รูปภาพ:https://i.imgur.com/PmCIxMq.gif

เซย์ฮายค่าาา สาวๆSistaCafe' ชาวเผ่าคีโต 'ทุกคนผู้หญิงกับการลดน้ำหนักเนี่ย รู้กันอยู่ว่าเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร สาวๆ อย่างเราก็อยากมีหุ่นสวยเป๊ะ สนุกกับการแต่งตัว ถ่ายรูปตอนไหนก็ไม่ต้องกลัวหน้าบาน เหนียงออก พุงห้อยให้ต้องคอยใช้แอปรีทัชและการมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ก็เสี่ยงป่วยเป็นโรคสารพัดในอนาคตอีก ทุกวันนี้จึงมีทั้งสูตรไดเอทออกมามากมาย รวมถึงวิถีที่ไม่ใช่แค่เลือกกิน แต่เรียกได้ว่าเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การกินโดยสิ้นเชิงค่ะแม้วิธีนี้จะค่อนข้างโหดสำหรับคนรักคาร์บ ชอบกินแป้ง เพราะต้องตัดไปเลย เน้นกินโปรตีน ไขมันกับผักเท่านั้น แต่ผลลัพธ์คือน้ำหนักลดฮวบอย่างรวดเร็ว มีรีวิวการันตีจากคนมากมาย ที่สำคัญคีโตมีข้อดีสะดุดใจคนขี้เกียจตรงที่ว่า' ถ้ากินเป็น ก็ผอมได้ ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกาย แถมได้กินของอร่อยทุกวัน 'แต่บางคนก็ศึกษาเพียงผิวเผินแล้วทำตามเลย ไปๆ มาๆ กลับอ้วนกว่าเดิม - - ก่อนจะโทษว่าเข้าเผ่านี้แล้วไม่ได้ผล ขอให้เช็ก' 7 ความพลาดในการกินคีโต 'ในบทความนี้เสียก่อน บางทีที่ไขมันพุ่ง เหนื่อยเพลีย สมองล้า อาจเพราะเธอทำสิ่งเหล่านี้ก็เป็นได้!

1. เธอกิน ( หรือดื่ม ) อาหารที่ทำให้ร่างกาย ' อักเสบ ' มากเกินไป

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/WCyw39182.jpg

ข้อแรก การกินคีโตเจนิกจะไม่ได้ผลทันที เมื่อเธอกินอาหารที่ทำให้ร่างกาย ' เกิดการอักเสบ ' ซึ่งจะสกัดกั้นภาวะ ketosis ที่เป็นกระบวนการสลายไขมันเก่าออกมาใช้ บางคนเข้าใจว่าคีโต = กินไขมันได้ทุกชนิด ซึ่งผิดอย่างแรง!

ไขมันที่ได้รับอนุญาตในเผ่านี้คือไขมันชนิดดีเท่านั้น หากเป็นไขมันชนิดไม่ดี ผ่านการสังเคราะห์มาเยอะๆ จะยิ่งทำให้ร่างกายแย่ลงกว่าเดิมอีก #จงระวัง

แก๊งอาหารยอดแย่ที่ทำให้ร่างกายอักเสบ ป่วย เกิดโรคได้ง่าย ไม่ใช่แค่คีโตเท่านั้น แต่ถ้าดูแลสุขภาพอยู่ก็ไม่ควรกินเลย ได้แก่


น้ำตาล, แป้งขัดสี ( แป้งขาว ), น้ำมันพืช, เนื้อแปรรูป เช่น แฮมแผ่น ไส้กรอก, เนื้อสัตว์ที่ไม่ได้เลี้ยงแบบออร์แกนิก, สีผสมอาหารสังเคราะห์ และแอลกอฮอล์ปริมาณมากเกินพิกัด


ควรงดไปเลยเพื่อให้การไดเอทแบบคีโตได้ผลที่สุด


ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากอยากกินขนม ให้เลือกเป็นเนยถั่วไม่ใส่น้ำตาลแทน, หากอยากดื่มเครื่องดื่มให้สดชื่น ตื่นตัว จงเลือกเป็นชา กาแฟไม่เติมครีมและน้ำตาล หรือดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลม น้ำหวาน ชานมไปเลยจะดีที่สุด

และในมื้ออาหารไม่ควรลืมผักใบเขียว ปลาที่มีกรดไขมันจำเป็นสูง ( fatty fish ) และอาหารสุขภาพอื่นๆ ที่ช่วยต้านการอักเสบ ทำให้ร่างกายแข็งแรงค่ะ

2. ไม่ชอบ ' ตวงสัดส่วนอาหาร ' กินตามใจปากเป็นส่วนใหญ่

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/POgx39184.jpg

การกินคีโตไม่ใช่การกินแบบเรื่อยเปื่อย กะแค่คร่าวๆ แล้วน้ำหนักจะลดตามที่คิด แต่ต้องคำนวณชนิดของอาหารอย่างเป็นระบบ ปริมาณโปรตีน ไขมัน วิตามินเกลือแร่ต้องถึง วันนี้ต้องกินเนื้อกี่กรัม ผักกี่กรัม  พอน้ำหนักลดก็ต้องคำนวณใหม่ เพราะสัดส่วนก็จะลดลงแปรผันตามกับน้ำหนัก


เรียกง่ายๆ ว่าต้องอัปเดต Food Plan ตลอดเวลา ดังนั้นถ้าเธอเป็นคนขี้ลืม ขี้เกียจ ไม่เคยเตรียมอาหารด้วยตัวเองเลย ก็มีแนวโน้มมากที่จะไม่ได้ผล เผลอๆ ตัวบวมกว่าเดิมอีก

หากเธอกินอาหารที่ชาวเผ่าเรียกกันว่า' ปนเปื้อน 'เช่น มีน้ำตาลผสมอยู่แม้จะเพียงช้อนชาเดียวก็ตาม ร่างกายของเธอจะหลุดจากภาวะ ketosis ที่เผาผลาญไขมันทันที ซึ่งกว่าร่างกายจะมาถึงภาวะนี้ก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง ( เสียดาย... ) และหลายคนก็เกิดผลข้างเคียงตั้งแต่เบาจนถึงขั้นรุนแรง เช่น ปวดหัว เป็นไข้ ผื่นขึ้น คลื่นไส้ เป็นต้น

ทางที่ดีควรคิดตารางอาหารไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์แล้วทำใส่ทัปเปอร์แวร์ไป ตื่นเช้ามาก็หยิบกล่องออกจากบ้านได้เลย ประหยัดทั้งเงิน ทั้งเวลา และมั่นใจได้ชัวร์ว่าสิ่งที่กินจะไม่ส่งผลแย่กับร่างกายค่ะ

3. เธอได้รับ ' วิตามินและเกลือแร่ ' ในมื้ออาหารไม่เพียงพอ

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/hDiE39183.jpg

หากเข้าโหมดคีโตอย่างจริงจัง แม้เธอจะกินทั้งโปรตีน ไขมันดีและผักในปริมาณที่เพียงพอต่อวันแล้ว ร่างกายก็อาจจะยังอ่อนแออยู่ถ้ากิน ' วิตามินและแร่ธาตุเสริม ' ไม่เพียงพอ เพราะระหว่างทำคีโต 2 สัปดาห์แรก ร่างกายจะไม่ได้ขับแค่ของเสีย


แต่ขับแร่ธาตุอิเล็กทรอไลต์ที่จำเป็นออกมาด้วย เช่น โซเดียม แคลเซียม โพแตสเซียมและแมกนีเซียม เนื่องจากการงดแป้งโดยสิ้นเชิง จะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะที่มีแร่ธาตุออกมานั้นเอง

เมื่อร่างกายขับน้ำที่มีแร่ธาตุสูงออกมาแล้ว ก็มีความจำเป็นที่ต้องกินกลับเข้าไปใหม่! ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ถ้าเธอกินผักใบเขียวคู่กับเนื้อที่เลี้ยงด้วยหญ้า เลี่ยงการกินอาหารแปรรูป เธอก็จะได้แร่ธาตุจำเป็นที่ร่างกายต้องการแล้ว


หรือถ้าอาหารมื้อหลักมีไม่พอ อาหารเสริมก็เป็นทางเลือกที่ดี เช่น วิตามินรวม ( multivitamins ) ถ้ารู้สึกว่าตัวเองขาดสารอาหารรีบกินไว้เลย เพราะถ้าร่างกายอยู่ในจุดที่ขาดนานๆ เธอจะอยู่ในภาวะขาดน้ำ ตัวแห้งปากแห้ง มึนหัว ซึ่งทำให้น้ำหนักของน้ำที่หายไป ฟื้นคืนขึ้นมาอีกครั้ง หรือตัวบวมนั่นเอง

4. มีพฤติกรรมการนอน ' ผิดปกติ ' นอนไม่พอ นอนน้อย อดนอน ร่างพัง

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/GuQ239179.jpg

มีงานวิจัยค้นพบว่า หากสาวๆ นอนไม่ถึง 7-9 ชั่วโมงต่อวัน ร่างกายจะเริ่มรวนจากฮอร์โมนความเครียด ( คอร์ติซอล ) ที่พุ่งสูงปรื๊ด วันรุ่งขึ้นจะหิวจุบจิบ อยากกินนั่นกินนี่ตลอดเวลา ถ้าใจไม่แข็งจริง ก็ไม่พ้นตบะแตกหลุด ketosis ต้องมานั่งนับหนึ่งใหม่ตั้งแต่ต้นแน่นอน

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ถ้าปกติเป็นคนนอนดึก ปรับมานอนหัวค่ำทันทีไม่ไหว ลองเซตเวลานอนให้เร็วขึ้นคืนละ 20-30 นาที เช่น จากตี 1 เป็นเที่ยงคืนครึ่ง วันต่อมาจากเที่ยงคืนครึ่งเป็นเที่ยงคืน จนกว่าจะถึงเวลานอนที่เหมาะสมค่ะ

อุณหภูมิในห้องนอนที่เหมาะสมต่อการหลับ ควรเป็นอากาศที่ค่อนข้างเย็น หรือประมาณ 18 องศาเซลเซียส สำหรับคนไทยอาจจะรู้สึกว่าหนาวมาก! แต่ถ้าอยู่ในห้องมืดๆ แล้วปรับแอร์ที่ประมาณนี้ เธอจะมีคุณภาพการนอนที่ดีมากหลับลึก ตื่นมาสดชื่นได้ดีกว่านอนพัดลมอุ่นๆ หรือเปิดแอร์แค่พอเย็น หากใครหลับยาก กินเมลาโทนินก็ช่วยได้อีกแรง แต่ถ้าทำยังไงก็นอนไม่หลับ แนะนำปรึกษาหมอจะตรงจุดที่สุดค่ะ

5. กิน ' น้ำตาลเทียม ' เยอะเกินไป ถึง 0kcal ก็ไม่ผอมนะเออ!

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/37kf39181.jpg

เชื่อว่าชาวเผ่าคีโตมือใหม่หลายๆ คน ก็ตัดสินใจไดเอทวิธีนี้เพราะไม่อยากอด ยังอยากกินของอร่อย เห็นว่าของหวานคีโตมีเครื่องปรุงที่เรียกว่า ' น้ำเชื่อมไซรัป 0 แคล ' ขายกันทั่วไป ได้รสหวานแต่ไม่มีแคลอรี ถูกใจสุดๆ


ตั้งแต่กินคีโตมา กินขนมไม่หยุด จบมื้อด้วยน้ำอัดลม 0 แคลเข้าไปอีกให้ครบเซต แต่ก็สงสัย กินแต่ของไม่อ้วน แต่ตัวเองกลับน้ำหนักขึ้นซะงั้น มันเกิดจากอะไรกันแน่?

หลักการมันเป็นแบบนี้ เมื่อเธอดื่มน้ำอัดลม 0 แคลเข้าไป สารแต่งกลิ่น สารให้ความหวานที่แม้จะไม่มีพลังงาน แต่มันจะส่งสัญญาณเข้าไปที่สมองว่ามีน้ำตาลปริมาณเยอะเข้าร่างกาย ระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้น แต่เมื่อสมองรู้ตัวเมื่อไหร่ว่ามันไม่ใช่น้ำตาลจริง นรกจะมาเยือน เธอจะโหยขนมหนักมาก โหยมากกว่าก่อนจะกินน้ำอัดลมซะอีก ถ้าใจไม่แข็งพอก็เตรียมอ้วน!

รวมถึงไซรัปคีโตรสนั้นรสนี้ แม้จะไม่ไปกระตุ้น ketosis แต่กินบ่อยก็ทำให้อยากของหวานเพิ่มขึ้นอยู่ดี เปลี่ยนเป็นดื่มน้ำเปล่าหรือโซดาไม่ใส่น้ำตาลจะลดหุ่นได้ดีกว่า

6. กินอาหารที่มี ' แป้ง ' แฝงอยู่ เยอะเกินไปโดยไม่รู้ตัว

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/2xtC39185.jpg

เมื่อเข้าเผ่าคีโต เปิดกรุ๊ปคนที่ทำอาหารคีโตมาขายแบบไม่รู้จริง หรือร้านอาหารคีโตเดลิเวอรีที่มีตามโซเชียล บางครั้งเราจะเจอกับเมนู ' ยัดไส้ ' ที่ผสมแป้งมาแบบเนียนๆ โดยที่ตัวเราเองก็ลืมนึกถึงด้วยซ้ำว่ามันคือแป้ง!


อย่างที่รู้กันว่าไดเอทวิธีนี้ต้องเลี่ยงแป้งให้น้อยที่สุด หรือจริงๆ ก็คือตัดไปเลย แต่บางเมนูฮิตๆ  ก็แอบเคลือบน้ำตาลหรือชุบแป้งเพิ่มความกรุบกรอบมาโดยไม่รู้ตัวค่ะ

ตัวอย่างอาหารที่ควรระวังก็เช่น ไก่ทอดเกล็ดขนมปังกรอบ, สเต๊กราดซอสบาร์บีคิวผสมน้ำตาล, นมและโยเกิร์ตสูตร low-fat ที่ผสมแป้งเข้าไปแทน, ผลไม้แทบทุกชนิด เป็นต้นตามกฎทั่วไปของคีโตแล้ว เธอไม่ควรกินคาร์โบไฮเดรตเกิน 20-30 กรัมต่อวัน แต่ถ้าออกกำลังกายบ่อย แม้จะหลุดปนเปื้อนเล็กน้อย ร่างกายก็ยังอยู่ในภาวะ ketosis ได้ แต่เพื่อความชัวร์และได้ผลที่สุด ทำตามกฎอย่างเคร่งครัดจะดีที่สุดนะคะ

7. กิน ' ผัก ' กับ ' โปรตีน ' ไม่พอ ( หรือที่เรียกกันว่า กินไม่ถึง )

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/Skbd39186.jpg

สาวๆ บางคนก็กินคีโตแบบเคร่งมากจนเข้าขั้นแพนิก กลัวไปหมด กลัวจะกินอันนั้นเกิน อันนู้นเกิน เลยตัดสินใจกินน้อยๆ มันทุกอย่างไปเลย สรุปน้ำหนักก็ไม่ลงอยู่ดี!

นั่นเป็นเพราะว่า แม้ข้อห้ามที่เรารู้กันดีว่า กินคีโตต้องงดแป้ง แต่ถ้ากินโปรตีนกับผักไม่พอ หรือที่เรียกว่า' กินไม่ถึง 'ก็ทำให้ร่างกายมีปัญหาเช่นเดียวกันค่ะ

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ผักที่ชาวคีโตควรกิน ( keto-friendly ) เพื่อให้น้ำหนักลดลงและไม่ท้องผูก ควรเป็นผักที่มีวิตามินสูง ไม่มีส่วนผสมของแป้ง ไฟเบอร์สูง เช่น ผักเคล, บรอกโคลี, กะหล่ำดอก, กะหล่ำปลี, ผักโขม เป็นต้น หากวันไหนหิวมาก อยากกินให้อิ่มแปล้แต่กลัวตบะแตก แทนที่จะซัดเนยถั่วหรืออะโวคาโดเป็นชามๆ ก็ให้กินเน้นผักเหล่านี้แทน


อีกทั้งการกินอาหารประเภทโปรตีนเยอะๆ ก็ไม่ได้ยับยั้งกระบวนการเผาผลาญไขมันหรือ ketosis แต่อย่างใด ตราบใดที่ไม่ได้กินเกินสัดส่วนที่พอเหมาะกับน้ำหนัก ก็ไม่ต้องกลัวการกินเนื้อสัตว์นะคะซิส

รูปภาพ:https://media1.tenor.com/images/5655e204f3a4e77ddee64bbbe5cfdeb7/tenor.gif?itemid=4302398

---------------------------------

เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย หาสาเหตุที่น้ำหนักขึ้นพรวดพราดจากการกินที่เธอคิดไปเองว่าคือ ' คีโต ' ได้แล้วหรือยัง? มองเผินๆ คิดว่าดูกินง่าย แค่กินเนื้อกินไขมันแล้วก็ผอม แต่ถ้าจะไดเอทให้ได้ผล มันซับซ้อนกว่าที่คิดมาก ต้องมีวินัยและคำนวณสัดส่วนที่ต้องกินต่อวันให้เป๊ะๆ จะมากะเอาด้วยสายตาเหมือนกินคลีนหรือทำ IF ไม่ได้ เนื้อแต่ละกรัม ผักแต่ละขีดมีผลต่อน้ำหนักทั้งนั้น จะบอกว่าเป็นการลดความอ้วนที่ต้องเก่งเลขก็ว่าได้ ( เพราะชั่งตวงบ่อยมาก! ) ดังนั้นคนที่ทำจนผอมหุ่นสวยดั่งใจ ก็มีความขยัน พยายามไม่ได้ต่างจากการไดเอททั่วไปเลยนะ

น้ำหนักที่เด้งขึ้นมาแล้วก็แล้วกันไป หาช่องโหว่ที่ทำให้คีโตของเธอไม่ได้ผลในบทความนี้ก่อนเลย นำไปจัดแพลนอาหารให้ดี แล้วค่อยเริ่มใหม่อีกครั้ง เมื่อความรู้พื้นฐานแน่นแล้ว อะไรๆ ก็ง่ายขึ้น ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการลดน้ำหนัก ขอให้สาวๆ ทุกคนที่ตัดสินใจกลับเข้าเผ่าจงโชคดี ได้หุ่นสวยที่ใฝ่ฝันมาครอบครองกันนะคะ ถ้ามีเวลาก็ทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายจะดีมาก หุ่นจะได้เฟิร์มๆ เด้งๆ อิอิ =w= แล้วเจอกันใหม่ค่า ( ˊᵕˋ )♡.°⑅