกัน หรืออาจจะแค่สบตากันในร้านกาแฟก็ได้ เหมือนที่เขาเรียกว่า ' รักแรกพบ ' ยังไงล่ะ เรื่องแบบนี้ปล่อยไปตามธรรมชาติ อย่าบังคับ อย่าไปเคร่งเครียดกับมันจะดีที่สุดค่ะ

รูปภาพ:https://media1.tenor.com/images/1d1036ddd06494cd56b438ff8c4a3415/tenor.gif?itemid=15559656

------------------------

อ่านจบถึงตรงนี้ สาวๆ น่าจะเข้าใจบริบทของความรักระหว่างคนสองคนในชีวิตจริงมากขึ้นแล้วนะคะ ว่ามันไม่ได้น่ารักมุ้งมิ้ง 24 ชั่วโมง เหมือนในเทพนิยายหรือซีรีส์เกาหลี แต่มีรายละเอียดที่ลึกและซับซ้อนกว่านั้นมาก เมื่อผ่านช่วงเวลาหวานมุ้งมิ้งไปแล้ว ก็คือชีวิตจริงๆ ที่ต้องอาศัยความเข้าใจ อดทน เรียนรู้ซึ่งกันและกันต่อไปเรื่อยๆ ทั้งชีวิต บางคู่ที่แต่งงานแล้วหลายปียังต้องปรับเข้าหากันตลอดเวลาเลย เพราะมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาย้ำสาวๆ ไว้เลยว่า " เราต้องมีจุดยืนในการรักและเคารพตัวเอง " หากมีเรื่องทะเลาะ จะรักแค่ไหนก็อย่าให้เขามาล้ำเส้น ไม่ให้เกียรติกันอย่างเด็ดขาด ซึ่งปัญหานี้จะหมดไปถ้าเรา ' เลือกคนที่ถูกต้อง ' ตั้งแต่แรก นั่นคือคนที่เรารักและเขาก็รักเรา หากมีครบทั้งหมดนี้ ความรักที่มีก็อยู่กันได้จนแก่เฒ่าได้อย่างแน่นอนค่ะ ขอให้ทุกคนสมหวังกับรักแท้ที่รอคอยนะคะ

(◕‿◕)♡