สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeที่กำลัง' งอนแฟน 'ทุกคน ♡ ( ̄З ̄)คู่รักทุกคู่คบกัน คงไม่ได้มีแต่ช่วงเวลารักเอยเตยหอม เออออห่อหมกไปด้วยกันตลอดเวลาหรอกใช่ไหมล่ะคะ? ถ้าช่วงจีบแรกๆ ก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าอยู่ไปด้วยกันสักพัก เริ่มเห็นข้อเสีย จุดบกพร่องของแต่ละฝ่าย ก็เริ่มมีความเห็นไม่ตรงกัน นำไปสู่การทะเลาะดีหน่อยก็แค่เงียบๆ ไปแล้วมาคุยกันใหม่ แต่บางครั้งก็ทะเลาะกันแรงจนไม่รู้จะกลับไปขอคืนดีเหมือนเดิมยังไง ใจนึงก็อยากง้อ อีกใจก็บอกให้เขามาง้อเองสิ เราเป็นผู้หญิงจะไปคุยก่อนทำไม เสียศักดิ์ศรี ดูไม่มีค่า //ทั้งที่เรื่องนั้นเธอเป็นฝ่ายผิดด้วยนะ แต่ไม่ง้ออะ จะทำไม ฮึ ( ̄︿ ̄)พอเกิดเรื่องแบบนี้ซ้ำๆ ซากๆ ความสัมพันธ์ก็จืดชืดเหินห่างไปเรื่อยๆ จะมีรักที่คบกันได้ยืนยาว การทำตัวอีโก้สูง โยนความผิดให้อีกฝ่ายพยายามเข้าหา ขอโทษเธอก่อนตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเลยถ้ายังไม่เลิกทำนิสัยแบบนี้ สักวันฝ่ายชายที่เอือมระอากับเธอเต็มที ก็อาจจะบอกเลิกเธอได้ง่ายๆ เลยก็ได้ ถ้ายังอยากจับมือกันไปต่อ ขอให้เธออ่าน' 7 วิธีเลิกฟอร์มจัดเวลาทะเลาะกับแฟน 'ปรับความเข้าใจกัน เพื่อให้รักได้ไปต่อนะคะ เริ่ม!!

1. เรียนรู้ที่จะยอมรับ 'ข้อบกพร่อง' ของตัวเองให้ได้

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/5e2577eae3abff73ca08448c88a70bb3.jpg

ผู้หญิงหลายคนถูกสอนจากที่บ้านมาว่า " ไม่ว่าจะทำผิดอะไรกับแฟน ถึงตัวเองผิดก็อย่าไปยอมรับ ให้เขามาง้อเราเอง ผู้ชายถ้าเขารักยังไงเขาก็ง้อเรา " เพื่อจะแสดงอำนาจที่เหนือกว่าในความสัมพันธ์


ยิ่งถ้าเป็นคน perfectionist ทำทุกอย่างได้ดีมาตลอด วันหนึ่งเผลอพลาดสักเรื่องก็ทำใจยอมรับไม่ได้ พอแฟนติงก็โกรธ โมโหใส่ซะงั้น" ฉันไม่เคยทำผิด ถ้าเธอมาทำคิดว่าจะทำได้ดีเท่าฉันเหรอ คิดว่าตัวเองดีนักรึไง ไม่คุยด้วยแล้วจะไปไหนก็ไป "เอ้าเป็นงั้นไปอีก!

ก่อนอื่นต้องยอมรับตัวเองก่อนว่า เธอเองก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ย่อมมีบางครั้งที่ตัดสินใจผิดพลาด หรือพลาดในเรื่อง common sense ง่ายๆ ได้เหมือนกัน เมื่อมีคนติง โดยเฉพาะถ้าเป็นแฟนก็ควรลดอีโก้ เปิดใจรับฟัง เว้นพื้นที่ให้จุดบกพร่องในชีวิตบ้าง


แรกๆ อาจจะทำใจได้ยาก รู้สึกเสียฟอร์มสุด เพราะเคยวางตัวเองในตำแหน่งคนเพอร์เฟกต์มาตลอด แต่เชื่อเถอะว่าถ้าเธอเอาชนะหัวโขนนี้ไปได้ เธอจะรู้สึกว่าที่ผ่านมาทำไมต้องแบกโลก ถือนั่นนี่ให้หนักขนาดนั้น เพราะสุดท้ายชีวิตมันก็เท่านี้เอง วิ่งบ้างล้มบ้างเรื่องปกติ แค่พลาดแล้วต้องแก้ไขให้ถูกต้องในครั้งหน้าก็พอ

2. รู้จักเอ่ยคำว่า 'ขอโทษ' ให้ชิน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/8d25eebb4bb573af95aded8c933d391e.jpg

มีจริงๆ นะ คนที่ไม่เคยพูดคำว่า " ขอโทษ " หรือ " ขอบคุณ " เพราะเขินหรือมีทิฐิ มีฟอร์มเกินกว่าที่จะเอ่ยคำเหล่านี้ออกมา แม้ว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม เพราะไม่อยากอยู่ในสถานะที่ต่ำกว่า ( ก็งงว่าเอาตรระกะนี้มาจากไหน )

แต่เชื่อเถอะว่ามันเป็นสิ่งที่ดี แสดงถึงความมีมารยาท แม้จะเป็นแค่คำพูดสองคำสั้นๆ แต่ช่วยทำให้หัวใจคนที่กำลังโกรธหรืองอนอ่อนยวบลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

แม้ในใจเธอจะสำนึกผิดแล้ว ถ้าไม่พูดขอโทษให้ชัดเจน คนอื่นก็ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ความสัมพันธ์ที่ตึงๆ ก็ไม่ผ่อนคลายลงสักที แม้จะทำใจได้ยากสำหรับคนที่ไม่เคยพูดเลย แต่ขอให้ลองพูดสักครั้ง

มันไม่เสียเกียรติเสียศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้นแหละ แต่มันหมายความว่าเธอรักและแคร์แฟนมาก อีกทั้งยังเป็นการยอมรับความผิดของตัวเอง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ไปอีกขั้นด้วยค่ะ

3. มองถึง 'ข้อดีข้อเสีย' ในการทะเลาะครั้งนี้ ถ้าไม่คุ้มเสีย ก็อย่าไปแลก!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/1ca33858debe7c7160d720a62f1a5197.jpg

ผู้หญิงมากมายที่ติดนิสัยชอบเอาชนะ แม้ตัวเองจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม ถ้าเปิดศึกทะเลาะกับแฟนแล้วล่ะก็ ยังไงต้องเถียงให้ชนะไว้ก่อน ซึ่งผู้ชายบางคนก็ยอมจบเพราะไม่อยากมีเรื่อง แต่ถ้าเจอผู้ชายที่มีอีโก้สูงพอกันนะเธอเอ๊ย บ้านแตก

เรื่องเล็กน้ำผึ้งหยดเดียวกลายเป็นเรื่องใหญ่จนอีกนิดก็จะเลิกกัน เพียงเพราะเธอไม่อยากแพ้ หรือหัวข้อโลกแตกที่ทำยังไงก็หาทางลงยาก เช่น ทัศนคติหรือความชอบบางอย่างไม่ตรงกัน, ความเชื่อเรื่องศาสนา เป็นต้น

บางหัวข้อที่ต้องคุยเพื่อให้เข้าใจตรงกันจริงๆ ก็ต้องคุย เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในภายหลังและบอกจุดยืนของตัวเอง แต่ถ้าเป็นหัวข้อที่เกี่ยวกับความชอบ ความเชื่อที่คุยไปก็มีแต่ทะเลาะ


หากเรื่องอื่นๆ เขาก็รักและเทคแคร์เธอดี และความชอบนั้นไม่ได้ไปเดือดร้อนใคร บางครั้งก็ต้องชั่งน้ำหนักเหมือนกันนะว่า จะทะเลาะไปให้ได้อะไรขึ้นมา ถ้าการพูดเรื่องเหล่านี้จบด้วยการมึนตึงใส่กันทุกครั้ง ก็ไม่ต้องขุดขึ้นมาพูดแต่แรกดีกว่า ไม่คุ้มกันหรอกค่ะ

4. 'สื่อสารตรงกันให้เข้าใจ' อยู่เสมอ อย่าหลบหน้ากัน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/257665fc3bfa4257079515672a7ff917.jpg

การสื่อสารระหว่างคู่รัก คือทักษะที่สำคัญและจำเป็นมากๆ เธอและเขาก็เป็นมนุษย์ปกติธรรมดา ไม่ใช่เครื่องสื่อสารโทรจิตที่จะมองตาแล้วรู้ใจกันทุกเรื่อง ถ้าเกิดปัญหาไม่เข้าใจกันก็ต้องละทิฐิ พร้อมที่จะคุยเพื่อปรับ และควรจะคุยทุกครั้งเมื่อเจอความไม่พอใจเหล่านั้น

อย่าปล่อยผ่านเพราะกลัวการเผชิญหน้า เพราะสุดท้ายมันจะเหมือนขยะที่ซุกอยู่ใต้พรม วันหนึ่งขยะล้นออกมาก็ระเบิดตูม! และเชื่อเถอะว่าผลลัพธ์ที่ออกมาไม่น่าจบสวยสักเท่าไหร่

เป็นแฟนกัน คุยกันเถอะค่ะ! เราคบกันก็เพราะอยากมีคู่ชีวิตที่ปรึกษาได้ทุกเรื่องอยู่แล้วนี่นา ไม่ใช่แค่เรื่องที่มีความสุขร่วมกันเท่านั้น แต่หมายถึงเรื่องที่คิดเห็นต่างกันด้วย

สองคนต่างพื้นเพ ต่างที่มา ยังไงก็ต้องสื่อสารเพื่อปรับตัวให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขอยู่แล้ว ยิ่งคุยบ่อยเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็จะยิ่งเข้าใจในตัวเรามากขึ้นเท่านั้น โอกาสที่จะทะเลาะกันแรงๆ ก็จะน้อยลงตามไปด้วยค่ะ

5. ไม่ต้องซีเรียส เก็บทุกอย่างในชีวิตมาเครียดก็ได้

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/715c161bc303ed5cf61878b9be1b004b.jpg

เอาจริงๆ บางครั้งการทะเลาะกันของคู่รักก็มาจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำให้เรื่องทุกอย่างจริงจังเกินเบอร์ ทั้งที่มันไม่ควรเก็บมาคิดขนาดนั้น! หากเธอเป็นคนที่ซีเรียสกับทุกอย่างในชีวิต

เก็บทุกคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่นที่เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตา นิสัย บุคลิก หน้าที่การงานของเธอหรือของแฟน แล้วเอามาหาเรื่องทะเลาะ นั่นคือสัญญาณหายนะของชีวิตคู่ชัดๆ เหมือนอยู่ดีไม่ว่าดีก็หาเรื่องให้โกรธกันซะงั้น ทั้งที่ปล่อยผ่านไปก็ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิต

การใส่ใจอยากพัฒนาตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น ไม่อยากให้ใครมานินทาจึงพยายามปรับปรุงตัวอยู่เสมอก็เป็นเรื่องที่ดี แต่มันก็ต้องมีจุดสมดุลด้วย เราไม่สามารถทำตัวเองให้เป็นที่พอใจของทุกคนได้ คนที่ดีที่สุดในโลกก็ยังมีคนหาเรื่องแซะได้อยู่ดี


ดังนั้นปล่อยวางบ้าง สุดท้ายแล้วความรักก็เป็นเรื่องของเธอกับเขาสองคน ไม่ต้องเป็นคู่รักตัวอย่างให้คนอิจฉาก็ได้ ถ้าตอนนี้อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขก็คือจบ

6. เรียนรู้ที่จะ 'ผ่อนปรน ประนีประนอม' กับคู่รัก #ไม่ต้องเอาชนะทุกเรื่อง

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/e6503f89f1891afccf2abed259b21eb6.jpg

ข้อนี้ก็จะคล้ายๆ กับนิสัยชอบเอาชนะกับซีเรียสรวมกัน คือรักความถูกต้องสุดๆ ตึงเป๊ะเป็นไม้บรรทัด ถ้าบอกว่าแบบนี้ก็ต้องแบบนี้เท่านั้น ไม่มีการยืดหยุ่นใดๆ เช่น นัดเดทกับแฟนแล้วแฟนมาสาย 10 นาที เธอก็ด่าแฟนแทบเป็นแทบตายทั้งที่เขาบอกว่ารถติดจริงๆ ก็ยังด่าต่อว่าแล้วทำไมไม่รู้จักเผื่อเวลา,


ไปกินข้าวที่ร้านอาหาร แม่ครัวเผลอทำเมนูมาผิด เธอก็ยืนยันจะรอจานที่ทำใหม่ แม้จะต้องรออีกเป็นชั่วโมงจนดูหนังที่จองไว้กับแฟนไม่ทันก็ตาม เป็นต้น

ต้องยอมรับว่า ไม่มีอะไรบนโลกนี้ที่ได้ดั่งใจเราทุกเรื่อง เราไม่ได้บอกว่าให้ยอมรับกับความชุ่ยหรืออยุติธรรมทุกอย่าง แต่ถ้าความผิดนั้นมาจากเหตุสุดวิสัยจริงๆ หรือมันจะส่งผลกระทบกับเรื่องอื่นในชีวิตของเรา บางครั้งยอมปิดตาข้างนึง ให้อภัยหรือปล่อยผ่านไปบ้างก็ไม่ผิด

ให้ความสำคัญกับความรู้สึกแฟนเป็นหลัก จะทำให้คบกันได้ยืนยาวมากกว่า และถ้าผู้ชายเป็นคนดีมีสามัญสำนึก เขาก็จะเกรงใจเรามากขึ้นในครั้งต่อๆ ไปด้วยค่ะ

7. มุ่งมั่นที่จะ 'เติบโตไปด้วยกัน' ไม่ทิ้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไว้ข้างหลัง

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/2965cef2737c95ede2e28ebfbd380f75.jpg

ความสัมพันธ์ที่มีแต่เธอหาเรื่องทะเลาะ งอนแล้วง้อ หาเรื่องทะเลาะใหม่ งอนอีก ง้ออีก วนเวียนเป็นลูปอุบาทว์แบบนี้ บ่งบอกว่าเธอยังมีนิสัยเป็นเด็ก เอาแต่ใจตัวเอง ยังไม่พร้อมกับความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่ที่อยากเติบโตไปด้วยกัน


ซึ่งในระยะยาวถ้าเธอไม่ปรับทัศนคติและนิสัย ความรักครั้งนี้ก็ไปรอดได้ยาก อย่างที่เห็นว่าเวลาเด็กคบกัน สุดท้ายก็มักคบกันได้ไม่ยืดค่ะ

ถ้าอยากจับมือกันไปจนถึงวันแต่งงาน ให้มองว่าคู่รักก็เหมือนการเล่นกีฬาในทีมเดียวกัน แฟนก็คือเพื่อนร่วมทีมที่จะจับมือไปสู่เป้าหมายร่วมกันในอนาคต ให้กำลังใจ ปลอบใจกันในเวลาทุกข์


เมื่อเกิดปัญหาก็คุยปรับความเข้าใจ ส่งเสริมจุดเด่นและกลบจุดด้อยของกันและกัน หากเกิดข้อผิดพลาดก็เก็บไว้เป็นบทเรียนของทั้งคู่ ประคองไปด้วยกัน ไม่ทิ้งอีกฝ่ายไว้กลางทาง เท่านี้เธอกับแฟนก็มีความรักที่แข็งแกร่ง ไม่ทะเลาะบั่นทอนความรู้สึกกันง่ายๆ แล้วล่ะค่ะ

---------------------------

ความสัมพันธ์แบบคู่รักยุคใหม่ ยิ่งในยุค 2020 ที่ชายหญิงมีสิทธิเท่ากันแบบนี้แล้ว หมดยุคที่ผู้หญิงจะรับบทนางงอน ปากหนักไม่ยอมรับผิดที่ตัวเองก่อ ให้ผู้ชายต้องมาคอยตามง้องอนแล้ว เขาก็เป็นคน มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องไปอยู่เบื้องล่างแฟน แต่ก็ควรให้เกียรติ ถ้าทำผิดก็ต้องกล้ายอมรับเองนักเลงพอ เดี๋ยวนี้เวลาเป็นเงินเป็นทอง สาวๆ อย่าเสียไปกับการงอน วางฟอร์มใส่กันเหมือนนิยายน้ำเน่าสมัยก่อน เมื่อรู้ว่ามีปัญหากันก็เปิดใจคุย รีบหาทางแก้ปัญหาให้เร็วที่สุดดีกว่ายิ่งปล่อยความขุ่นเคืองไว้ ก็จะยิ่งสะสางได้ยากขึ้น และอาจกลับมาไม่รักกันสนิทใจเหมือนเดิมอีก ดังนั้นคุยกันให้ดีๆ รับฟังความเห็นและเคารพอีกฝ่าย เท่านี้ก็ลดโอกาสเปิดศึกทะเลาะกันได้แล้ว ใครที่โกรธกับแฟนบ่อย ก็ลองเอาทริคในบทความนี้ไปใช้กันดูน้า อยากให้ซิสทุกคนมีรักที่ราบรื่นค่ะ

( ˘⌣˘)♡(˘⌣˘ )