บทที่ 15

เช้าวันทำงานเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่

มิราวดีรีบอาบน้ำตื่นแต่เช้าเพราะว่ามีประชุมที่สำนักงานใหญ่ของลูกค้า สองมือหยิบกระเป๋า รองเท้าเเละรีบเดินออกจากห้องด้วยความรีบเร่งกลัวว่าจะไปสาย

หลังจากนั่งประชุมสัมมนาไปเกือบครึ่งวัน ก็ต่างแยกย้ายกัน มิราวดีเลือกที่จะไปทักทายลูกค้าและแนะนำร้านอาหารเลี้ยงช่วงมื้อกลางวันก่อนกลับเข้ามาที่ออฟฟิศช่วงเย็น เพื่อสรุปรายงานที่ลูกค้าอีกร้านต้องการรวมถึงเซ็นเอกสารอนุมัติบางอย่างเเทนเจ้านายตามอำนาจที่ได้รับมอบหมาย

“พี่คะ เจ้านายเรียกเข้าไปพบค่ะ” ศิตราพูดขณะวางเอกสารให้ “เอกสารนี้ส่งอีเมลให้แล้วนะคะ แต่ลูกค้าต้องการแฟ้มกระดาษที่มีลายเซ็นเจ้านายค่ะ ถ้าพี่ไปหาเจ้านายฝากไปด้วยนะคะ ลูกค้าขอวันพรุ่งนี้ค่ะ เดี๋ยวมินจะเข้าไปช่วงบ่ายไปพบเเละนำไปให้เลยทีเดียว”

มิราวดีพยักหน้ารับพลางหยิบเอกสารเเละขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนหันไปพูดกับมิตรา

“งาน XC0-024 สินค้าเข้าจากเมืองนอกแล้วใช่ไหม”

“ยังค่ะ เห็นแจ้งว่าสินค้าจะถึงโกดังเราบ่ายวันพรุ่งนี้ค่ะ”

“ถ้ามาถึงแล้วรีบจัดการส่งของให้ลูกค้าเลยนะ เพราะจะได้ปิดยอดให้เสร็จไป”

“ได้ค่ะ”

หลังสิ้นเสียงขานรับของศิตราแล้ว หญิงสาวก็รีบเดินตรงไปยังลิฟต์เพื่อลงไปที่ตึกอีกฝั่งทันที สองเท้าก้าวออกจากลิฟต์ ตรงมาหยุดอยู่หน้าห้อง

ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ

มิราวดีเคาะประตูก่อนเปิดเข้าไป ดวงตากลมสังเกตชายหนุ่มที่นั่งก้มหน้าอ่านบางอย่างผ่านเครื่องสื่อสารพกพาจึงเดินเข้าไปไม่ให้รบกวน และวางเอกสารที่ต้องเซ็นไว้ที่ขอบโต๊ะ รอจนกระทั่งเขาเงยหน้าขึ้นมา

“คุณเรียกพบฉันหรือคะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”

รูปภาพ:

รชตยิ้มที่มุมปากด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง พลางขยับตัวนั่งในท่าที่สบาย

“ใช่ เรื่องงานแต่งงานน่ะ”

“คะ” เธอขานรับอย่างมึนงง ที่เรียกเธอเดินมาคุยเพราะเรื่องนี้งั้นเหรอ “เดี๋ยวค่ะ นี่มันเวลางานนะคะ”

“อืม ผมรู้” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

หลังจากที่คิดทบทวนถึงการกระทำที่เย็นชาเมื่อวาน มันอาจจะทำให้เธอเปลี่ยนใจหรือหาข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงการแต่งงานก็ได้ ถึงแม้จะเป็นการแสดงแต่ก็ไม่อยากทำไม่ดีกับเธอ

“คุณไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวกับผม ทั้งยังคิดระแวงว่าผมจะรักคุณไหม เพราะอะไรถึงขอคุณแต่งงาน”

“แล้วมันเกี่ยวกันยังไงเหรอคะ”

มิราวดีถามพลางสบตามอง ถึงจะเคยคาดหวังความรักจากการแต่งงาน แต่การตกลงแต่งงานกับผู้ชายคนนี้มันคนละกรณีกัน การแต่งงานกับเขาเพื่อความปลอดภัยและสงบสุขในชีวิตของเธอก็เท่านั้น

“ฉันไม่เคยระแวงเลยค่ะ ไม่ว่าคุณจะแต่งงานกับฉันเพราะเหตุผลอะไร แต่ฉันแค่สงสัยว่าทำไมต้องเป็นฉัน คือ ฉันหมายถึงคุณจะเลือกผู้หญิงที่ดีกว่าฉันก็ได้นะคะ”

หญิงสาวไม่ได้คาดหวังความรักจากผู้ชายที่เจอกันไม่กี่ครั้งอยู่แล้ว สาเหตุที่ตอบรับการแต่งงานเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของเธอล้วน ๆ

รชตนิ่งเงียบ ขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานเดินเข้ามาหา

“คุณกำลังหมายถึง ผมสามารถแต่งงานกับใครก็ได้ที่ดีกว่าคุณ”

“เอ่อ ก็ ประมาณนั้นค่ะ” มิราวดีตอบพลางก้าวถอยหลังออกห่าง “ใกล้ไปแล้วค่ะ ถอยออกได้ไหมคะ”

ชายหนุ่มไม่สนท่าทางและคำพูดของอีกฝ่าย ยิ่งเห็นการปฏิเสธของเธอแล้วยิ่งทำให้อยากแกล้งมากขึ้น “ทำไม รังเกียจผมเหรอ”

“ปะ เปล่าค่ะ”

ท่าทางและคำพูดของหญิงสาวช่างตรงข้ามกันจนชายหนุ่มมองออก

“แค่ตอนนี้อยู่ในเวลางาน มันไม่เหมาะสมก็เท่านั้นเอง”

ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก

เสียงของเข็มนาฬิการุ่นเก่าในห้องเดินไปเรื่อย ๆ ในขณะที่มิราวดีเอง

ก็ไม่รู้ตัวเลยว่าเดินถอยหลังหนีออกมาแค่ไหน แต่ทว่าเขากลับยังไม่ยอมหยุด ทั้งสีหน้านิ่ง ๆ เหมือนว่าจงใจนั่นอีก !

เธอเหลือบมองด้านหลังที่ถอยเกือบชิดโซฟา

“ว๊าย !”

ดูเหมือนว่าการพยายามหลบหลีกจะไม่สำเร็จ เพราะดันสะดุดขาของตัวเอง ร่างหญิงสาวเซกำลังจะล้มลงกับพื้นทว่ารชตใช้แขนเพียงข้างหนึ่งช่วยรั้งไว้และดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด ในจังหวะที่ใช้แรงดึงทำให้ใบหน้าเธอชนกับแก้มสากของเขา ดวงตากลมกลอกไปมาและรีบเบี่ยงหน้าก้มหนีทันที มือสองข้างพยายามดันเขาออกห่าง

“เอ่อ เจ้านายคะ”

โปรดติดตามตอนต่อไป...