เป็นแบบนี้ควรระวัง! เผย 8 พฤติกรรมที่ทำให้สุขภาพจิตเสีย ⚡ ป้องกันไว้ดีกว่าแก้
สำหรับพฤติกรรมที่เพื่อน ๆ ทำไปโดยไม่รู้ตัว อาจจะเป้นสัญญาณบอกว่าความเสี่ยงต่อสุขภาพจิตก็ได้นะคะ
เผยแพร่: 2 ธ.ค. 2563 22:50 น.
Views: 5,939
รหัสบทความ: 80775
แหนะ ๆ ขมวดคิ้วอีกแล้วนะ!
ซิสเคยโดนทักแบบนี้บ่อย ๆ มั้ยคะ
สำหรับซิสที่โดนทักแบบบ่อย ๆ อาจจะเป็นสัญญาให้ซิสลองกลับมาคิดทบทวนเรื่องของสุขภาพจิตมากขึ้นก็ได้
เพราะบางทีเราอาจจะแสดงพฤติกรรมที่มีผลต่อความเครียดออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว และนอกจากอาการขมวดคิ้วแล้ว ยังมี
พฤติกรรมเสี่ยงสุขภาพจิตเสีย
อีกหลายแบบเลยที่เราอาจจะทำไปโดยไม่รู้ตัว
ส่วนจะมีพฤติกรรมแบบไหนบ้าง แล้วเราเคยเผลอทำไปบ้างรึเปล่า ลองตามไปเช็กในบทความนี้กันดูค่ะ
✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩
เดินตัวงอ หลังค่อม ทำให้อารมณ์เสียง่าย
สำหรับเพื่อน ๆ ที่รู้ตัวว่าชอบเดินตัวงอหลังค่อม ขอแนะนำให้ลองปรับพฤติกรรมการเดินดูนะคะ
เพราะว่าการเดินตัวงอเป็นพฤติกรรมที่สามารถส่งผลต่อสุขภาพจิตทำให้สุขภาพจิตเสียได้
จากทางวารสารที่ศึกษาพฤติกรรมและกายภาพของมนุษย์เขาบอกมาว่า
คนที่เดินหลังงอ ห่อไหล่ ก้าวถี่ ๆ จะอารมณ์เสียง่ายกว่าคนที่เดินอกผายไหล่ผึ่งกระฉับกระเฉงด้วย
และนอกจากจะทำให้เสียสุขภาพจิตแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพกายอย่างเช่นเรื่องของกระดูกสันหลังคดงอ แถมยังทำให้เสียบุคลิกอีกด้วย ยังไงเราขอสร้างความมั่นใจให้กับซิส ไม่ต้องคิดมาก แล้วเดินอย่างมั่นใจไปเลยค่ะ
แชะภาพเก่ง ทำให้จดจำโมเมนต์ดี ๆ ได้น้อยลง
ไม่น่าเชื่อเลยว่าพฤติกรรมการถ่ายภาพจะเสี่ยงทำให่สุขภาพจิตเสียได้ด้วย จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์จิตวิทยาบอกไว้ว่า การที่เรามักจะหยิบกล้องหรือมือถือมา
แชะภาพที่อยู่ตรงหน้าบ่อย ๆ ทำให้เรามัวสนใจแต่กับหน้าจอ มากกว่าที่จะให้ความสำคัญบรรยากาศรอบ ๆ เราเลยจดจำโมเมนต์ในช่วงนั้นได้น้อยลง
ทางที่ดีลองเก็บภาพเท่าที่จำเป็น
แล้วหันมามองโลกภายนอกและมีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ
รอบตัวมากขึ้น ซิสอาจจะได้พบกับโลกใบใหม่ที่สวยงามกว่าในหน้าจอก็ได้นะคะ
เดี๋ยวทำนู้น เดี๋ยวเล่นนี่ เลยไม่ concentrate
สำหรับซิสที่มักจะหัวหมุนอยู่กับเช็กลิสต์สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน จะกินข้าวก็ต้องนั่งตอบไลน์หรือเช็กโซเชียลไปพลาง ๆ หรือทำงานก็ต้องแว่บไปเปิดเพลงฟังสักหน่อย รวบเอาหลายอย่างมาทำพร้อมกันดูเหมือนจะดีที่ได้ย่นระยะเวลา
แต่ในการศึกษาทางจิตวิทยาเขาบอกมาว่าการทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันจะทำให้เราไม่สามารถโฟกัสทุกสิ่งได้ดี
อาจจะทำให้เราเกิดข้อผิดพลาดบ่อย เลยมักจะทำให้เรารู้สึกเครียดและวิตกกังวลได้ง่าย ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตได้ด้วยเหมือนกัน
ทางที่ดีกินข้าวทีละคำทำทีละอย่าง จัดลำดับความสำคัญของงานแต่ละอย่างให้ดี ก็จะทำให้ซิสจัดการเวลาชีวิตได้อย่างเรียบง่าย สบายใจมากขึ้นค่า
พรุ่งนี้ค่อยทำแล้วกัน! คิดแบบนี้บ่อย ระวังเสียสุขภาพจิต
อีกหนึ่งนิสัยเสียที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตและควรแก้ไขอย่างยิ่ง นั่นก็คืออาการผลัดวันประกันพรุ่ง
ถึงแม้ว่าในบางวันเราจะเหนื่อยล้ากับหลาย ๆ อย่างจนไม่อยากจะทำอะไรแล้ว
ขอผลัดไปก่อนแล้วกัน ถ้าเป็นแป๊บ ๆ ไม่บ่อยก็ไม่ค่อยหน้าห่วงหรอกนะคะซิส
แต่ถ้าเกิกซิสรู้สึกกังวลใจหรือเกิดกลัวจนอยากพลัดสิ่งที่จำไปเรื่อย ๆ อาการแบบนี้เริ่มหน้าเป็นห่วงขึ้นมาแล้ว
เพราะนั่นหมายความว่าสุขภาพจิตของซิสกำลังส่งเสียงขอความช่วยเหลือว่าให้กลับมาดูแลจิตใจด่วน ๆ
ทางที่ดีไม่อยากให้ซิสกังวลมากเกินไปกับสิ่งที่กำลังจะทำ หรือสิ่งที่ต้องเจอนะคะ
สิ่งที่เกิดขึ้นมันอาจจะน่ากลัวน้อยกว่าสิ่งที่เราคิดก็ได้ เป็นกำลังใจให้ผ่านเรื่องวิตกกังวลไปให้ได้นะคะ
ติดมือถือไม่ห่างมือ อาจจะเครียดไม่รู้ตัว
ซิสคนไหนที่มีอวัยวะที่ 33 คือมือถือ ยอกมือแสดงตัวขึ้นมาเลยค่ะ
สำหรับซิสที่ชีวิตต้องมีน้องมือถือเครื่องติดสอยห้อยตามไปด้วยตลอดไม่เคยห่างมือ
ขอเตือนให้ระวังในเรื่องสุขภาพจิตสักนิดก็จะดีนะคะ เพราะว่าอาการติดมือถือคือสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่าคุณอาจจะเครียดโดยที่ไม่รู้ตัว
เพราะว่าการรับข่าวสารจากมือถือที่หลั่งไหลเข้ามากเกินไป
จิตใจซิสอาจจะรับไม่ไหวก็เป็นได้
เพราะฉะนั้นในหนึ่งแนะนำลองทำ social detox พักเล่นมือถือสัก 10-15 นาที แล้วหากิจกรรมอื่น ๆ ทำ
อย่างเล่น ดูหนัง ล้างห้องน้ำ ปลูกต้นไม้ วาดรูป ฝึกเล่นดนตรี ไม่แน่ว่าเพื่อน ๆ อาจจะได้งานอดิเรกใหม่ทำในเวลาว่างก็ได้นะเอ้อ
ไม่ค่อยออกกำลังกาย ทำให้ไม่สบายใจได้เหมือนกัน
ว่ากันว่าการออกกำลังกายจะช่วยให้เราผ่อนคลายและสบายใจมากยิ่งขึ้นนะคะซิส เพราะว่า
ในขณะที่เราออกกำลังกายร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุขออกมาทำให้จิตเราสงบมากยิ่งขึ้นด้วย
และจากข้อมูลของสถาบันจิตเวชศาสตร์ JAMA Psychiatry บอกไว้
ถ้าเราออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เราจะมีความเครียดน้อยลงถึง 19%
สำหรับซิสที่ช่วงนี้จิตฟุ้งซ่าน การออกกำลังกายก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตเลยนะเอ้อ
ปิดบังความรู้สึก พยายามทำให้คนอื่นสบายใจ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่คอยนึกถึงคนอื่นอยู่เสมอ ถึงแม้จะเป็นเรื่องราวที่ดี แต่ถ้าบางทีนึกถึงคนอื่นมากใจจนลืมดูแลจิตใจตัวเอง
พยายามแสดงออกให้คนภายนอกเห็นว่าเราสดใสมีความสุข แต่ภายในใจกลับรู้สึกไม่ค่อยโอเค
หรือไม่กล้าปลดปล่อยความรู้สึกเศร้าเสียใจออกมาบ้าง ได้แต่เก็บมันเอาไว้ในใจคนเดียวมาตลอด สักวันมันอาจจะล้นจนเก็บไม่อยู่ทำให้สุขภาพจิตเสียก็ได้นะคะ
เราว่าการยอมรับความรู้สึกของตัวเอง เศร้าก็บอกว่าเศร้า เสียใจก็บอกว่าเสียใจ อาจจะทำให้เราจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้ดีขึ้น
ติดความเป๊ะ เฟอร์เฟ็กต์ตลอด ทำให้กดดันตัวเอง
เพื่อน ๆ เหล่า Perfectionist ทั้งหลายที่ชีวิตต้องเป๊ะปังทุกระเบียบนิ้ว ควรระวังเรื่องของสุขภาพจิตนิดนึงนะคะซิส เพราะว่าอาการแห่งความเป๊ะปังถ้าเกิดว่ามันพังแล้วจะไม่ได้ดั่งใจของเรานั้น อาจจะเสี่ยงส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตภายหลังได้ด้วย
สาเหตุก็เนื่องมาจากว่าเราอาจจะกดดันตัวเราเองมากเกินไป ให้ต้องเป๊ะ perfect ตลอดเวลา
พอบางอย่างไม่เป็นดังใจขึ้นมาเลยเกิดอาการเครียดได้ง่าย เพราะฉะนั้น Let it go ปล่อยมันไปอย่างที่เป็น
ผิดพลาดบ้างก็ไม่เสียหายอะไรหรอกนะคะซิส ถือซะว่าเป็นการเรียนรู้ เพื่อเพิ่มทักษะให้เราใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้นนะ
✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩
และนี่ก็เป็น
พฤติกรรมที่ทำแล้วเสี่ยงสุขภาพจิตเสีย
ที่เรานำมาแชร์เพื่อน ๆ สาวซิสในบทความนี้ค่ะ สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่เปิดบทความนี้แล้วมีอาการตรงอยู่หลายข้อ ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ
ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤิตกรรมกันไป ยิ้มเยอะ ๆ คิดในแง่ดีเข้าไว้ อะไรที่มันกวนใจแต่เราไม่สามารถแก้ไขอะไรมันได้แล้ว ก็ Let it go ปล่อยมันไปบ้างก็ได้
เก็บมาคิดก็จะปวดหัวเปล่า ๆ นะ หรือจะ
ลองหากิจกรรมทำให้เลิกคิดฟุ้งซ่าน ก็ลองตามไปส่องกิจกรรมเสริมสมาธิจากบทความด้านล่างดูได้นะคะ
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ซิสแฮปปี้มีความสุขทุกวันเลยนะคะ
