รวมเรื่องฟิลเลอร์ ใครเหมาะกับการฉีดที่สุด มีดีอย่างไร อยู่ได้นานแค่ไหน?

การทำหัตถการเสริมความงามให้กับใบหน้าที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น “ ฟิลเลอร์ ”แต่ถึงกระนั้นจะให้เดินทางไปคลินิกโดยไม่ศึกษารายละเอียดให้เลยก็เกรงว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย ไม่ตอบโจทย์กับบางคนเช่นกัน และเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับคำถามยอดฮิต “ ใครเหมาะกับการฉีดที่สุด มีดีอย่างไร แล้วอยู่ได้นานแค่ไหน? ” วันนี้เราจึงอาสาพาไปหาคำตอบ

รูปภาพ:

อยากฉีดฟิลเลอร์ใครบ้างเหมาะสมที่สุด?

ใช่ว่าทุกคนจะสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ สาวตั้งครรภ์ คนที่เป็นเบาหวาน หรือคนที่ไม่สามารถควบคุมน้ำตาลได้ และคนที่มีการติดเชื้อง่าย คนในกลุ่มเหล่านี้ไม่ควรทำหัตถการประเภทนี้ ส่วนคนที่เหมาะจะฉีด มีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่ม ได้แก่1. ผู้ที่มีริ้วรอยหรือร่องลึกบริเวณรอบดวงตา มุมปาก หน้าผาก จมูก2. ผู้ที่ต้องการเติมเนื้อแก้มด้วย filler ให้มีความเต่งตึง เปล่งปลั่ง ( นอกจากใบหน้าก็ยังสามารถเติมที่หน้าอก หลังมือ หรือลำคอได้ )3. ผู้ที่ต้องการปรับแต่งรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่สมดุลมากยิ่งขึ้น

รูปภาพ:

ฟิลเลอร์ฉีดแล้วดีอย่างไร?

ช่วยยกกระชับใบหน้าปกติแล้วเมื่ออายุมีมากขึ้น เซลล์ผิวเปลี่ยนแปลงไป เช่น เซลล์ผิวชั้น smas ชั้นกระดูกที่ยุบตัว เกิดเป็นความหย่อนคล้อยไม่เต่งตึง ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้เส้นเอ็นยึดผิว ยกกระชับใบหน้าให้เต่งตึง เปล่งปลั่ง แลดูอ่อนกว่าวัยที่สำคัญไม่จำเป็นต้องใช้ปริมาณมาก ๆ ด้วย

ช่วยเติมเต็มให้ตื้นขึ้นใบหน้าของเราจะมีริ้วรอย มีร่องลึก เพราะคอลลาเจนบนใบหน้าลดน้อยลงไปตามอายุ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทำหัตถการที่ว่านี้เพื่อเติมเต็มเนื้อให้ตื้นขึ้น สามารถทำได้หลายจุดด้วยกัน เช่น หน้าผาก ปริมาณ 2 – 5 หลอด, ใต้ตา ปริมาณ 1 – 2 หลอด, ขมับ ปริมาณ 1 – 2 หลอด, แก้ม ปริมาณ 1 – 4 หลอด, คาง ปริมาณ 1 – 3 หลอด, ร่องแก้ม ปริมาณ 1 – 3 หลอด, ปาก ปริมาณ 0.5 – 1 หลอด รวมถึงบริเวณคอ ปริมาณ 2 – 4 หลอด และหลังมือ 2 – 5 หลอด เป็นต้นช่วยเสริมโหงวเฮ้งเมื่อใบหน้าของเราเข้ารูป เหมาะสม ก็จะช่วยในเรื่องโหงวเฮ้งตามความเชื่อ เช่น บางคนมีแก้มเปล่งปลั่ง ไม่มีริ้วรอยใต้ตา หน้าผากตื้นเต็มส่วน คางเข้ารูป ฯลฯ ก็จะทำให้เรามีความมั่นใจ ปรับเปลี่ยนสิ่งร้าย ๆ ให้กลายเป็นสิ่งดี ไม่มีอุปสรรคตามความเชื่อ เป็นต้นเห็นผลเร็ว และปลอดภัยต่อร่างกายการทำหัตถการรูปแบบนี้ไม่ใช่การทำศัลยกรรม ดังนั้น จึงไม่มีการผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นเป็นระยะเวลานาน แถมยังใช้เวลาดำเนินการน้อย เห็นผลรวดเร็วทันใจ ที่สำคัญเป็นสารธรรมชาติ สามารถสลายได้เอง ไม่มีสิ่งตกค้างใด ๆ กวนใจ และยังสามารถฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ ไปอีก

รูปภาพ:

ฟิลเลอร์ฉีดแล้วสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน?โดยทั่วไปแล้วการคงอยู่ของเจ้าสิ่งนี้จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ หรือรุ่นที่เราเลือก ถามว่าฉีดแล้วอยู่นานแค่ไหน เฉลี่ยแล้วตั้งแต่ 6 เดือน – 2 ปี เลยทีเดียว ทั้งนี้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อหาความเหมาะสมกับใบหน้า ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

สุดท้าย ดูแลตัวเองอย่างไรหลังฉีด

ในส่วนของการดูแลตนเองที่ถูกวิธีหลังจากที่ไปฉีดฟิลเลอร์มาเลยก็คือ ไม่ควรแต่งหน้า ไม่ควรใช้ครีมบำรุง ไม่ควรออกกำลังกายภายใน 48 ชั่วโมงเด็ดขาด รวมถึงไม่ทำกิจกรรมหรือสัมผัสความร้อน เช่น ออกแดด เล่นโยคะร้อน อบซาวน่า หรือถูหน้าแรง แนะนำให้นั่งแทนการนอนราบหลังฉีด 12 ชั่วโมงแรก และไม่อาจมองข้ามการดื่มน้ำเข้าสู่ร่างกายสร้างความชุ่มชื้นอย่างน้อย 8 – 12 แก้วต่อวัน

//////////