สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeที่พร้อมจะทั้งหลาย!เบื่อไหม กับการนัดเพื่อนเป็นแก๊งกลุ่มใหญ่ อยากมีฟีลลิ่งทริปสนุกเฮฮาแหละ แต่สุดท้ายล่มจ้า ไม่เคยว่างตรงกันเลยยย บางทริปเช็คแล้วเช็คอีกว่าต้องว่างแน่ๆ จองตั๋วจองที่พักไปเรียบร้อย เทกันรัว ในนาทีสุดท้าย ที่บ้านป่วย ติดธุระ ต้องทำงานนอกสถานที่ ช้อปปิ้งหมดเงินไม่พอแล้ว แฟนไม่ให้ไป ( ? )สุดท้ายก็แพ็กกระเป๋าเก้อตลอด จนวันนึงก็ตัดสินใจได้ว่า ถ้าต้องรอไปกับเพื่อน ชาตินี้อาจจะไม่ได้ไปเลยก็ได้ คงถึงเวลาแล้วแหละที่ต้องฉายเดี่ยว ฉันจะท่องโลกกว้างไม่รอพวกแกแล้ว จำเอาไว้ ฮึ!แต่อารมณ์คนไม่เคยไปเที่ยวเองอะเนอะ อย่าว่าแต่ออกต่างจังหวัดเลย บางคนแค่ไปห้าง ไปสวนสาธารณะ ไปซื้อของที่ซูเปอร์ก็มีคนไปด้วยทุกครั้ง พอต้องไปคนเดียวแบบคนเดียวจริงๆ มันก็รู้สึกว่างโหวงบ้างแหละ ไหนจะต้องวางแพลนอะไรเองอีก เจอเหตุการณ์เฉพาะหน้าก็ปรึกษาใครไม่ได้อีก กลัว หวาดระแวงไปหมด แง TT^TTถ้าใครกำลังเจอกับสถานการณ์เหล่านี้อยู่ ขอให้ใจร่มๆ สูดหายใจเข้าออก แล้วมาอ่าน' 7 mindset ควรมี เมื่อเธออยากบินเดี่ยว เพื่อให้ทริปราบรื่นตลอดรอดฝั่ง 'เพื่อปรับความคิดให้พร้อมเสียก่อน รับรองว่าถ้านำแนวคิดเหล่านี้ไปใช้ จะไปทริปไหนก็รอดแน่นอนค่า Go Go Go!

1. เชื่อมั่นในตัวเองว่า ' ทริปนี้จะต้องดี ' ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/ccc75f79cbd345ea33652df43953a3c8.jpg

การจะมีทริปเดินทางที่ดีหรือแย่ อย่างแรกต้องมีความเชื่อที่ดีก่อน! แม้จะเป็นการเดินทางสุดแสนสบาย นั่งลิมูซีน ทะเลสวย อาหารเลิศรส แต่ในใจคิดลบไปก่อนว่ามันจะต้องพังแน่ๆ จะต้องเจอโจรแทงไส้ไหล โดนโขกสับค่าอาหาร เหยียบหาดทรายจะเจอเข็มหมุดแทงเท้าไหม บลา บลา บลา


แบบนี้เขาเรียกว่าพารานอยด์โดยใช่เหตุ กังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ( และอาจไม่มีวันเกิดขึ้น ) ทำให้ทริปพังตั้งแต่ยังไม่เก็บกระเป๋าเลยด้วยซ้ำค่ะ

ดังนั้นเริ่มแรกคือต้องกระตุ้นตัวเอง บอกตัวเองซ้ำๆ หน้ากระจกว่า ' ทริปนี้จะต้องดี ฉันจะต้องมีความสุขที่สุด ' แม้จะเป็นแค่คำพูด แต่ในทางจิตวิทยา ถ้าเราพูดอะไรบางอย่างกับตัวเองทุกวันต่อเนื่องกันนานๆ เราจะเริ่มเชื่อทีละน้อยว่ามันคือเรื่องจริง

เมื่อเราได้คำให้กำลังใจจากตัวเอง ความมั่นใจจะเพิ่มมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว และเมื่อวันนึงเธอรู้สึกว่าตัวเอง ' พร้อม ' แล้ว ก็เริ่มดำเนินการจองตั๋ว บุ๊กกิ้งที่พักได้เลย แต่ถ้ายังรู้สึกว่าตัวเองยังกลัว ยังไม่พร้อม ก็อย่าฝืนค่ะ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น

2. มีความตั้งใจ กล้าที่จะออกจาก ' comfort zone '

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/f093fc5666157d97201a1aca32af38d2.jpg

คนเอเชียเกินครึ่ง โดยเฉพาะผู้หญิง มักจะพอใจในพื้นที่ปลอดภัยหรือ comfort zone ของตัวเองอยู่แล้ว เมื่ออยู่กับสิ่งที่สบายใจนานเกินไป ธรรมชาติมนุษย์จะเริ่มหวงแหน + กลัวที่จะเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ เพราะไม่อยากเสี่ยงว่าจะเจอเรื่องร้ายแรงจนกระทบจิตใจหรือไม่

ส่วนนึงเพราะการเรียนรู้ของเราค่อนข้างอยู่ในกรอบ ต่างจากผู้หญิงฝั่งตะวันตกที่ถูกสอนให้เชื่อมั่น กล้าค้นหาสิ่งใหม่ๆ มากกว่า

เราอยากให้มองว่า การที่สาวๆ ได้เดินทางคนเดียวโดยไม่ต้องมีใครติดสอยห้อยตามไปด้วย จะช่วยเปิดโอกาสให้เธอได้ ' ค้นหาด้านที่ตัวเองไม่เคยเจอมาก่อน ' เพราะบางคนต้องปรับตัวเพื่ออยู่กับคนรอบข้าง จนลืมไปแล้วว่าตัวตนจริงๆ ของตัวเองคือใคร

การเดินทางช่วงสั้นๆ ที่ได้อยู่กับตัวเองเต็มร้อยนี่แหละ จะเกิดสถานการณ์ให้เธอได้แก้ปัญหา ได้เผยความเป็นตัวเองเต็มที่ บางกิจกรรมระหว่างทริป ถ้าเธออยู่กับเพื่อนหรือพ่อแม่ เธออาจไม่มีวันได้ทำเลย เพราะจะถูกขัดขวางหรือห้ามแน่นอน


เพราะการเที่ยวคือการผจญภัย เราจึงอยากให้เธอลองค่อยๆ ก้าวออกมาจาก comfort zone นั้น ใครจะรู้ว่าพื้นที่ข้างนอกนั้นอาจจะสนุก ตื่นเต้น ทำให้มีความสุขกว่าเดิมก็เป็นได้ ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้นะคะซิส

3. ยอมรับว่าเธอ ' ควบคุมทุกอย่างในชีวิตไม่ได้ ' อะไรปล่อยได้ ก็ต้องปล่อย

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/757fa0ca32dfc18afda89dc29d5c0a87.jpg

สำหรับสาวๆ ที่มีนิสัยเพอร์เฟกต์ชันนิสต์ อยากควบคุมทุกอย่างให้อยู่ในแพลนตลอด ทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่คิดเป๊ะๆ รถต้องออกเวลานี้ ต้องกินข้าวเวลานี้ ต้องได้เที่ยวสถานที่นี้เวลานี้ ทุกอย่างต้องเป็นตามนี้ 100% โดยไม่มีบิดพลิ้ว บอกเลยว่ามันยากมากๆ


อย่าว่าแต่เมืองไทยที่แทบจะกะเวลาไม่ได้เลย ขนาดเที่ยวต่างประเทศที่การเดินทางดีกว่าเรามาก ก็อาจจะเกิด accident ได้เสมอ เธออาจจะป่วย บาดเจ็บกะทันหันระหว่างทริป ต้องกลับบ้านก่อนกำหนด หรือเจอผู้ไม่หวังดีจนไม่มีกะจิตกะใจจะเที่ยวต่อ มันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นค่ะ

คนมีตารางเวลา จัดการตัวเองได้มันก็เป็นเรื่องดี แต่อย่าลืมว่า

' เธอควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกไม่ได้ '


ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ก็จงปล่อยวางและให้มันเป็นไปตามทางของมัน ยิ่งดันทุรังไปก็ยิ่งโกรธ หงุดหงิด สร้างความรู้สึกลบๆ ให้ตัวเองเปล่าๆ

4. คำนึงถึงความปลอดภัยเสมอ ซื้อ ' ประกันเดินทาง ' ทุกครั้ง

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/3a6f5c0e51c3266c67e835aba1c643f8.jpg

เป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว เตือนกันตรงนี้เลยว่า เธอจะคิดไปตายเอาดาบหน้าไม่ได้ โนเวย์สเตชัน! อย่างที่บอกไปข้อบนๆ ว่าอุบัติเหตุหรืออย่างแย่สุดคือการเสียชีวิต มันเกิดขึ้นได้เสมอ

ดังนั้นจะแบกกระเป๋าขึ้นรถทัวร์ / เครื่องบินตัวเปล่าๆ ก็ดูจะประมาทเกินไปหน่อย นี่ไม่ใช่เกมผจญภัยค่ำไหนนอนนั่นเหมือนในหนัง เธอต้องเซฟตัวเองด้วยการซื้อ ' ประกันการเดินทาง ' ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยค่ะ

เราไม่มีทางรู้เลยว่า เดินเที่ยวอยู่ดีๆ สะดุดขาแพลง แย่หน่อยขาหัก หรือโดนรถชน ซุ่มซ่ามมีบาดแผลเลือดไหลต้องหาหมอ แค่ยื่นประกันเดินทางให้โรงพยาบาล เธอก็จะได้ไม่ต้องเสียเงินค่ารักษาเป็นหมื่นเป็นแสน ซึ่งยุคนี้ประกันก็ไม่ได้แพงเลย วันละไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น


หรือถ้าเธอมีประกันสุขภาพเป็นหลักอยู่แล้ว ก็ลองเทียบผลประโยชน์ดูว่าใช้ประกันสุขภาพไปปกติ หรือซื้อแบบเดินทางเสริมด้วย จะคุ้มกว่ากัน ลองดูนะคะ

5. เปิดใจ เชื่อมั่นในตัวเองว่า ' เธอทำอะไรได้มากกว่าที่คิด '

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/f18736191a566ee6f5158bd769e975e1.jpg

เรื่องนี้น่าจะเป็นปัญหาสำคัญของสาวไทย หรือที่จริงก็สาวๆ ทั้งเอเชียเลย ที่มักไม่ค่อยได้ทำอะไรเต็มความสามารถของตัวเองเท่าที่ควร เรามักจะเจอกรอบของเพศ หรือบทบาททางสังคมกดทับอยู่ตลอดเวลา


พอจะเริ่มทำอะไรใหม่ๆ ที่ดูไม่เป็นไปตามธรรมเนียมของสังคม ก็จะถูกห้าม อ้างว่าเสี่ยง อันตราย อย่าทำเลย เดี๋ยวให้คนอื่นทำแทนให้ สุดท้ายก็เหมือนนกน้อยในกรงทองที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ไม่ใช่เพราะไม่ฉลาดนะ แต่ไม่เคยได้ลองทำเลยต่างหาก

แต่เมื่อเธอต้องออกเดินทางคนเดียว แก้ปัญหาทุกอย่างระหว่างนั้นด้วยตัวเอง เช่น ของหาย รถมาไม่ตรงเวลา สถานที่เที่ยวปิด เสื้อผ้าขาด ด้วยสัญชาตญาณที่มีในตัวทุกคน เธอจะตกใจที่ตัวเองก็ไม่ได้เป็นคุณหนูหยิบโหย่งอย่างที่คิด

เมื่อถึงเวลาจำเป็นเข้าจริงๆ เธอก็เอาชีวิตรอดได้เช่นกัน และการเรียนรู้ด้วยตัวเองนอกห้องเรียนแบบนี้ จะทำให้เธอจำวิธีแก้ปัญหาได้ขึ้นใจ หากแผนที่ทำล้มเหลว เธอก็จะลุกขึ้นได้ไวเพราะไม่มีใครมานั่งช่วยตลอดเวลา ทำให้เธอเป็นผู้ใหญ่ขึ้นได้ในเวลาอันสั้นเลยละค่ะ

6. มีความยืดหยุ่น อย่าวางแผนทริปจน ' ตึง ' เกินไป

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/9f92d7fde1fa7d5b1cc846903858b60a.jpg

ข้อนี้น่าจะเป็นนิสัยของชาวประหยัดหรืองกมากๆ ปนกับความเพอร์เฟกต์ชันนิสต์ คือวางแพลนเที่ยวมาเต็มเอี๊ยดมาก ทุกอย่างต้องเป็นไปตามเวลาแล้ว 1 แต่บัดเจ็ดหรืองบอาหาร งบที่พักก็ต้องเป็นไปตามที่คำนวณไว้เป๊ะๆ ไม่ขาดไม่เกิน


แม้ว่าไปกินข้าวแล้วจะเจอจานอาหารอร่อยน้ำลายสอข้างหน้า ก็ไม่กล้าเปลี่ยนแพลนเพราะกลัวงบบานปลาย อะไรลดได้ก็ลด อะไรฟรีได้ก็ฟรี สุดท้ายถึงจะคุมงบได้จริงก็เป็นไปแบบเครียดๆ กลับที่พักนั่งกินมาม่างี้ แล้วมันจะไปสนุกตรงไหนคะซิสสสส

คิดจะไปเที่ยวแล้ว ก็ไม่อยากให้ทุกอย่างมัน ' ตึง ' เกินไปขนาดนั้น เรามาพักผ่อนเนอะ ไม่ได้มาเข้าค่ายฝึกความอดทน แม้มันจะสามารถประหยัดขนาดนั้นได้ แต่ถ้าระหว่างทริปเราเจออะไรใหม่ๆ ที่อาจต้องลงทุนเงินบ้าง

แต่มันได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อาจจะหาไม่ได้อีกแล้ว หนึ่งปีมีครั้งเดียว หรือไม่รู้จะได้กลับมาที่นี่อีกเมื่อไหร่ และไม่ได้ต้องจ่ายแพงจนกระเป๋าฉีก ก็คุ้มค่าที่จะ ' ซื้อความทรงจำ ' ที่อาจจะล้ำค่ากว่าของทางกายด้วยซ้ำค่ะ

7. มีมารยาท สุภาพเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน แต่ก็ต้อง ' ระวังตัว '

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/9bd3d3b1ea1232409e97d2739e9d0724.jpg

ความสุภาพ อ่อนน้อม มีรอยยิ้ม ดูจะเป็นนิสัยทั่วไปของคนไทยอยู่แล้วก็จริง แต่ก็มีสาวๆ บางส่วนที่อาจติดนิสัยเอาแต่ใจ หน้าบึ้งตึง เก็บตัวมาจากที่บ้านและสังคมรอบตัว พอพ่อแม่และเพื่อนสนิทในแก๊งให้ท้าย ก็อาจจะมี' นิสัยเสีย 'ที่ติดตัวมา และคิดว่าคนอื่นๆ ในโลกใบนี้ก็น่าจะชินกับนิสัยแบบนี้เช่นกัน


แต่ความจริงคือ ถ้าเธออยากมีทริปดีๆ โดยเฉพาะไปสถานที่ที่ต้องคุยกับผู้คนเพื่อถามทาง นิสัยแบบนี้เธอเอาตัวไม่รอดแน่นอน ไม่มีใครอยากยุ่งกับคนหน้าบึ้ง เสียงสะบัดสะบิ้งหรอกนะ

มันอาจจะไม่ใช่นิสัยจริงๆ ของเธอหรอก แต่ก็ต้องรู้จักคำว่า ' มารยาทสังคม ' รู้จักที่จะเข้าหาคนอื่นเพื่อขอความช่วยเหลือ ยิ้มไว้ก่อนไม่ใช่เรื่องเสียหาย พูดจามีหางเสียงให้ป้าๆ ลุงๆ ที่เราไปถามเขาเอ็นดู แต่ก็ต้องควบคู่ไปกับการระวังตัว เพราะบ้านเมืองเราก็ไม่ได้ปลอดภัย 100%


คุยกับคนที่จำเป็นต้องคุย อย่าผูกมิตรไปทั่ว เว้นระยะห่างกับผู้คนเสมอ ใครชวนไปไหนก็ให้ ' ปฏิเสธอย่างสุภาพ ' ไม่ใช่เด๋อๆ ด๋าๆ ใครลากไปไหนก็ไปหมด แทนที่จะได้เพื่อนใหม่เหมือนในหนัง เธออาจจะเจอฆาตกรโรคจิตแทนก็ได้ อย่าเสี่ยงเป็นอันขาด!!

------------------------------------------

ในสังคมผู้หญิงเอเชีย เราเองก็เก็ทมากๆ ที่สาวไทยจะไม่ค่อยอยากเที่ยวคนเดียวโดยเฉพาะในไทย เพราะหลายจังหวัดก็ยังมีการคมนาคมที่ไม่ค่อยดี ผังเมืองซับซ้อน หรือถ้าซวยมากจริงๆ ก็อาจแจ็กพอตเจอกับโจรหรือมิจฉาชีพได้ ดังนั้นต้องยอมรับว่าคนที่กล้าจะโบยบิน ก็ต้องมีใจเด็ดเดี่ยวกล้าหาญประมาณนึง เราต้องขุดตัวเองให้กล้ายอมรับที่จะเจอเรื่องทั้งดีและร้ายในโลกภายนอก comfort zone ก่อน ควบคู่กับการเซฟตัวเองให้มากที่สุดในช่วงโควิดแบบนี้ก็อย่าเพิ่งไปผจญภัย ปีนเขา บุกป่าฝ่าดงหรือเจอคนเยอะๆ ยิ่งถ้าเพิ่งเดินทางเองครั้งแรก การจะไปชมทะเลชิลล์ๆ ที่หัวหิน พักโรงแรมห้าดาว หรือแค่ขึ้นเชียงใหม่ไปเที่ยวคาเฟ่ก็ได้ เลือกบรรยากาศที่ไปมาสะดวก รู้สึกสบายใจ พ่อแม่ติดต่อได้ตลอด แบบนี้จะดีกว่า เพื่อปูทางไปสู่เส้นทางแบ็กแพ็กเกอร์ต่างประเทศเมื่อโควิดจบลง ลองดูค่ะ แล้วเธอจะได้ความทรงจำ และประสบการณ์เป็นบทเรียนล้ำค่ากลับมาแน่นอน╰(*´︶`*)╯