รูปภาพ:https://i.imgur.com/nhGRLqb.gif

สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeที่กำลังอารมณ์นอยด์ๆ เซ็งๆ ทุกคน (。T ω T。)โควิด มันกลับมาอีกแล้ว! จากที่ความตึงเครียดตอนต้นปีเหมือนเริ่มจะคลี่คลาย หลายคนคิดจะกลับไปเรียนต่อต่างประเทศ / เปิดธุรกิจใหม่ / หางานใหม่ เพราะคิดว่าคงหมดเรื่องแล้ว สุดท้ายก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นจนได้แพลนชีวิต 2021 โดยเฉพาะช่วงต้นปีของสาวๆ มากมายพังทลาย ต้องถูกพับเก็บไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งเราเชื่อว่าแค่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนที่ข่าวเริ่มแพร่หลาย ก็มีซิสบางคนที่เริ่มซึมซับความเครียด คิดมาก วิตกกังวลฝังหัวไปแล้วทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว รอวันระเบิด!บางครั้งเธอก็ไม่รู้หรอกว่า สุขภาพจิตของเธอกำลังตึงเปรี๊ยะ พร้อมขาดผึงขนาดไหนจนกระทั่งมันส่งผลกับอารมณ์ สุขภาพกาย และการใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ รู้ตัวอีกทีก็อาจถึงขั้นเป็นลมล้มวูบ ความดันขึ้น ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีภาวะซึมเศร้ารุนแรงได้เลยทีเดียวเพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้ เราจึงขอแนะนำให้เธอมาอ่าน' 7 สัญญาณบอกว่าเธอเครียดใกล้ปรอทแตก โดยไม่รู้ตัว 'เพื่อจะได้รู้เท่าทันตัวเอง และหาทางแก้ไขได้ทันค่ะ พร้อมแล้วก็ไปอ่านกันเลย

1. มีอาการเจ็บปวด เมื่อยกล้ามเนื้อตามร่างกาย โดยไม่ทราบสาเหตุ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/d064b54c8d089a60266d5da75778f0eb.jpg

เมื่อความเครียดเริ่มเกินลิมิตที่จิตใจจะรับไหว มันจะเอ่อล้นออกมาให้เห็นผ่านปัญหาสุขภาพค่ะ! บางทีกว่าจะรู้ว่าเครียดหัวแทบแตกขนาดไหน ก็ตอนที่กล้ามเนื้อเริ่มยึดตึง ปวดไหล่ ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระเพาะ ใจสั่น อาหารไม่ย่อย ท้องผูก เป็นต้น


นั่นแหละสัญญาณว่าส่วนจิตใจของเธอเริ่มผิดปกติ จนทำให้ระบบในร่างกายปั่นป่วน ทำงานไม่เป็นปกตินั่นเองค่ะ

เมื่อร่างกายส่งเสียงเตือน จงฟัง การเจ็บออดๆ แอดๆ ไม่ใช่แค่การปวดเล็กน้อยที่น่ารำคาญ แต่มักมีสาเหตุที่คาดไม่ถึงเสมอ ไม่ใช่แค่เรื่องความเครียด แต่โรคร้ายอย่างโรคหัวใจหรือมะเร็ง ก็มีระยะเริ่มต้นที่ดูเป็นอาการเล็กๆ เหมือนกัน อย่าประมาทไป!

ดังนั้นถ้าปวดท้อง ใจสั่น ท้องผูก ก็ลองหาวิธีผ่อนคลายความเครียดดู บางทีอาการเหล่านั้นอาจหายไปเองโดยไม่รู้ตัวก็ได้

2. คุณภาพการนอนแย่ นอนไม่หลับ บางทีก็สะดุ้งตื่นกลางดึก

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/8426e9127f0b2c41b416f7edaaee4e7f.jpg

ปัจจัยหนึ่งที่บ่งบอกได้ว่า สุขภาพร่างกายของเราดีหรือแย่ ก็คือคุณภาพการนอนหลับนี่ล่ะค่ะ ถ้าสาวๆ นอนหลับพักผ่อนได้ยาวนานตลอดคืน 7-8 ชั่วโมงโดยไม่ตื่นเลย แปลว่าระบบภายในร่างกายสมดุล เฮลตี้มากๆ

รือแม้แต่การผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็วจากความเหนื่อย ก็ยังถือว่าเป็นความเครียดระดับเล็กน้อย ไม่ได้รุนแรงมากจนต้องเป็นห่วงค่ะ

แต่ถ้าการนอนนั้นเริ่มส่อไปในทางที่ไม่ดี เช่น พลิกตัวบนเตียงไปมายังไงก็นอนไม่หลับ, มีปัญหาหลับยากขึ้น เพราะมัวแต่คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ สมองไม่ยอมพักผ่อน, หลับๆ ตื่นๆ ทุก 1-2 ชั่วโมง, เครียดมากจนสะดุ้งตื่นจากเตียงกลางดึกแล้วล่ะก็ คอนเฟิร์มเลยว่าอาการค่อนข้างหนักแล้วลองทำวิธีแก้เครียดอย่างนั่งสมาธิ ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ ปิดไฟในห้องให้มืดๆ ดื่มนมอุ่น ฟังเพลงก่อนหลับ เซโรโทนินเสริมก็ช่วยได้ แต่ถ้าทำทั้งหมดแล้วก็ยังนอนตาค้าง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อขอความช่วยเหลือจะดีกว่าค่ะ

3. น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ เหวี่ยงไปมา ไม่ค่อยคงที่ เดี๋ยวผอม เดี๋ยวอ้วน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/158870593ab116d045ffe68cd3518969.jpg

น้ำหนักของคนทั่วไปนั้น ถ้าไม่ได้ใจตั้งใจจะไดเอท หรือเพิ่มน้ำหนักเพื่อโอกาสใดเป็นพิเศษ กินอาหารชนิดเดิมๆ ทุกวัน ควรจะอยู่ในสถานะคงที่บวกลบไม่เกิน 2-3 กิโล

เพราะนั่นหมายถึงว่าระบบเผาผลาญ เมตาบอลิซึ่มในร่างกายยังทำงานเป็นปกติ ถ้าลดฮวบหรือเพิ่มขึ้นมากๆ ในเวลาอันรวดเร็วเกินไป แปลว่าอะไรบางอย่างในร่างกายเธอต้องมีปัญหาแล้วล่ะ!

หากช่วงนี้เธอน้ำหนักสวิงบ่อย เดือนนี้ผอมๆ เดือนหน้ากลับมาอวบอีกละ ลองทบทวนดูว่าในแต่ละช่วงเธอมีพฤติกรรมการกินแบบไหน กินดึกบ่อยหรือเปล่า งานยุ่ง เครียดจนไม่อยากกินข้าวไหม


เพราะถ้าความอยากอาหารเปลี่ยนไปจากเดิม นั่นเป็นตัวบ่งชี้ว่าสภาพจิตใจของเธอไม่เสถียร ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความเครียดขั้นรุนแรงค่ะ

4. คิดฟุ้งซ่านเกี่ยวกับ 'ปัญหาของตัวเอง' ทั้งวัน เอาออกจากหัวไม่ได้

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/dffe7e7e71ac5ddf9df5472a614019a2.jpg

ความเครียดของมนุษย์โดยทั่วไป เราอาจจะคิดและมีอารมณ์ร่วมไปกับมันหลายนาทีถึงหลายชั่วโมง แต่สุดท้ายเราจะปล่อยวาง และนำสมองไปจดจ่อกับเรื่องอื่นๆ ได้ไม่ยาก แต่ถ้าครั้งนี้เธอเครียด คิดวนไปมาในหัว

ทำยังไงก็เอาออกจากสมองไม่ได้จนส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวัน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง นี่คือสัญญาณอันตรายมากว่าความเครียด ' ควบคุม ' ชีวิตของเธอซะแล้ว

สาวๆ สายอาชีพที่มักทรมานกับเรื่องเครียดเหล่านี้ มักเป็นฟรีแลนซ์ที่เวลาเข้าออกงานไม่แน่นอน ลูกค้าติดต่อมาเมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อต้องแสตนด์บายทำงานไม่เป็นเวลา บางทีรุ่งเช้า บางทีดึกดื่น ก็ทำให้สมองแล่นไปเรื่อยๆ จนเกิดความตึงเครียดอย่างช่วยไม่ได้


วิธีแก้อย่างนึงคือ ' กำหนดเวลาทำงานของตัวเองให้แน่นอน ' เหมือนพนักงานประจำตามปกติ เพื่อให้สมองได้รีแล็กซ์จากช่วงที่เราวางงาน ไม่ต้องคิดเรื่องงานตลอดเวลาค่ะ

5. ความอดทนต่ำลง คุมตัวเองไม่ได้ อารมณ์เสียบ่อยๆ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/3897105f8b6dbbd8a08284b8d080131c.jpg

จากที่เคยมีความอดทนสูงกว่านี้ แม้จะเจอเรื่องไม่ชอบใจ ชวนให้โมโหพุ่งปรื๊ดก็ยังควบคุมสติอารมณ์ ปั้นหน้ายิ้มให้เหตุการณ์นั้นผ่านๆ ไปได้ ถ้ายกตัวอย่างง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ก็เช่นโดนแซงคิว โดนรถปาดหน้า โดนเหยียบเท้า เป็นต้น

แต่ถ้าตอนนี้ความอดทนนั้นหายวับ ใครทำให้โกรธแค่นิดเดียวก็พร้อมจะใส่เดี่ยว เปิดเรื่องทะเลาะลงไม้ลงมือได้ทันที นี่อาจเป็นสัญญาณว่าเธอเครียดจนจะทนไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ

นอกจากความโกรธที่พุ่งสูงง่ายขึ้น อากัปกิริยาของเธอก็เปลี่ยนไป จากที่เป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ ชอบนั่งสมาธิ เดินเล่น กลายเป็นคนอารมณ์เสียด่าไปทั่ว กระวนกระวาย ต้องเดินพล่านไปทั่วเพราะอยู่ไม่สุข ในหัวมีเรื่องให้คิดตลอด

ก็นั่นแหละผลลัพธ์ของการที่สาวๆ สะสมความเครียดไว้นานมาก จนนิสัยเดิมค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปในที่สุดค่ะ

6. อารมณ์สวิง สามวันดีสี่วันร้าย ทั้งที่ไม่ใช่ช่วงมีประจำเดือน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/988eda5730125965133dcf116ba7892e.jpg

ปกติช่วงก่อนมีประจำเดือน ฮอร์โมนของผู้หญิงจะแปรปรวน ไม่สมดุล ทำให้เกิดอาการ PMS ท้องอืด ปวดหลัง อารมณ์เหวี่ยงขึ้นลงเป็นเรื่องปกติสุดๆ

แต่ถ้าประจำเดือนก็หมดไปหลายวันแล้ว เธอก็ยังสามวันดี สี่วันร้าย บางวันก็มีความสุขเกินเบอร์ บางวันเศร้าไม่ยอมคุยกับใคร แต่บางวันก็ไม่รู้ไปกินรังแตนมาจากไหน ฟาดใส่ทุกคนที่ขวางหน้า อารมณ์แบบนี้คือมาจากความเครียดล้วนๆ แล้วล่ะค่ะ

แม้จะไม่มีงานวิจัยชัดเจนว่า ความเครียดสัมพันธ์โดยตรงกับอารมณ์ที่ไม่มั่นคง แต่มันก็บ่งบอกว่าเธอกำลังมีอะไรติดค้างในใจอยู่ ลองถามตัวเองตรงๆ ว่าอะไรทำให้เธอต้องโกรธขนาดนั้น แล้วหาวิธีแก้ไข


หากไม่ใช่สิ่งที่แก้ด้วยตัวเองได้ ก็หาเพื่อน พ่อแม่ แฟน หรือใครก็ได้ที่เธอรู้สึกไว้ใจและขอคำปรึกษา เมื่อหาทางออกได้ อารมณ์แปลกๆ เหล่านี้ก็จะบรรเทาลงหรืออาจหายไปได้เลย ^^

7. ผมร่วงเป็นกำๆ หวีทีหลุดออกมาเป็นกระจุก!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/6f77caf022d5cd5c3e4d321528403da3.jpg

ไม่ได้ทำคีโมมะเร็ง ก็สามารถผมร่วงเป็นกระจุกได้ ที่จริงการที่สาวๆ จะผมร่วงได้นั้นมีหลายสาเหตุมาก เช่น ร่างกายขาดสารอาหาร, กินยารักษาโรคบางชนิด, สระผมไม่สะอาด etc. หนึ่งในนั้นก็คือ ' ความเครียดเกินพิกัด ' ที่เข้าไปเปลี่ยนระบบทำงานบางอย่างในร่างกาย


ซึ่งทำให้เส้นผมเข้าสู่ช่วง resting phase หรือผมร่วงเยอะๆ ในเวลาเดียวกัน บางรายอาจจะร่วงกว่าจำนวนผมที่ร่วงปกติถึง 2 เท่าในช่วง 3-4 เดือนหลังความเครียดนั้นเลยทีเดียว

หากสาวๆ หวีผมหรือสระผมแล้วจับผมร่วงหลุดออกมาเป็นกำๆ จนผิดสังเกต ควรไปปรึกษาหมอผิวหนังก่อน ถ้าหมอไม่สามารถหาสาเหตุที่เป็นโรคทางการแพทย์ได้ ก็อาจจะเป็นเพราะความเครียดสูงเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้ตัว

ถ้ารีแล็กซ์ความคิด แก้ไขปัญหากวนใจนั้นได้ ลองสังเกตจำนวนเส้นผมที่ร่วงหลังจากนั้น ถ้าร่วงน้อยลงก็แปลว่าที่ผมเกือบล้านเนี่ย มาจากเจ้าความเครียดตัวร้ายแน่นอน!

รูปภาพ:https://i.gifer.com/4oum.gif

-----------------------

สัญญาณหลักๆ 7 ข้อเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่บ่งบอกชัดว่าเธอกำลังเครียดพุ่งปรื๊ดจนเป็นอันตรายกับทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ไม่ว่าเธอจะเข้าข่ายแค่ข้อเดียวก็ไม่ควรละเลย เพราะความเครียดก็เหมือนไฟไหม้ หากไม่ดับไฟก็จะยิ่งลุกลามไปยังสัญญาณอื่นต่อเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งก็อาจไหม้จนดับยากเสียแล้ว ในสถานการณ์คับขันแบบนี้ สุขภาพจิตเป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้ให้มากที่สุดถ้าระดับอารมณ์เรายังดี มองโลกในแง่บวกได้ ก็ยังคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากปัญหาต่างๆ ได้ แต่ถ้าจิตใจเราถูกปกคลุมด้วยความคิดแง่ลบเสียแล้ว ก็คงใช้ชีวิตช่วงนี้ให้มีความสุขได้ยาก หากรู้ตัวว่าเครียดและแก้เองไม่ได้ เราแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาให้ตรงจุดน้า อยากให้ซิสทุกคนมีสภาพจิตที่แข็งแรงและมั่นคงเป็นพื้นฐาน เชื้อโรคนี้น่าจะอยู่กับเราไปอีกนาน เราต้องเตรียมพร้อมรับมือกับมันในระยะยาว เราต้องรอด ไฟท์ติ้ง!ଘ(੭ˊᵕˋ)੭* ੈ✩‧₊˚