มาเช็คอายุเครื่องสำอางของสาวๆกันค่ะ

1. ให้สาวๆลองหาสัญลักษณ์ PAO (Period After Opening symbol) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่มีระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ของเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวทั่วๆไป เพื่อบอกถึงอายุการใช้งานหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก จะมีตัวเลขตามด้วยอักษร M ซึ่งหมายถึงจำนวนเดือน

รูปภาพ:http://www.makealittlemake.com/wp-content/uploads/2014/07/validade-das-maquiagens-e-cosm%C3%A9ticos.png

เพราะเครื่องสำอางเมื่อเปิดใช้งานแล้วจะมีแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกเข้าไปทำให้เสื่อมคุณภาพ หรืออาจจะมีสารบางตัวที่พอเปิดใช้จะหมดอายุตามที่กำหนด ซึ่งหากใช้ต่อไปอาจก่อให้เกิดอันตรายกับผิวของสาวๆได้นะคะ

เครื่องสำอางแต่ละชนิดมีอายุไม่เท่ากันหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก เราลองมาดูกันค่ะว่าแต่ละ

ชนิดอายุการใช้งานเท่าไหร่กันบ้าง

รูปภาพ:http://cache.bhol.co.il/imagebank/orig/orig_6FD29B84EDD94203B3E61B78B89FC190.JPGรูปภาพ:http://www.womenshealthmag.com/files/wh6_uploads/imagecache/scale_600_wide/images/mascara-tips-art_0.jpg

-

มาสคาร่าและอายไลเนอร์ชนิดน้ำ มีอายุการใช้งานประมาณ 3-6เดือน ถ้าเริ่มเหนียวข้นติดกันเป็นเม็ด ปัดแล้วระคายเคือง หรือขนตาแห้งกร้าน ให้รีบทิ้งทันทีค่ะ

ข้อแนะนำ : หลีกเลี่ยงการอัดด้ามแปรงลงไปในหลอดบ่อยๆ เพราะจะทำให้มาสคาร่าแห้งไวและหมดอายุเร็วขึ้น

อายุการใช้งานประมาณ 1 ปี

รูปภาพ:http://www.theplasticdiaries.com/wp-content/uploads/2011/03/DMK-Cosmetics-Foundation.jpgรูปภาพ:http://www.newnise.com/wp-content/uploads/2015/03/Awesome-diy-liquid-foundation-ideas.jpg

- รองพื้น เบส ชนิดน้ำ

ตัวการที่ทำให้ผิวของสาวๆแพ้ง่าย คือรองพื้นหมดอายุนี่แหละค่ะ ใครที่ใช้มาแล้วเกิน 1 ปี หรือเริ่มกลายสภาพเป็นเม็ดๆ และมีลักษณะแป้งสีขาวขุ่นมัว หรือมีการแยกส่วนกันของรองพื้นให้โยนลงถังขยะด่วนค่ะ

ข้อแนะน า

:

ควรปิ ดฝารองพื้นและเบสให้สนิทหลังใช้ทุกครั้ง ใช้ไม้พายสัมผัสกับเครื่องสำอางแทนการใช้นิ้วสัมผัสโดยตรงก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานค่ะ

รูปภาพ:http://bestfriendsforfrosting.com/wp-content/uploads/2014/01/nars-lip-gloss-1024x1024.jpgรูปภาพ:http://static.weloveshopping.com/shop/princessdiary/p2069.jpg

- ลิปกลอส ยาทาเล็บ ครีมและโลชั่นบำรุงผิว

โดยเฉพาะลิปกลอสที่เราต้องใช้กับริมฝีปากที่ค่อนข้างบอบบาง และแพ้ง่าย วิธีสังเกตคือเนื้อเริ่มแยกส่วน สีเปลี่ยน กลิ่นเปลี่ยน

ข้อแนะนำ : เก็บไว้ในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงการทิ้งเอาไว้ในรถยนต์เพราะอุณหภูมิภายในรถ จะทำให้หมดอายุเร็วยิ่งขึ้นค่ะ

อายุการใช้งานประมาณ 1 ปี ครึ่ง

รูปภาพ:http://www.openlettersmonthly.com/issue/wp-content/uploads/2012/04/perfumes_1.jpg

- น้ำหอม

สำหรับใครที่ชอบใช้น้ำหอม ควรเช็คน้ำหอมดีๆนะคะ เพราะน้ำหอมที่หมดอายุจะไม่ค่อยเห็นลักษณะชัดเจนเท่าไหร่ ที่สำคัญคือควรเก็บไว้ให้พ้นจากความร้อนและแสงค่ะ

ข้อแนะนำ : ยืดอายุน้ำหอม ง่ายๆ เมื่อใช้เสร็จแล้วก็เก็บใส่กล่องไว้ เพื่อป้องกันการระเหย และ

ทยอยเปิดใช้น้ำหอม เพราะหากยังไม่เปิดใช้ครั้งแรก จะเก็บได้ถึง 3 ปีค่ะ

อายุการใช้งานประมาณ 2 ปี

รูปภาพ:http://cdn.sheknows.com/articles/2013/01/the-best-eyeliner-pencils-for-bold-eyes-urbandecay.jpg

- ดินสอเขียนขอบตา และดินสอเขียนคิ้ว

ดินสอเขียนขอบตา และดินสอเขียนคิ้ว ถึงแม้ว่าจะใช้ได้นาน แต่สาวๆมักปล่อยปละละเลยจนเกินอายุการใช้งาน และเพราะเป็นส่วนที่ใช้กับตา จึงต้องให้ความสำคัญมากๆนะคะ

ข้อแนะน า: การที่จะใช้ได้นานๆถึง 2 ปี จำเป็นต้องมีการเหลาใหม่เป็นประจำ จะสามารถใช้ได้นานขึ้นค่ะ

รูปภาพ:http://cdn1.feelunique.com/img/products/32097/Rimmel_Lasting_Finish_Lipstick_4g_1367585671_main.jpg

- ลิปสติก

- สาวๆคนไหนที่ชอบสะสมลิปสติก ระวังไว้เลยค่ะ เพราะจะทำให้เราใช้ไม่ทันและไม่แน่ใจว่าแท่งไหนหมดอายุแล้วบ้าง ดังนั้นเราควรใช้แค่ทีละแท่งถึงสองแท่งก็พอนะคะ และที่สำคัญคือเนื้อลิปสติกแท่งไหนเริ่มมีกลิ่นและสีที่เพี้ยนไป ให้รีบทิ้งเลยค่ะ

ข้อแนะนำ : สำหรับสาวๆที่ชอบผสมสีลิปสติก ขอแนะนำว่าซื้อลิปแบบพาเล็ทจะดีกว่าแบบเป็นแท่งค่ะ เพราะอาจจะหมดอายุก่อนที่จะใช้หมด แต่สำหรับคนที่ชอบสีเพียวๆ ซื้อแบบแท่งจะคุ้มค่ากว่าค่ะ

รูปภาพ:http://www.smashbox.com/images/products/415x430/SB_C006_430.jpg

- แป้งฝุ่น บลัชออน อายแชโดว์

ส่วนใหญ่เราจะเห็นสาวๆมีอายแชโดว์หรือบลัชออนหลายๆ พาเล็ต และที่สำคัญคือใช้ไปไม่เยอะก็หมดอายุซะแล้ว ซึ่งลักษณะคือเนื้อสีจะซีด ทาแล้วไม่ติดผิว

ข้อแนะนำ : สิ่งที่เราควรดูแลคืออุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับเครื่องสำอางกลุ่มนี้ ทั้งแปรง หรือฟองน้ำ ควรจะทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ปิดฝาให้สนิท และเก็บในซองกันกระแทกเพราะเนื้อเครื่องสำอางแตกง่าย

เช็คอายุการใช้งานของเครื่องสำอางกันไปแล้ว เลือกซื้อคราวหน้าก็อย่าลืมเช็คเครื่องหมาย PAO กันนะคะสาวๆ แล้วก็อย่าซื้อเยอะเกินจนใช้ไม่ทันนะคะ