ฮัลโหลค่าา สาวๆSistaCafeที่ยังตั้งสถานะ' โสด 'ทั้งหลายเคยรู้สึกกันไหมคะ ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองหรืออะไรนะ แต่มันไม่มีเข้ามาแล้วจะให้ทำไงเอ่ย? สาวๆ มากมายที่ก็ใช้ชีวิตของตัวเองไปตามปกติ เรียนหนังสือ ทำงาน ทำงานอดิเรกไปเรื่อย ก็มีความสุขดี แต่วันดีคืนดีก็จะมีผู้หวังดี ( ประสงค์ร้าย ) มาถามแนวแซะๆ ว่า" อายุขนาดนี้ยังหาแฟนไม่ได้อีกเหรอ เดี๋ยวไม่มีคนดูแลตอนแก่หรอก ", " วัยนี้เขาแต่งงานกันไปหลายคู่แล้วนะ ", " แนะนำผู้ชายให้เอาไหม? ( ฉันดูสิ้นหวังขนาดนั้นเลยเหรอ? ) ", " เป็นโสดตอนแก่ เดี๋ยวพ่อแม่ก็เป็นห่วงหรอก ( ป้ารู้ดีกว่าพ่อแม่หนูอีกเหรอคะ!! ) "แค่คิดถึงอะไรพวกนี้ก็เซ็งแล้วอะแก TT

รูปภาพ:https://data.whicdn.com/images/234907753/original.gif

เจอนานๆ ทีก็พอว่า แต่ใครเจอสังคมที่ทักเรื่องพวกนี้ซ้ำทุกวี่วัน จากที่ตอนแรกรำคาญ โมโหอยากเกรี้ยวกราด ซัดหน้าพี่พวกนั้นสักแผล ก็จะเริ่มเป็นการตั้งคำถามตัวเองโดยไม่รู้ตัวว่า " เออว่ะ... ทำไมเราไม่มีใครเข้ามาเลย เราดีไม่พอเหรอ ถ้าแก่ไปเราจะตายอย่างเดียวดายใช่ไหม การไม่มีแฟนมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?? "นานเข้าความมั่นใจก็ลดลง คิดลบมากขึ้น ยิ่งทำให้เธอไม่น่าเข้าใกล้มากกว่าเดิม -___-ถ้าไม่เชื่อลองอ่าน 7 เหตุผลนี้ประกอบการตัดสินใจกันค่ะ จะได้เลิกนอยด์กันซะทีเนอะ(*¯ ³¯*)♡

1. เธอจะได้ใช้เวลา ' ทบทวน ทำความรู้จักตัวเอง ' ให้มากขึ้น

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/dlJv30968.jpg

ข้อดีข้อแรกของการเป็นโสดคือ เธอจะมีเวลาของตัวเองจริงๆ ไม่ต้องไปจัดสรรปันส่วนให้ใคร ซึ่งเวลานั้นแหละที่เธอจะนำมาค้นหาความฝัน ทำความรู้จักตัวเองให้เต็มที่! เราเชื่อว่าหลายๆ คนต้องมีคนรู้จัก เพื่อนสนิท หรือแม้แต่พ่อแม่ของตัวเองที่ชีวิตเกิดมาไม่กี่ปีก็มีแฟน พอมีแฟนก็มีมาตลอด

หรือถ้าคนสมัยก่อนก็แต่งงานตั้งแต่อายุน้อย ชีวิตวนเวียนอยู่กับการเอาใจสามี เลี้ยงลูก ทำงานบ้าน มีเรื่องต้องคิดเต็มไปหมด แต่ไม่มีเรื่องไหนเป็นเรื่องของตัวเองสักอย่าง บางคนตั้งแต่เกิดจนตายยังไม่รู้เลยว่าจริงๆ ตัวเองคือใคร ต้องการอะไร เพราะใช้ชีวิตตามใจคนอื่นมาตลอด น่าเศร้าเหมือนกันนะ

เธอจะได้ใช้เวลา 24 ชั่วโมงเป็นของตัวเอง 100% ได้อ่านหนังสือ ทำกิจกรรมที่ชอบ เลือกเรียนมหาวิทยาลัยและคณะที่ชอบ ทำงานที่มีแพชชั่นกับมัน ไม่ต้องเจอปัญหาคนมีแฟนวัยเรียนบางคู่ ที่รักแฟนมาก เลือกเรียนทุกอย่างตามแฟน ทั้งที่ไม่ใช่สิ่งที่ชอบสักนิดเดียว ไม่ได้ทันคิดว่าถ้าเลิกกันกลางคัน หรือเรียนๆ ไปแล้ว toxic เรียนต่อไม่ไหวแล้วจะทำยังไง?


บางครั้งเราคิดว่า การที่ผู้ใหญ่บอกให้ตอนเรียนอย่าเพิ่งคิดเรื่องแฟน มันก็คงมีเหตุผลของมันอยู่ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่มีวุฒิภาวะและเชื่อมั่นในตัวเองมากพอ ถ้าเตลิด หัวอ่อนคล้อยตามแฟนทุกอย่าง ก็เสี่ยงอนาคตพังทั้งชีวิตได้เลยเหมือนกัน

2. การมีแฟนข้างกาย หรือได้แต่งงาน ไม่ได้ ' ซ่อม ' ปมปัญหาทุกอย่าง

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/m0ub30971.jpg

สาวๆ บางคนที่มีปมปัญหา มีช่องว่างบางอย่างในใจ เช่น ปมครอบครัว ปมแฟนเก่า ปมฐานะ หรือแม้แต่โรคทางจิตใจเช่น โรคซึมเศร้า ไบโพลาร์ แพนิก มักจะมี mindset ที่ผิดว่า' การมีคนข้างกายจะซ่อมทุกอย่างได้ '

แค่มีแฟนก็พอ ปมทุกอย่างก็จะหายไปเอง เพราะแฟนจะเป็นโลกทั้งใบของเรา จะทำยังไงอะไรกับเขาก็ได้ ซึ่งบอกตรงนี้เลยว่ามันไม่จริง! การที่เราคบใคร หรือแม้กระทั่งแต่งงานจดทะเบียนแล้วก็เถอะ ไม่ได้ช่วยคลายปม ซ่อมปัญหา หรือรักษาโรคใดๆ ได้นะคะ เธอต้องแก้ด้วยตัวของเธอเอง

ถ้ามีคนแย้งว่า เอ้า มีแฟนก็เพราะอยากมีคนคอยปรึกษา ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยไม่ใช่เหรอ ถ้าทุกข์แล้วแฟนไม่ช่วยจะมีแฟนทำไม? มองแบบนี้ก่อน ความรักคือการที่คนสองคนมาแชร์ประสบการณ์ แนวคิด มอบความปรารถนาดีให้กันและกัน เหมือนวงกลมสองวงที่ทับซ้อนกัน

ถ้าเธอทำตัวเป็นวงกลมแหว่งๆ พยายามจะดึงวงกลมส่วนของแฟนมาเป็นของตัวเอง ทำตัว toxic ระบายอารมณ์ใส่ โยนขยะทางความคิดใส่ไม่เว้นแต่ละวัน สุดท้ายรักก็ไปไม่รอดอยู่ดี


ถ้าให้พูดแรงหน่อยก็คือ ป่วยก็ไปหาหมอ ไปหานักบำบัด อย่าเห็นแก่ตัวใช้แฟนเป็นกระโถนรองรับของตัวเอง เพราะไม่มีใครอยากโดนสาดพลังงานลบจากใคร เป็นเธอเอง เธอก็คงไม่ชอบเหมือนกัน ใจเขาใจเราเนอะ

3. เธอจะมี ' อิสระ ' ในการทำทุกสิ่งอย่างในชีวิต ไม่ต้องรอขออนุญาตใคร

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/VCPE30979.jpg

ถ้าเธอเป็นสาวโสด อย่างหนึ่งที่มีแน่ๆ คืออิสรเสรีขั้นสูงสุด จะกินอะไร จะดูหนังเรื่องไหน จะเที่ยวที่ไหนก็บุ๊กตั๋วทันที ไม่ต้องรอถามแฟนว่าเขาจะโอเคไหม เขาจะอยากไปหรือเปล่า เรียกว่าสบายตัวสุดๆ จนคนเคยมีแฟนบางคน พอกลับมาโสดแล้วไม่อยากจะกลับไปคบใครอีกก็มี!

ใครที่อาจจะขี้เหงา รู้สึกว่ากินข้าวคนเดียวบ่อยๆ มันเศร้าเกินไป เธอก็ยังมีแก๊งเพื่อน มีครอบครัว ไม่ได้หมายความว่าโสดแล้วจะตัวคนเดียวบนโลกเสียเมื่อไหร่ จริงไหม?

ความฝันหรือสาขาอาชีพบางอย่าง ถ้ามีแฟนก็อาจทำให้ฝันนั้นติดขัดหรือทำให้สำเร็จยากขึ้น เช่น เธออยากไปเรียนต่อ ทำงานอยู่ยาวๆ ที่ต่างประเทศ, ทำอาชีพที่กินเวลาชีวิตค่อนข้างสูง งานหนัก ทำงานเสร็จก็อยากนอนแล้ว ไม่อยากคุยกับใคร งอนก็ต้องมานั่งง้อ เหนื่อยกับการบริหารความสัมพันธ์, อยากไปเที่ยวรอบโลก ไปประเทศแปลกๆ ลำบากๆ ที่แฟนก็อาจจะไม่ได้อยากไปกับเรา

แต่ถ้าเธอไม่มีใคร เธอก็ไม่ต้องกังวลกับเรื่องจุกจิกเหล่านี้ ทุ่มเวลาให้กับสิ่งที่ชอบได้อย่างเต็มที่ ทำให้เธอรักตัวเองและมีความสุขมากขึ้นด้วยค่ะ

4. เธอจะจัดลำดับ ' ความสำคัญในชีวิต ' ได้ดียิ่งขึ้น

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/taSd30972.jpg

ซิสที่ยังโสด น่าจะเคยมีเพื่อนที่ใช้ชีวิตทุกอย่างตามคำสั่งของแฟน ถ้าแฟนห้ามไปไหนก็ไม่ไป ถ้าไม่อยากให้มาเจอเธอ เพื่อนคนนั้นก็จะทำตามอย่างเคร่งครัด เอาจริงๆ มันก็เป็น toxic relationship แหละ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพื่อนเลือกที่จะให้ความสำคัญกับแฟนคนนี้มากกว่าเธอ และอาจจะมากกว่าเรื่องอื่นๆ ในชีวิตของเพื่อนด้วย


ทั้งความฝัน ทั้งชีวิตส่วนตัว ถึงจะเป็นแฟนที่ดี ไม่ขี้บงการก็เถอะ ถ้ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือแต่งงานกันไป เราก็ต้องนึกถึงเขาก่อนในหลายๆ เรื่อง ซึ่งบางเรื่องมันคือการกลบความรู้สึก ความต้องการของเราไปเลย

ถ้าเธอยังอายุน้อย ยังมีความฝันมากมายที่จะไขว่คว้า การเป็นโสดถือเป็นข้อดีมากๆ เพราะเธอจะโฟกัสเรื่องอื่นๆ ได้ง่ายกว่า ไม่ต้องกังวลว่าทำแบบนี้แฟนจะโอเคไหม จะโกรธหรือเปล่า จะทะเลาะกันทีหลังหรือไม่


คนเราน่ะ ควรใช้ชีวิตเพื่่อหาความสุขของตัวเองเป็นหลักนะ บางคนอยากมีแฟนแทบตายทั้งที่ยังทำฝันของตัวเองไม่สำเร็จเลย จำไว้นะคะ ความฝันของเราต้องเป็นความสำคัญอันดับหนึ่งเสมอ ทำให้มันลุล่วงก่อน แล้วค่อยคิดจะมีคนข้างกายค่ะ

5. เพราะต้องใช้ชีวิตคนเดียว จะทำให้จิตใจของเธอ ' แข็งแกร่ง ' มากขึ้น

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/xr9E30969.jpg

ข้อดีอีกอย่างของการเป็นโสดคือ ' เธอจะแข็งแกร่งมากๆ ' ด้วยความที่ต้องอยู่คนเดียว สถานการณ์มันบังคับ ทำให้สามารถตัดสินใจเรื่องราวยากๆ ในชีวิตได้

เป็นฮีโร่ในหนังชีวิตของตัวเอง ไม่ต้องไปซบไหล่ร้องไห้ฮือๆ ให้คนอื่นมาช่วยเหลือ เพราะในความเป็นจริงเราไม่สามารถขอให้ใครช่วยในทุกๆ เรื่องได้ แม้กระทั่งคนในครอบครัวก็ตาม

เธอไม่ควรพึ่งพิงหรือหลบอยู่ใต้ปีกของใครคนหนึ่งไปตลอด เพราะเราไม่มีวันรู้อนาคตข้างหน้าว่า คนที่ซิสพึ่งพาเขาจะป่วย เสียชีวิต หรือปล่อยมือจากเราไปเฉยๆ เมื่อไหร่ อาจจะดูโหดร้ายนะ แต่มันก็คือเรื่องจริง จะโสดหรือมีคู่ก็มีความเสี่ยงจากเรื่องนี้พอกัน

ดังนั้นอะไรที่จัดการ เรียนรู้ได้เองก็จงทำ พึ่งพาตัวเองให้ได้ ถ้าจะมีแฟนในอนาคตก็ขอให้ช่วยกันในเรื่องกำลังใจ คำปรึกษา หรือช่วยเรื่องการเงินเล็กๆ น้อยๆ พอ อย่าให้เขาต้องมาแบกเรา

เพราะถ้าเขาเหนื่อยหรือรำคาญเธอเมื่อไหร่ จะอันตรายกับตัวเธอเองมากที่สุดค่ะ

ท่องไว้ เราต้องสตรองงง!!

6. คนที่มอบความปรารถนาดี พิเศษต่อเรา ไม่จำเป็นต้องเป็น ' แฟน ' ก็ได้

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/lkf230973.jpg

mindset หนึ่งที่สาวๆ ส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดกันมานานคือ' คนเป็นแฟนเท่านั้นที่พิเศษกับเราที่สุด 'เพราะแฟนจะอยู่กับเราไปจนแก่เฒ่า จะได้พึ่งพากันและกันแน่ๆ พวกแก๊งเพื่อนเดี๋ยวเขาก็ต้องไปแต่งงาน มีลูก มีชีวิตของเขาเอง ดังนั้นยังไงก็ต้องหาแฟนให้ได้ -.-


ซึ่งความจริงอีกด้านที่เธออาจมองข้ามไปคือ แฟนเนี่ย คบแล้วก็เลิกได้ แต่งแล้วก็หย่าได้ พอเลิกแล้วก็เป็นคนอื่น แต่แก๊งเพื่อนหรือครอบครัว จะกลับมาเจอกันเมื่อไหร่ก็ยังเหมือนเดิม ก็ยังช่วยเหลือ ปรารถนาดีต่อกันได้อยู่ เผลอๆ เป็นความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกว่าแฟนด้วยซ้ำไป

ความรักมีได้หลากหลายรูปแบบ คนโสดมากมายที่มีเพื่อนสนิทเยอะมากๆ มีคนในครอบครัวที่ห่วงใย รักและเป็นห่วง มีสัตว์เลี้ยงที่รักพวกเขายิ่งกว่าชีวิตตัวเอง ขอถามว่าความรักแบบนี้น้อยหน้ากว่าการมีแฟนไหม ก็ไม่


ยิ่งถ้าเธอไม่ซีเรียสว่าต้องมีลูก การอยู่แบบนี้อาจจะมีความสุขกว่ามีพันธะกับคนคนเดียวไปทั้งชีวิต ที่สำคัญไม่มีวันหย่าขาดจากกันด้วยเด้อ

7. ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเรามีคนที่ใช่ เขาก็จะมาใน ' เวลาที่ใช่ ' อย่างแน่นอน

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/q5jM30970.jpg

เคยได้ยินคำนี้ไหมคะ' ยิ่งไขว่คว้า ยิ่งไม่เจอ 'ธรรมชาติของความรักก็เหมือนผีเสื้อที่โผบินวนเวียนไปมารอบตัวเรา แต่ถ้าเราถือตาข่ายจะไล่จับ มันจะบินหนีไปแสนไกล เมื่อเราหยุดจับและนั่งพักเหนื่อยเท่านั้นแหละ กลับมาเกาะที่ไหล่เราซะงั้น

ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึกส่วนนึง ดวงชะตาด้วยส่วนนึง มันไม่ใช่การอ่านหนังสือเพิ่มเกรดที่ยิ่งอ่านยิ่งได้คะแนนเพิ่ม ไม่ใช่เรื่องของตรรกะแต่เป็นเรื่องของหัวใจ ถ้ายังไม่ใช่เวลา ก็รังแต่จะเสียใจไปเปล่าๆ ค่ะ

ความรักที่ดี ยังไงก็ต้องใช้เวลา แม้แต่คนที่เจอคนที่ใช่แล้ว ก็ยังต้องพูดคุย ปรับจูนเข้าหากันอยู่ทุกวันเลย ถ้าสุดท้ายแล้วเธอก็ยังอยากมีแฟน ก็ไม่ต้องไปพยายามกับเรื่องพวกนี้มาก ใช้ชีวิตของตัวเองไป แต่ก็ไม่ปิดกั้น

เปิดหัวใจให้คนมาเยี่ยมเยียนไว้เสมอ ถ้าหัวใจเป็นบ้านก็เปิดประตูแง้มไว้หน่อย ถ้าถึงจังหวะที่ใช่ คนคนนั้นก็จะมาเคาะหน้าประตูหน้าบ้านเอง อดใจรอหน่อยนะคะซิส ^^

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/ba/f8/14/baf814fcb2b2054a15c77100b548a2e8.gif

----------------------------------------

บอกแล้วว่าแก๊งสาวโสดน่ะ เขาแซ่บกว่าที่คิด! ข้อดีของการไม่ต้องมีพันธะมีเยอะแยะมากมาย เธอไม่ต้องรับผิดชอบความรู้สึกของใคร ความสุขไม่ต้องขึ้นกับคนอื่น ใช้ชีวิตได้เต็มที่ อยากไปไหนไป อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องรอใครอนุมัติ เพราะข้อเสียอย่างหนึ่งของการมีแฟน ยิ่งถ้าแต่งงานมีลูกแล้วล่ะก็ คือเธอต้องแบ่งการตัดสินใจหลายๆ อย่างให้แฟนมามีบทบาทด้วย ซึ่งคนรักอิสระมากๆ ก็อาจจะไม่ชอบค่ะ

อย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการมีแฟน ไลฟ์สไตล์ บุคลิกบางคนอยู่คนเดียวตอบโจทย์ชีวิตมากกว่าก็มี คนแต่ละคนแตกต่างกัน ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับใครทั้งนั้น สถานะโสดหรือมีคู่ไม่ใช่ตัวตัดสินคุณค่าของมนุษย์ ถ้าใจลึกๆ เธออยากมีก็ใช้ชีวิตไป สักวันคนที่ใช่ก็จะมาเอง แต่ถ้าคิดอยู่แล้วว่าเป็นโสดสบายกว่า ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จำไว้ว่า'ถ้ามีแฟนห่วยๆ ทำให้ชีวิตแย่ลง แล้วจะมีทำไม จริงไหมคะซิส? ขอให้สาวโสดทุกคนมั่นใจและมีความสุขกับตัวเองให้มากๆ นะคะ เราเป็นกำลังใจให้ ( ˘⌣˘)♡(˘⌣˘ )