บทที่ 19

รูปภาพ:

“เดี๋ยวค่ะ !” มิราวดีตกใจหน้าเเดง นี่เขาจะรีบเข้าหอในขั้นตอนสุดท้ายของงานแต่งเลยเหรอ เธอยังไม่ทันเตรียมใจเลยนะ

“มีอะไรเหรอ” รชตหันมองพลางเดินเข้ามาหา ยิ่งทำให้หญิงสาวตกใจมากกว่าเดิม ถึงจะพูดเเต่สายตาก็แอบมองกล้ามท้องอีกฝ่าย

“คือฉัน ยังไม่พร้อมที่จะ...” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมเลย เขาเกิดมาหน้าตาดี หุ่นยังดีอีกด้วย ไหนจะรวยล้นฟ้าอีก ถึงไม่อยากเข้าหอแต่ถ้าเป็นเขาคนนี้ เธอยอมก็ได้

เขาเลิกคิ้วมองคนตัวเล็กทำท่าเลิ่กลั่ก กระวนกระวาย มุมปากยิ้มออกมาพลางสาวเท้าเดินเข้าไปหา

มิราวดีมองเเละรีบถอยหลังหนีอย่างรวดเร็ว

“ทำไม”

ในที่สุดก็ถูกต้อนจนมุมจนได้ มิราวดีหันมองกำเเพงที่ไม่มีพื้นที่ให้ถอยหนีต่อ ทั้งที่ห้องก็ออกจะใหญ่ทำไมเดินเร็วเเบบนี้ล่ะ

“ขอเวลา ฉันทำใจก่อนได้ไหมคะ” เธอตอบเสียงเเผ่วพลางก้มหน้าที่แดงก่ำหลบสายตาของเขา

“ทำใจ” รชตยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาว เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้เเก้มพลางผ่อนลมหายใจออกมา มืออีกข้างยกดันที่กำเเพงไว้ไม่ให้เธอหนี“ทำใจมองผมถอดเสื้อผ้าเหรอ งั้นผมต้องใส่ไปใหม่ใช่ไหม”

ถอดเสื้อผ้าเหรอ !มิราวดียิ้มเขินก้มหน้างุด

“คือ…ฉัน…” เธอเลิ่กลั่ก “คิดว่าคุณจะ...เอ่อ...”

เขาขำในลำคอ “คุณจะถอดเสื้อผ้าต่อหน้าผมด้วยก็ได้นะ”

มิราวดีเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาตกใจจนลืมไปว่าอีกฝ่ายยังอยู่ใกล้

“เข้าไปอาบน้ำกับผมไหม” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่ก็ทำให้เธอหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม

“คุณจะได้ไม่ต้องทำใจเวลาเห็นผมถอดเสื้อผ้าบ่อย ๆ”

“ไม่ค่ะ คุณอาบน้ำก่อนเลยค่ะ”

รชตยิ้มที่มุมปากพลางขยับตัวถอยออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ปล่อยให้เธอยืนอึ้งด้วยหัวใจสั่นไหวราวเเก้วที่ใกล้จะเเตกเต็มที

มิราวดีแทบจะมุดลงดิน ก็คิดว่าเขาถอดเสื้อผ้าเพราะจะเข้าหอกับเธอทันทีที่กลับมาเลย

บ้าที่สุด นี่เราคิดอะไรอยู่เนี่ย !

นานกว่าที่ประตูห้องน้ำจะเปิดออกอีกครั้ง มิราวดีหันมองชายหนุ่มที่เดินออกมาในชุดคลุมอาบน้ำ สภาพผมเปียก แก้มทั้งสองข้างของเธอก็ผ่าวร้อนขึ้นมาทันที

“คุณอาบน้ำต่อได้เลยนะ”

“ค่ะ” ถึงจะบอกว่าอาบได้เลยแต่เธอจะใส่อะไรนอนกันล่ะ เธอไม่มีเตรียมเสื้อผ้ามาที่นี่ด้วยสักหน่อย มิราวดีมีสีหน้าคิดหนักเรื่องการอาบน้ำ ครั้นจะนอนทั้งอย่างนี้ก็เกรงใจอีกฝ่ายที่อาบน้ำเสร็จแล้ว

“คุณลืมไปหรือเปล่าคะ ว่าฉันยังไม่มีเสื้อผ้า คืนนี้ฉันไม่...อาบน้ำได้ไหมคะ”

รชตหันมองท่าทางเขินอายของหญิงสาว ส่วนตัวก็ลืมนึกถึงเรื่องนี้ด้วย เพราะการย้ายเข้ามาโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจหรือเตรียมพร้อม

“ไม่ได้”

“แต่ว่าฉันไม่มีเสื้อผ้า...เปลี่ยน”

ชายหนุ่มเดินหายเข้าไปในห้องเสื้อผ้าก่อนจะหยิบเสื้อยืดตัวใหญ่ส่งให้หญิงสาว

“คุณใส่ตัวนี้ไปก่อน ผมยังไม่เคยใส่”

“ค่ะ” มิราวดีรับเสื้อจากมือของเขาแล้วมอง มีเพียงแค่เสื้อยืดตัวเดียว หรือคืนนี้ต้องเข้าหอและเพราะเขาไม่อยากถอดเยอะจึงให้แค่ตัวเดียว

“คุณสบายใจได้คืนนี้ผมจะไม่ทำอะไรคุณ” รชตพูดด้วยน้ำเสียง เรียบนิ่งพลางสาวเท้าเดินเข้ามาหา“หรือถ้าคุณไม่พอใจผมจะใส่เสื้อยืดตัวเดียวนอนเป็นเพื่อนคุณก็ได้นะ”

“คุณ !” มิราวดีหน้าแดงเพราะคำพูดอีกฝ่าย ไปไม่ถูก “มะ...ไม่ต้องหรอกค่ะ”

บ้าไปแล้ว เขากล้าพูดเรื่องน่าอายแบบนี้ออกมาได้อย่างไรกัน

“มันเป็นเรื่องน่าอายเหรอ” รชตพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพลางส่งสายตามอง เพราะว่าการเป็นสามีภรรยากันเรื่องแบบนี้ก็ถือว่าปกติไม่เห็นน่าอายตรงไหนเลย หรือว่าเขาอยู่มานานเกินไปจนไม่ทันยุคสมัยของคนที่เปลี่ยนไป ?

“ก็ใช่น่ะสิคะ” มิราวดีมีท่าทีเขินอายทำตัวไม่ถูก แต่ก็ตกใจเรื่องที่เขาพูดออกมาราวกับว่าอ่านใจของเธอได้ “เอ่อ...ฉันขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ”

หญิงสาวรีบตัดบทสนทนาและเดินเข้าห้องน้ำปิดประตูลงทันที ทางด้านรชตมองประตูห้องที่ปิดลงด้วยหัวใจที่รู้สึกแปลกอย่างที่ไม่เคยเป็น แม้จะบอกว่าทำทุกอย่างเพื่อแก้คำสาป แต่ทำไมความรู้สึกที่เหมือนเกลียวคลื่นในอกนั้นไม่สงบลงเสียที อีกทั้งเวลาผ่านไปยิ่งรุนแรงมากขึ้น

รชตสลัดความรู้สึกทิ้งไป พร่ำบอกกับตัวเองในใจว่า ที่ทำทุกอย่างเป็นเพียงหน้าที่ และวิธีที่จะแก้คำสาปนี้เท่านั้น

โปรดติดตามตอนต่อไป...

ใด ๆ คือพระเอกอ่อยขนาดนี้เเล้วเป็นเราจะมา ๆ ใส่เสื้อตัวเดียวนอนด้วยกันซะเลย 555555555

เรื่องนี้แนวอบอุ่นหัวใจ ฮีทมาก ๆ นะคะ ถึงจะมีดราม่านิดหน่อยก็เถอะ ฝากติดตามให้กำลังใจ กดหัวใจ กดเเชร์ หรือเปย์เล่มกระดาษสนับสนุนนักเขียนได้นะคะ

รูปภาพ: