
ทำไมเราถึงไม่ชอบฤดูฝนกันนะ? 6 มุมมองใหม่ๆ ที่จะทำให้เรามีความสุขในชีวิตมากขึ้นจากสายฝน😀🌧
ฤดูกาลที่เปียก แฉะ เหนอะหนะ และมีคนชื่นชอบน้อยที่สุดก็คงหนีไม่พ้นฤดูฝนสินะ แต่สาวๆ รู้ไหมคะว่าคนที่ชื่นชอบหน้าฝนกลับกลายเป็นคนที่มีความสุขในชีวิตมากกว่าคนทั่วไปในหลายๆ จุดเลยทีเดียว
สวัสดีค่าสาวๆ ซิสตาทุกคน กลับมาเจอกันในเดือน “กรกฎา หน้าฝน” อีกแล้วนะคะ สาวๆ เป็นยังไงกันบ้างคะ? มีเรื่องทุกข์ใจอะไรบ้างไหม? หวังว่าสาวๆ คงไม่ได้กำลังร้องไห้เหมือนกับสายฝนที่สาดลงมาอยู่นะคะ แต่พอพูดถึงเรื่องฤดูกาลสาวๆ หลายๆ คนคงรู้กันอยู่แล้วว่าในหลายๆ ประเทศที่อยู่เหนือแถบเส้นศูนย์สูตรนั้นมีฤดูกาลทั้งหมด 4 ฤดูหลักๆ ต่างกับประเทศไทยของเราที่มีแค่ 3 ฤดูกาลเท่านั้น นั่นก็คือ ฤดูร้อน ฤดูร้อนมาก และฤดูร้อนโคตร 5555 ไม่ใช่ๆ อย่าแซวฤดูกาลประเทศเราสิ มีฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาวที่ไม่หนาวเอาซะเลย ซึ่งถ้าถามสาวๆ ว่าชอบฤดูกาลไหนกันบ้าง ก็คงจะมีคนชอบฤดูฝนน้อยที่สุดแน่นอน แต่สาวๆ รู้ไหมคะว่าคนส่วนน้อยที่ชอบฤดูฝนเหล่านี้ พวกเขามีความคิดหรือมุมมองที่ต่างจากคนที่ชอบฤดูกาลอื่นอย่างไรที่ทำให้เขากลายเป็นคนที่มีความสุขในชีวิตแบบนี้ นั่นแหน่! ต้องอยากรู้แล้วแน่เลย ถ้าอยากรู้แล้วก็ไปดูที่ข้อแรกกันเลยค่า
1.เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิตผ่านประสาทสัมผัส

สำหรับแต่ละคนคงเคยมีประสบการณ์ที่เกี่ยวกับฤดูฝนต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ดีหรือแง่ร้ายก็ตาม ซึ่งสำหรับคนที่ไม่มีปัญหากับฤดูฝน สามารถนอนขดตัวหาเครื่องดื่มอุ่นๆ มาดื่ม หาหนังสือดีๆ มาอ่านได้ เรียกว่า Pluviophiles หรือ คนที่รักฝนนั่นเองค่ะ คนเหล่านี้เขาจะใช้หูในการฟังเสียงฝนที่ตกกระทบลงมาและสามารถจินตนการถึงภาพทิวทัศน์ของมันผ่านหน้าต่างได้เลย แต่ไม่เพียงแค่หูเท่านั้น พวกเขายังมีความสุขจากการได้กลิ่นไอน้ำของฝนและชอบลิ้มรสชาติเย็นฉ่ำจากน้ำฝนที่ตกกระทบลงบนผิวกายและลิ้นที่ทำให้รู้สึกสดชื่น และไม่ลังเลที่จะอ้าแขนรับฝนที่พร่างพรายลงมาเหล่านั้นอีกด้วย สำหรับบ้านสาวๆ คนไหนที่ไม่ค่อยมีควันรถและอากาศดีสามารถลองสัมผัสประสบการณ์ดีๆ อย่างการออกมาข้างนอกตอนฝนตกและปล่อยให้ฝนชำระล้างความเครียด ความเหนื่อยล้าให้ออกไปได้นะ แต่หลังจากนั้นต้องอย่าลืมรีบกลับเข้ามาอาบน้ำเช็ดผมนะคะ เดี๋ยวจะป่วยเอาเสียก่อน
2. การมีความมั่นใจในตัวเอง

มีใครเคยคิดว่าอยากลอง “ทำตัวเหมือนเด็ก 4 ขวบที่สามารถวิ่งเล่นกลางสายฝนโดยไม่สนใจว่าใครจะมองหรือกำลังคิดอะไรอยู่บ้างไหมคะ?” สำหรับคนที่ชอบฤดูฝน หรือ Pluviophiles พวกเขาคงไม่คิดว่าการเปียกฝนจนผมเสียทรงหรือเครื่องสำอางบนหน้าหลุดเป็นเรื่องที่หน้าอายเลย เพราะพวกเขาไม่สนใจกับมันและอยากปล่อยตัวปล่อยใจท่ามกลางสายฝนที่สาดลงมามากกว่า ซึ่งการที่จะทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ทำได้นะคะ เพราะ คนที่ทำนั้นจะต้องมีความมั่นใจในตัวเองมากระดับนึงและไม่แคร์สายตาที่คนอื่นมองเลย สำหรับเราถ้ามีโอกาสก็คิดว่าอยากลองทำแบบนี้สักครั้งในชีวิตเหมือนกันค่ะ
3. Pluviophiles มีความยืดหยุ่นในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

ถ้าฝนไม่ตก ดอกไม้ก็คงไม่บาน ถ้าไม่มีอุปสรรคมาขวางกั้น เราก็คงไม่สามารถเติบโตขึ้นมาได้ขนาดนี้ การที่ฝนตกลงมาในฤดูฝนสำหรับบางคนอาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่น่าเศร้า รำคาญใจ เช่น เราจะเอาผ้ามาตากก็ไม่แห้ง จะไปข้างนอกก็ไม่สะดวก แต่สำหรับ Pluviophiles พวกเขาจะสนใจในข้อดีที่ซ่อนอยู่ของฤดูฝนมากกว่า อย่างการที่ฝนตกลงมานั้นสามารถช่วยทำให้ดอกไม้หรือพืชพรรณต่างๆ เจริญงอกงามได้ดี อีกทั้งฝนยังช่วยเติมเต็มแหล่งน้ำตามธรรมชาติให้เต็มและเพียงพอสำหรับใช้สิยได้ด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ฤดูฝนไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่น่ารำคาญใจหรือส่งผลกระทบต่อ Pluviophiles เลย เพราะพวกเขาเลือกที่จะมองในแง่มุมที่ดีของมันมากกว่า ซึ่งข้อดีในส่วนนี้ของ Pluviophiles ก็สามารถนำไปปรับใช้กับเรื่องอื่นๆ รอบตัวได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
4. การมองเห็นความสวยงามในความเศร้า

ที่มารูป : i.pinimg.com
ในฤดูฝนที่ฟ้าครึ้ม เมฆเริ่มจับตัวหนา จนกระทั่งมีเม็ดฝนตกลงมาทีละหยดจนสาดเป็นสายลงมาจากฟ้า เปรียบเหมือนกับเรามองเห็นใครบางคนกำลังร้องไห้อยู่เลยนะคะ มันให้ความรู้สึกเศร้าๆ เหงาๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความสงบอีกแบบ สำหรับเราและใครหลายๆ คนคงจะมีช่วงเวลาที่เหงาและนั่งกอดเข่าอยู่บนที่นอนในฤดูฝนบ้างใช่ไหมคะ? เรามองว่าถึงแม้ท้องฟ้าตอนฝนตกอาจไม่ได้ดูสวย ไม่ได้มีแดดอบอุ่น มีแค่เสียงฝนเทกระหน่ำและฟ้าร้อง แต่มันก็แฝงไปด้วยเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ไม่มีใครเหมือน นั่นก็คือ เป็นเพื่อนแบ่งปันความทุกข์ยามเศร้านั่นเอง เราอาจลองคิดว่าอุปสรรคและปัญหาที่เข้ามาในชีวิตเป็นเหมือนกับฝนที่นานๆ จะตกที แต่หลังจากตกเสร็จก็มองเห็นฟ้าสว่างพร้อมกับคราบน้ำตาที่เหือดแห้งไปดูสิคะ เราว่ามันน่าจะช่วยทำให้สาวๆ รู้สึกว่าเราไม่ได้กำลังร้องไห้อยู่คนเดียว แต่เรายังมีฝนที่ร้องไห้เป็นเพื่อนข้างๆ กันอยู่ตรงนี้เสมอไม่ไปไหน
5. Pluviophiles รู้ว่าพายุที่แท้จริงคืออะไร

ที่มารูป : i.pinimg.com
สำหรับใครที่คิดว่าการที่ฝนตก เท่ากับการเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ มีแนวโน้มที่จะถูกมองว่าเป็นคนที่มีความอดทนต่อความเหนื่อยยากได้น้อยกว่าคนอื่นๆ เพราะในความเป็นจริงแล้วฝนหรือฤดูฝนนั้นไม่ใช่อุปสรรคที่ใหญ่เท่าไหร่เลย เมื่อเทียบกับพายุ สำหรับ Pluviophiles นั้นพวกเขาสามารถเรียนรู้ความยากลำบากของชีวิตผ่านพายุที่พัดโหมกระหน่ำในธรรมชาติอย่างไม่หวาดหวั่นได้ผ่านมุมมองและแนวคิดจากธรรมชาติอย่าง ต้นไม้ นั่นเอง โดยปกติต้นไม้ไม่สามารถเคลื่อนที่หนีฝนหรือพายุได้ พวกมันต้องเตรียมตัวเผชิญกับสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายที่จะถาโถมเข้ามาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ซึ่งถ้าหากมันยังอยากมีชีวิตอยู่ ก็ต้องพยายามดิ้นรนและปรับตัวตามสถานการณ์อยู่เรื่อยไปเนื่องจากไม่สามารถหลบหลีกได้ Pluviophiles ก็เช่นกัน พวกเขามักจะมีวิธีการรับมือต่ออุปสรรคเล็กๆ ที่เข้ามาได้เป็นอย่างดี ดังนั้นพวกเขาจึงไม่หวาดหวั่นกับสายฝนเล็กๆ ที่มี แต่เตรียมพร้อมหาวิธีสำหรับพายุลูกใหญ่ที่จะพัดเข้ามามากกว่า
6. Pluviophiles รู้จักตัวเองดี

คนส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบฤดูฝนมักจะรู้จักตัวเองเป็นอย่างดี ถึงความสามารถ ความชอบ ไปจนถึงการวางแผนอนาคตว่าอยากจะมีชีวิตเป็นแบบใด แม้แต่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด พวกเขาก็ไม่ย่อท้อและพยายามชื่นชมความสวยงามที่เป็นไปในชีวิต โดยการใช้เวลาที่มีอยู่อย่างมีความสุขไปกับสายฝน ที่สามารถช่วยทำให้เขาลืมความเครียดที่มีอยู่และสร้างความสุขเล็กๆ ให้กับตัวเองแทน สำหรับสาวๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้คงคิดว่าทำไมคนที่ชื่นชอบฝนเจ๋งจังเลย แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะในส่วนลึกของสาวๆ ก็อาจจะมีส่วนที่ชื่นชอบฝนกันบ้างก็ได้ เพียงแต่มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรู้สึกและแสดงออกว่ารักฝนจริงๆ

จบลงไปแล้วกับ 6 มุมมองของคนที่ชอบฤดูฝน ว่าพวกเขาเห็นและมีมุมมองแบบไหนที่ต่างกับคนอื่นๆ บ้าง สาวๆ ที่อ่านครบแล้วเห็นว่ามีข้อไหนที่ตรงกับตัวเองบ้างรึเปล่าคะ? แต่ถ้ามีครบแล้วสาวๆ ไม่ใช่ Pluviophiles ก็ลองแชร์มาพูดคุยกันได้นะคะ
ส่วนสาวๆ ที่ชอบฤดูกาลอื่นที่ไม่ใช่ฤดูฝนก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนที่ไม่มีความสุขนะคะ แค่สำหรับคนที่ชอบฤดูฝนเขาอาจจะมองเห็นในมุมที่คนอื่นไม่ค่อยมองแค่นั้นเองค่ะ ซึ่งบางทีการจะเห็นมุมมองดีๆ เหล่านี้ก็ไม่จำเป็นว่าต้องพยายามจะมีความชอบแบบนี้ก็ได้นะคะ เพราะการเรียนรู้ความสุขจากมุมมองคนอื่นก็เป็นการสร้างมุมมองความสุขแบบหนึ่งให้ตัวเองได้เช่นกันค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าชีวิตของสาวๆ มีเรื่องยุ่งยากให้ต้องเผชิญแล้วคิดหาทางออกไม่ได้ ก็ลองเปิดโอกาสให้ฝนช่วยลบล้างความเศร้าเสียใจเหล่านั้นดูนะคะ เพราะ ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ ถ้าไม่มีฝนตกลงมา พวกเราก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นสายรุ้งสวยๆ พาดผ่านอยู่บนฟ้าอย่างแน่นอน ดังนั้นอย่ากลัวฝนเล็กๆ ที่สาดและเตรียมพร้อมทุกโอกาสสำหรับพายุลูกใหญ่ที่จะมาดีกว่านะคะ สู้ๆ ค่าา สาวๆ ซิสต้าทุกคน