ใครอยากโบยบินเชิญทางนี้จ้าาา
แบบว่าช่วงนี้กระแส go to abroad
โยกย้ายเปลี่ยนประเทศกำลังมาแรงเลยทีเดียว
สำหรับการย้ายประเทศจากที่ตามไปส่องมา ก็เห็นว่าสามารถทำได้หลายทางเลยนะคะซิส
ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าทำธุรกิจ วีซ่าแรงงาน แต่งงานกับคนในประเทศ หรือเสี่ยงดวงวีซ่าลอตโต้ก็มีเหมือนกัน
แต่ถ้าเพื่อน ๆ อยากย้ายที่อยู่ แถมเพิ่มความรู้มาพัฒนาตัวเองไปด้วยขอวีซ่านักศึกษา แล้วทำงานต่อที่ประเทศนั้น ๆ ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่น่าสนใจ

แต่การไปเรียนต่างประเทศค่าใช้จ่ายก็สูงอยู่นะ!
สำหรับใครที่กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย บางคนงบยังไม่ถึง
ลองขอทุนเรียนต่อก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายเราไปอีกหน่อย
ซึ่งการขอทุนมันก็มีหลายขั้นตอนอยู่เหมือนกัน ต้องเขียนเอกสารขอทุนต่าง ๆ
เราก็เป็นคนหนึ่งที่ดู ๆ เรื่องทุนอยู่บ้างเหมือนกัน
วันนี้เลยเอา
เคล็ดลับเขียนเรียงความขอทุน ให้โดดเด่นโดนใจกรรมการ
ที่เราไปเจอมาฝากเพื่อน ๆ กันด้วย จะเป็นยังไงลองตามไปดูกันเลยค่า
✦✦✦✦✦✦✦✦✦
เขียนให้กระชับได้ใจความ
ในการขอทุนคงไม่ได้ทีแค่เราเท่านั้นที่เลือกสาขาวิชาหรือคณะนี้อยู่
คณะกรรมการที่รับคัดเลือกเขาคงต้องอ่านเอกสารขอทุนเป็นร้อย ๆ ฉบับ และคงไม่ได้มีเวลามากมานั่งพิจารณาแต่ละฉบับนาน ๆ เพราะฉะนั้นควรเลี่ยงการเขียนยืดยาว
เกริ่นแต่น้ำไม่มีเนื้อ อะไรแบบนี้เสี่ยงต่อการโดนปัดตกได้ง่ายค่ะ
ทางที่ดีควรเขียนให้กระชับได้ใจความ ตรงประเด็นบอกให้ชัดถึงเป้าหมายของเรา จากที่ไปส่องมาเขาบอกว่าความยาวประมาณ 500 คำพอดีที่สุดค่า

ไม่จำเป็นต้องใช้ศัพท์ยากมากมาย
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังคิดว่าควรใช้ศัพท์ระดับสูงหรือศัพท์ยาก ๆ ดีมั้ยในการเขียนขอทุน
จากที่เราดูมาหลายที่เขาแนะนำว่าไม่จำเป็นนะคะ เพราะบางทีถ้าศัพท์ยากเกินไป เราไม่คุ้นชินอาจจะทำให้ประโยคดูแปลก ๆ ผิดแกรมม่าได้ง่าย
คนอ่านก็อาจจะต้องตีความหลายชั้นด้วย
การใช้ศัพท์ที่เราคุ้นเคยและสื่อสารให้ตรงประเด็นเลยเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการเขียนขอทุนค่า

เขียนให้ดูเป็นรูปธรรม จับต้องได้
คำแนะนำการเขียนขอทุนหลายที่เลยนะคะ ที่เขาเน้นเรื่องการเขียนให้ดูเป็นนามธรรมจับต้องได้ ตอนแรกก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเขียนให้นามธรรมหมายความยังไง แต่สรุปเอาเองได้ว่า
ไม่ควรเขียนอะไรที่มันดูลอย ๆ ควรเขียนให้ดูเป็นเหตุเป็นผล มีเหตุผลมา support สิ่งที่เราจะเล่าเพื่อให้ประโยคดูมีน้ำหนักมาขึ้น
อย่างเช่น เราอธิบายว่าเราเลือกเรียนสาขานี้หรือคณะนี้ เพราะชอบวิชานี้ หรือสาขานี้น่าสนใจ อาจจะยังไม่พอเราควรจะบอกด้วยว่าชอบเพราะอะไร
สาขานี้น่าสนใจยังไง ส่งผลยังไงกับเรา
ประมาณนี้ค่า

เขียนอวยมหาลัย/คณะมากเกินไป เป็นความคิดที่ผิด
และถ้าเกิดเพื่อน ๆ กำลังคิดว่าขอทุนจากเขา งั้นขออวยหนัก ๆ ไว้ก่อนแล้วกัน ใจเย็นก่อนเพื่อน ๆ
การอวยมหาลัยเขาอาจจะทำให้เราตุ้บทุนก็ได้นะคะ ที่มันเป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าเราอาจจะหลงประเด็นในการเขียน
เพราะการที่ทางมหาวิทยาลัยให้เราเขียนขอทุน ก็เพื่ออยากทำความรู้จักเราให้มากขึ้น
อยากรู้ทัศนคติ เป้าหมาย หรือการแก้ปัญหาของเรามากกว่า
และไม่ใช่ว่าเราอวยไม่ได้เลยนะ แต่เราต้องอวยอย่างถูกจุดค่ะ
อย่างเช่นเลือกสาขานี้ เพราะมีความรู้น่าสนใจสามารถทำไปต่อยอด พัฒนาตัวเองได้ยังไงบ้าง มีบางวิชาที่แตกต่างจากมหาวิทยาลัยอื่น ให้เขารู้ว่าทำไมเราถึงเลือกมหาวิทยาลัยเขาอะไรประมาณนี้
น่าจะโดนใจคณะกรรมการอยู่บ้างค่า

ไม่ควรเชื่อมโยงข้อมูลจากเรียงความแต่ละส่วน
สำหรับเรียงความขอทุน
ส่วนใหญ่น่าจะมีอยู่ประมาณ 3 ส่วน อย่าง Study Plan, Statement of Purpose และ Motivation Letter
ถึงเนื้อหาของเรียงความจะมีความใกล้ ๆ กันอยู่หน่อย ๆ
แต่ไม่ควรคัดลอกหรือเขียนเนื้อหาให้เชื่อมกันเด็ดขาดนะคะ
อย่างแรกเลยถ้าเรา copy บางส่วนจากส่วนใดส่วนหนึ่งมาทั้งดุ้น หรือเขียนเหมือน ๆ กันตัดบางประโยค อาจจะดูรีบ ๆ ไม่ได้ใส่ใจเท่าที่ควร
กรรมการอาจจะไม่ได้เห็นความตั้งใจของเราชัด
และกรรมการคัดเลือกมีหลายคน เขาไม่ได้อ่านเรียงลำดับเหมือนที่เราเขียนไป ถ้าเราเชื่อมโยงประมาณว่าเหมือนที่ได้กล่าวไปใน Statement of Purpose กรรมการอาจจะไม่เข้าใจสิ่งที่เราจะสื่อได้
ครบถ้วน เพราะฉะนั้นลองเรียบเรียงใหม่ในแต่ละส่วน แสดงให้เขาเห็นถึงความใส่ใจและความตั้งใจในการเรียนของเราค่ะ

เขียนแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ จุดมุ่งหมายของเราต้องชัด
อย่างที่ได้บอกไปว่าเรียงความขอทุน
มหาวิทยาลัยเขาต้องการจะเห็นว่าทัศนคติเราเป็นยังไง จุดหมายของเราไปทางไหน มีเหตุผลเพียงพอที่เขาจะสนับสนุนมั้ย
ความ
ตั้งใจเลยเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ ที่ทำให้กรรมการมั่นใจว่าเราจะนำความรู้ที่เรียนมาสามารถพัฒนาตัวเองให้มีความรู้และเก่งขึ้นได้
ลองทำให้เขาเห็นภาพขัด ๆ ว่าเราจะสามารถต่อยอดความรู้ที่ได้รับมาได้ยังไง
อย่างเช่น Paln อีก 5 ปีข้างหน้า เราทำอะไรต่อ นำความรู้ที่ได้มาสร้างอาชีพของเรายังไง
ทำให้เขารู้ว่าเราสามารถใช้ทุนของเขาได้อย่างคุ้มค่าประมาณนั้นค่า

ตรวจทานให้ดีก่อนส่ง
หลังจากเขียนจนเสร็จหมดแล้ว ลองพักและหาสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ทำก่อน
แล้วค่อยกลับมาตรวจทานดูอีกครั้ง เผื่ออาจจะเจอข้อผิดพลาด หรือมีประเด็นตกหล่นที่ลืมเขียนไป มีรูปประโยคไหนที่ดูแปลก ๆ ไปมั้ย
ลองเอาเรียงความไปตรวจทานอีกรอบในเว็บเช็กแกรมม่าดูก่อนได้ ที่เราใช้บ่อย ๆ คือonline correction
สามารถตรงดูแกรมม่า ตรวจคำผิดได้ด้วย แถมยังมีอธิบายให้ด้วยว่ารูปประโยคนี้ผิดหลักแกรมม่าตรงไหน
ยังไงก็เอาให้เป๊ะ ให้มั่นใจชัวร์ ๆ แล้วก็กดส่งได้เลยค่ะซิสส

✦✦✦✦✦✦✦✦✦
และนี่ก็เป็น
เคล็ดลับการเขียนเอกสารขอทุนเรียนต่อต่างประเทศ
พอกรุบกริบที่เราเอามาฝากเพื่อน ๆ ในบทความนี้ค่า
หวังว่าน่าจะพอช่วยเพื่อน ๆ ในการเขียนเอกสารขอทุนได้บ้างนะคะเราเชื่อว่าถ้าเรามุ่งมั่น แสดงให้เห็นว่าเรามีจุดมุ่งหมาย และตั้งใจในการเรียนครั้งนี้จริงๆ คงน่าจะมีแววเข้าตากรรมกาาอยู่บ้างแหละ
ยังไงก็ขอเอาใจช่วยซิสทุกคนเลยนะคะ รวมถึงตัวเราเองด้วย 5555
ว่าแล้วขอตัวไปร่างเรียงความของตัวเองบ้างแล้วจ้า แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่า บ๊ายบาย
cr. 4 เทคนิคเขียนเรียงความสมัครเรียนต่อนอก ให้ชนะใจกรรมการ!
https://www.dek-d.com/article/29094/
cr. Study Plan! เขียนยังไงให้โดนใจกรรมการ
https://www.dek-d.com/studyabroad/30000/
cr. Study Plan / Statement of Purpose
https://wanderfulminds.com/study-plan-statement-of-purpose/