รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/85/1e/54/851e54e229ab61cfc4b0a4f0a79890f3.gif

ฮัลโหลค่าาา สาวๆSistaCafeแม่ครัวมือใหม่ทั้งหลาย (´。• ω •。`) ♡ช่วงนี้ก็ยังเป็นควันหลงของเทศกาลวาเลนไทน์ ทำให้สาวๆ หลายคนอยากพาคุณแฟนไปเดตกันแบบกุ๊กกิ๊กมุ้งมิ้ง เช่าพร็อพปิกนิกมา ไปสวนสาธารณะปูเสื่อนั่งรับลมชมวิว กินไปคุยกันไป บางคนที่ไม่ค่อยเข้าครัวก็อาจจะเลือกซื้ออาหารจากเดลิเวอร์รี่ ซึ่งมันก็ง่ายดี แต่ถ้าอยากให้เดตนั้นพิเศษยิ่งขึ้น จะดีกว่าไหมถ้าสาวๆ จะลองฝึกฝีมือ เข้าครัวทำ' ขนมหวาน 'รสอร่อยเอง ให้คุณแฟนรู้สึก Special และเห็นถึงความพยายามของซิสมากยิ่งขึ้น >///<ไม่ต้องนอยด์ล่วงหน้าว่าทำขนมแล้วจะออกมาเละ ทำเสร็จแล้วต้องเททิ้ง รสชาติกินไม่ได้ เพราะสูตรขนมโฮมเมดทั้ง 7 อย่างนี้ แม้จะมีความรู้เรื่องทำขนมเพียงน้อยนิด ก็ทำออกมาได้ไม่ยากเย็น เพราะเป็น' 7 สูตรขนมง่ายๆ รสหวานอร่อย ส่วนผสมไม่เยอะมาก และทำง่ายในเวลาไม่กี่นาทีจะทำไปกินกันอร่อยๆ กับแฟนก็ได้ หรือถ้าเป็นสาวโสด ทำไปกินขำๆ กับแก๊งเพื่อนหรือครอบครัวก็เริ่ด จะมีสูตรไหนบ้างเราไปส่องกันเลยดีกว่า

1. ช็อกโกแลตฟัดจ์ ส่วนผสม 2 อย่าง

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/0dcb7a3677a0a3ef826392ef9e58a390.jpg

ถ้าพูดถึงขนมหวานที่แสดงถึงความรักได้ง่ายที่สุด จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากช็อกโกแลต! สูตรแรกเราขอเสนอ ' ช็อกโกแลตฟัดจ์ ' ที่ไม่ต้องไปอบ ไปตีส่วนผสมอะไรให้วุ่นวาย เพราะใช้ส่วนผสมหลักๆ แค่ 2 อย่าง คือฟัดจ์สำเร็จรูปและนมข้นหวานเท่านั้น!

ใช้เวลาเพียง 2-3 นาทีก็ได้ช็อกโกแลตเนื้อนุ่มละมุนละลายบนปากรวดเร็วทันใจ แต่ขอเตือนว่ารสหวานน้ำตาลพุ่งมากๆ กินแต่พอดีนะคะซิส

ส่วนผสม

- ช็อกโกแลตฟัดจ์ผงสำเร็จรูป 2 ถุง

- นมข้นหวาน 1 กระป๋อง

วิธีทำ :เททั้งสองส่วนผสมลงไปในชามที่ใส่ไมโครเวฟได้ นำไปเข้าเวฟ 30 วินาที นำออกจากเตา คนให้เข้ากัน ใส่เวฟ 30 วินาทีอีกครั้ง สลับไปเรื่อยๆ จนกว่าส่วนผสมจะเข้ากันและข้นเหนียว เมื่อละลายดีแล้ว เทใส่ลงในถาดปูกระดาษอบขนาด 8x8 นิ้ว ที่สเปรย์น้ำมันไว้แล้วเพื่อไม่ให้ช็อกโกแลตติดถาด นำไปแช่ในตู้เย็นข้ามคืน วันรุ่งขึ้นนำมาตัดเป็นชิ้นๆ พร้อมเสิร์ฟได้เลย

*สามารถเติมถั่ว เชอร์รี่อบแห้ง เนยถั่ว ช็อกโกแลตชิพ หรือกลิ่นมินต์ เพื่อเพิ่มรสชาติได้ตามชอบ

2. เยลลี่น้ำตาลเคี้ยวหนึบสไตล์โฮมเมด

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/e4f0ba5929237f35c6e7bb85affde93f.jpg

สาวซิสหลายคนน่าจะเคยกินขนมเยลลี่เคี้ยวหนึบๆ ที่โรยเคลือบด้วยน้ำตาลเกล็ดใหญ่สีขาว ฝรั่งจะเรียกว่าขนมชนิดนี้ว่า ' gumdrops '

มีจุดเด่นที่รสหวาน เคี้ยวหนึบ อร่อย ไว้เคี้ยวเพลินๆ เวลาร่างกายน้ำตาลตกก็ดี ใส่กล่องเล็กพกติดตัวไปกินระหว่างเดินทางก็ได้ ซึ่งวิธีทำก็ไม่ยากอย่างที่คิด หลักๆ คือเน้นน้ำตาลและเจลาติน แป๊บเดียวก็พร้อมกินแล้วล่ะค่ะ!

ส่วนผสม

- แอปเปิ้ลซอส 1 ถ้วย

- น้ำตาล 1 ถ้วย

- เจลาตินรสผลไม้ 85 กรัม

- น้ำตาลเพิ่มเพื่อเคลือบตัวขนม

วิธีทำ :ผสมแอปเปิ้ลซอสกับน้ำตาลในกระทะ ตั้งไฟอ่อนให้ซอสระอุจนเดือด ใช้เวลา 2 นาที จากนั้นละลายผงเจลาตินลงไป เทใส่ถาดปูกระดาษอบขนาด 8x8 นิ้ว นำไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ขนาด 1 นิ้ว โรยน้ำตาลแล้วม้วนเป็นก้อน จากนั้นแช่เย็นข้ามคืน แล้วโรยน้ำตาลเคลือบภายนอกอีกรอบ สูตรนี้จะได้ขนมเยลลี่ประมาณ 64 ชิ้นค่ะ**สามารถเพิ่มแยมผลไม้ข้นๆ จำพวกแยมส้ม แยมพีช แยมแอปเปิ้ลที่มีน้ำและเนื้อผลไม้เป็นชิ้นๆ แทนแอปเปิ้ลซอสได้ค่ะ

3. มูสสตรอว์เบอร์รี่

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/8ee91587d4fb8fe1a504718f96850741.jpg

ใครจะกล้าปฏิเสธขนมรสอร่อยนุ่มลิ้น มีรสเปรี้ยวอมหวานอย่าง ' มูสตรอว์เบอร์รี่ ' ที่มีจุดเด่นกับเนื้อขนมที่นุ่มเหมือนครีม ไม่หวานจนเกินไป ตักกินได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ

แม้สูตรนี้จะเพิ่มส่วนผสมเข้ามาอีกหน่อย แต่ก็ยังไม่เยอะจนปวดหัวแน่นอน แค่ตีๆ ปั่นๆ แล้วนำไปแช่แข็ง ก็ได้มูสสีชมพูพร้อมมอบให้คนที่ซิสรัก

ส่วนผสม

- ไข่ขาว 1 ฟอง

- น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย

- สตรอว์เบอร์รี่สด/ แช่แข็งที่ละลายเกล็ดน้ำแข็งแล้ว 1 ถ้วย

- วิปครีม หรือท็อปปิ้งตกแต่งตามชอบ 2 ถ้วย

- น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ :

คนไข่ขาว น้ำตาล สตรอว์เบอร์รี่และน้ำมะนาวให้เข้ากันในชามก้นลึก จากนั้นใช้ที่ผสมอาหาร ( electric mixer ) ลงไปปั่นด้วยความเร็วสูง 10 นาที เทลงชาม ไล่สลับเลเยอร์กับวิปครีมเป็นชั้นๆ แล้วนำไปแช่ช่องฟรีซอย่างต่ำ 6 ชั่วโมง ( ดีที่สุดคือข้ามคืน ) ก่อนเสิร์ฟ

**ถ้าใช้สตรอว์เบอร์รี่แช่แข็ง ให้ลดปริมาณน้ำตาลลงเหลือ 1/3  ถ้วยก็พอค่ะ

4. คุกกี้น้ำตาล

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/5d5dc81cba8233c6726a48d82b28e2c4.jpg

คุกกี้น้ำตาลชิ้นขนาดพอดีคำ ก็เป็นขนมหวานแบบ play safe ที่ทำง่าย รสอร่อย กินได้แบบไม่ต้องคิดมาก ยิ่งคนไหนที่ชอบกินคุกกี้ แค่ทำเป็นสีชมพูหรือตัดเป็นรูปหัวใจก็ดูมุ้งมิ้ง เป็นไอต้าวความรักสุดๆ


สูตรนี้จะดีตรงที่เธอสามารถตกแต่ง วาดรูปบนเนื้อคุกกี้เปล่าๆ ได้ตามชอบใจ หรือจะบีบครีมเป็นข้อความส่งถึงผู้รับก็ได้ แสดงทักษะงานศิลปะออกมาให้เต็มที่ รับรองว่าทั้งอิ่มท้อง ทั้งได้ยิ้มจนแก้มปริแน่นอน

ส่วนผสม

- น้ำตาล 2 ถ้วย

- ช็อทเทนนิ่ง 1 ถ้วย

- ไข่ 3 ฟอง

- วานิลลาสกัด 1 ช้อนชา

- บัตเตอร์มิลค์ 1 ถ้วย

- เบกกิ้งพาวเดอร์ 3 ช้อนชา

- เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา

- แป้งสาลี 6 ถุง

วิธีทำ :1. ผสมน้ำตาล ช็อทเทนนิ่ง ไข่และวานิลลา ตีจนกลายเป็นเนื้อครีม เติมบัตเตอร์มิลค์ลงไปและคนต่อให้เข้ากัน จากนั้นเติมส่วนผสมแห้งลงไป ตีให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกันที่จะมีสัมผัสหยาบๆ หน่อย2. ปั้นส่วนผสมเป็นก้อนๆ นำไปวางบนถาดที่ปูกระดาษรองอบไว้แล้ว วางห่างกันประมาณ 3 นิ้ว ใช้ปลายนิ้วแตะน้ำเปล่าให้เปียกๆ คุกกี้จะได้ไม่เหนียวติดมือ เมื่อวางส่วนผสมลงไปแล้ว ก็โรยด้วยน้ำตาลหรือเกล็ดน้ำตาลสีๆ อีกที

3. นำไปอบที่อุณหภูมิ 350 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 5-10 นาที จนกว่าขอบคุกกี้จะเป็นสีเหลืองทอง สูตรนี้จะทำได้ประมาณ 48 ชิ้น

**สูตรนี้สามารถลดปริมาณได้ โดยลดทุกอย่างลงครึ่งหนึ่ง คุกกี้อบออกมาไม่พังค่ะ

5. สตรอว์เบอร์รี่เคลือบช็อกโกแลต

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/5839873e9d862315caa41f907bfa9a8e.jpg

จะมีสูตรไหนง่ายไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว! แค่นำสตรอว์เบอร์รี่ไปจุ่มช็อกโกแลต ก็ได้ขนมที่การันตีว่ารสชาติไม่ผิดหวังแน่นอน ดูเหมือนง่ายแต่ถ้าอยากให้ได้ทรงสวย ช็อกโกแลตติดกันดีก็ต้องมีเทคนิคกันสักเล็กน้อย

ไม่จำเป็นต้องกินแบบสดๆ เพราะแบบนั้นจะเรียกว่าฟองดู ( fondue ) แต่การเคลือบในสูตรนี้จะต้องนำไปแช่แข็งข้ามคืนก่อนจึงจะพร้อมเสิร์ฟได้ ต้องทำยังไงบ้างไปดูกัน

ส่วนผสม

- ช็อกโกแลตชิพรสไหนก็ได้ ประมาณ 450 กรัม

- ช็อทเทนนิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ

- สตรอว์เบอร์รี่สดที่ยังมีใบติดอยู่ 1/2 กิโล

วิธีทำ :ปูถาดรองอบด้วยกระดาษไขบางๆ เทช็อกโกแลตชิพและช็อทเทนนิ่งลงไปในชามก้นลึก นำเข้าไมโครเวฟ นำออกมาคนทุก 30 วินาที ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้เนื้อที่เนียนเข้ากันดี จากนั้นใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มสตรอว์เบอร์รี่ขึ้นมา แล้วนำไปจุ่มกับส่วนผสมช็อกโกแลตให้เคลือบทั่วกัน วางบนถาดรองเพื่อปล่อยให้ส่วนผสมแข็งตัว จากนั้นนำไปแช่แข็งข้ามคืนจะเสิร์ฟแบบเต็มผล หรือตัดแบ่งครึ่งให้เห็นเนื้อสตรอว์เบอร์รี่ก็ได้ ใส่โหลใสแบบในรูปก็สวย เป็นของขวัญที่น่ารักสุดๆ ค่ะ

6. ขนมช็อกโกแลตเชอร์รี่ทรัฟเฟิล

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/b3f82381d8d9c3aa1d39b0151f1f72e0.jpg

สาวๆ ฝั่งตะวันตกชอบกันมาก และคิดว่าสาวไทยก็น่าจะชอบด้วยเช่นกัน เพราะมีรสหวานแบบติดขมนิดๆ ของเชอร์รี่กับ ' ขนมช็อกโกแลตเชอร์รี่ทรัฟเฟิล ' หากเลือกใช้ช็อกโกแลตกับเชอร์รี่ที่แน่ใจว่าอร่อยอยู่แล้ว ทำยังไงก็ไม่พัง

ถ้ากลัวรสจะจำเจเกินไป สามารถเพิ่มรสชาติอื่นๆ ได้ด้วยการเพิ่มมะพร้าวขูด, เกล็ดน้ำตาลสี หรือนำลงไปเคลือบช็อกโกแลตที่ชั้นนอกอีกที ตอนเคี้ยวจะได้สัมผัสที่กรุบกรอบขึ้น!

ส่วนผสม

- น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ

- วิปปิ้งครีม 1/4 ถ้วย

- เนยจืดไม่เติมเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ

- ช็อกโกแลตชนิด semi-sweet สับละเอียด 170 กรัม

- เหล้ารสเชอร์รี่ 2 ช้อนโต๊ะ หรือสารแต่งกลิ่นรสที่ชอบ เช่น ส้ม มินต์ ราสเบอร์รี่ กาแฟ เป็นต้น แต่ถ้าใช้รสเชอร์รี่ก็จะช่วยขับให้รสชาติเด่นขึ้นกว่าเดิม

- เชอร์รี่อบแห้ง 1/2 ถ้วย

- ถั่วสับละเอียด 1/2 ถ้วย- ผงโกโก้แบบไม่หวาน 1/2 ถ้วย

วิธีทำ :1. ผสมน้ำตาล วิปปิ้งครีมและน้ำตาลในกระทะก้นแบน ตั้งไฟอ่อน คนจนละลาย ส่วนผสมร้อนจนเดือดแต่อย่าปล่อยให้ไหม้ จากนั้นปิดไฟ ยกลงจากเตา ใส่ช็อกโกแลตลงไปผสมจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน เติมเหล้าหรือสารแต่งกลิ่นรสที่เตรียมไว้ เทใส่ชาม ปิดชามด้วยแผ่นฟิล์มใส แช่เย็น 1 ชั่วโมง เอาออกจากตู้มาคนเป็นระยะๆ จะได้เนื้อที่เนียนสวยยิ่งขึ้น

2. ใช้ช้อนขนาดช้อนโต๊ะ ตักส่วนผสมขึ้นมาจากชาม แล้วหยดลงไปบนถาดปูกระดาษรองอบหรือกระดาษไข วางเชอร์รี่อบแห้งลงไป นำไปแช่เย็น 30 นาทีหรือจนกว่าส่วนผสมจะแข็งตัวดี นำไปกลิ้งในถั่วและผงโกโก้ นำไปเก็บในที่แห้งและเย็น สูตรนี้จะทำได้ 15-20 ลูกนะคะ

7. เค้กราสเบอร์รี่ สูตรทำง่ายแบบไม่ต้องอบ!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/b03c8938ca9fe64551365eef19504363.jpg

สูตรนี้จะเรียกว่าทำขนมก็คงไม่ขนาดนั้น เพราะเหมือนการตีๆ ปั่นๆ แล้วประกอบร่างมากกว่า ถึงทำขนมไม่เก่งก็ทำได้ แต่จะค่อนข้างวุ่นวายตอนสลับปั่นครีมพุดดิ้งกับทำเลเยอร์เค้ก

ซึ่ง ' เค้กราสเบอร์รี่ ' สูตรนี้จะได้เนื้อครีมที่เบาและนุ่มฟู แต่ทำง่าย อร่อย ถ่ายรูปสวย และยังมีสีน้ำตาล-แดง-ชมพูเข้ม-ขาว ใส่กล่องใสแล้วถ่ายรูปสวย instagrammable สุดๆ ทำยังไงบ้างเราไปดูกันเลย

ส่วนผสม

- ชิฟฟอนเค้กรสธรรมดาสำเร็จรูป 1 กล่อง

- แยมราสเบอร์รี่ 1-2 ถ้วย

- พุดดิ้งรสวานิลลา 1 ถ้วย

- นมจืด 1 1/2 ถ้วย

- ซาวร์ครีม 1 ถ้วย

- วิปครีม ไว้ตกแต่งท็อปปิ้งด้านบน

วิธีทำ :1. ใส่พุดดิ้ง นมและซาวร์ครีมในชาม ตีให้เข้ากัน นำไปแช่ตู้เย็น 5 ชั่วโมงหรือถ้าให้ดีก็แช่ข้ามคืนให้ส่วนผสมเซ็ตตัว2. ตัดชิฟฟอนเค้กเป็นรูปทรงตามชอบเท่าๆ กันตามชั้นเลเยอร์เค้กที่จะทำ วางแผ่นแรกบนกล่องใส่ขนม ใช้ช้อนตักแยมราสเบอร์รี่เกลี่ยลงไปให้ทั่วแผ่น โปะครีมพุดดิ้งลงไป จากนั้นวางชิฟฟอนเค้กอีกชิ้น เกลี่ยแยมลงไปอีก สลับไปเรื่อยๆ จนได้ชั้นที่พอใจ แล้วฉีดวิปครีมตกแต่งที่ชิฟฟอนเค้กชิ้นสุดท้าย เท่านี้ก็ได้เค้กราสเบอร์รี่แบบง่ายๆ ไม่ต้องอบ รสอร่อยไม่แพ้กันเลยละค่า ~(^з^)-♡

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/85/1e/54/851e54e229ab61cfc4b0a4f0a79890f3.gif

-----------------------------------

แม้จะไม่ได้เป็นแม่ครัวแชมป์การันตี master's chef มาจากไหน แต่ทุกสูตรขนมหวานในบทความนี้ใช้ส่วนผสมแค่หยิบมือ และวิธีทำที่ใครก็ทำได้ ไม่ซับซ้อนมาก แต่ละวัตถุดิบก็อร่อยด้วยตัวมันเองแล้ว ดังนั้นถึงจะทำขนมไม่เป็นยังไง ก็น่าจะออกมาแย่สุดแค่พอกินได้ ( บางสูตรอย่าเรียกว่าทำขนม ให้เรียกว่าแค่ประกอบร่าง... ) รับรองว่าทำเสร็จง่าย ได้ขนมอร่อยๆ ห่อแพ็กเกจสวยไปมอบให้ที่บ้าน ให้เพื่อนสนิท หรือแบ่งกันกินกับคุณแฟนในเดทแสนพิเศษได้อย่างมั่นใจแน่นอนลองเซฟสูตรที่ชอบไปลองทำตามกันดูน้า สำหรับวันนี้ก็ต้องขอตัวลาไปซื้อวัตถุดิบมาลองแสดงฝีมือบ้างละ ขอตัวก่อน ขอให้อิ่มอร่อยกันทุกคนค่าา บ๊ายบายยย

(*˘︶˘*).。.:*♡