สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeคนสวยทั้งหลาย (*¯ ³¯*)♡ยังไม่พ้นสิ้นปีเลย สถานการณ์โควิดก็กลับมาระบาดรุนแรงอีกรอบ จากที่คิดว่าน่าจะกินเวลาแค่ปีเดียว เตรียมวางแผนชีวิตในปีหน้าต่อ เจอข่าวนี้ไปทุกอย่างหยุดชะงัก ไม่รู้แล้วว่าเมื่อไหร่ทุกอย่างจะกลับไปเป็นปกติ ได้ไปเรียน ทำงานที่ไม่ใช่ทางออนไลน์ต่างประเทศก็ยังมีข่าวแพร่ระบาดไม่แพ้กัน กว่าจะได้ไปเที่ยวเมืองนอกอีกทีก็คงรอไปอีกยาวๆ ไร้กำหนด อยู่บ้านเบื่อๆ เปื่อยๆ วนไป ไม่รู้ว่าคริสต์มาสกับล็อคดาวน์ อะไรจะมาถึงก่อนกัน -__-ซึ่งการที่ปี 2020 เกิดสถานการณ์โรคระบาดนี้ขึ้น นอกจากจะได้เห็นการเตรียมตัวรับมือของรัฐบาลไทย การเมือง เศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างต่อเนื่อง ผู้คนที่ต้องตกงาน ดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตต่อแล้วในมุมของการ ' คบเพื่อน ' เราก็ได้เห็นนิสัยที่แท้จริงของแต่ละคนว่าเมื่อเกิดเหตุวิกฤติไม่คาดฝัน เขามีทัศนคติต่อโลกยังไง เขาคิดแก้ปัญหาหรือโยนความผิดให้คนอื่น จะได้คัดคนที่สมควรอยู่ในชีวิตเราจริงๆ ได้เยอะก็ในปีนี้นี่ล่ะ!สาวๆ คนไหนที่ยังไม่เริ่มพิธิกรรมเคลียร์เฟรนด์ลิสต์ครั้งใหญ่ ลองมาเช็ค' 7 ลักษณะนิสัยคน Toxic ที่สาวๆ ควรหลีกหนีให้ไกล 'ว่ามีคนรอบตัวเข้าข่ายกันบ้างไหม ถ้าเลี่ยงได้เลี่ยง อันเฟรนด์ได้จงอันเฟรนด์ ถ้าไม่อยากเศร้า เครียดจนต้องอารมณ์ดิ่งตาม เริ่มค่ะ!

1. คนที่ส่ง 'พลังด้านลบ' ให้คนอื่นตลอดเวลา

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/2fd6a0773ebf3f6c65e062ae3bd11929.jpg

มนุษย์ทุกคนจะมี ' ออร่า ' เป็นของตัวเอง ส่วนนึงอาจมาจากเสน่ห์เฉพาะตัวแต่เกิด แต่ส่วนใหญ่จะมาจากความคิดและทัศนคติของคนคนนั้น เคยได้ยินคำพูดนึงไหมว่า ถ้าเราคิดอะไร เราก็จะแสดงความรู้สึก พูด และกระทำออกมาแบบนั้น


ดังนั้นคนที่ชอบหงุดหงิด โกรธ อารมณ์เสีย หรือเศร้าอย่างไม่มีเหตุผลอยู่ตลอดเวลา เพราะในใจของเขาคิดแต่เรื่องแย่ๆ ที่ทำให้ไม่มีความสุข หรือเป็นคนส่งพลังงานด้านลบให้คนอื่นนั่นเอง

ความน่ากลัวคือ พลังลบติดต่อได้ง่ายกว่าที่คิด แค่ต้องมีสังคมร่วมกัน เป็นเพื่อนแก๊งเดียวกัน ร่วมวงบทสนทนาด้วยกันทุกวัน ก็อาจส่งผลให้จิตใจของเราหม่นหมองตามไปด้วย ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เธอมีภาวะซึมเศร้าได้ ซึ่งในสถานการณ์ช่วงนี้ การคิดบวกเป็นสิ่งสำคัญมาก


วิธีเอาตัวรอดคือเธอต้องตีตัวออกห่างออกมา อย่าเถียง อย่าสนใจ ไม่อย่างนั้นเขาก็เหมือนหลุมดำที่พร้อมจะดูดกลืนเธอเข้าไปให้เป็นพวกเดียวกัน ในเคสที่ดันเป็นพี่น้องหรือสมาชิกในครอบครัวที่ตัดขาดไม่ได้ ก็พยายามคุยแต่เรื่องกลางๆ เลี่ยงหัวข้อที่ทำให้เกิดการทะเลาะมากที่สุดก็พอค่ะ

2. คนที่ชอบ 'วิพากษ์วิจารณ์คนอื่น' แต่ไม่เคยหันมองดูตัวเอง

รูปภาพ:https://img.168upload.com/uploads/20201220/02b2c4c25107c2392e9f7043397c6181deaf8269.jpg

คนอีกประเภท ที่ทำให้เหนื่อยใจได้ยิ่งกว่าคนคิดลบ คือคนที่ขี้แซะ วิจารณ์คนรอบข้างเก่ง มีใครเดินผ่านหน้า มีข่าวเลื่อนผ่านมาในฟีด ต้องขอให้ได้ด่าว่า วิจารณ์เสื้อผ้าหน้าผม นิสัย ฐานะของคนคนนั้นสักหน่อย ไม่งั้นนอนไม่หลับ แต่ไม่ได้ดูตัวเองว่าจริงๆ ก็อาจจะพอกันหรือแย่กว่าเขาด้วยซ้ำ

แต่เป็นไปได้ว่าติดนิสัยไปแล้ว นิสัยที่ไม่สามารถมองหาข้อดีในตัวคนอื่นได้ และพยายามหาจุดด้อยเพื่อกลบปมของตัวเอง และเชื่อเถอะว่า ถ้าเขาวิจารณ์คนอื่นต่อหน้าเธอได้ เขาก็เอาเธอไปนินทาลับหลังกับคนอื่นได้เหมือนกัน!

เธอต้องแยกก่อนว่า เพื่อนที่หวังดีกล้าเตือนกันตรงๆ ว่าทรงผมนี้ไม่เข้ากับหน้า เสื้อผ้าสไตล์นี้ไม่เข้ากับรูปร่าง หรือน้ำหอมกลิ่นนี้ไม่เข้ากับบุคลิก กับเพื่อนที่ตั้งใจจะกัด ขุดแต่ข้อไม่ดีมาว่าให้อับอายมันต่างกัน คนกลุ่มแรกพูดเพราะหวังดีและไม่ใช้คำหยาบคาย แต่คนกลุ่มหลังไม่ได้อยากให้เธอปรับปรุงตัวเองอะไรหรอก แค่อยากลากมาด่าและเหยียดเธอเท่านั้น

เอาง่ายๆ ว่าอยู่กับคนไหนแล้วทำให้เธออึดอัด เวลาคุยกันแทบจะไม่เคยได้ยินเขาชมใคร มีแต่ด่า วิจารณ์เสียๆ หายๆ ( เผลอๆ บางครั้งเธอก็โดนหางเลขไปด้วย ได้แต่ยิ้มแห้ง เก็บความโกรธไว้ในใจ ) ก็ถอยออกมาตั้งหลักจะดีกว่า คนที่มองโลกในแง่บวก ให้คำชมดีๆ กับเรายังมีอีกเยอะ อย่าไปทนกับความ toxic แบบนี้เลย!

3. คนที่ทำให้เธอ 'เสียเวลาไปฟรีๆ โดยเปล่าประโยชน์'

รูปภาพ:https://img.168upload.com/uploads/20201220/01b2d5dd671e1d41975b589ade89d190e4132586.jpg

มนุษย์มีเวลาอยู่บนโลกนี้จำกัด น้อยคนที่จะอยู่ได้ถึงร้อยปี อีกทั้งเวลาช่วงวัยรุ่นและวัยทำงานก็ช่างแสนสั้นนัก ดังนั้นเวลาของทุกคนมีค่า สาวๆ ควรใช้กับคนที่เราอยากอยู่ด้วย คุยกันแล้วรู้สึกว่าอยากพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้น ทำงานด้วยกันก็ได้งานเป็นรูปเป็นร่าง


แต่คนรอบตัวบางคนที่เราเผลอรับเข้ามาในชีวิต กลับไม่ได้ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้น ตรงกันข้าม ทำให้เธอต้องมาเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เหมือนเอาเวลามาทิ้งฟรีๆ ถึงพูดไปก็หูทวนลมอยู่ดี ไม่ได้สนใจหรือปรับปรุงตัวอะไรทั้งสิ้น #เป็นท้อ

ลักษณะที่มีร่วมกันของคนเหล่านี้ก็เช่น ใช้ชีวิตชิลล์ๆ จนบางทีกลายเป็นเฉื่อย เรื่อยเปื่อย ถ้าชิลล์กับชีวิตตัวเองคนเดียวไม่ว่าหรอก แต่เวลาต้องนัดเจอคนอื่น หรือทำงานร่วมกัน คุณหญิงคุณชายทั้งหลายก็มาเลตที 2-3 ชั่วโมง ไม่ได้เคารพเวลาของคนอื่นเลย มาถึงก็ไม่ได้เตรียมตัวทำงานอีก ต้องมาเริ่มใหม่ตั้งแต่ 0 สำหรับคนเพอร์เฟกต์ชันนิสต์ต้องมีฟึดฟัดกันบ้างแหละ

ถ้าเป็นไปได้ลดระดับสถานะหรือตัดออกจากชีวิตได้ก็จะดีกว่า แต่ถ้าตอนนี้ยังเลี่ยงไม่ได้ เป็นเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศหรือทำงานกลุ่มในมหาลัย ก็ต้องกำหนดลิมิตให้ชัดเจนไปเลยว่า นัดแล้วห้ามเลต ประชุมครั้งนี้ต้องได้ข้อสรุปอะไรบ้าง หากจำเป็นต้องแฮงค์เอาท์ก็ไปเป็นกลุ่มๆ จะได้ปลีกตัวออกมาง่าย เป็นต้นค่ะ

4. คนที่ขี้อิจฉา เห็นคนอื่นดีกว่าตัวเองไม่ได้ ต้องหาเรื่องแซะตลอด!

รูปภาพ:https://img.168upload.com/uploads/20201220/5d38291510e044b52e6bd23477e32b788318dd34.jpg

ข้อนี้น่าจะเป็นขั้นกว่าของคนชอบวิจารณ์คนอื่น! บางครั้งคนชอบวิจารณ์ก็อาจไม่ได้อาฆาตมาดร้ายอีกฝ่ายขนาดนั้น แต่ด้วยความปากไว ไม่ได้คิดกลั่นกรองคำพูดจึงทำให้คนฟังเสียใจได้


แต่สำหรับคนประเภทในข้อนี้คือ ' อิจฉาริษยา ' อย่างจริงจังกับคนที่หน้าตาดี ฐานะดี ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่ก็เพราะมีปมที่ด้อยกว่า อยากไต่ไปให้ถึงคนเหล่านั้นแต่ทำไม่ได้ จึงได้แต่แซะ ด่า ใช้คำหยาบคาย เหยียดไปวันๆ ทั้งที่ในใจจริงก็อยากเป็นแบบเขานั่นแหละ แต่วาสนาไม่ถึง!

คนที่จะต้องริษยาคนอื่น คอยจิกกัดตามได้ไม่เลิกเนี่ย ก็นับเป็นคนที่น่ากลัวเหมือนกัน เพราะพื้นฐานเขาไม่มีความสุขกับตัวเอง และเลือกจะส่งความเกลียดชังเป็นวิธีแก้ปัญหา แม้ในตอนนี้คนที่เขาริษยาอาจไม่ใช่เธอเอง แต่ถ้าสักวันเธอสวยขึ้น รวยขึ้น ก้าวหน้าในอาชีพมากขึ้น จะแน่ใจได้ยังไงว่าเธอจะไม่ตกเป็นเป้าหมายรายต่อไป จะจบที่การแซะอย่างเดียวหรือแกล้งขัดขาให้ล้ม?

เราไม่มีทางรู้เลย ดังนั้นถ้าจะเซฟทั้งสุขภาพจิตและชีวิตของตัวเอง ค่อยๆ ถอยห่างและนำคนประเภทนี้ไปให้ไกลจากชีวิตจะดีกว่า อย่าไปคบกับคนที่ฉุดรั้งเธอลงต่ำเลย มันเหนื่อยและน่าระแวงมากๆ ค่ะ!

5. คนที่ชอบ 'รับบทเหยื่อ' ผลักความผิดให้คนอื่นตลอด

รูปภาพ:https://img.168upload.com/uploads/20201220/f8f9a1adaf93dd55497e690a43a10a7234132f51.jpg

คนพวกนี้เราขอแปะป้ายเลยว่าเป็น ' นางงูพิษ ' ใครไม่มีในชีวิตเลยถือว่าโชคดี แต่ถ้าเผลอรับเข้าในแก๊งก็บอกเลยว่าซวยแล้ว!


บุคคลที่เวลามีเรื่องทะเลาะวิวาท หรือแค่คุยไม่ตรงกันจนเผลอใส่อารมณ์ไปบ้าง นางก็ไปฟ้องคนอื่นว่าเราทำร้าย ส่วนตัวเองรับบทนางเอกไม่สู้คน เป็นเหยื่อที่แสนจะน่าสงสาร บิดเบือนเรื่องที่เกิดขึ้นจริงไปซะ 180 องศา กลับดำเป็นขาวได้หน้าตาเฉย งงมากแม่ แบบนี้ก็ได้เหรอ

นอกจากสเกลของการไม่ลงรอยกับคนอื่นแล้ว คนเหล่านี้เวลามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น พวกเขาจะต้องหา ' คนผิดที่ไม่ใช่ตัวเอง ' ไว้ก่อน โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง ซึ่งบางเรื่องก็เขานั่นแหละต้นเหตุ แต่ทำแบบนี้เพราะไม่อยากรับผิดชอบการกระทำที่ก่อไว้ยังไงล่ะ

ถ้าซิสยังคบอยู่ เธอก็คงโดนป้ายความผิดแบบงงๆ เข้าด้วยสักวัน ไม่รู้ว่าต้องช่วยเหลือเยอะแค่ไหนถึงจะพอ บางทีสิ่งเดียวที่ทำได้ คือออกมาเงียบๆ จากชีวิตของเขา ไปเจอคนรอบข้างที่นิสัยดีกว่านี้จะดีกว่า

6. คนที่ไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น นอกจาก 'ตัวเอง'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/d56b00e76d30cbe3ad0ddfbb618f8cfd.jpg

มนุษย์หลายคนมากจริงๆ ที่อาจไม่ได้รับการอบรมที่ดีจากครอบครัว หรือที่บ้านลำบากจนต้องเห็นแก่ตัวเพื่อเอาตัวรอด ไม่ว่าเหตุผลใดก็หล่อหลอมให้ปัจจุบันพวกเขาไม่สนใจใครเลยนอกจากตัวเอง เอาแต่ใจขั้นสุด

อะไรก็ต้องเป็นไปตามความต้องการของตนเท่านั้น โลกไม่ได้หมุนรอบดวงอาทิตย์หรอก แต่หมุนรอบพวกเขานี่แหละ ถ้าเป็นเพื่อน รุ่นน้องที่สถานะพอเตือนกันได้ยังดี แต่ถ้าเจอหัวหน้า พ่อแม่พี่น้องที่เป็นแบบนี้ ก็บอกเลยว่า ' นรก ' กำลังรออยู่!

ก็จริงที่ว่าเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เธอจะรู้ว่าในชีวิตคนทำงานทั่วไปไม่ค่อยมีใครใส่ใจใครจริงๆ นักหรอก แต่เขาก็ไม่มานั่งบงการว่าเธอจะต้องเป็นยังไง หรือเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางถึงขนาดนั้น

บางคนก็เรียกว่าเข้าขั้นเห็นแก่ตัว นอกจากต้องทำตามใจทุกอย่างแล้ว ยังพยายามเอาเปรียบ ฉกชิงผลประโยชน์จากอีกฝ่ายตลอดเวลา เพราะเขามองว่าตัวเองสำคัญที่สุด ถ้าเลี่ยงได้ หรือตัดออกจากชีวิตได้ก็ควรทำ ถ้าเป็นพ่อแม่อยู่บ้านเดียวกัน เมื่อโตรับผิดชอบตัวเองได้แล้วก็ควรแยกบ้าน เพราะการอยู่ร่วมกันมันจะยิ่งบั่นทอนชีวิตเธอไปเรื่อยๆ ในอนาคตแน่นอนค่ะ

7. คนที่ย่ำอยู่กับที่ ไม่เคยพัฒนาตัวเองเลย ทำให้เธอ 'ผิดหวัง' อยู่เรื่อย

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/6010d711d12816f6dac79bb73a705513.jpg

ข้อสุดท้ายจากเจ็ดข้อ เรียกว่าเป็นความ toxic ที่เบาบางที่สุดแล้ว แต่ก็ยังทำให้ชีวิตของเธอถอยหลังอยู่ดี! จะบอกว่าเป็นลูสเซอร์ก็ได้ เพราะคนเหล่านี้เหมือนถูกแช่แข็งไว้ แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีชีวิตก็ยังย่ำอยู่กับที่ ไม่พัฒนาความสามารถ ทักษะของตัวเอง ใช้ชีวิตไปวันๆ


ยิ่งคนคนนั้นเป็นคนที่สำคัญกับเรา เช่น พี่น้อง เพื่อนสนิท โดยเฉพาะถ้าเป็นคนรักที่เราจะใช้ชีวิตคู่ด้วย แต่เขาไม่กระตือรือร้นที่จะมีอนาคตร่วมกันกับเราเลย ก็ทำให้ผิดหวังและเหนื่อยใจได้ง่ายๆ เหมือนกัน

เข้าใจแหละว่ามนุษย์ทุกคนไม่เพอร์เฟกต์ เราจะไปคาดหวังให้ทุกคนทำตามความต้องการของเราไม่ได้ แต่อย่างน้อยคนเราก็ต้องขยับไปข้างหน้าบ้าง


เอาง่ายๆ ยกตัวอย่างสถานการณ์โควิดเลย ถ้าใช้ชีวิตไปวันๆ รอให้เชื้อหายไปเอง อาจต้องรอหลายปีจนเศรษฐกิจพังพินาศ คนป่วยจนล้มตายกันเป็นเบือ คนฉลาดจะต้องหาทางแก้ไขปัญหา ทั้งในเชิงของการรักษาด้วยวัคซีน และป้องกันดูแลประชาชนในประเทศอย่างเต็มที่ ควบคุมการระบาดให้ได้ ก็ถือว่าได้พัฒนาไปข้างหน้าแล้วไม่มากก็น้อย!

ถ้าคนใกล้ชิดของเธอเป็นแบบนี้ ทั้งเตือน ทั้งดุก็แล้วแต่ไม่ยอมฟัง หากเป็นคนนอกก็อาจต้องยอมปล่อยมือ แต่ถ้าเป็นคนในครอบครัว ก็คงต้องหาช่องทางกระตุ้น สนับสนุนเขาไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะคิดได้และลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างกับชีวิต

แต่ถึงเธอเหนื่อยจนไม่อยากเข็นแล้ว เธอก็ไม่ผิดอยู่ดี สุดท้ายคนเราก็ต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเองค่ะ

รูปภาพ:https://i2.wp.com/assets.rbl.ms/10672208/980x.gif?w=736&ssl=1

-----------------------------

คนที่มีความ Toxic หรือนิสัยที่เคลือบยาพิษอยู่ในตัว แม้เขาจะไม่ได้ทำร้ายหรือด่าทอเราโดยตรง แต่ทัศนคติและความคิดลบๆ ที่มีอยู่ภายในใจ จะส่งผ่านมาถึงคำพูดและการกระทำ พออยู่ด้วยกันก็จะเกิดความอึดอัด ไม่สบายใจ เครียด หรือถ้าเธอเป็นคนซึมซับอารมณ์คนอื่นง่าย ก็อาจดิ่งไปพร้อมกับเขาได้ง่ายๆ ในสถานการณ์ที่เราต้องเซฟสุขภาพจิตตัวเองก่อน เพราะก็เหนื่อยกับการใช้ชีวิตอยู่แล้ว ก็อาจจำเป็นต้องตีตัวออกห่าง หรือตัดคนเหล่านี้ออกไป เพื่อให้มูฟออนไปข้างหน้าต่อได้ค่ะ

ตามกฎของแรงดึงดูด คนประเภทเดียวกันจะวนกลับมาเจอกัน เมื่อเราปล่อยคนพลังลบออกไป คนใหม่ๆ ที่มีพลังบวกก็จะเข้ามาหาเราเองในอนาคต ด้วยเงื่อนไขว่าเราเองก็ต้องเป็นคนสร้างพลังบวกให้คนอื่นด้วยเช่นกันนะ ^^แม้สถานการณ์ช่วงนี้จะมองให้มีความสุขหรือยิ้มออกได้ยาก แต่หากเรามีคนรอบตัวอย่างเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง หรือแฟนที่ปรึกษาได้ พร้อมเป็นกำลังใจให้เสมอ เราเชื่อว่าซิสทุกคนก็จะผ่านวิกฤตินี้ไปได้อย่างแน่นอน (≧◡≦)สุดท้ายนี้ ใส่แมส พกเจลแอลกอฮอล์ รักษาระยะห่าง ดูแลสุขภาพกันให้ดีที่สุดนะคะ ด้วยรักและห่วงใยเสมอ ❤